พิษรัก ตอนที่ 17

กระทู้สนทนา
“ทำแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลยที่สาขานี้รุ่งเรืองก็เพราะผู้จัดการแล้วจะมาย้ายไปหน้าตาเฉย ไม่แฟร์จริงๆเลย”
ลูกน้องสาวๆพากันโวยแทนแบงค์ด้วยความรักเจ้านาย
“ช่างเหอะ.....ผมกำลังจะลาออกอยู่พอดี”
แบงค์พูดแค่ประโยคสั้นๆก่อนจะเดินไปเก็บของบนโต๊ะทำงานลงกล่อง
“ได้ข่าวว่าคุณถูกย้ายไปเชียงใหม่เหรอ.....แฟนผมนี่ใจเด็ดหน้าดู”
น้ำเสียงทุ้มของพันธการดังขึ้นก่อนจะปรากฏร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าคมเข้มให้สาวๆได้มองกันจนตาค้าง
“หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก”
แบงค์ตัดบทก่อนจะเดินเลี่ยงพันธมิตรอย่างไม่อยากพูดอะไรอีก
“นายพาแฟนฉันไปกกทั้งคืนยังกล้าเดินหนีฉันอีกเหรอ”
พันธการตะโกนเสียงลั่นอย่างจงใจจะให้ทุกคนได้ยินและเพราะคำพูดของเขาทำให้แบงค์ต้องเดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง
“นายไม่ควรพูดลับหลังเธอแบบนี้”
“พูดเรื่องที่นายหายไปกับเธอทั้งคืนนะเหรอ”

สิ้นเสียงพันธการร่างบึกบึนก็ต้องล้มไปกองกับพื้นเพราะหมัดหนักๆของแบงค์ที่ไม่อาจอยู่เฉยได้กับคำพูดของเขา
“ถ้านายรับไม่ได้ก็ไปจากเธอซิหนีไปให้ไกลถ้านายไม่รักเธอแล้ว”
แบงค์กัดฟันกรอดๆกระชากคอเสื้อพันธการให้เผชิญหน้ากับเขาอย่างลูกผู้ชาย
“นายพูดถูกฉันควรจะไปเองถ้าฉันรับไม่ได้แต่จะทำไงได้เมื่อผู้หญิงของฉันไม่รักดีฉันก็คงต้องก้มหน้ารับกรรม”
เพราะคำพูดของพันธการทำให้แบงค์โมโหจนเลือดขึ้นหน้าแต่ก็ต้องเก็บกลั้นเอาไว้
“นั้นมันเรื่องของนาย”
แบงค์พูดเสียงเรียบเดินหนีพันธมิตรเพื่อตัดปัญหาแต่เขาก็ต้องหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นร่างงามระหงษ์ของน้ำตาลที่ยืนนิ่งอยู่หลังบานประตู
“ขอให้คุณโชคดีนะ”
น้ำตาลพูดเสียเรียบก่อนจะเดินเลยแบงค์มาหาพันธการ
“ส่วนนายมากับฉัน”
น้ำตาลพูดเดินนำสองหนุ่มออกมาจากห้องท่ามกลางสายตาของพนักงานที่มองดูด้วยความสนใจ
     “เราถอนหมั้นกันเถอะ.......ฉันไม่อยากทนรมานตัวเองอีกแล้ว”น้ำตาลพูดเหตุผลที่เธอเรียกพันธการมาพบ
“ยิ่งคุณเจ็บผมก็ยิ่งดีใจแล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมต้องปล่อยคุณไป”
พันธการจ้องหน้าน้ำตาลด้วยสายตาที่มีเพียงแค่ความเกลียดชัง
“ฉันไม่สนใจนายอยู่แล้วไม่ว่านายจะเห็นด้วยหรือปล่าว ตั้งแต่วันนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”น้ำตาลพูดเองอย่างเอาแต่ใจเดินหนีพันธการ
“หยุดนะ.....”
พันธการตะโกนเกรี้ยวกราดคว้าข้อมือน้ำตาลไว้มั่น

“ง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ........คุณบอกปัดความรู้สึกของคนอื่นง่ายๆแบบนี้ใช่ไหม เพราะอย่างงี้ใช่ไหมเพราะคุณใจร้ายกับเขาแบบนี้.......เขาถึงต้องตาย”
พันธการตะคอกเสียงลั่นสองมือแข็งแกร่งบีบต้นแขนน้ำตาลจนแทบจะแหลกคามือเขา
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ........ฉันไม่สนหรอกว่าใครจะตายยังไงฉันไม่ได้บังคับให้ใครมารักฉันสักหน่อย”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้พันธการยิ่งโกรธจนฟิวขาดพลักน้ำตาลล้มลงไปกับพื้น ก่อนที่สองมือจะกระชากเธอให้ขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง
“หน้าจะเป็นเธอที่ตายไปคนไม่มีหัวใจอย่างเธอไม่สมควรมีชีวิตอยู่หรอก ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอน่ารังเกียจที่สุด.....น่าขยะแขยง.....น่าสมเพช.....น่าจะตายไปซะ”
พันธการตะคอกเสียงลั่นก่อนจะพลักร่างบางลงกับพื้นอีกครั้ง
“นายอยากฆ่าฉันนักก็เอาเลย.....ฆ่าฉันให้ตายฉันเองก็เหนื่อยเต็มที่แล้ว ถ้าฉันเลวร้ายขนาดนั้นก็ลงมือได้เลย......ฉันเองก็เหนื่อยเต็มที่แล้ว…..ฮือ..”
น้ำตาลร้องไห้โฮด้วยความสับสนเธอไม่ได้ทำอะไรผิดแต่เธอกำลังถูกลงโทษให้เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
“คุณคิดว่าผมไม่กล้าเหรอ........คุณไม่รู้หรอกว่าผมโกรธและเกลียดคุณมากแค่ไหน....ผมอยากให้คุณหายไปซะ”
พันธการกัดฟันกรอดๆเอื้อมมือไปบีบลำคอระหงส์ของน้ำตาลอย่างขาดสติ ภาพน้องชายคนเดียวที่ค่อยๆตรอมใจจนตายทำให้พันธมิตรยิ่งโกรธแค้นบีบคอน้ำตาลอย่างไร้ความปราณี
“ปล่อยเธอนะ”
แบงค์ตะโกนเสียงลั่นผลักพันธการจนกระเด็นไปอีกทาง เขาพยายามแล้วที่จะเดินผ่านไปและไม่สนใจน้ำตาอีกแต่มันยากเกินไปเมื่อมันทำให้เขาเจ็บปวดทรมาน
“ฉันบอกแล้วถ้านายรับไม่ได้ก็แค่ปล่อยเธอไป”
แบงค์ตะวาดพันธการเสียงลั่นก่อนจะฉุดแขนน้ำตาลให้เดินตามเขาออกไปข้างนอก
“เธอทำอะไรของเธอทำไมไม่หนีออกมา อยากตายจริงๆหรือไง”
แบงค์ตะคอกน้ำตาลเสียงลั่นการกระทำของเธอมันทำให้เขาโมโหจนคุมอารมณ์ไม่อยู่
“ไม่เกี่ยวกับนาย”
น้ำตาลพูดเสียงเรียบเดินหนีแบงค์แต่เขากลับคว้าข้อมือของเธอไว้
“อย่าทำตัวไร้เดียงสาไปหน่อยเลย เธอรู้ดีว่าผู้ชายไม่มีทางรับได้ถ้ารู้ว่าคนรักของตัวเองแอบไปนอนกับผู้ชายคนอื่น”
“ใช่ฉันรู้ดีเพราะมันเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเลิกกัน มันต่างกันตรงที่ครั้งนี้มันเป็นเรื่องจริง”
น้ำตาลพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้วน้ำตาลเธอควรจะหยุดที่ใครสักคนก่อนที่เธอจะต้องตายเพราะความรัก”
“ฉันหยุดแล้วและฉันไม่เคยเปลี่ยนใจ”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้แบงค์หยุดยืนนิ่งจ้องมองใบหน้างดงามอย่างพิจารณา
“ขอโทษด้วยถ้าฉันกำลังเข้าใจผิด แต่มันก็เป็นเพราะเธอเธอทำให้ฉันดูไม่ออกว่าเธอรู้สึกยังไง”
แบงค์พูดเสียงเรียบก่อนจะตัดใจหันหลังให้น้ำตาลที่กำลังเสียน้ำตาอีกครั้ง
                      บนเตียงนุ่มแบงค์ทิ้งตัวลงบนนั้นเพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกของตัวเองที่ไม่อยากให้ใจรู้สึกแต่เขากลับไม่เคยห้ามมันได้เลย ยิ่งนานวันภาพของน้ำตาลที่เคยเลือนรางก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไมฉันต้องรักเธอด้วย......ทำไม”
แบงค์พูดกับตัวเองยกมือขึ้นเช็ดหยดน้ำตาที่หางตา
“แบงค์....เกิดอะไรขึ้นทำไมเธอมาอยู่ที่นี่”
น้ำเสียงตกใจของปูนทำให้แบงค์ลุกขึ้นนั่งบนเตียงเพื่อเจรจากับเจ้าของห้อง
“เราลาออกแล้ว........”
แบงค์พูดเสียงเรียบสีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
“ทำไมล่ะ....เพราะเธอใช่ไหม”
ปูนพูดถึงน้ำตาลหน้ายุ่ง
“เราเหนื่อย......ไม่มีแรงสู้รบกับเขาอีกแล้ว”
“เราไม่ยอมหรอกขาไม่มีสิทธิทำกับเธอแบบนี้....ปูนจะไปพูดกับเขาให้รู้เรื่อง”
ปูนโวยด้วยความโมโหเดินตรงรี่ไปที่ประตูแต่เธอก็ต้องชักเท้ากับเข้ามาในห้องเพราะนึกบางอย่างได้
“ช่างเขาก็ได้.....ความจริงแล้วเราก็ไม่อยากให้เธอทำงานที่เดียวกันกับเขาอยู่แล้ว”
ปูนพูดทรุดกายลงนั่งบนเตียงข้างๆแบงค์
“เราแต่งงานกันไหม.....อีกเดือนนึงเราไม่อยากรอแล้ว”
แบงค์พูดประโยคที่ทำให้ปูนต้องมองหน้าเขาอย่างครุ่นคิด
“เพราะเขาอีกแล้วใช่ไหม......เธอกลัวว่าตัวเองจะกลับไปหาเขาอีกครั้งกลัวว่าจะห้ามใจไม่อยู่อย่างนั้นใช่ไหม”
“ขอโทษนะ......ขอโทษที่ทำแบบนี้กับเธอ”
แบงค์พูดเสียงแผ่วโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขนเพราะหยดน้ำตาของปูนทำให้เขาเจ็บปวดเช่นกัน
“ไม่เป็นไรหรอกฉันไม่เป็นอะไรเลยสักนิด.....แค่เธออยู่กับฉันเพียงเท่านั้น”
ปูนร้องไห้โฮอยู่ในอ้อมแขนของแบงค์ เธอรู้ดีอยู่เต็มอกว่าสิ่งที่แบงค์หยิบยื่นมาให้มีเพียงแค่ความสงสารแต่เธอก็ยินดีจะใช้มันประคองชีวิตตัวเองให้อยู่รอดต่อไป
                      ในคลับสุดหรูน้ำตาลกำลังออกลีลาแดนซ์กระจายอยู่กลางฟลอกับเพื่อนสาวๆของเธอ เพราะหัวใจเจ็บขนถึงที่สุดเธอจึงเลือกที่จะลืมมันชั่วขณะด้วยฤทธิแอลกลอฮอล
“ฉันจะลืมนายให้หมดเลย.....จะลืม.....ลืมให้ได้”
น้ำตาลตะโกนแข่งกับเสียงเพลงยังคงเต้นไม่ยอมหยุด
“ฉันเกลียดนายเกลียดที่สุด......เพราะนายคนเดียว....นายทำให้ฉันคุมหัวใจตัวเองไม่อยู่”
น้ำตาลยังคงตะโกน หยดน้ำตาไหลนองใบหน้างดงามที่ตอนนี้กลายเป็นเป้าสายตาของหนุ่มๆนักท่องราตรี
“ออกไปข้างนอกกันไหมครับ”
ชายหนุ่มรูปงามเอ่ยขณะตรงเข้าประชิดตัวน้ำตาลที่ตอนนี้แทบจะยืนไม่อยู่
“ปล่อยฉันนะฉันเกลียดแกไอ้พวกผู้ชายใจร้าย......ปล่อย”
น้ำตาลโวยวายขณะถูกบังคับให้เดินออกไปข้างนอก
“เดินดีๆน่าคนสวย”
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นนะ”
น้ำเสียงเข้มที่ดังขึ้นทำให่ไฮโซหนุ่มต้องหยุดชังักเมื่อรู้ว่าคนที่เรียกเขาอยู่คือพันธการเพื่อนเก่าของเขาเอง
“เด็กนายเหรอแล้วก็ไม่บอก”
ชายหนุ่มพูดถอยกรูมานั่งที่โต๊ะตามเดิมปล่อยให้น้ำตาลยืนโซซัดโซเซอยู่คนเดียว
“ผมจะพาคุณกลับบ้าน”
พันธการบอกน้ำตาลใช้กำลังกระชากแขนเธอให้เดินตามเขาไปที่ลานจอดรถ
“ปล่อยฉันนะฉันเกลียดนาย”
น้ำตาลโวยวายมาตลอดทางแต่เพราะความเมาทำให้เธอสู้แรงพันธมิตรไม่ไหว
“ขึ้นไป”
พันธการยัดร่างของน้ำตาลเข้าไปในรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“นายจะพาฉันไปไหนฉันไม่ไป”
น้ำตาลโวยวายไม่เลิกตรงเข้าแย่งพวกมาลัยกับพันธมิตรจนรถเสียหลักเถลไปเถลมาบนท้องถนนจนพันธการต้องจอดรถเพราะไม่อาจขับต่อไปได้
“ทำอะไรของคุณถ้าอยากตายก็ไปตายคนเดียวซิ”
พันธการตะวาดน้ำตาลเสียงลั่น
“ใช่ฉันอยากตาย.....อยากหายไปจากโลกใบนี้”
น้ำตาลร้องไห้โฮจะเปิดประตูออกไปนอกรถ พันธการรีบคว้าข้อมือเธอไว้ก่อนที่จะถูกรถชนตายไปจริงๆ
“ไปกินยาตายที่บ้านซิถ้าคุณอยากตายอย่ามาตายต่อหน้าต่อตาผม”
พันธการตะวาดน้ำตาลด้วยความโมโหสุดขีดเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องร้อนรนเมื่อน้ำตาลจะฆ่าตัวตาย
“ฉันเหนื่อยเหลือเกินฉันกลัวว่าตัวเองจะเจ็บจนทนไม่ไวอีกแล้ว”
น้ำตาลร้องไห้โฮก่อนจะปิดเปลือกตาและหลับสนิทลงในชั่วพริบตา
“คุณเจ็บอย่างนั้นเหรอ......คุณเจ็บเป็นคนเดียวหรือไงแล้วคนอื่นล่ะผู้ชายทุกคนที่ถูกคุณทิ้งไปอย่างเคยใยดีพวกเขาเจ็บไม่เป็นกันหรือไง..........คุณไม่รู้หรอกว่าคุณทำให้เขาเจ็บจนไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป คุณไม่มีทางรู้เลยว่าในขณะที่คุณมีเขาเป็นโลกทั้งใบของคุณ คุณก็เป็นโลกทั้งใบของใครบางคนเหมือนกัน”
พันธการเอ่ยเสียงเรียบดวงตาคมเข้มที่แฝงไว้เพียงความปวดร้าวจ้องมองใบหน้าที่ทิ้งร่องรอยของคราบน้ำตาของน้ำตาลไม่วางสายตา
“นี่เราเป็นอะไรไป.........หัวใจของเราเป็นอะไรไป”
พันธการพูดกับตัวเองก่อนจะเลิกมองใบหน้างดงามของน้ำตาลที่ทำให้เขาหวั่นไหว เขากำลังรู้สึกสงสารที่เธอเจ็บปวด
                      งานแต่งงานของแบงค์และปูนถูกเลื่อนเข้ามาเป็นอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า ทำให้ปูนและแบงค์ต้องหัวปั้นกับการเตรียมงานและเชิญแขก

“เหนื่อยชะมัดเลย”
ปูนบ่นทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มข้างๆแบงค์ด้วยความเหนื่อยอ่อน
“เอาน่าแค่นี้ทำเป็นบ่นมากอีกหนึ่งอาทิตย์เธอจะมีสามีเป็นตัวเป็นตนเธอต้องดูแลเราทุกอย่างนะจะบอกให้ทั้งเรื่องเสื้อผ้าอาหารและที่สำคัญเรื่องบนเตียง เธอจะเหนื่อยกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่าและมันจะเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่าถ้าเรามีลูก”
แบงค์นอนพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
“ใครบอกว่าเราจะเลี้ยงลูกเธอต่างหากที่ต้องเป็นคนเลี้ยงเราอุ้มท้องให้ตั้งเก้าเดือน และอีกอย่างเธอก็ตกงานด้วยเธอถึงได้มีเวลาเลี้ยงลูกไง”
ปูนเถียงแบงค์ด้วยความสุขใจที่เขาและเธอกำลังจะมีอนาคตร่วมกัน
“กว่าเธอจะท้องเราก็ได้งานทำแล้วล่ะหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ไปสมัครที่ไหนเขาก็อยากจะรับ”
แบงค์พูดหันมายิ้มยั่วปูนเล่น
“ทำพูดดีไปเถอะขืนเธอทำเจ้าชู้ยักษ์เราจะกักบริเวณให้เลี้ยงลูกอยู่ที่บ้านอย่างเดียวคอยดู”
ปูนทำเสียงโหดจ้องมองแบงค์ด้วยหางตา
“มีเมียสวย หุ่นดี  น่ารัก นิสัยยอดแถมเซ็กซี่ไม่แพ้ใครแบบนี้เราจะนอกใจเธอได้ไง ทำไม่ลงหรอก”แบงค์ส่งเสียงอ้อนสองมือคว้าเอวบางไว้ในอ้อมแขน
“บัตรเชิญใบสุดท้ายของน้ำตาล”
เพราะคำพูดของปูนทำให้แบงค์คลายกอดเธอรอยยิ้มบนใบหน้าหายไปหมดสิ้น
“ขอโทษนะถ้าทำให้เธอเครียดแต่เราอยากจะจบทุกอย่างให้หมด.......ทุกอย่างเพื่อให้เขารับรู้ว่าเธอไม่ใช่ของเขาอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกเราจะเอาไปให้เขาเอง”
แบงค์ตัดบทอย่างเข้าใจความรู้สึกของปูนดี เขารู้ดีว่าเธอหวาดกลัวมาตลอดว่าถ่านไฟเก่าในใจแบงค์จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง
             บนโต๊ะทำงานของน้ำตาลขณะที่เธอกำลังขะมักเขม้นกับการตรวจกองแฟ้มเอกสารจำนวนมากบนโต๊ะ ที่เธอทำมันหามรุ่งหามค่ำจนแทบไม่มีเวลาพักหายใจ  ร่างของแบงค์ที่เดินเข้ามาในห้องทำให้น้ำตาลต้องหยุดทำงานและมองดูเขาด้วยความแปลกใจ
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
น้ำตาลเอ่ยถามแบงค์เสียงเรียบจ้องมองเขาเหมือนคนแปลกหน้า
“ผมมาเชิญคุณในฐานะเพื่อนเก่า”
แบงค์พูดด้วยท่าทีเฉยชาวางการ์ดแต่งงานลงบนโต๊ะทำงานน้ำตาล
“การ์ดแต่งงานของนายหรือไง”
น้ำตาลพูดขึ้นลอยๆก่อนจะต้องตกตะลึงตาค้างเพราะมันคือเรื่องจริง
“หวังว่าผมจะเห็นคุณในงานนะครับ”
แบงค์พูดกับน้ำตาลที่นั่งนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกับคำพูดของเขา
“มันอาจเป็นงานสุดท้ายที่เราจะได้พบกัน”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่