เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
อรุณสวัสดิ์ เช้าวันเสาร์ที่ชุ่มฉ่ำจากสายฝนจากเมื่อคืน วันนี้หลาย ๆ คนคงมีทริปเดินทาง เนื่องจากหยุด 3 วัน ติดต่อ ส่วน จขกท. ม่ายได้ไปไหน นั่งอยู่หน้าจอคอมเป็นปกติ สำหรับ วันนี้มีเมนูอาหารไทย มาฝากกันสำหรับคนรักการทำอาหาร ปลาดุกฟูผัดพริกขิง ครับ อาจจะมีขั้นตอนที่ยากนิดหน่อย แต่เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของคนที่รักการทำอาหาร อย่างสาวก ก้นครัว อย่างเรา มาดูส่วนผสมหลัก ๆ กันก่อนครับ................................ เมื่อวานหลังเลิกงานไปเดินตลาดตามปกติ...พลันสายตาก็ไปจ๊ะเอ๋ กับ น้องดุกที่กำลังอยู่บนเตาควันฉุย ๆๆ แล้วไอเดียก็บรรเจิด ได้เมนู มื้อเย็น ให้คุณแม่ตบะแตกละ ถึงบ้านจัดการแกะเจ้า 2 ตัวข้างบน เพื่อเอาเนื้อ โดยแยกส่วน ระหว่างเนื้อกับหนัง เนื่องจากเวลาเอาไปทำปลาดุกฟู ติดหนังจะไม่สวย แล้วก็มันจะระเบิดโป้งป่าง เวลาไปทอด ครัวเลอะ อีก อิอิ (แต่จริง ๆ หนังปลาดุกทอดนี่ ของมักเลย) พอแกะเสร็จก็นำมาเนื้อมาสับ ๆๆๆ เพื่อให้เนื้อปลาฟู (ตอนนี้เกลียดใคร โกรธใครนึกถึงหน้าคนนั้นไว้ แล้วสับโลดดด) จากนั้นไปจัดการพืชผักกันต่อ เริ่มจากถั่วยาว ล้างแล้วหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ จะได้สุกง่ายๆ และทานพอดีคำ ใบมะกรูด ล้างแล้ว นำมาเอาเส้นกลางใบออก ส่วนหนึ่งแบ่งมาซอย เพื่อไว้โรยหน้า พริกชี้ฟ้าแดง นำมาล้าง แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามขวาง เพื่อไว้โรยหน้า ไข่แดงของไข่เค็มดิบ นำมาผ่าสี่ครับ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อันนี้เพิ่มเติมเข้ามา อย่างให้มีรสชาด มัน ๆ เวลาเคี้ยว จัดการนำมาทอด ไฟต้องไม่แรงนะครับ ไม่งั้นไหม้ ใจเย็น คั่วไปมา พอออกสีเหลืองดับไฟเลย ส่วนประกอบหลักครบละ เอาละที่นี้ เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 การทำปลาดุกฟู นำปลาดุกที่สับแล้ว ใส่ถ้วยแล้วใส่น้ำมันพืชลงไปครับ คลุกเคล้าให้เนื้อปลาดูดน้ำมันเข้าไป อันนี้คือเคล็ดลับที่เวลาทอด จะทำให้เนื้อปลาฟูสวย และจับกันเป็นแพ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้เยอะ รอให้น้ำมันร้อน ใช้ช้อนทานข้าวตักเนื้อปลา 1 ช้อนพูนใส่ลงในน้ำมันที่กำลังร้อย แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น............... ก็คือ เริ่มจับเป็นแพละ พอเหลืองก็กลับด้าน แท่น แท้น แท๊น............ สีเหลืองทองฟู สวยไหมครับ นี่คือ เนื้อของเจ้า 2 ดุก เยอะอยู่นะครับ คุณแม่ชม ทอดได้สวย อิอิ .....ปลื้ม ๆๆๆ ซูม ๆๆๆ ได้เวลา รวมร่างละครับ สำหรับน้ำพริกผมไม่ได้ตำเองนะครับ เนื่องจากประหยัดเวลาโขลก ซื้อน้ำพริกแกงเผ็ดมา 10 บาท ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย แล้วใส่น้ำพริกลงไปหมดเลย ผัดให้น้ำพริกสุก มีกลิ่นหอม ใส่น้ำปลาลงไปผัด แล้วใส่ถั่วยาวลงไป เพราะถั่วยาวจะสุกยาก จะเหม็นเขียว จากนั้นปรุงรสโดยใส่ น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊ป ชิมรสให้ได้สามรส คือ เผ็ด เค็ม หวาน จากนั้นจริงนำ ปลาดุกฟูลงไปผัด กับ น้ำพริกให้ทั่ว (จริง ๆ ต้องเรียกคลุก ๆ) เมื่อคลุกเคล้าปลาดุกฟู กับ น้ำพริกเข้ากันดีแล้ว ก็ใส่ไข่เค็มแดงดิบ กับ เม็ดมะม่วงลงไปผัดต่อครับ ตักใส่จาน แล้วโรยหน้าด้วย ใบมะกรูดหันฝอย และพริกชี้ฟ้าแดง ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ หน้าตา พอใช้ได้ไหมครับ แต่งจานด้วยพริกแดง สักหน่อย ซูมเข้าไป อีกนิด ลากันไปด้วยภาพนี้นะครับ ปลาดุกฟูผัดพริกขิง แบบไม่มีเกล็ดขนมปังมาผสมให้เสียอารมณ์ จะทานเป็นกับแกล้มกะเบียร์เย็น ๆ หรือ ทานกับข้าวสวย ร้อน ๆ สักจานรับรอง ฟิน!!!! สำหรับใครที่ทดลอง นำไปทำก็นำภาพมาลงให้ดูกันบ้างนะครับ ขอขอบคุณชาวก้นครัว ทุก ๆ ท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมครับ
มาทำกับข้าวทานกันเถอะ# Step by Step ปลาดุกฟูผัดพริกขิง
อรุณสวัสดิ์ เช้าวันเสาร์ที่ชุ่มฉ่ำจากสายฝนจากเมื่อคืน วันนี้หลาย ๆ คนคงมีทริปเดินทาง เนื่องจากหยุด 3 วัน ติดต่อ
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376099589-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376099723-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376099972-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376100242-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376100488-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376100726-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376100840-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376102973-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376101547-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376101720-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/230/008/000/1376102285-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376102410-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376102536-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376102714-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376103500-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376103666-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376103777-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376103901-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376103993-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376104064-PhotoGrid1-o.jpg)
![](https://f.ptcdn.info/231/008/000/1376104210-PhotoGrid1-o.jpg)
ส่วน จขกท. ม่ายได้ไปไหน นั่งอยู่หน้าจอคอมเป็นปกติ
สำหรับ วันนี้มีเมนูอาหารไทย มาฝากกันสำหรับคนรักการทำอาหาร ปลาดุกฟูผัดพริกขิง ครับ
อาจจะมีขั้นตอนที่ยากนิดหน่อย แต่เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของคนที่รักการทำอาหาร อย่างสาวก ก้นครัว อย่างเรา
มาดูส่วนผสมหลัก ๆ กันก่อนครับ................................
เมื่อวานหลังเลิกงานไปเดินตลาดตามปกติ...พลันสายตาก็ไปจ๊ะเอ๋ กับ น้องดุกที่กำลังอยู่บนเตาควันฉุย ๆๆ แล้วไอเดียก็บรรเจิด
ได้เมนู มื้อเย็น ให้คุณแม่ตบะแตกละ
ถึงบ้านจัดการแกะเจ้า 2 ตัวข้างบน เพื่อเอาเนื้อ โดยแยกส่วน ระหว่างเนื้อกับหนัง เนื่องจากเวลาเอาไปทำปลาดุกฟู ติดหนังจะไม่สวย
แล้วก็มันจะระเบิดโป้งป่าง เวลาไปทอด ครัวเลอะ อีก อิอิ (แต่จริง ๆ หนังปลาดุกทอดนี่ ของมักเลย)
พอแกะเสร็จก็นำมาเนื้อมาสับ ๆๆๆ เพื่อให้เนื้อปลาฟู (ตอนนี้เกลียดใคร โกรธใครนึกถึงหน้าคนนั้นไว้ แล้วสับโลดดด)
จากนั้นไปจัดการพืชผักกันต่อ
เริ่มจากถั่วยาว ล้างแล้วหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ จะได้สุกง่ายๆ และทานพอดีคำ
ใบมะกรูด ล้างแล้ว นำมาเอาเส้นกลางใบออก ส่วนหนึ่งแบ่งมาซอย เพื่อไว้โรยหน้า
พริกชี้ฟ้าแดง นำมาล้าง แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตามขวาง เพื่อไว้โรยหน้า
ไข่แดงของไข่เค็มดิบ นำมาผ่าสี่ครับ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อันนี้เพิ่มเติมเข้ามา อย่างให้มีรสชาด มัน ๆ เวลาเคี้ยว
จัดการนำมาทอด ไฟต้องไม่แรงนะครับ ไม่งั้นไหม้ ใจเย็น คั่วไปมา พอออกสีเหลืองดับไฟเลย
ส่วนประกอบหลักครบละ
เอาละที่นี้ เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 การทำปลาดุกฟู
นำปลาดุกที่สับแล้ว ใส่ถ้วยแล้วใส่น้ำมันพืชลงไปครับ คลุกเคล้าให้เนื้อปลาดูดน้ำมันเข้าไป
อันนี้คือเคล็ดลับที่เวลาทอด จะทำให้เนื้อปลาฟูสวย และจับกันเป็นแพ
ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้เยอะ รอให้น้ำมันร้อน ใช้ช้อนทานข้าวตักเนื้อปลา 1 ช้อนพูนใส่ลงในน้ำมันที่กำลังร้อย
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น............... ก็คือ
เริ่มจับเป็นแพละ พอเหลืองก็กลับด้าน
แท่น แท้น แท๊น............
สีเหลืองทองฟู สวยไหมครับ นี่คือ เนื้อของเจ้า 2 ดุก เยอะอยู่นะครับ
คุณแม่ชม ทอดได้สวย อิอิ .....ปลื้ม ๆๆๆ
ซูม ๆๆๆ
ได้เวลา รวมร่างละครับ
สำหรับน้ำพริกผมไม่ได้ตำเองนะครับ เนื่องจากประหยัดเวลาโขลก ซื้อน้ำพริกแกงเผ็ดมา 10 บาท
ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย แล้วใส่น้ำพริกลงไปหมดเลย ผัดให้น้ำพริกสุก มีกลิ่นหอม
ใส่น้ำปลาลงไปผัด แล้วใส่ถั่วยาวลงไป เพราะถั่วยาวจะสุกยาก จะเหม็นเขียว จากนั้นปรุงรสโดยใส่
น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊ป ชิมรสให้ได้สามรส คือ เผ็ด เค็ม หวาน
จากนั้นจริงนำ ปลาดุกฟูลงไปผัด กับ น้ำพริกให้ทั่ว (จริง ๆ ต้องเรียกคลุก ๆ)
เมื่อคลุกเคล้าปลาดุกฟู กับ น้ำพริกเข้ากันดีแล้ว ก็ใส่ไข่เค็มแดงดิบ กับ เม็ดมะม่วงลงไปผัดต่อครับ
ตักใส่จาน แล้วโรยหน้าด้วย ใบมะกรูดหันฝอย และพริกชี้ฟ้าแดง ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
หน้าตา พอใช้ได้ไหมครับ แต่งจานด้วยพริกแดง สักหน่อย
ซูมเข้าไป อีกนิด
ลากันไปด้วยภาพนี้นะครับ
ปลาดุกฟูผัดพริกขิง แบบไม่มีเกล็ดขนมปังมาผสมให้เสียอารมณ์
จะทานเป็นกับแกล้มกะเบียร์เย็น ๆ หรือ ทานกับข้าวสวย ร้อน ๆ สักจานรับรอง ฟิน!!!!
สำหรับใครที่ทดลอง นำไปทำก็นำภาพมาลงให้ดูกันบ้างนะครับ
ขอขอบคุณชาวก้นครัว ทุก ๆ ท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมครับ
เมนูย้อนหลัง ปลาทับทิมผัดพริกกระเพรากรอบ
http://ppantip.com/topic/30812876
เต้าหู้ทรงเครื่องขี้เมา
http://ppantip.com/topic/30820801