กระทู้นี้ เดิมชื่อ
"เอาเป็นว่า...ผมมาเล่าความฝันให้ฟังก็หล่ะกัน(ดราม่านิดๆ สำหรับคนมีเวลา)"
มีมาแล้ว 12 ตอน เขียนลงในห้อง "ก้นครัว"
เกิดมาจากความ "ซน" ที่จะไล่ตามความฝันบ้าๆบอๆ ของตัวเอง
เรื่องทั้งหมดที่เขียนเป็นเรื่องจริง บุคลที่มีในบทความนี้ มีตัวตนจริง
ส่วนใหญ่ล้วนมีชีวิตอยู่ แต่บางท่านก็ไม่มีแล้ว
ข้อความบางช่วงตอน อาจะประสบพบเจอคำพูดที่ไม่สุภาพอยู่บ้าง
อาจจะระคายหูเล็กน้อย สำหรับท่านที่โลกสวยมาแต่เก่าก่อน
ผมแนะนำให้ปิดหน้าต่างนี้...และอ่านกระทู้ต่อไปแทน
ยินดีต้อนรับสู่โลกของผมครับ.....
ความเดิมตอนที่แล้ว.....
เช้าวันนึง.....ผมได้รับโทรศัพท์จาก "สุก" แต่เช้ามึด
ผม : โหล...ว่าไงสุก
สุก : พี่..ไอ้วิทโดนตำรวจจับ
ผม : เห้ย..โดนได้ไง ที่ไหน ยังไง
สุก : ผมมา วงเวียน22 ตำรวจมา ไอ้วิทไม่มีบัตร....
ผม : จะไปทำไม วงเวียน22 !!!!!!!!!!
ผมไม่ได้รับคำตอบจากไอ้สุก แต่หลังจากที่วางสาย ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที ตั้งแต่เวลา 7.00 น.
"ไอ้วิท" เป็น ผู้ช่วยพ่อครัว เป็นเด็กที่ร้าน ที่เรารับเข้ามาทำงานพร้อมกัน 2 คน ไม่มีบัตร ไม่มีวีซ่า ไม่มีพาสสปอร์ต
ไม่มีใบอนุญาตอะไรทั้งนั้น เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศ เดินทางมาโดยรถตู้ มีค่าเหนื่อยให้กับนายหน้าในการพาเข้าประเทศ
คนละ 3,000 บาทไทย (จากที่สอบถามมา)
ณ.ตอนนี้ มันอยู่ในห้องขังของ สน.พลับพลาไชย....
ผม Update เรื่องให้หุ้นส่วนร้านทุกคนทราบโดยทันที และหาทางแก้ไขโดยด่วน
ร้านจะต้องเปิดในอีกไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีทางที่พนักงาน 2 คนจะเปิดร้าน และให้บริการลูกค้าได้ทันใจ
เราจำเป็นต้องหาทางเอามัน (ไอ้วิท) กลับมาโดยด่วน....จะทำไงดี....
ผมให้น้องคนนึง ขี่มอไซค์ ไปหามันที่ สน.พลับพลาไชย เพื่อขอเจรจากับคุณตำรวจเจ้าของคดี...
ได้รับแจ้งว่า บรรยากาศในโรงพัก เหมือนภาพในหนังผีมาก เก่า และวังเวงแบบสุดๆ
ในระหว่างที่รอค้นประวัติ เพื่อขอเข้าไปเยี่ยม..... มันโทรหาผม...
น้องผม : พี่...ไอ้วิทมันโดนคดีไร
ผม : น่าจะไม่มีบัตร เข้าเมืองผิดกฏหมาย อะไรนี่แหล่ะ...
น้องผม :
ไม่ใช่ว่ะพี่...ในนี้เขียน "ยาเสพติด"
ผม :
!!!!!
ผมโทรหาสุกทันที แล้วถามว่าตกลงมันโดนอะไรแน่ "ยา" หรือ "ไม่มีบัตร"
ผมบอกน้องที่ไปโรงพักแล้ว
ถ้าสรุปว่าเป็น "ยา" ไม่ต้องคุยอะไรทั้งนั้น หันหลังกลับด่วน บ้านใครบ้านมันทันที
สรุปสุดท้าย.... มี "วิท 2คน" รอดตัวไป....
เรื่องราวการเจรจาดำเนินมาเรื่อยๆ แต่สุดท้าย เราไม่สามารถเอาวิทกลับมาทำงานที่ร้านได้
เพราะพี่ตำรวจ ได้ลงบันทึกประจำวันไปแล้ว เราต้องรอให้เค้าส่งกลับ แล้วให้วิทไปทำพาสสปอร์ต เสร็จแล้วค่อยกลับมาอีกที
เป็นที่แน่นอน....เราเสียพนักงานไปอีก 1 คนแน่นอน....
เหมือนจะเริ่มดีขึ้น แต่สุดท้ายก็ยังมีปัญหามาให้แก้ไขกันไม่จบไม่สิ้น........
เรากลับมาประชุมกันอีกครั้ง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
จริงๆแล้ว ผมเคยได้รับการติดต่อจาก เพื่อน พี่น้อง ที่อยู่ในพันทิป ได้มีการพูดคุยผ่านข้อความกัน
นี่คือสิ่งที่เค้าได้เตือนไว้
"ปัญหาเรื่องคน" มันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ
เราได้พนักงานใหม่มาอีกคน เพื่อเติมเต็มตำแหน่งที่ขาด เป็นเพื่อนชาวเขมรของ ไอ้สุก
ครั้งนี้ทรงดีกว่าหน่อย มีบัตร มีพาสสปอร์ต พูดไทยรู้เรื่อง โอเค โอเค....
ว่ากันใหม่...
ณ.ปัจจุบันที่เขียนอยู่นี้
"คั่วไก่แสนสะท้าน" เปิดให้บริการมาเข้าเดือนที่ 3 แล้ว
จริงๆ ร้านเราค่อนข้างเป็นที่ได้รับความนิยมพอสมควร (คิดแบบเข้าข้างตัวเอง) เพราะน่าจะขายดีอยู่นะ
ผมไม่เคยคิดว่า การขายก๋วยเตี๋ยว จะมี "ยอดขาย" ได้มากมายขนาดนี้ ลูกค้าให้การต้อนรับเราอย่างดีตั้งแต่เปิด จนถึงตอนนี้
แต่อย่างที่เน้นไว้ครับ เพราะมันแค่ "ยอดขาย" เท่านั้น.........
เชื่อมั้ย....ร้านขายก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ มีรายได้ (หลังจากผ่านการขายเดือนแรก 25 วัน) ถึง...
"สองแสนบาท"
บอกใครก็มีแต่คนบอก "รวยแน่" มาถูกทางแล้ว ไม่รวยรอบนี้จะไปรวยรอบไหน.....
ขายก๋วยเตี๋ยวอะไรวะ ได้ตั้งสองแสน เยอะกว่างานประจำตั้งหลายเท่า ลาออกแม่มเหอะ ขายก๋วยเตี๋ยวดีฟ่า
สาธุ...ครับพ่อแม่พี่น้อง แต่ก่อนจะคิดอย่างนั้น กรุณาอ่านให้จบบรรทัดนี้ก่อนเหอะ....
หลังจากหักค่าใช้จ่าย ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเด็ก ค่าวัตถุดิบต่างๆ สารพัดสารพัน
เชื่อมั้ยครับ เรามีเงินปันผลได้ทันทีในเดือนแรก เป็นยอดเงินที่โคตรชื่นใจ ทำงานเหนื่อยมาตลอด 1 เดือนเต็ม
ผมและน้องหลายคนไม่ได้หยุดพัก ไม่มีวันหยุด ทุกวันต้องเข้าไปร้าน เสริฟ ผัด ทำทุกอย่างเหมือนเป็นเด็กร้านคนนึง
ไม่เคยได้นั่งชี้นิ้วสั่ง เหมือนเจ้าของร้านใหญ่โต
วันนี้สิ่งที่ผมเพียรพยายามทำมาตลอด 1 เดือนเต็ม ที่ร้านนี้
กับก่อนหน้านี้ที่เป็นรถเข็น ที่ทำคนเดียวมาตลอดอีก 2 เดือนเต็ม ส่งผลตอบรับให้เรากลับมาแล้ว....
435 บาทถ้วน.............!!!!!
สาบานให้ฟ้าผ่าห่านตาย.......สี่ร้อยสามสิบห้าบาทถ้วน!!!!!!!!!!
โคตรแม่ม ผมเหนื่อยแทบตายห่า ได้แค่สี่ร้อยกว่าบาท ตอนนี้อยากจะเอาตีนก่ายหน้าผากตัวเอง
อะไรกันวะ นี่ทำเงินหล่นท่อตอนเดินมาป่ะเนี่ย จะบ้าหรือไง ขายมาทั้งเดือน แบ่งตังค์กันได้สี่ร่อยกว่า....
ณ.จุดนี้ บ่องตง โคตรท้อ!!!!!!
ตอนนี้แย่งลิงมาถึอแล้ว ไอ้ลูกท้อส้นมือเนี่ย.....โคตร ของ โคตรท้อ
แบบว่า ที่สุดของแจ้ Best of ดนุพล เลยครับ จะบ้าตาย.......
ยอดขาย 2แสนกว่า แต่เงินกลับหายไปกับวัตถุดิบที่เราใช้ทั้งหมด ของเข้าร้านที่ก็ซื้อไม่ได้เยอะแยะ
แต่ไหง๋ดันเป็นแบบนี้ได้ หุ้นส่วนร้านหันมองหน้ากันตาปริบๆ พูดอะไรไม่ออก เหมือนมีใครเอารองเท้าแตะไปยัดไว้ที่ลิ้นปี่
ต้นทุนของที่เราใช้แต่ละรายการค่อนข้างราคาสูงลิบ บวกกับหลายสิบรายการที่เรายังซื้อของที่ราคาตลาดอยู่
ทำให้กำรงกำไรหายไปหมดกับตรงนี้ ณ.วันนี้ ผมมีเงินเดือนน้อยกว่าเด็กล้างจานที่ร้านซะอีก
ตายห่าหละครับทีนี้.... ผมเข้าใจทุกคนที่ทำอะไรตามความฝัน เข้าใจมาก เพราะตัวเองก็ตามอยู่ทุกวัน
แต่จะบอกว่า....ความฝันของคุณ ไม่สามารถเอามาเติมน้ำมันรถได้
ไม่สามารถเอามาซื้อนม , จ่ายค่าเทอม ให้ลูกคุณได้
ความฝันที่ดี มันต้องสัมพันธ์กับความจริง...
เอากูหล่ะไง.....
เครียดโคตร................
"เลิกแม่มซะดีมั้ย?"
(อ่านต่อ Ep.14)
คั่วไก่แสนสะท้าน Ep.13.5 "ท้อครั้งที่สี่ล้าน" ตอนที่ 2
มีมาแล้ว 12 ตอน เขียนลงในห้อง "ก้นครัว"
เกิดมาจากความ "ซน" ที่จะไล่ตามความฝันบ้าๆบอๆ ของตัวเอง
เรื่องทั้งหมดที่เขียนเป็นเรื่องจริง บุคลที่มีในบทความนี้ มีตัวตนจริง
ส่วนใหญ่ล้วนมีชีวิตอยู่ แต่บางท่านก็ไม่มีแล้ว
ข้อความบางช่วงตอน อาจะประสบพบเจอคำพูดที่ไม่สุภาพอยู่บ้าง
อาจจะระคายหูเล็กน้อย สำหรับท่านที่โลกสวยมาแต่เก่าก่อน
ผมแนะนำให้ปิดหน้าต่างนี้...และอ่านกระทู้ต่อไปแทน
ยินดีต้อนรับสู่โลกของผมครับ.....
ความเดิมตอนที่แล้ว.....
เช้าวันนึง.....ผมได้รับโทรศัพท์จาก "สุก" แต่เช้ามึด
ผม : โหล...ว่าไงสุก
สุก : พี่..ไอ้วิทโดนตำรวจจับ
ผม : เห้ย..โดนได้ไง ที่ไหน ยังไง
สุก : ผมมา วงเวียน22 ตำรวจมา ไอ้วิทไม่มีบัตร....
ผม : จะไปทำไม วงเวียน22 !!!!!!!!!!
ผมไม่ได้รับคำตอบจากไอ้สุก แต่หลังจากที่วางสาย ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที ตั้งแต่เวลา 7.00 น.
"ไอ้วิท" เป็น ผู้ช่วยพ่อครัว เป็นเด็กที่ร้าน ที่เรารับเข้ามาทำงานพร้อมกัน 2 คน ไม่มีบัตร ไม่มีวีซ่า ไม่มีพาสสปอร์ต
ไม่มีใบอนุญาตอะไรทั้งนั้น เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศ เดินทางมาโดยรถตู้ มีค่าเหนื่อยให้กับนายหน้าในการพาเข้าประเทศ
คนละ 3,000 บาทไทย (จากที่สอบถามมา)
ณ.ตอนนี้ มันอยู่ในห้องขังของ สน.พลับพลาไชย....
ผม Update เรื่องให้หุ้นส่วนร้านทุกคนทราบโดยทันที และหาทางแก้ไขโดยด่วน
ร้านจะต้องเปิดในอีกไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีทางที่พนักงาน 2 คนจะเปิดร้าน และให้บริการลูกค้าได้ทันใจ
เราจำเป็นต้องหาทางเอามัน (ไอ้วิท) กลับมาโดยด่วน....จะทำไงดี....
ผมให้น้องคนนึง ขี่มอไซค์ ไปหามันที่ สน.พลับพลาไชย เพื่อขอเจรจากับคุณตำรวจเจ้าของคดี...
ได้รับแจ้งว่า บรรยากาศในโรงพัก เหมือนภาพในหนังผีมาก เก่า และวังเวงแบบสุดๆ
ในระหว่างที่รอค้นประวัติ เพื่อขอเข้าไปเยี่ยม..... มันโทรหาผม...
น้องผม : พี่...ไอ้วิทมันโดนคดีไร
ผม : น่าจะไม่มีบัตร เข้าเมืองผิดกฏหมาย อะไรนี่แหล่ะ...
น้องผม : ไม่ใช่ว่ะพี่...ในนี้เขียน "ยาเสพติด"
ผม : !!!!!
ผมโทรหาสุกทันที แล้วถามว่าตกลงมันโดนอะไรแน่ "ยา" หรือ "ไม่มีบัตร"
ผมบอกน้องที่ไปโรงพักแล้ว ถ้าสรุปว่าเป็น "ยา" ไม่ต้องคุยอะไรทั้งนั้น หันหลังกลับด่วน บ้านใครบ้านมันทันที
สรุปสุดท้าย.... มี "วิท 2คน" รอดตัวไป....
เรื่องราวการเจรจาดำเนินมาเรื่อยๆ แต่สุดท้าย เราไม่สามารถเอาวิทกลับมาทำงานที่ร้านได้
เพราะพี่ตำรวจ ได้ลงบันทึกประจำวันไปแล้ว เราต้องรอให้เค้าส่งกลับ แล้วให้วิทไปทำพาสสปอร์ต เสร็จแล้วค่อยกลับมาอีกที
เป็นที่แน่นอน....เราเสียพนักงานไปอีก 1 คนแน่นอน....
เหมือนจะเริ่มดีขึ้น แต่สุดท้ายก็ยังมีปัญหามาให้แก้ไขกันไม่จบไม่สิ้น........
เรากลับมาประชุมกันอีกครั้ง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
จริงๆแล้ว ผมเคยได้รับการติดต่อจาก เพื่อน พี่น้อง ที่อยู่ในพันทิป ได้มีการพูดคุยผ่านข้อความกัน
นี่คือสิ่งที่เค้าได้เตือนไว้ "ปัญหาเรื่องคน" มันไม่จบไม่สิ้นจริงๆ
เราได้พนักงานใหม่มาอีกคน เพื่อเติมเต็มตำแหน่งที่ขาด เป็นเพื่อนชาวเขมรของ ไอ้สุก
ครั้งนี้ทรงดีกว่าหน่อย มีบัตร มีพาสสปอร์ต พูดไทยรู้เรื่อง โอเค โอเค....
ว่ากันใหม่...
ณ.ปัจจุบันที่เขียนอยู่นี้ "คั่วไก่แสนสะท้าน" เปิดให้บริการมาเข้าเดือนที่ 3 แล้ว
จริงๆ ร้านเราค่อนข้างเป็นที่ได้รับความนิยมพอสมควร (คิดแบบเข้าข้างตัวเอง) เพราะน่าจะขายดีอยู่นะ
ผมไม่เคยคิดว่า การขายก๋วยเตี๋ยว จะมี "ยอดขาย" ได้มากมายขนาดนี้ ลูกค้าให้การต้อนรับเราอย่างดีตั้งแต่เปิด จนถึงตอนนี้
แต่อย่างที่เน้นไว้ครับ เพราะมันแค่ "ยอดขาย" เท่านั้น.........
เชื่อมั้ย....ร้านขายก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ มีรายได้ (หลังจากผ่านการขายเดือนแรก 25 วัน) ถึง...
"สองแสนบาท"
บอกใครก็มีแต่คนบอก "รวยแน่" มาถูกทางแล้ว ไม่รวยรอบนี้จะไปรวยรอบไหน.....
ขายก๋วยเตี๋ยวอะไรวะ ได้ตั้งสองแสน เยอะกว่างานประจำตั้งหลายเท่า ลาออกแม่มเหอะ ขายก๋วยเตี๋ยวดีฟ่า
สาธุ...ครับพ่อแม่พี่น้อง แต่ก่อนจะคิดอย่างนั้น กรุณาอ่านให้จบบรรทัดนี้ก่อนเหอะ....
หลังจากหักค่าใช้จ่าย ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเด็ก ค่าวัตถุดิบต่างๆ สารพัดสารพัน
เชื่อมั้ยครับ เรามีเงินปันผลได้ทันทีในเดือนแรก เป็นยอดเงินที่โคตรชื่นใจ ทำงานเหนื่อยมาตลอด 1 เดือนเต็ม
ผมและน้องหลายคนไม่ได้หยุดพัก ไม่มีวันหยุด ทุกวันต้องเข้าไปร้าน เสริฟ ผัด ทำทุกอย่างเหมือนเป็นเด็กร้านคนนึง
ไม่เคยได้นั่งชี้นิ้วสั่ง เหมือนเจ้าของร้านใหญ่โต
วันนี้สิ่งที่ผมเพียรพยายามทำมาตลอด 1 เดือนเต็ม ที่ร้านนี้
กับก่อนหน้านี้ที่เป็นรถเข็น ที่ทำคนเดียวมาตลอดอีก 2 เดือนเต็ม ส่งผลตอบรับให้เรากลับมาแล้ว....
435 บาทถ้วน.............!!!!!
สาบานให้ฟ้าผ่าห่านตาย.......สี่ร้อยสามสิบห้าบาทถ้วน!!!!!!!!!!
โคตรแม่ม ผมเหนื่อยแทบตายห่า ได้แค่สี่ร้อยกว่าบาท ตอนนี้อยากจะเอาตีนก่ายหน้าผากตัวเอง
อะไรกันวะ นี่ทำเงินหล่นท่อตอนเดินมาป่ะเนี่ย จะบ้าหรือไง ขายมาทั้งเดือน แบ่งตังค์กันได้สี่ร่อยกว่า....
ณ.จุดนี้ บ่องตง โคตรท้อ!!!!!!
ตอนนี้แย่งลิงมาถึอแล้ว ไอ้ลูกท้อส้นมือเนี่ย.....โคตร ของ โคตรท้อ
แบบว่า ที่สุดของแจ้ Best of ดนุพล เลยครับ จะบ้าตาย.......
ยอดขาย 2แสนกว่า แต่เงินกลับหายไปกับวัตถุดิบที่เราใช้ทั้งหมด ของเข้าร้านที่ก็ซื้อไม่ได้เยอะแยะ
แต่ไหง๋ดันเป็นแบบนี้ได้ หุ้นส่วนร้านหันมองหน้ากันตาปริบๆ พูดอะไรไม่ออก เหมือนมีใครเอารองเท้าแตะไปยัดไว้ที่ลิ้นปี่
ต้นทุนของที่เราใช้แต่ละรายการค่อนข้างราคาสูงลิบ บวกกับหลายสิบรายการที่เรายังซื้อของที่ราคาตลาดอยู่
ทำให้กำรงกำไรหายไปหมดกับตรงนี้ ณ.วันนี้ ผมมีเงินเดือนน้อยกว่าเด็กล้างจานที่ร้านซะอีก
ตายห่าหละครับทีนี้.... ผมเข้าใจทุกคนที่ทำอะไรตามความฝัน เข้าใจมาก เพราะตัวเองก็ตามอยู่ทุกวัน
แต่จะบอกว่า....ความฝันของคุณ ไม่สามารถเอามาเติมน้ำมันรถได้
ไม่สามารถเอามาซื้อนม , จ่ายค่าเทอม ให้ลูกคุณได้
ความฝันที่ดี มันต้องสัมพันธ์กับความจริง...
เอากูหล่ะไง.....
เครียดโคตร................
"เลิกแม่มซะดีมั้ย?"
(อ่านต่อ Ep.14)