บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/30777946
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/30780186
บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/30782939
บทที่ ๔
หลังอาหารเย็น นายสัตวแพทย์หนุ่มเพื่อนสนิทขอตัวกลับเร็ว เพราะต้องรีบเอาเลือดเพิร์ลไปตรวจที่แล็บของโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ ซึ่งราฟาเอลก็รู้สึกโล่งอกนิดๆอยู่เหมือนกัน เพราะคืนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะพูดคุยกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น
หลังจากส่งเพื่อนขึ้นรถ และยืนมองจนคนขับหันมาโบกมือให้ ก่อนที่จะหันหัวรถมุ่งหน้าสู่ถนนทางออกไร่ ชายหนุ่มก็เดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นของบ้านหลังเล็กที่สร้างขึ้นในบริเวณไร่เพื่ออาศัยอยู่คนเดียวเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว อากาศในเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ บางครั้งก็เย็นลงจนเหลืออุณหภูมิเพียงตัวเดียว และช่วงสัปดาห์นี้อากาศก็เป็นเช่นนั้น เตาผิงในบ้านยังคงทำงานอยู่จนกว่าอากาศจะอุ่นลงจนไม่ต้องอาศัยจัมพ์เปอร์แล้วนั่นล่ะ บาร์บาร่า แม่บ้านของเขาจึงจะหยุดเติมฟืน และกำจัดขี้เถ้า ทำความสะอาดเตาไว้ให้พร้อมใช้งานในฤดูหนาวปีต่อไป
ชายหนุ่มเดินไปหยิบรีโมททีวีที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาขึ้นมากดหาช่องกีฬา ซึ่งกำลังถ่ายทอดฟุตบอล[2] แต่ไม่ใช่ทีมที่ชายหนุ่มเชียร์อยู่ จึงเพียงแต่เปิดค้างไว้โดยที่ไม่ได้สนใจดูอย่างจริงจัง
คืนนี้เขารู้สึกอยากดื่มและคิดอะไรเงียบๆคนเดียว จึงเดินเข้าไปในห้องเก็บไวน์ที่สร้างไว้ภายในตัวบ้าน หยิบคาเบอร์เน็ตโซวิญองวินเทจ[3] 2005 ออกมา ก่อนจะหยิบที่เปิดขวดไวน์ที่วางอยู่ในลิ้นชักด้านหลังบาร์เครื่องดื่มออกมาหมุนเปิดจุก เขาหยิบแก้วไวน์ออกมาจากตู้ รินไวน์ลงไปเพียงท่วมก้นแก้ว ยกขึ้นอังจมูกและสูดดมกลิ่นที่ระเหยจางๆ ก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด เมื่อพอใจในกลิ่นและรสชาติของไวน์ขวดนั้นแล้ว จึงรินไวน์จนเกือบเต็มแก้ว และถือมานั่งจิบบนโซฟา
ไวน์ถังนี้เป็นถังแรกที่ผลิตจากคาเบอร์เน็ตโซวิญองพันธุ์เฉพาะของคอร์เนลลี่ ที่เขาปลุกปล้ำ ปรับปรุงพันธุ์จนได้องุ่นที่ออกมาดีเลิศ เขาเก็บองุ่นในในช่วงเวลาที่ระดับน้ำตาลกำลังพอดี แทนนินไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เป็นต้นองุ่นที่เขาจัดการดูแลด้วยตัวเองโดยไม่มีความช่วยเหลือจากบิดา เป็นการลงมือนอกห้องเรียน ที่เขาสามารถสอบผ่านการปลูกองุ่นได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมที่จะบริหารคอร์เนลลี่ต่อจากบิดา หลังจากได้องุ่นตามที่ต้องการแล้ว เขาทำงานร่วมกับทีมไวน์เมคเกอร์ของบิดาจนได้ไวน์ถังแรกออกมา
หลังจากบรรจุขวดแล้วเขาตัดสินใจไม่เอาออกขาย แต่เก็บไว้ดื่มเอง ชายหนุ่มใช้จุกไม้คอร์กปิดขวดแบบไวน์โลกเก่า แม้ว่าปัจจุบันนี้ ไวน์ในออสเตรเลียแทบทั้งหมดจะปิดขวดด้วยฝาเกลียวเพื่อความสะดวกกันหมดแล้วก็ตาม
คาเบอร์เน็ตโซวิญองรสนุ่ม เข้ากันได้ดีกับอากาศเย็นๆ และเขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าหากว่าในใจจะไม่ได้กำลังรู้สึกตรงกันข้ามกับอากาศภายนอก..
เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกแผดเผาด้วยไฟแห่งความโกรธที่ลุกโพลงอยู่ในใจ
ชายหนุ่มรู้สึกโกรธไปหมด ตั้งแต่ที่เขาจะต้องต่อเครื่องไปแอดดิเลดทันทีที่ลงเครื่องจากบริสเบน โกรธที่เขาจำต้องปล่อยแม่สาวน้อยที่ทำให้หัวใจเขากระตุกทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นใบหน้ารูปหัวใจที่มีดวงตากลมโตเป็นประกาย ปากอิ่มที่เผยอค้างนิดๆเหมือนเชิญชวนให้เขาก้าวเข้าไปฝากจุมพิต ดูดเอาความหวานที่คงจะฉ่ำล้นอยู่บนปากอิ่มนั้นหลุดมือไป เขารู้ดีว่า ด้วยรูปลักษณ์แบบเขา การจะทำความรู้จักกับผู้หญิงที่พอใจสักคน จนไปจบที่อาจจะใช้เวลาในวันหยุดด้วยกันสักคืนสองคืนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เขาจำต้องปล่อยเธอไปเพราะเขาต้องต่อเครื่องไปแอดดิเลดนั่นแหละ
ระหว่างทางเดินกลับบ้านหลังจากที่เขาไปดูเพิร์ลที่คอก ชายหนุ่มแทบลืมหายใจเมื่อเห็นแม่สาวน้อยนัยน์ตาโตกำลังขะมักเขม้นตัดกิ่งกุหลาบที่เป็นแถวอยู่ข้างๆแถวองุ่น เขายืนมองเธอทำงานเพลิน จนกระทั่งได้ยินเธอพูดกับต้นกุหลาบนั่นแหละ เขาจึงสอดขึ้น ทำให้เธอรู้ว่านอกจากเธอและต้นกุหลาบแล้ว ยังมีเขาอีกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
เขาคิดว่าพระเจ้าคงจะเห็นใจที่เขาจำต้องปล่อยเธอไปตอนที่พบเธอครั้งแรก ถึงได้ส่งเธอมาให้เขาถึงที่ ใบหน้าเนียนที่แดงก่ำยิ่งกว่าดอกกุหลาบตรงหน้าตอนที่หันมาเห็นเขานั้น ทำให้เขาอยากเข้าไปกระชากเธอเข้ามากระหน่ำจูบให้สมใจกับที่เขาต้องนอนฝันถึงเธอไปถึงสองคืน เขากำลังจะเข้าไปคุยกับเธอให้มากกว่านั้น ตอนที่มาร์โค.. ไอ้บ้ามาร์โค.. เข้ามาขัดจังหวะ และทำความหวังของเขาพลังทลาย ก็มันดันมาบอกว่า.. ลิลลี่.. สาวน้อยนั่นชื่อลิลลี่.. แม่ดอกลิลลี่ที่ส่งกลิ่นรัญจวนให้แมลงอย่างเขาอยากกระโจนเข้าใส่.. เป็นคนงานในไร่
ชายหนุ่มจำได้ว่าก่อนที่เขาจะไปบริสเบน มาร์โคมาบอกเขาว่ากำลังรับพนักงานอยู่ประจำที่ไร่คนใหม่ ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเรื่องรับพนักงานในไร่เป็นหน้าที่ของมาร์โคอยู่แล้ว แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าเธอจะเป็นคนที่เดินเข้ามาชนเขาและส่งผลรุนแรงต่อจังหวะการเต้นของหัวใจของเขาขนาดนั้น ชายหนุ่มโกรธ.. โกรธใครดี.. โกรธเธอที่เข้ามาในชีวิตเขาในฐานะคนงานในไร่น่ะเหรอ หรือโกรธมาร์โคที่รับเธอเข้ามา หรือโกรธเขาเอง ที่ออกกฎให้ตัวเองตั้งแต่ทำงานแรกๆว่า จะไม่มีความสัมพันธ์กับพนักงานของตัวเอง แล้วเขาจะทำยังไง จังหวะหัวใจเขาไม่เหมือนเดิมแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตากับเธอบนเครื่องบิน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้านายของเธอ เข้าไม่ใช่สมภารที่จะกินไก่วัด แต่ไก่ตัวนั้นก็อยู่ใกล้และยั่วยวนเหลือเกิน เขาจะทนที่จะไม่ขาดสติแล้วไล่จับแม่ไก่ตัวน้อยนั่นมาจัดการได้นานสักแค่ไหนกัน
แล้วในคอกม้าอีกล่ะ ไอ้เดวิด นายสัตวแพทย์เพลย์บอยที่สาวๆที่ไหนเห็นก็หลงรัก เขาเห็นสายตาหมอนั่นในตอนที่มองเธอ เขาเป็นเพื่อนสนิทมัน ทำไมจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไร มันก็คิดเหมือนกับเขานั่นแหละ แล้วมันก็สามารถที่จะทำอะไรก็ได้อย่างที่อยากจะทำ จะบริหารเสน่ห์เล่นบทคุณหมอผู้อารมณ์ดี ที่เธอก็ท่าทางจะชอบยังไงก็ได้ แล้วเขาล่ะ จะทำอะไรได้ นอกจากต้องแสดงบทบาทเจ้านายไปตามหน้าที่ อาจจะเป็นเจ้านายขี้หงุดหงิดไปหน่อยก็เพราะฉุนกับท่าทางหมอนั่นหรอก เห็นท่าทางเป็นมิตรแบบนั้นผู้หญิงที่ไหนจะไม่ตายใจ กว่าจะรู้ตัวมันก็กลายร่างเป็นหมาป่ากระโดดขย้ำลูกไก่ตัวน้อยนั่นไปแล้ว โดยที่สมภารอย่างเขาคงได้แต่มองตาปริบๆ
ชายหนุ่มนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองจนแคบเบอร์เน็ตโซวิญองขวดนั้นหมดแบบไม่รู้ตัว
[2] ออสเตรเลียนฟุตบอล
[3] ปีที่เก็บองุ่น
บ่มไวน์ใส่รัก บทที่ ๔
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ ๔
หลังอาหารเย็น นายสัตวแพทย์หนุ่มเพื่อนสนิทขอตัวกลับเร็ว เพราะต้องรีบเอาเลือดเพิร์ลไปตรวจที่แล็บของโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ ซึ่งราฟาเอลก็รู้สึกโล่งอกนิดๆอยู่เหมือนกัน เพราะคืนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะพูดคุยกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น
หลังจากส่งเพื่อนขึ้นรถ และยืนมองจนคนขับหันมาโบกมือให้ ก่อนที่จะหันหัวรถมุ่งหน้าสู่ถนนทางออกไร่ ชายหนุ่มก็เดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นของบ้านหลังเล็กที่สร้างขึ้นในบริเวณไร่เพื่ออาศัยอยู่คนเดียวเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว อากาศในเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ บางครั้งก็เย็นลงจนเหลืออุณหภูมิเพียงตัวเดียว และช่วงสัปดาห์นี้อากาศก็เป็นเช่นนั้น เตาผิงในบ้านยังคงทำงานอยู่จนกว่าอากาศจะอุ่นลงจนไม่ต้องอาศัยจัมพ์เปอร์แล้วนั่นล่ะ บาร์บาร่า แม่บ้านของเขาจึงจะหยุดเติมฟืน และกำจัดขี้เถ้า ทำความสะอาดเตาไว้ให้พร้อมใช้งานในฤดูหนาวปีต่อไป
ชายหนุ่มเดินไปหยิบรีโมททีวีที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาขึ้นมากดหาช่องกีฬา ซึ่งกำลังถ่ายทอดฟุตบอล[2] แต่ไม่ใช่ทีมที่ชายหนุ่มเชียร์อยู่ จึงเพียงแต่เปิดค้างไว้โดยที่ไม่ได้สนใจดูอย่างจริงจัง
คืนนี้เขารู้สึกอยากดื่มและคิดอะไรเงียบๆคนเดียว จึงเดินเข้าไปในห้องเก็บไวน์ที่สร้างไว้ภายในตัวบ้าน หยิบคาเบอร์เน็ตโซวิญองวินเทจ[3] 2005 ออกมา ก่อนจะหยิบที่เปิดขวดไวน์ที่วางอยู่ในลิ้นชักด้านหลังบาร์เครื่องดื่มออกมาหมุนเปิดจุก เขาหยิบแก้วไวน์ออกมาจากตู้ รินไวน์ลงไปเพียงท่วมก้นแก้ว ยกขึ้นอังจมูกและสูดดมกลิ่นที่ระเหยจางๆ ก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด เมื่อพอใจในกลิ่นและรสชาติของไวน์ขวดนั้นแล้ว จึงรินไวน์จนเกือบเต็มแก้ว และถือมานั่งจิบบนโซฟา
ไวน์ถังนี้เป็นถังแรกที่ผลิตจากคาเบอร์เน็ตโซวิญองพันธุ์เฉพาะของคอร์เนลลี่ ที่เขาปลุกปล้ำ ปรับปรุงพันธุ์จนได้องุ่นที่ออกมาดีเลิศ เขาเก็บองุ่นในในช่วงเวลาที่ระดับน้ำตาลกำลังพอดี แทนนินไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เป็นต้นองุ่นที่เขาจัดการดูแลด้วยตัวเองโดยไม่มีความช่วยเหลือจากบิดา เป็นการลงมือนอกห้องเรียน ที่เขาสามารถสอบผ่านการปลูกองุ่นได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมที่จะบริหารคอร์เนลลี่ต่อจากบิดา หลังจากได้องุ่นตามที่ต้องการแล้ว เขาทำงานร่วมกับทีมไวน์เมคเกอร์ของบิดาจนได้ไวน์ถังแรกออกมา
หลังจากบรรจุขวดแล้วเขาตัดสินใจไม่เอาออกขาย แต่เก็บไว้ดื่มเอง ชายหนุ่มใช้จุกไม้คอร์กปิดขวดแบบไวน์โลกเก่า แม้ว่าปัจจุบันนี้ ไวน์ในออสเตรเลียแทบทั้งหมดจะปิดขวดด้วยฝาเกลียวเพื่อความสะดวกกันหมดแล้วก็ตาม
คาเบอร์เน็ตโซวิญองรสนุ่ม เข้ากันได้ดีกับอากาศเย็นๆ และเขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้ถ้าหากว่าในใจจะไม่ได้กำลังรู้สึกตรงกันข้ามกับอากาศภายนอก..
เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกแผดเผาด้วยไฟแห่งความโกรธที่ลุกโพลงอยู่ในใจ
ชายหนุ่มรู้สึกโกรธไปหมด ตั้งแต่ที่เขาจะต้องต่อเครื่องไปแอดดิเลดทันทีที่ลงเครื่องจากบริสเบน โกรธที่เขาจำต้องปล่อยแม่สาวน้อยที่ทำให้หัวใจเขากระตุกทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นใบหน้ารูปหัวใจที่มีดวงตากลมโตเป็นประกาย ปากอิ่มที่เผยอค้างนิดๆเหมือนเชิญชวนให้เขาก้าวเข้าไปฝากจุมพิต ดูดเอาความหวานที่คงจะฉ่ำล้นอยู่บนปากอิ่มนั้นหลุดมือไป เขารู้ดีว่า ด้วยรูปลักษณ์แบบเขา การจะทำความรู้จักกับผู้หญิงที่พอใจสักคน จนไปจบที่อาจจะใช้เวลาในวันหยุดด้วยกันสักคืนสองคืนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เขาจำต้องปล่อยเธอไปเพราะเขาต้องต่อเครื่องไปแอดดิเลดนั่นแหละ
ระหว่างทางเดินกลับบ้านหลังจากที่เขาไปดูเพิร์ลที่คอก ชายหนุ่มแทบลืมหายใจเมื่อเห็นแม่สาวน้อยนัยน์ตาโตกำลังขะมักเขม้นตัดกิ่งกุหลาบที่เป็นแถวอยู่ข้างๆแถวองุ่น เขายืนมองเธอทำงานเพลิน จนกระทั่งได้ยินเธอพูดกับต้นกุหลาบนั่นแหละ เขาจึงสอดขึ้น ทำให้เธอรู้ว่านอกจากเธอและต้นกุหลาบแล้ว ยังมีเขาอีกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น
เขาคิดว่าพระเจ้าคงจะเห็นใจที่เขาจำต้องปล่อยเธอไปตอนที่พบเธอครั้งแรก ถึงได้ส่งเธอมาให้เขาถึงที่ ใบหน้าเนียนที่แดงก่ำยิ่งกว่าดอกกุหลาบตรงหน้าตอนที่หันมาเห็นเขานั้น ทำให้เขาอยากเข้าไปกระชากเธอเข้ามากระหน่ำจูบให้สมใจกับที่เขาต้องนอนฝันถึงเธอไปถึงสองคืน เขากำลังจะเข้าไปคุยกับเธอให้มากกว่านั้น ตอนที่มาร์โค.. ไอ้บ้ามาร์โค.. เข้ามาขัดจังหวะ และทำความหวังของเขาพลังทลาย ก็มันดันมาบอกว่า.. ลิลลี่.. สาวน้อยนั่นชื่อลิลลี่.. แม่ดอกลิลลี่ที่ส่งกลิ่นรัญจวนให้แมลงอย่างเขาอยากกระโจนเข้าใส่.. เป็นคนงานในไร่
ชายหนุ่มจำได้ว่าก่อนที่เขาจะไปบริสเบน มาร์โคมาบอกเขาว่ากำลังรับพนักงานอยู่ประจำที่ไร่คนใหม่ ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเรื่องรับพนักงานในไร่เป็นหน้าที่ของมาร์โคอยู่แล้ว แต่ใครจะไปคิดเล่าว่าเธอจะเป็นคนที่เดินเข้ามาชนเขาและส่งผลรุนแรงต่อจังหวะการเต้นของหัวใจของเขาขนาดนั้น ชายหนุ่มโกรธ.. โกรธใครดี.. โกรธเธอที่เข้ามาในชีวิตเขาในฐานะคนงานในไร่น่ะเหรอ หรือโกรธมาร์โคที่รับเธอเข้ามา หรือโกรธเขาเอง ที่ออกกฎให้ตัวเองตั้งแต่ทำงานแรกๆว่า จะไม่มีความสัมพันธ์กับพนักงานของตัวเอง แล้วเขาจะทำยังไง จังหวะหัวใจเขาไม่เหมือนเดิมแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตากับเธอบนเครื่องบิน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขาเป็นเจ้านายของเธอ เข้าไม่ใช่สมภารที่จะกินไก่วัด แต่ไก่ตัวนั้นก็อยู่ใกล้และยั่วยวนเหลือเกิน เขาจะทนที่จะไม่ขาดสติแล้วไล่จับแม่ไก่ตัวน้อยนั่นมาจัดการได้นานสักแค่ไหนกัน
แล้วในคอกม้าอีกล่ะ ไอ้เดวิด นายสัตวแพทย์เพลย์บอยที่สาวๆที่ไหนเห็นก็หลงรัก เขาเห็นสายตาหมอนั่นในตอนที่มองเธอ เขาเป็นเพื่อนสนิทมัน ทำไมจะไม่รู้ว่ามันคิดอะไร มันก็คิดเหมือนกับเขานั่นแหละ แล้วมันก็สามารถที่จะทำอะไรก็ได้อย่างที่อยากจะทำ จะบริหารเสน่ห์เล่นบทคุณหมอผู้อารมณ์ดี ที่เธอก็ท่าทางจะชอบยังไงก็ได้ แล้วเขาล่ะ จะทำอะไรได้ นอกจากต้องแสดงบทบาทเจ้านายไปตามหน้าที่ อาจจะเป็นเจ้านายขี้หงุดหงิดไปหน่อยก็เพราะฉุนกับท่าทางหมอนั่นหรอก เห็นท่าทางเป็นมิตรแบบนั้นผู้หญิงที่ไหนจะไม่ตายใจ กว่าจะรู้ตัวมันก็กลายร่างเป็นหมาป่ากระโดดขย้ำลูกไก่ตัวน้อยนั่นไปแล้ว โดยที่สมภารอย่างเขาคงได้แต่มองตาปริบๆ
ชายหนุ่มนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองจนแคบเบอร์เน็ตโซวิญองขวดนั้นหมดแบบไม่รู้ตัว
[2] ออสเตรเลียนฟุตบอล
[3] ปีที่เก็บองุ่น