บทก่อนหน้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/30777946
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/30780186
บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/30782939
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/30786752
บทที่ ๕
"สรุปว่า PHF จริงๆ ฉันจะให้ยาฆ่าเชื้อวันละครั้งติดกันห้าวัน ก็น่าจะหายแล้วล่ะ" เดวิดกล่าวกับชายหนุ่มเจ้าของเอสเตท หลังจากได้ผลเลือดจากห้องทดลองของโรงพยาบาลสัตว์ที่เขาทำงานอยู่ ชายหนุ่มเข้ามาที่ไร่ในเวลาก่อนเที่ยงเล็กน้อยอย่างที่ว่าไว้เมื่อวาน
"เดี๋ยวฉันจะเข้ามาให้ยาทุกวันตอนเที่ยงก็แล้วกัน"
"นายสั่งยาแล้วให้มาร์โคให้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเข้ามาทุกวัน" เจ้าของเอสเตทกล่าว เขารู้ดีว่าทำไมหมอนี่ถึงอยากเข้ามาที่ไร่ทุกวัน และเขาก็ไม่อยากให้มันเข้ามาเสียด้วยสิ
"ฉันอยากเข้ามาตรวจอาการอื่นๆด้วย" หมอหนุ่มไม่ยอมแพ้ เขาสอดส่ายสายตาไปรอบๆบริเวณเหมือนกับมองหาอะไรบางอย่าง และเมื่อไม่พบสิ่งที่กำลังมองหา ก็ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
"แล้วนี่คุณคนสวยของแกไปไหนวะ ยังไม่เห็นเลยตั้งแต่เข้ามา"
"ช่วยมาร์โคล้างคอกม้าอยู่" ชายหนุ่มตอบทันควันก่อนจะชะงักไป ทำไมเขาถึงคิดว่าเดวิดถามถึงลิลลี่นะ..เธอไม่ใช่คนสวยของเขาเสียหน่อย เอาล่ะ.. ยอมรับก็ได้ว่าเธอเป็นคนสวย แต่ไม่ใช่คนสวยของเขา.. แม้เขาจะอยากให้เธอเป็นแค่ไหนก็เถอะ
ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นหยุดคิดถึงเธอได้แล้ว ราฟ อย่าทำเป็นวัยรุ่นตกหลุมรักไปหน่อยเลย ชายหนุ่มบอกตัวเอง
หลังจากเห็นสายตาและท่าทางของเพื่อนที่มีต่อคนงานคนใหม่เมื่อวานนี้ ชายหนุ่มจึงใช้ให้เธอไปล้างคอกม้ากับมาร์โคหลังจากได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนว่าเขากำลังเดินทางมาที่ไร่ เพราะไม่อยากขวางหูขวางตากับท่าทางหว่านเสน่ห์ของไอ้หมอนี่ เขาไม่รู้ว่าเพื่อนเขาจริงจังแค่ไหน แต่เธอเป็นคนงานในความรับผิดชอบของเขา เพราะฉะนั้นหากอะไรที่ป้องกันได้เขาก็จะขอป้องกันไว้ก่อน ที่เขาทำนี่ในฐานะนายจ้างที่ดีเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับอาการหัวใจสะดุดที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินจากบริสเบนลำนั้นเลยจริงๆ
"เฮ้ย ฉันชวนลิลลี่ไปกินกลางวันด้วยได้หรือเปล่าวะ" เดวิดถาม
"ไม่ได้" ราฟาเอลตอบโดยไม่ได้คิด ก่อนจะอธิบายต่อเมื่อรู้สึกว่าตนเองชักจะตอบเร็วเกินไป
"งานทำความสะอาดคอกม้ายังเหลืออีกเยอะ ฉันอยากให้เสร็จก่อนค่ำน่ะ เอาไว้วันไหนงานไม่ค่อยมีแล้วฉันจะอนุญาตก็แล้วกัน"
นายสัตวแพทย์หนุ่มหรี่ตามองเพื่อนอย่างครุ่นคิด อ้าปากเหมือนจะพูดอะไร ก่อนจะเปลี่ยนใจ
"งั้นฉันไปล่ะ กินข้าวเสร็จแล้วจะกลับมา" เดวิดกล่าวก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปที่รถ สตาร์ทเครื่องยนต์ ใส่เกียร์ถอยออกจากโรงรถหน้าบ้าน หันมาโบกมือให้เจ้าของบ้านและบังคับรถตรงไปยังทางออกของเอสเตท
ราฟาเอลโบกมือตอบ มองจนรถเพื่อนลับสายตาไป จึงสาวเท้ายาวๆมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่คอกม้าตั้งอยู่
ชายหนุ่มหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อมองไปเห็นสาวน้อยท่าทางทะมัดทะแมงในชุดเสื้อเชิร์ตสีน้ำตาลเข้ารูป ชายเสื้อถูกยัดเข้าไปในกางเกงขาสั้นแค่เข่าสีเดียวกัน เข็มขัดหนังสีดำช่วยให้เห็นเอวคอดชัดเจนขึ้น เธอใส่รองเท้าบูทหุ้มข้อสำหรับทำงานในไร่สีเดียวกับเข็มขัด ขายาวเรียวเนียนละเอียดอวดโฉมผ่านบริเวณที่ไม่มีเครื่องแต่งกายปกคลุม ที่กำลังกวาดหญ้าแห้งข้างๆคอกม้าอย่างขะมักเขม้น แก้มใสแดงเรื่อจากการออกแรงทำงาน เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นบริเวณไรผมบนหน้าผาก ผมตรงยาวสีน้ำตาลประกายทองเมื่อต้องกับแสงแดดถูกผูกไว้เป็นหางม้าอย่างแน่นหนา เป็นภาพที่งดงามจนเขาอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ อยากจะยืนมองภาพนั้นให้เต็มอิ่ม อยากพิมพ์ภาพนั้นไว้ในทุกอณูของหัวใจ อยากให้เธอเป็นของเขา..
ชายหนุ่มสะบัดศีรษะและสูดลมหายใจลึก
ใจเย็น ราฟ นายเป็นเจ้านายของเธอ หยุดความคิดพวกนั้นได้แล้ว ชายหนุ่มบอกตัวเอง ก่อนจะกลับมาเป็นคุณราฟเจ้านายหน้าบึ้งคนที่หญิงสาวคุ้นเคย
"หยุดไปกินกลางวันกันก่อน ฉันให้บาร์บทำแซนด์วิชไว้ให้" ชายหนุ่มบอกคนทั้งสอง โดยที่สายตามองตรงไปที่มาร์โค
"เดี๋ยวฉันจะไปกินด้วย เพราะมีเรื่องเพิร์ลจะคุยกับนาย มาร์โค" เขากล่าวเสริม และเห็นทางหางตาว่าหญิงสาวหันมามองเขาพร้อมกับดวงตาที่โต กว่าปกติ
"เจอกันที่ลิตเติลฮัทนะ" ชายหนุ่มหมายถึงบ้านพักพนักงานที่มาร์โค บาร์บาร่า และลิลลดาอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณไร่ไม่ห่างจากบ้านของเขาเองและคอกม้ามากนัก
"ลิลลี่กวาดหญ้าแห้งเสร็จพอดี งั้นเดินไปกับคุณราฟก่อนเลย เดี๋ยวผมเสร็จตรงนี้แล้วจะตามไป" มาร์โคบอกหญิงสาวที่ทิ้งเศษหญ้าแห้งหอบสุดท้ายลงถังขยะพอดี
"งั้นเดี๋ยวเจอกันนะคะมาร์โค" หญิงสาวบอกก่อนจะเดินตามชายหนุ่มที่หมุนตัวเดินไปก่อน
"คุณราฟคะ" หญิงสาวเรียกจากด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มชะงักขาที่กำลังก้าวไปข้างหน้านิดหนึ่ง
"มีอะไร"
"เมื่อวานที่คุณพูดว่ากุหลาบที่นี่ไม่ได้ปลูกเพื่อความสวยงามน่ะค่ะ จำได้หรือเปล่าคะ" หญิงสาวถามอย่างเกรงๆ ที่เกรงนี่ไม่ใช่อะไร ฉันกลัวนายหันมาขบหัวน่ะ
จำได้สิ จำได้อย่างแม่นยำ ก็ฉันจะเอามันเป็นข้ออ้างในการคุยกับเธอยังไงล่ะ ชายหนุ่มคิดในใจ หากแต่ที่ตอบไปกลับเป็น
"ทำไมรึ"
"เอ่อ.. ถ้าไม่ได้ปลูกกุหลาบเพื่อความสวยงาม แล้วอย่างนั้นปลูกทำไมเยอะแยะคะ ฉันสังเกตเห็นต้นกุหลาบเต็มไร่ไปหมดเลย"
"ไม่ได้มีแต่เธอเท่านั้นหรอกนะ ที่ชอบกลิ่นกุหลาบน่ะ" ชายหนุ่มตอบ ก่อนจะเห็นประกายความโกรธวาบขึ้นในดวงตาคู่สวย ปากอิ่มเม้มนิดๆอย่างพยายามข่มความรู้สึก คางเชิดขึ้นเล็กน้อยส่งให้จมูกรั้นนิดๆนั้นเชิดขึ้นตามไปด้วย
น่างับจริงๆ
แม่สาวน้อยนี่ไม่ได้หงอๆอย่างที่พยายามแสดงออกนี่นา เขารู้ว่าภายใต้ท่าทีนุ่มนวลไร้พิษสงนั้น คือภูเขาไฟที่มีลาวาเดือดอยู่และรอเวลาปะทุต่างหาก อยากรู้จริงๆว่า ถ้าลาวาที่ว่านั้นปะทุในห้องนอนเขา มันจะร้อนแรงแค่ไหนนะ
เมื่อเห็นท่าทางหญิงสาว ชายหนุ่มเจ้าของไร่จึงรีบตอบก่อนที่เธอจะโกรธมากไปกว่านี้
"กุหลาบพวกนี้ปลูกไว้ล่อแมลงศัตรูองุ่นน่ะ เพราะกลิ่นหอมหวานของกุหลาบจะทำให้แมลงหรือหนอนที่จะมากินองุ่นลงไปกินกุหลาบก่อน เพราะดึงดูดแมลงศัตรูพืชมากกว่า พอเราเห็นกุหลาบโดนแมลงลงก็จะได้หาทางป้องกันองุ่นได้ทัน"
"เพราะยังงี้หรือคะถึงไม่ค่อยดูแลกุหลาบเท่าไหร่ เพราะเป็นแค่ตัวล่อแมลงเองหรอกหรือ"
"จะว่ายังงั้นก็ได้ แต่ถ้างานในไร่ไม่ยุ่งมาก ฉันก็ให้คนงานตัดกิ่งที่ดอกโรยทิ้งไปเหมือนกัน"
"ถ้าอย่างนั้น ขอฉันเป็นคนดูแลกุหลาบได้ไหมคะ หมายถึงเวลาว่างจากงานน่ะค่ะ"
"ถ้าเธออยากทำก็ตามสบาย ดีเหมือนกัน จะได้มีกุหลาบสวยๆไว้ดู"
"ขอบคุณมากค่ะคุณราฟ" หญิงสาวยิ้มกว้างอย่างพอใจ เผยให้เห็นฟันขาวที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ รอยยิ้มของเธอทำให้ชายหนุ่มถึงกับตาพร่าไปทีเดียว
"เดวิดมาส่งข่าว เพิร์ลเป็น PHF อย่างที่สงสัยจริงๆ" ชายหนุ่มบอกผู้จัดการไร่ ก่อนจะกล่าวต่อไป
"เพิร์ลต้องได้รับยาฆ่าเชื้อวันละครั้งเป็นเวลาห้าวัน เดวิดจะมาให้ยาด้วยตัวเองตอนเที่ยงทุกวัน ตอนนี้เขาออกไปหาอะไรกินข้างนอก เสร็จแล้วจะกลับเข้ามาให้ยาครั้งแรก ฉันอยากให้นายอยู่ตอนเขาให้ยาด้วย" ชายหนุ่มบอกก่อนจะหันมาที่หญิงสาวคนเดียวในที่นั้น ทั้งสามนั่งรับประทานอาหารกลางวันกันในห้องอาหารที่เปิดโล่งติดกับห้องนั่งเล่น
"ส่วนเธอ ลิลลี่ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปพบฉันที่ออฟฟิศ ฉันมีงานเอกสารที่จะให้เธอช่วยหลายอย่าง" ชายหนุ่มมองเห็นประกายไม่แน่ใจวูบขึ้นมาในดวงตากลมโตคู่งามซึ่งส่งผลให้เขารู้สึกหงุดหงิด ทำไมเธอจะต้องรู้สึกไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจเกี่ยวกับอะไร การไปช่วยเขาเคลียร์เอกสารมันมีอะไรให้ต้องลังเลด้วยอย่างนั้นหรือ ความคิดนั้นทำให้ชายหนุ่มหน้าตึงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"เอ่อ.. งานทำความสะอาดคอกม้ายังไม่เสร็จเลยค่ะ" หญิงสาวบอกเขาอย่างขลาดๆ ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ทำไมเธอจะต้องทำท่ากลัวเขาอย่างนั้นด้วยนะ ทีกับไอ้เดวิดละหัวเราะระรื่นเชียว
"เดี๋ยวให้มาร์โคหาใครไปช่วยสักสองสามคน" ชายหนุ่มตอบง่ายๆ ก่อนจะลุกขึ้นเมื่อกัดแซนด์วิชคำสุดท้ายและยกน้ำขึ้นดื่ม
"เจอกันที่ออฟฟิศ" ชายหนุ่มพูดโดยไม่มองหน้าก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป
บ่มไวน์ใส่รัก บทที่ ๕
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ ๕
"สรุปว่า PHF จริงๆ ฉันจะให้ยาฆ่าเชื้อวันละครั้งติดกันห้าวัน ก็น่าจะหายแล้วล่ะ" เดวิดกล่าวกับชายหนุ่มเจ้าของเอสเตท หลังจากได้ผลเลือดจากห้องทดลองของโรงพยาบาลสัตว์ที่เขาทำงานอยู่ ชายหนุ่มเข้ามาที่ไร่ในเวลาก่อนเที่ยงเล็กน้อยอย่างที่ว่าไว้เมื่อวาน
"เดี๋ยวฉันจะเข้ามาให้ยาทุกวันตอนเที่ยงก็แล้วกัน"
"นายสั่งยาแล้วให้มาร์โคให้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเข้ามาทุกวัน" เจ้าของเอสเตทกล่าว เขารู้ดีว่าทำไมหมอนี่ถึงอยากเข้ามาที่ไร่ทุกวัน และเขาก็ไม่อยากให้มันเข้ามาเสียด้วยสิ
"ฉันอยากเข้ามาตรวจอาการอื่นๆด้วย" หมอหนุ่มไม่ยอมแพ้ เขาสอดส่ายสายตาไปรอบๆบริเวณเหมือนกับมองหาอะไรบางอย่าง และเมื่อไม่พบสิ่งที่กำลังมองหา ก็ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
"แล้วนี่คุณคนสวยของแกไปไหนวะ ยังไม่เห็นเลยตั้งแต่เข้ามา"
"ช่วยมาร์โคล้างคอกม้าอยู่" ชายหนุ่มตอบทันควันก่อนจะชะงักไป ทำไมเขาถึงคิดว่าเดวิดถามถึงลิลลี่นะ..เธอไม่ใช่คนสวยของเขาเสียหน่อย เอาล่ะ.. ยอมรับก็ได้ว่าเธอเป็นคนสวย แต่ไม่ใช่คนสวยของเขา.. แม้เขาจะอยากให้เธอเป็นแค่ไหนก็เถอะ
ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นหยุดคิดถึงเธอได้แล้ว ราฟ อย่าทำเป็นวัยรุ่นตกหลุมรักไปหน่อยเลย ชายหนุ่มบอกตัวเอง
หลังจากเห็นสายตาและท่าทางของเพื่อนที่มีต่อคนงานคนใหม่เมื่อวานนี้ ชายหนุ่มจึงใช้ให้เธอไปล้างคอกม้ากับมาร์โคหลังจากได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนว่าเขากำลังเดินทางมาที่ไร่ เพราะไม่อยากขวางหูขวางตากับท่าทางหว่านเสน่ห์ของไอ้หมอนี่ เขาไม่รู้ว่าเพื่อนเขาจริงจังแค่ไหน แต่เธอเป็นคนงานในความรับผิดชอบของเขา เพราะฉะนั้นหากอะไรที่ป้องกันได้เขาก็จะขอป้องกันไว้ก่อน ที่เขาทำนี่ในฐานะนายจ้างที่ดีเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับอาการหัวใจสะดุดที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินจากบริสเบนลำนั้นเลยจริงๆ
"เฮ้ย ฉันชวนลิลลี่ไปกินกลางวันด้วยได้หรือเปล่าวะ" เดวิดถาม
"ไม่ได้" ราฟาเอลตอบโดยไม่ได้คิด ก่อนจะอธิบายต่อเมื่อรู้สึกว่าตนเองชักจะตอบเร็วเกินไป
"งานทำความสะอาดคอกม้ายังเหลืออีกเยอะ ฉันอยากให้เสร็จก่อนค่ำน่ะ เอาไว้วันไหนงานไม่ค่อยมีแล้วฉันจะอนุญาตก็แล้วกัน"
นายสัตวแพทย์หนุ่มหรี่ตามองเพื่อนอย่างครุ่นคิด อ้าปากเหมือนจะพูดอะไร ก่อนจะเปลี่ยนใจ
"งั้นฉันไปล่ะ กินข้าวเสร็จแล้วจะกลับมา" เดวิดกล่าวก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปที่รถ สตาร์ทเครื่องยนต์ ใส่เกียร์ถอยออกจากโรงรถหน้าบ้าน หันมาโบกมือให้เจ้าของบ้านและบังคับรถตรงไปยังทางออกของเอสเตท
ราฟาเอลโบกมือตอบ มองจนรถเพื่อนลับสายตาไป จึงสาวเท้ายาวๆมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่คอกม้าตั้งอยู่
ชายหนุ่มหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อมองไปเห็นสาวน้อยท่าทางทะมัดทะแมงในชุดเสื้อเชิร์ตสีน้ำตาลเข้ารูป ชายเสื้อถูกยัดเข้าไปในกางเกงขาสั้นแค่เข่าสีเดียวกัน เข็มขัดหนังสีดำช่วยให้เห็นเอวคอดชัดเจนขึ้น เธอใส่รองเท้าบูทหุ้มข้อสำหรับทำงานในไร่สีเดียวกับเข็มขัด ขายาวเรียวเนียนละเอียดอวดโฉมผ่านบริเวณที่ไม่มีเครื่องแต่งกายปกคลุม ที่กำลังกวาดหญ้าแห้งข้างๆคอกม้าอย่างขะมักเขม้น แก้มใสแดงเรื่อจากการออกแรงทำงาน เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นบริเวณไรผมบนหน้าผาก ผมตรงยาวสีน้ำตาลประกายทองเมื่อต้องกับแสงแดดถูกผูกไว้เป็นหางม้าอย่างแน่นหนา เป็นภาพที่งดงามจนเขาอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ อยากจะยืนมองภาพนั้นให้เต็มอิ่ม อยากพิมพ์ภาพนั้นไว้ในทุกอณูของหัวใจ อยากให้เธอเป็นของเขา..
ชายหนุ่มสะบัดศีรษะและสูดลมหายใจลึก ใจเย็น ราฟ นายเป็นเจ้านายของเธอ หยุดความคิดพวกนั้นได้แล้ว ชายหนุ่มบอกตัวเอง ก่อนจะกลับมาเป็นคุณราฟเจ้านายหน้าบึ้งคนที่หญิงสาวคุ้นเคย
"หยุดไปกินกลางวันกันก่อน ฉันให้บาร์บทำแซนด์วิชไว้ให้" ชายหนุ่มบอกคนทั้งสอง โดยที่สายตามองตรงไปที่มาร์โค
"เดี๋ยวฉันจะไปกินด้วย เพราะมีเรื่องเพิร์ลจะคุยกับนาย มาร์โค" เขากล่าวเสริม และเห็นทางหางตาว่าหญิงสาวหันมามองเขาพร้อมกับดวงตาที่โต กว่าปกติ
"เจอกันที่ลิตเติลฮัทนะ" ชายหนุ่มหมายถึงบ้านพักพนักงานที่มาร์โค บาร์บาร่า และลิลลดาอาศัยอยู่ด้วยกัน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณไร่ไม่ห่างจากบ้านของเขาเองและคอกม้ามากนัก
"ลิลลี่กวาดหญ้าแห้งเสร็จพอดี งั้นเดินไปกับคุณราฟก่อนเลย เดี๋ยวผมเสร็จตรงนี้แล้วจะตามไป" มาร์โคบอกหญิงสาวที่ทิ้งเศษหญ้าแห้งหอบสุดท้ายลงถังขยะพอดี
"งั้นเดี๋ยวเจอกันนะคะมาร์โค" หญิงสาวบอกก่อนจะเดินตามชายหนุ่มที่หมุนตัวเดินไปก่อน
"คุณราฟคะ" หญิงสาวเรียกจากด้านหลัง ทำให้ชายหนุ่มชะงักขาที่กำลังก้าวไปข้างหน้านิดหนึ่ง
"มีอะไร"
"เมื่อวานที่คุณพูดว่ากุหลาบที่นี่ไม่ได้ปลูกเพื่อความสวยงามน่ะค่ะ จำได้หรือเปล่าคะ" หญิงสาวถามอย่างเกรงๆ ที่เกรงนี่ไม่ใช่อะไร ฉันกลัวนายหันมาขบหัวน่ะ
จำได้สิ จำได้อย่างแม่นยำ ก็ฉันจะเอามันเป็นข้ออ้างในการคุยกับเธอยังไงล่ะ ชายหนุ่มคิดในใจ หากแต่ที่ตอบไปกลับเป็น
"ทำไมรึ"
"เอ่อ.. ถ้าไม่ได้ปลูกกุหลาบเพื่อความสวยงาม แล้วอย่างนั้นปลูกทำไมเยอะแยะคะ ฉันสังเกตเห็นต้นกุหลาบเต็มไร่ไปหมดเลย"
"ไม่ได้มีแต่เธอเท่านั้นหรอกนะ ที่ชอบกลิ่นกุหลาบน่ะ" ชายหนุ่มตอบ ก่อนจะเห็นประกายความโกรธวาบขึ้นในดวงตาคู่สวย ปากอิ่มเม้มนิดๆอย่างพยายามข่มความรู้สึก คางเชิดขึ้นเล็กน้อยส่งให้จมูกรั้นนิดๆนั้นเชิดขึ้นตามไปด้วย น่างับจริงๆ
แม่สาวน้อยนี่ไม่ได้หงอๆอย่างที่พยายามแสดงออกนี่นา เขารู้ว่าภายใต้ท่าทีนุ่มนวลไร้พิษสงนั้น คือภูเขาไฟที่มีลาวาเดือดอยู่และรอเวลาปะทุต่างหาก อยากรู้จริงๆว่า ถ้าลาวาที่ว่านั้นปะทุในห้องนอนเขา มันจะร้อนแรงแค่ไหนนะ
เมื่อเห็นท่าทางหญิงสาว ชายหนุ่มเจ้าของไร่จึงรีบตอบก่อนที่เธอจะโกรธมากไปกว่านี้
"กุหลาบพวกนี้ปลูกไว้ล่อแมลงศัตรูองุ่นน่ะ เพราะกลิ่นหอมหวานของกุหลาบจะทำให้แมลงหรือหนอนที่จะมากินองุ่นลงไปกินกุหลาบก่อน เพราะดึงดูดแมลงศัตรูพืชมากกว่า พอเราเห็นกุหลาบโดนแมลงลงก็จะได้หาทางป้องกันองุ่นได้ทัน"
"เพราะยังงี้หรือคะถึงไม่ค่อยดูแลกุหลาบเท่าไหร่ เพราะเป็นแค่ตัวล่อแมลงเองหรอกหรือ"
"จะว่ายังงั้นก็ได้ แต่ถ้างานในไร่ไม่ยุ่งมาก ฉันก็ให้คนงานตัดกิ่งที่ดอกโรยทิ้งไปเหมือนกัน"
"ถ้าอย่างนั้น ขอฉันเป็นคนดูแลกุหลาบได้ไหมคะ หมายถึงเวลาว่างจากงานน่ะค่ะ"
"ถ้าเธออยากทำก็ตามสบาย ดีเหมือนกัน จะได้มีกุหลาบสวยๆไว้ดู"
"ขอบคุณมากค่ะคุณราฟ" หญิงสาวยิ้มกว้างอย่างพอใจ เผยให้เห็นฟันขาวที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ รอยยิ้มของเธอทำให้ชายหนุ่มถึงกับตาพร่าไปทีเดียว
"เดวิดมาส่งข่าว เพิร์ลเป็น PHF อย่างที่สงสัยจริงๆ" ชายหนุ่มบอกผู้จัดการไร่ ก่อนจะกล่าวต่อไป
"เพิร์ลต้องได้รับยาฆ่าเชื้อวันละครั้งเป็นเวลาห้าวัน เดวิดจะมาให้ยาด้วยตัวเองตอนเที่ยงทุกวัน ตอนนี้เขาออกไปหาอะไรกินข้างนอก เสร็จแล้วจะกลับเข้ามาให้ยาครั้งแรก ฉันอยากให้นายอยู่ตอนเขาให้ยาด้วย" ชายหนุ่มบอกก่อนจะหันมาที่หญิงสาวคนเดียวในที่นั้น ทั้งสามนั่งรับประทานอาหารกลางวันกันในห้องอาหารที่เปิดโล่งติดกับห้องนั่งเล่น
"ส่วนเธอ ลิลลี่ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปพบฉันที่ออฟฟิศ ฉันมีงานเอกสารที่จะให้เธอช่วยหลายอย่าง" ชายหนุ่มมองเห็นประกายไม่แน่ใจวูบขึ้นมาในดวงตากลมโตคู่งามซึ่งส่งผลให้เขารู้สึกหงุดหงิด ทำไมเธอจะต้องรู้สึกไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจเกี่ยวกับอะไร การไปช่วยเขาเคลียร์เอกสารมันมีอะไรให้ต้องลังเลด้วยอย่างนั้นหรือ ความคิดนั้นทำให้ชายหนุ่มหน้าตึงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"เอ่อ.. งานทำความสะอาดคอกม้ายังไม่เสร็จเลยค่ะ" หญิงสาวบอกเขาอย่างขลาดๆ ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ทำไมเธอจะต้องทำท่ากลัวเขาอย่างนั้นด้วยนะ ทีกับไอ้เดวิดละหัวเราะระรื่นเชียว
"เดี๋ยวให้มาร์โคหาใครไปช่วยสักสองสามคน" ชายหนุ่มตอบง่ายๆ ก่อนจะลุกขึ้นเมื่อกัดแซนด์วิชคำสุดท้ายและยกน้ำขึ้นดื่ม
"เจอกันที่ออฟฟิศ" ชายหนุ่มพูดโดยไม่มองหน้าก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป