เสียงหัวเราะในห้องพยาบาลเงียบกริบลงทันทีเมื่อเกตุแก้วและประพนธ์ปรากฏตัว ภคพรหันขวับไปมองทั้งสองคนอย่างเกลียดชัง
“คืนนี้เกตุจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมที่นี่”
ประพนธ์กล่าวเฉยชา ประคองกอดเกตุแก้วไว้ในอ้อมแขน
“หมายความว่ายังไง จะมาอยู่ที่นี่”เพียงพรประหลาดใจ
“ช่างเขาเถอะค่ะแม่ หนูไม่เป็นอะไร ถึงจะเสียใจแค่ไหนหนูก็ไม่เป็นอะไร หนูรู้ดีค่ะ ว่าการแต่งงานในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก”
ภคพรเสแสร้งแกล้งทำ
“ไม่ได้ พ่อขอโทษนะหนูเกตุ แต่ตาพนธ์แต่งงานแล้ว พ่อคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้”
พิภพกล่าวเด็ดขาด แต่ก็ยังคงลำบากใจ
“เกตุขอโทษค่ะ เกตุจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้”
หญิงสาวหันหลังหนีทั้งน้ำตา ประพนธ์ไม่ยอมฉุดแขนเธอเอาไว้
“ไม่ต้องไป ผมยอมนอนที่นี่ตามใจพ่อแล้ว พ่อก็ต้องยอมให้เกตุมานอนที่นี่ตามใจผมบ้าง ไม่งั้นผมก็ไม่อยู่”
ประพนธ์ดื้อดึงรากเกตุแก้วไปนั่งลงบนโซฟา
“แก…”
พิภพโกรธจนตัวสั่นอยากต่อว่าลุกชาย แต่ถูกภคพรขัดขึ้นซะก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ หนูไม่เป็นอะไรจริงๆ ขอแค่สามีของหนูมานอนเป็นเพื่อนหนูที่นี่ แค่นี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอค่ะ สำหรับการแต่งงาน
ที่มาได้เริ่มต้นด้วยความรัก”
ภคพรแสร้งร้องห่มร้องไห้อย่างร้ายกาจ
“ตุ๊กตาทอง เอาไปเลย”
ประพนธ์มองจ้องภคพรดูถูก
“หุบปากไปเลยเจ้าพนธ์ ผมต้องขอโทษคุณสองคนจริงๆที่สั่งสอนลูกไม่ดี”
พิภพกล่าวเป็นทุกข์
“ช่างเขาเถอะครับ ในเมื่อลุกสาวของผมเป็นคนสร้างเรื่องยุ่งๆนี่ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงเธอต้องรับมันให้ได้ ในฐานะพ่อแม่
เราก็คงทำได้แค่รอให้ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ต้องรู้ว่าควรทำกันยังไง”
นวภคหันไปมองหน้าประพนธ์ที่นั่งอึ้ง เงียบงันเพราะคำพูดของเขา
“ถูกของคุณนวภค ลูกเราก็เลี้ยงได้แต่ตัว ถ้าแม่เลี้ยงลูกมาได้ไม่ดีอย่างที่เธอคาดหวังไว้ แม่ก็ต้องขอโทษด้วยนะ ประพนธ์
แม่หวังว่าสักวันหนึ่งลุกสาวของแม่จะเข้าใจและยอมแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะไปได้ไกลสักแค่ไหน
แม่ก็ขอให้เธอทั้งสองคนใช้สติให้มากๆ อย่าทำทุกอย่างด้วยอารมณ์ แม่คนนี้ไม่สามารถบังคับลุกสาวให้หยุดทำเรื่องที่ทำร้ายตัวเอง
และทำร้ายคนอื่นได้ แม่ก็ทำได้แค่ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปเร็วๆสักที”
เพียงพรน้ำตาคลอเบ้า ห่วงใยลูกสาวสุดขั้วหัวใจ ภคพรนั่งกัดฟันแน่น ควบคุมน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหล แต่ก็ไม่สามารถต้านทานอารมณ์
แห่งความอ่อนไหวในหัวใจเธอได้
“ดูแลตัวเองนะลูก ลูกสาวที่น่ารักของพ่อ พ่อหวังว่ายายเมย์ที่มีแต่รอยยิ้มและความสดในของครอบครัวเรา จะกลับมาโดยเร็ววัน”
นวภคลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเพียงพรและพิภพ
“ขอโทษนะค่ะ ที่หนูทำให้พ่อแม่หนักใจ”
ภคพรกล่าวกับตัวเองเบาๆ เริ่มรู้สึกตัวว่าการแก้แค้นในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ฝ่ายของกันย์ที่จะเสียใจ แต่ยังมีครอบครัวของเธอรวมอยู่ด้วยเช่นกัน
“สมใจคุณแล้วสิ ที่ทำให้ผู้มีพระคุณเป็นทุกข์ขนาดนี้ อกตัญญู”
ประพนธ์ประคองกอดเกตุแก้ว จ้องมองดูภคพรที่ล้มตัวลงนอนเฉยชา ไม่ตอบโต้
“เสียใจด้วยนะที่แผนการของคุณล้มเหลว เกตุแก้วจะไม่มีวันเจ็บปวด เพราะว่าผมจะไม่ทอดทิ้งเธอ”
ประพนธ์มองจ้องภคพรเย้ยหยัน
“คุณจะต้องเสียใจ”
ภคพรมองจ้องเคียดแค้นชิงชัง ขว้างปาข้าวของลงพื้น และปัดข้าวของบนเตียงกระจายเต็มห้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนพื้น
และทุบตีร่างกายตัวเองจนเป็นรอยแดงขึ้นมาทันตาเห็น
“ทำบ้าอะไรของเธอ ยายบ้า”ประพนธ์ยืนขึ้นหน้าตาเหรอหราตกอกตกใจ ก่อนที่ทุกคนจะวิ่งมารวมกันที่ห้องอีกครั้ง
เพราะเสียงกรี๊ดสุดเสียงของภคพร
“ยายเนย์ เป็นอะไรลูก เป็นอะไร”
เพียงพรน้ำตาคลอเบ้า เข้าไปประคองกอดลูกสาวที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เนื้อตัวแดงเป็นจ้ำ
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
นวภคตะวาดใส่ประพนธ์เสียงดัง โกรธจนหน้าแดงกร่ำ
“แกทำอะไรของแก ทำอะไร”
พิภพเขย่าแขนลุกชายที่ยืนอึ้ง ตะลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ทำไมไม่บอกพ่อคุณไปล่ะ ว่าผู้หญิงคนนั้นหึงที่คุณทำดีกับฉัน แล้วก็ทำร้ายร่างกายฉันแบบนี้ เพราะหนูไม่สบาย
หนูถึงโดนรังแกแบบนี้ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้โฮ ท่าทางอิดโรยและไข้ที่ขึ้นจนตัวเธอร้อนจี๋ ทำให้เธอยิ่งดูน่าสงสารและทุกคนเชื่อที่เธอพูดอย่างสนิทใจ
“ไม่จริง ผู้หญิงคนนี้โกหก ยัยนั่นทำตัวเองชัดๆ เธอมันยายบ้า เธอมันจอมโกหก”
ประพนธ์ตะคอกใส่ภคพรที่ร้องไห้โฮอยู่ในอ้อมอกของเพียงพรอย่างไม่อาจควบคุมสติ ภคพรทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมพราง
“พ่อผิดหวังในตัวหนูจริงๆหนูเกตุ หนูทำแบบนี้ได้ยังไง หนูภคพรเขากำลังไม่สบาย ไอ้พนธ์มันก็ประกาศปาวๆว่ามันรักหนู
หนูคิดว่าแค่นี้มันยังเลวร้ายไม่พอสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงใช่ไหม”
พิภพต่อว่าเกตุแก้ว ที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนอยู่ข้างหลังประพนธ์
“พ่อกำลังเข้าใจผิด ผู้หญิงคนนั้นมันทำตัวเองทั้งนั้น เธอมัน เธอมัน....”
ประพนธ์โกรธจนตัวสั่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองจ้องภคพรอย่างแสนเกลียดชัง เขาแทบอยากจะตบเธอให้ล้มคว่ำ
ไปตรงนั้นด้วยซ้ำถ้าไม่มีใครอยู่ตรงนั้นด้วย
“เลิกทำแบบนี้ซะที หุบปากแล้วฟังพ่อ ถ้าแกยังเห็นว่าพ่อเป็นพ่อ อย่าทำแบบนี้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียแก
หนูเกตุอย่าพบกับตาพนธ์อีกเลย เรื่องทั้งหมดครอบครัวเราผิดเอง แต่ในเมื่อพ่อแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หนูก็มีหน้าที่ทำความเข้าใจ
ยอมรับความจริงแล้วก็ปล่อยตาพนธ์ไปซะ”
พิภพตัดบทเพื่อจบเรื่องวุ่นวายทั้งหมด
“พ่อทำแบบนี้ไม่ได้นะ เกตุอย่าไปนะ”
ประพนธ์เสียงสั่น กลัวจะเสียคนรัก เขาขวางเธอไว้ด้วยท่าทางรนราน
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะพนธ์ คุณก็เห็นแล้วนี่ ว่าเราไม่มีทางรับมือกับผู้หญิงร้ายกาจคนนี้ได้เลย เราเลิกกันเถอะค่ะ”
เกตุแก้วรีบร้อนเดินจากไปด้วยน้ำตานองหน้า ประพนธ์ทำท่าจะวิ่งตามไป แต่ก็ถูกพิภพยกมือกันเอาไว้
“ถ้าแกไป อย่ามาเรียกพ่อว่าพ่อ เงินสักบาท สมบัติสักชิ้น พ่อก็จะไม่ให้ อย่าหวังว่าจะได้เหยียบเข้ามาในบ้าน
อย่างหวังว่าจะได้เจอหน้าพ่อกับแม่อีก”
พิภพยื่นคำขาด ประพนธ์มองจ้องหน้าพ่อเขาอย่างร้องขอความยุติธรรม แต่ก็ไม่อาจเดินจากไป เพราะคำว่ากตัญญูคำเดียว
ที่พันธนาการเขาเอาไว้
“ฉันขอโทษค่ะ พนธ์ ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ ฉันปล่อยคุณไปให้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อีกแล้ว ฮือๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้เสียงดังอย่างเสแสร้ง ประพนธ์ยืนกำหมัดแน่น มองจ้องภคพรเคียดแค้น เขาสาบานกับตัวเองว่าภคพร
จะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมที่ทำให้เขากับเกตุแก้วต้องได้พบกับความทุกข์ทรมานในวันนี้
เสียงร้องไห้ของเกตุแก้วตลอดทั้งคืนทำให้กันย์ไม่สามารถข่มตาลงนอนหลับได้ เขาได้แต่รู้สึกทุกข์ทรมานและ
เจ็บปวดอยู่เต็มทุกห้องในหัวใจ
“คนพวกนั้นทำให้เธอเสียใจมากแค่ไหน พี่จะทำให้พวกมันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า”
กันย์นึกในใจด้วยความแค้นเคืองทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจ ภคพรจะต้องได้รับความทุกข์ทรมานที่ไม่ต่างกัน
แต่จะต้องมากมายกว่าเป็นร้อยเท่าทวีคูณ
เมื่อทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้วในห้องพยาบาลจึงเหลือแค่ภคพรและประพนธ์ที่นั่งมองจ้องหน้ากันเหมือนระเบิดเวลา
ที่กำลังรอเวลาที่จะระเบิดได้ทุกเวลา ความเกลียดชังจากสายตาที่พวกเขามองจ้องกัน ไม่ได้มีใครมากหรือน้อยไปกว่ากัน
“เธอนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ หน้ามืดตามัวถึงขนาดใส่ร้ายคนอื่น เธอมันเลวมากกว่าที่ฉันคิดไว้จริงๆ”
ประพนธ์เดินเข้ามาใกล้เคียงพร้อมกับความเกลียดชัง
“คุณมันก็เลวไม่น้อยไปกว่าฉันหรอก คุณไม่ใช่หรอ ที่เกือบจะฆ่าฉันตายเมื่อวานนี้”
ภคพรมองจ้องประพนธ์
“นั่นมันเพราะคุณกวนประสาทใส่ผมก่อน คุณสมควรโดน”
ประพนธ์กล่าวอย่างไร้ความรู้สึกผิดใดๆ
“คุณจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันไม่สน สิ่งที่ฉันต้องการคือความเจ็บปวดของเกตุแก้ว ไม่ใช่คุณ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะทำอะไร
มันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”
ภคพรอมยิ้มท้าทายอย่างร้ายกาจ
“ผู้หญิงอะไรน่ารังเกลียด ผมเกลียดคุณ เกลียด”
ประพนธ์กัดฟัน เน้นคำพูด
“ฉันก็ไม่ได้รักคุณ”
ภคพรสวนขึ้นทันควันอย่างไม่ต้องคิดอะไร
“ก็ดี งั้นผมว่าเรามาหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่าไหม เผื่อว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น”
ประพนธ์อมยิ้มเจ้าเล่ห์ เดินเข้าไปใกล้เตียง
“คิดว่าคนอย่างฉัน จะมีอารมณ์ทำอะไรสนุกๆกับคุณหรือเปล่าล่ะ”
ภคพรต่อปากต่อคำ ไม่มีหวาดหวั่นแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวก็รู้ ว่าจะได้หรือไม่ได้”
ประพนธ์อมยิ้ม ฉุดประชากภคพรลงมาจากเตียงและเหวี่ยงลงบนโซฟา ไม่มีเบามือ
“ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง นายบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าจะไม่แตะต้องฉัน คิดจะกลับคำหรือไง ทุเรศ”
ภคพรโวยวาย ยังคงไม่มีความหวาดหวั่นในสายตาเธอ
“คิดว่าผมจะโง่ขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมผมต้องยอมให้ผู้หญิงร้ายกาจอย่างคุณ อยู่อย่างสุขสบายโดยไม่สูญเสียอะไรเลย
อย่างน้อยได้ทำอะไรๆกับคุณ แม้ว่าจะไม่ได้รัก ได้ชอบ แต่มันก็สนุกและสะใจดีพิลึกไม่ใช่หรอ”
ประพนธ์อมยิ้มมุมปาก ยืนมองดูภคพรนอนไร้เรี่ยวแรงอ่อนล้าอยู่ตรงหน้าด้วยความสะใจ ท่าทีเริ่มหวาดหวั่นของเธอยิ่งทำให้เขาพอใจ
“ไม่มีทาง ฉันไม่ยอม กลับบ้านคุณไปเลย ฉันเกลียดคุณ”
ภคพรลุกขึ้นยืนผลักประพนธ์เต็มแรงแต่ก็ถูกเขาจับเหวี่ยงลงที่เดิม พร้อมกับร่างกายกำยำของเขาที่ถาโถมเข้ามาบนตัวเธอ
มือทั้งสองข้างถูกยึดตึงกับโซฟาอย่างไม่มีทางขัดขืน
“ออกไปนะไอ้โรคจิต คนลามก ถ้าคุณกล้าทำอะไรฉัน ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย คอยดู”
ภคพรตะโกนร้อง กลัวว่าประพนธ์จะทำอะไรเธอขึ้นมาจริงๆ
“นอกจากปากคุณแล้ว ยังมีที่อื่นให้ผมจูบอีกเยอะ ทำไมผมต้องโง่จูบแต่ที่ตรงปากคุณด้วยล่ะ”
ประพนธ์ยิ้มเยาะ ระดมจูบที่ซอกคองามระหงส์ของหญิงสาว กลิ่นหอมจากายเธอทำให้เขาพอใจ ภคพรพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่เป็นผล
เธอไม่อาจสู้แรงของประพนธ์ได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยว
“ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อย ปล่อย”ภคพรยังคงดิ้นรนสุดกำลัง จนในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างเธอ เมื่อประตูถูกเปิดออก
“ว้าย”
พยาบาลคนสวยอ้าปากค้าง มองจ้องประพนธ์กับภคพรประหลาดใจ ในขณะเดียวกันสองสามีภรรยาก็หันมามองจ้องที่นางพยาบาลเช่นกัน
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมกับภรรยาแค่ล้อกันเล่น”
ประพนธ์รีบถอยห่างออกมาจากร่างภคพรที่นอนผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่บนโซฟา
“เพี๊ยะ”
ในขณะที่ประพนธ์กำลังแก้ตัว ภคพรก็เดินดิ่งไปหาเขาและตบเขาเต็มแรงจนหน้าหันไปตามมือ พยาบาลสาวยืนอ้าปากค้างอีกครั้ง
ด้วยความตกใจ
“นี่สำหรับที่คุณจูบฉัน”
ภคพรมองจ้องดวงตาคมกริบของสามี และเดินไปนอนลงบนเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พวกคุณไปเถอะ ขอบคุณมาก”
ประพนธ์ส่งนางพยาบาลออกจากห้อง พร้อมกับหันมาเล่นงานภคพรทันที
“จำเหตุการณ์ในวันนี้เอาไว้ด้วย จำเอาไว้ให้ดีว่าถ้าผมจะทำอะไรคุณขึ้นมาจริงๆ คุณไม่มีทางสู้ผมได้”
ประพนธ์มองจ้องภคพรที่ก็มองจ้องเขาด้วยความชิงชังไม่ต่างกัน
เช้าวันต่อมาประพนธ์เป็นผู้ดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลรวมถึงการกรอกประวัติต่างๆของภคพรและต้องเป็นคน
พาเธอกลับบ้านตามคำสั่งของบิดาแต่โดยดี
“ฉันจะกลับบ้านฉัน คุณเองก็ต้องไปนอนกับฉันที่นั่นเหมือนกัน”
ภคพรยื่นคำขาด นั่งปั้นหน้าบึ้งตึงอยู่บนโซฟา โดยมีกระเป๋าใบโปรดวางอยู่ใกล้มือ
“ผมไม่ไป ถ้าอยากไปก็นั่งแทกซี่กลับไปเอง ผมไม่คุ้นเคยกับการนอนบ้านคนอื่น”
ประพนธ์ดื้อดึง
“ถ้าไม่อยากให้พ่อแม่คุณเกลียดหรือเข้าใจอดีตคนรักของคุณไปมากกว่านี้ ก็ทำตามที่ฉันบอก อย่าทำให้ฉันลำบากใจ
จนต้องแสดงอะไรร้ายๆออกมา”
ภคพรอมยิ้มบางๆอย่างผู้ชนะ
“เธอมันปิศาจชัดๆ”
ประพนธ์ไม่อาจขัดขืน ต้องยอมทำตามในเมื่อเขาไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับภคพร
“เดี๋ยวก่อน”
ภคพรเรียกประพนธ์ที่ทำท่าจะเดินออกจากห้อง
“อะไร”
ประพนธ์โวยวาย
“ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว ในฐานะสามี คุณก็ควรจะถือกระเป๋าให้ฉันนะ”
ภคพรยัดกระเป๋าใส่มือประพนธ์และเดินนำเขาออกไป ประพนธ์พยายามเก็บกลั้นอารมณ์และถือกระเป๋าตามเธอไปอย่างไม่มีทางเลือก
ไร้หัวใจ ตอนที่ 7
เสียงหัวเราะในห้องพยาบาลเงียบกริบลงทันทีเมื่อเกตุแก้วและประพนธ์ปรากฏตัว ภคพรหันขวับไปมองทั้งสองคนอย่างเกลียดชัง
“คืนนี้เกตุจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมที่นี่”
ประพนธ์กล่าวเฉยชา ประคองกอดเกตุแก้วไว้ในอ้อมแขน
“หมายความว่ายังไง จะมาอยู่ที่นี่”เพียงพรประหลาดใจ
“ช่างเขาเถอะค่ะแม่ หนูไม่เป็นอะไร ถึงจะเสียใจแค่ไหนหนูก็ไม่เป็นอะไร หนูรู้ดีค่ะ ว่าการแต่งงานในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความรัก”
ภคพรเสแสร้งแกล้งทำ
“ไม่ได้ พ่อขอโทษนะหนูเกตุ แต่ตาพนธ์แต่งงานแล้ว พ่อคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้”
พิภพกล่าวเด็ดขาด แต่ก็ยังคงลำบากใจ
“เกตุขอโทษค่ะ เกตุจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้”
หญิงสาวหันหลังหนีทั้งน้ำตา ประพนธ์ไม่ยอมฉุดแขนเธอเอาไว้
“ไม่ต้องไป ผมยอมนอนที่นี่ตามใจพ่อแล้ว พ่อก็ต้องยอมให้เกตุมานอนที่นี่ตามใจผมบ้าง ไม่งั้นผมก็ไม่อยู่”
ประพนธ์ดื้อดึงรากเกตุแก้วไปนั่งลงบนโซฟา
“แก…”
พิภพโกรธจนตัวสั่นอยากต่อว่าลุกชาย แต่ถูกภคพรขัดขึ้นซะก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ หนูไม่เป็นอะไรจริงๆ ขอแค่สามีของหนูมานอนเป็นเพื่อนหนูที่นี่ แค่นี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอค่ะ สำหรับการแต่งงาน
ที่มาได้เริ่มต้นด้วยความรัก”
ภคพรแสร้งร้องห่มร้องไห้อย่างร้ายกาจ
“ตุ๊กตาทอง เอาไปเลย”
ประพนธ์มองจ้องภคพรดูถูก
“หุบปากไปเลยเจ้าพนธ์ ผมต้องขอโทษคุณสองคนจริงๆที่สั่งสอนลูกไม่ดี”
พิภพกล่าวเป็นทุกข์
“ช่างเขาเถอะครับ ในเมื่อลุกสาวของผมเป็นคนสร้างเรื่องยุ่งๆนี่ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงเธอต้องรับมันให้ได้ ในฐานะพ่อแม่
เราก็คงทำได้แค่รอให้ทุกอย่างมันเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ต้องรู้ว่าควรทำกันยังไง”
นวภคหันไปมองหน้าประพนธ์ที่นั่งอึ้ง เงียบงันเพราะคำพูดของเขา
“ถูกของคุณนวภค ลูกเราก็เลี้ยงได้แต่ตัว ถ้าแม่เลี้ยงลูกมาได้ไม่ดีอย่างที่เธอคาดหวังไว้ แม่ก็ต้องขอโทษด้วยนะ ประพนธ์
แม่หวังว่าสักวันหนึ่งลุกสาวของแม่จะเข้าใจและยอมแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าการแต่งงานในครั้งนี้จะไปได้ไกลสักแค่ไหน
แม่ก็ขอให้เธอทั้งสองคนใช้สติให้มากๆ อย่าทำทุกอย่างด้วยอารมณ์ แม่คนนี้ไม่สามารถบังคับลุกสาวให้หยุดทำเรื่องที่ทำร้ายตัวเอง
และทำร้ายคนอื่นได้ แม่ก็ทำได้แค่ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปเร็วๆสักที”
เพียงพรน้ำตาคลอเบ้า ห่วงใยลูกสาวสุดขั้วหัวใจ ภคพรนั่งกัดฟันแน่น ควบคุมน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหล แต่ก็ไม่สามารถต้านทานอารมณ์
แห่งความอ่อนไหวในหัวใจเธอได้
“ดูแลตัวเองนะลูก ลูกสาวที่น่ารักของพ่อ พ่อหวังว่ายายเมย์ที่มีแต่รอยยิ้มและความสดในของครอบครัวเรา จะกลับมาโดยเร็ววัน”
นวภคลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเพียงพรและพิภพ
“ขอโทษนะค่ะ ที่หนูทำให้พ่อแม่หนักใจ”
ภคพรกล่าวกับตัวเองเบาๆ เริ่มรู้สึกตัวว่าการแก้แค้นในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ฝ่ายของกันย์ที่จะเสียใจ แต่ยังมีครอบครัวของเธอรวมอยู่ด้วยเช่นกัน
“สมใจคุณแล้วสิ ที่ทำให้ผู้มีพระคุณเป็นทุกข์ขนาดนี้ อกตัญญู”
ประพนธ์ประคองกอดเกตุแก้ว จ้องมองดูภคพรที่ล้มตัวลงนอนเฉยชา ไม่ตอบโต้
“เสียใจด้วยนะที่แผนการของคุณล้มเหลว เกตุแก้วจะไม่มีวันเจ็บปวด เพราะว่าผมจะไม่ทอดทิ้งเธอ”
ประพนธ์มองจ้องภคพรเย้ยหยัน
“คุณจะต้องเสียใจ”
ภคพรมองจ้องเคียดแค้นชิงชัง ขว้างปาข้าวของลงพื้น และปัดข้าวของบนเตียงกระจายเต็มห้อง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนพื้น
และทุบตีร่างกายตัวเองจนเป็นรอยแดงขึ้นมาทันตาเห็น
“ทำบ้าอะไรของเธอ ยายบ้า”ประพนธ์ยืนขึ้นหน้าตาเหรอหราตกอกตกใจ ก่อนที่ทุกคนจะวิ่งมารวมกันที่ห้องอีกครั้ง
เพราะเสียงกรี๊ดสุดเสียงของภคพร
“ยายเนย์ เป็นอะไรลูก เป็นอะไร”
เพียงพรน้ำตาคลอเบ้า เข้าไปประคองกอดลูกสาวที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง เนื้อตัวแดงเป็นจ้ำ
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
นวภคตะวาดใส่ประพนธ์เสียงดัง โกรธจนหน้าแดงกร่ำ
“แกทำอะไรของแก ทำอะไร”
พิภพเขย่าแขนลุกชายที่ยืนอึ้ง ตะลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ทำไมไม่บอกพ่อคุณไปล่ะ ว่าผู้หญิงคนนั้นหึงที่คุณทำดีกับฉัน แล้วก็ทำร้ายร่างกายฉันแบบนี้ เพราะหนูไม่สบาย
หนูถึงโดนรังแกแบบนี้ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้โฮ ท่าทางอิดโรยและไข้ที่ขึ้นจนตัวเธอร้อนจี๋ ทำให้เธอยิ่งดูน่าสงสารและทุกคนเชื่อที่เธอพูดอย่างสนิทใจ
“ไม่จริง ผู้หญิงคนนี้โกหก ยัยนั่นทำตัวเองชัดๆ เธอมันยายบ้า เธอมันจอมโกหก”
ประพนธ์ตะคอกใส่ภคพรที่ร้องไห้โฮอยู่ในอ้อมอกของเพียงพรอย่างไม่อาจควบคุมสติ ภคพรทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมพราง
“พ่อผิดหวังในตัวหนูจริงๆหนูเกตุ หนูทำแบบนี้ได้ยังไง หนูภคพรเขากำลังไม่สบาย ไอ้พนธ์มันก็ประกาศปาวๆว่ามันรักหนู
หนูคิดว่าแค่นี้มันยังเลวร้ายไม่พอสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงใช่ไหม”
พิภพต่อว่าเกตุแก้ว ที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนอยู่ข้างหลังประพนธ์
“พ่อกำลังเข้าใจผิด ผู้หญิงคนนั้นมันทำตัวเองทั้งนั้น เธอมัน เธอมัน....”
ประพนธ์โกรธจนตัวสั่น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองจ้องภคพรอย่างแสนเกลียดชัง เขาแทบอยากจะตบเธอให้ล้มคว่ำ
ไปตรงนั้นด้วยซ้ำถ้าไม่มีใครอยู่ตรงนั้นด้วย
“เลิกทำแบบนี้ซะที หุบปากแล้วฟังพ่อ ถ้าแกยังเห็นว่าพ่อเป็นพ่อ อย่าทำแบบนี้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียแก
หนูเกตุอย่าพบกับตาพนธ์อีกเลย เรื่องทั้งหมดครอบครัวเราผิดเอง แต่ในเมื่อพ่อแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว หนูก็มีหน้าที่ทำความเข้าใจ
ยอมรับความจริงแล้วก็ปล่อยตาพนธ์ไปซะ”
พิภพตัดบทเพื่อจบเรื่องวุ่นวายทั้งหมด
“พ่อทำแบบนี้ไม่ได้นะ เกตุอย่าไปนะ”
ประพนธ์เสียงสั่น กลัวจะเสียคนรัก เขาขวางเธอไว้ด้วยท่าทางรนราน
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะพนธ์ คุณก็เห็นแล้วนี่ ว่าเราไม่มีทางรับมือกับผู้หญิงร้ายกาจคนนี้ได้เลย เราเลิกกันเถอะค่ะ”
เกตุแก้วรีบร้อนเดินจากไปด้วยน้ำตานองหน้า ประพนธ์ทำท่าจะวิ่งตามไป แต่ก็ถูกพิภพยกมือกันเอาไว้
“ถ้าแกไป อย่ามาเรียกพ่อว่าพ่อ เงินสักบาท สมบัติสักชิ้น พ่อก็จะไม่ให้ อย่าหวังว่าจะได้เหยียบเข้ามาในบ้าน
อย่างหวังว่าจะได้เจอหน้าพ่อกับแม่อีก”
พิภพยื่นคำขาด ประพนธ์มองจ้องหน้าพ่อเขาอย่างร้องขอความยุติธรรม แต่ก็ไม่อาจเดินจากไป เพราะคำว่ากตัญญูคำเดียว
ที่พันธนาการเขาเอาไว้
“ฉันขอโทษค่ะ พนธ์ ฉันรักคุณ ฉันรักคุณ ฉันปล่อยคุณไปให้ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อีกแล้ว ฮือๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้เสียงดังอย่างเสแสร้ง ประพนธ์ยืนกำหมัดแน่น มองจ้องภคพรเคียดแค้น เขาสาบานกับตัวเองว่าภคพร
จะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมที่ทำให้เขากับเกตุแก้วต้องได้พบกับความทุกข์ทรมานในวันนี้
เสียงร้องไห้ของเกตุแก้วตลอดทั้งคืนทำให้กันย์ไม่สามารถข่มตาลงนอนหลับได้ เขาได้แต่รู้สึกทุกข์ทรมานและ
เจ็บปวดอยู่เต็มทุกห้องในหัวใจ
“คนพวกนั้นทำให้เธอเสียใจมากแค่ไหน พี่จะทำให้พวกมันเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า”
กันย์นึกในใจด้วยความแค้นเคืองทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจ ภคพรจะต้องได้รับความทุกข์ทรมานที่ไม่ต่างกัน
แต่จะต้องมากมายกว่าเป็นร้อยเท่าทวีคูณ
เมื่อทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้วในห้องพยาบาลจึงเหลือแค่ภคพรและประพนธ์ที่นั่งมองจ้องหน้ากันเหมือนระเบิดเวลา
ที่กำลังรอเวลาที่จะระเบิดได้ทุกเวลา ความเกลียดชังจากสายตาที่พวกเขามองจ้องกัน ไม่ได้มีใครมากหรือน้อยไปกว่ากัน
“เธอนี่มันเหลือเชื่อจริงๆ หน้ามืดตามัวถึงขนาดใส่ร้ายคนอื่น เธอมันเลวมากกว่าที่ฉันคิดไว้จริงๆ”
ประพนธ์เดินเข้ามาใกล้เคียงพร้อมกับความเกลียดชัง
“คุณมันก็เลวไม่น้อยไปกว่าฉันหรอก คุณไม่ใช่หรอ ที่เกือบจะฆ่าฉันตายเมื่อวานนี้”
ภคพรมองจ้องประพนธ์
“นั่นมันเพราะคุณกวนประสาทใส่ผมก่อน คุณสมควรโดน”
ประพนธ์กล่าวอย่างไร้ความรู้สึกผิดใดๆ
“คุณจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันไม่สน สิ่งที่ฉันต้องการคือความเจ็บปวดของเกตุแก้ว ไม่ใช่คุณ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะทำอะไร
มันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”
ภคพรอมยิ้มท้าทายอย่างร้ายกาจ
“ผู้หญิงอะไรน่ารังเกลียด ผมเกลียดคุณ เกลียด”
ประพนธ์กัดฟัน เน้นคำพูด
“ฉันก็ไม่ได้รักคุณ”
ภคพรสวนขึ้นทันควันอย่างไม่ต้องคิดอะไร
“ก็ดี งั้นผมว่าเรามาหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่าไหม เผื่อว่าอะไรๆมันจะดีขึ้น”
ประพนธ์อมยิ้มเจ้าเล่ห์ เดินเข้าไปใกล้เตียง
“คิดว่าคนอย่างฉัน จะมีอารมณ์ทำอะไรสนุกๆกับคุณหรือเปล่าล่ะ”
ภคพรต่อปากต่อคำ ไม่มีหวาดหวั่นแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวก็รู้ ว่าจะได้หรือไม่ได้”
ประพนธ์อมยิ้ม ฉุดประชากภคพรลงมาจากเตียงและเหวี่ยงลงบนโซฟา ไม่มีเบามือ
“ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง นายบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าจะไม่แตะต้องฉัน คิดจะกลับคำหรือไง ทุเรศ”
ภคพรโวยวาย ยังคงไม่มีความหวาดหวั่นในสายตาเธอ
“คิดว่าผมจะโง่ขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมผมต้องยอมให้ผู้หญิงร้ายกาจอย่างคุณ อยู่อย่างสุขสบายโดยไม่สูญเสียอะไรเลย
อย่างน้อยได้ทำอะไรๆกับคุณ แม้ว่าจะไม่ได้รัก ได้ชอบ แต่มันก็สนุกและสะใจดีพิลึกไม่ใช่หรอ”
ประพนธ์อมยิ้มมุมปาก ยืนมองดูภคพรนอนไร้เรี่ยวแรงอ่อนล้าอยู่ตรงหน้าด้วยความสะใจ ท่าทีเริ่มหวาดหวั่นของเธอยิ่งทำให้เขาพอใจ
“ไม่มีทาง ฉันไม่ยอม กลับบ้านคุณไปเลย ฉันเกลียดคุณ”
ภคพรลุกขึ้นยืนผลักประพนธ์เต็มแรงแต่ก็ถูกเขาจับเหวี่ยงลงที่เดิม พร้อมกับร่างกายกำยำของเขาที่ถาโถมเข้ามาบนตัวเธอ
มือทั้งสองข้างถูกยึดตึงกับโซฟาอย่างไม่มีทางขัดขืน
“ออกไปนะไอ้โรคจิต คนลามก ถ้าคุณกล้าทำอะไรฉัน ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย คอยดู”
ภคพรตะโกนร้อง กลัวว่าประพนธ์จะทำอะไรเธอขึ้นมาจริงๆ
“นอกจากปากคุณแล้ว ยังมีที่อื่นให้ผมจูบอีกเยอะ ทำไมผมต้องโง่จูบแต่ที่ตรงปากคุณด้วยล่ะ”
ประพนธ์ยิ้มเยาะ ระดมจูบที่ซอกคองามระหงส์ของหญิงสาว กลิ่นหอมจากายเธอทำให้เขาพอใจ ภคพรพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่เป็นผล
เธอไม่อาจสู้แรงของประพนธ์ได้เลยแม้แต่เศษเสี้ยว
“ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อย ปล่อย”ภคพรยังคงดิ้นรนสุดกำลัง จนในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างเธอ เมื่อประตูถูกเปิดออก
“ว้าย”
พยาบาลคนสวยอ้าปากค้าง มองจ้องประพนธ์กับภคพรประหลาดใจ ในขณะเดียวกันสองสามีภรรยาก็หันมามองจ้องที่นางพยาบาลเช่นกัน
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมกับภรรยาแค่ล้อกันเล่น”
ประพนธ์รีบถอยห่างออกมาจากร่างภคพรที่นอนผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่บนโซฟา
“เพี๊ยะ”
ในขณะที่ประพนธ์กำลังแก้ตัว ภคพรก็เดินดิ่งไปหาเขาและตบเขาเต็มแรงจนหน้าหันไปตามมือ พยาบาลสาวยืนอ้าปากค้างอีกครั้ง
ด้วยความตกใจ
“นี่สำหรับที่คุณจูบฉัน”
ภคพรมองจ้องดวงตาคมกริบของสามี และเดินไปนอนลงบนเตียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พวกคุณไปเถอะ ขอบคุณมาก”
ประพนธ์ส่งนางพยาบาลออกจากห้อง พร้อมกับหันมาเล่นงานภคพรทันที
“จำเหตุการณ์ในวันนี้เอาไว้ด้วย จำเอาไว้ให้ดีว่าถ้าผมจะทำอะไรคุณขึ้นมาจริงๆ คุณไม่มีทางสู้ผมได้”
ประพนธ์มองจ้องภคพรที่ก็มองจ้องเขาด้วยความชิงชังไม่ต่างกัน
เช้าวันต่อมาประพนธ์เป็นผู้ดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลรวมถึงการกรอกประวัติต่างๆของภคพรและต้องเป็นคน
พาเธอกลับบ้านตามคำสั่งของบิดาแต่โดยดี
“ฉันจะกลับบ้านฉัน คุณเองก็ต้องไปนอนกับฉันที่นั่นเหมือนกัน”
ภคพรยื่นคำขาด นั่งปั้นหน้าบึ้งตึงอยู่บนโซฟา โดยมีกระเป๋าใบโปรดวางอยู่ใกล้มือ
“ผมไม่ไป ถ้าอยากไปก็นั่งแทกซี่กลับไปเอง ผมไม่คุ้นเคยกับการนอนบ้านคนอื่น”
ประพนธ์ดื้อดึง
“ถ้าไม่อยากให้พ่อแม่คุณเกลียดหรือเข้าใจอดีตคนรักของคุณไปมากกว่านี้ ก็ทำตามที่ฉันบอก อย่าทำให้ฉันลำบากใจ
จนต้องแสดงอะไรร้ายๆออกมา”
ภคพรอมยิ้มบางๆอย่างผู้ชนะ
“เธอมันปิศาจชัดๆ”
ประพนธ์ไม่อาจขัดขืน ต้องยอมทำตามในเมื่อเขาไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับภคพร
“เดี๋ยวก่อน”
ภคพรเรียกประพนธ์ที่ทำท่าจะเดินออกจากห้อง
“อะไร”
ประพนธ์โวยวาย
“ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว ในฐานะสามี คุณก็ควรจะถือกระเป๋าให้ฉันนะ”
ภคพรยัดกระเป๋าใส่มือประพนธ์และเดินนำเขาออกไป ประพนธ์พยายามเก็บกลั้นอารมณ์และถือกระเป๋าตามเธอไปอย่างไม่มีทางเลือก