ไร้หัวใจ ตอนที่ 11

กระทู้สนทนา


        นวพรรษนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงคนไข้ โดยที่บนโซฟาเล็กๆข้างเตียงก็มีธาวินคอยนอนอยู่ข้างๆ
“ติ๊ดๆๆๆ”
ธาวินได้รับโทรศัพท์จากใครบางคน ข้อความที่เขาได้ยินทำให้เขาต้องรีบร้อนวิ่งออกจากห้องไป ในขณะที่กันย์กลับเดินสวนเข้ามาแทน
วันนี้เรื่องราวทุกอย่างจะต้องจบลง ภคพรจะต้องไม่มีข้อต่อรองใดๆที่จะเอาชนะทุกคนได้อีก
“พอกันที”
กันย์พูดกับตัวเองเดินเข้ามาในห้องคนไข้
“โอ๊ยยย”
นวพรรษลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ ลืมตาโพล่งขึ้นมองเห็นมือของใครบางคนกำแขนของเธออยู่
“คุณ..”
หญิงสาวกระอึกกระอัก มองกันย์ด้วยความตกใจ ชายหนุ่มไม่ยอมพูดอะไรเลย เขากำมือของนวพรรษแน่นหนา
และดึงสายน้ำเกลือของเธอออกอย่างเลือดเย็นอีกเป็นครั้งที่ไม่รู้เท่าไหร่
“...”
กันย์ยังไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเขากระชากร่างบางของนวพรรษลงจากเตียงด้วยความเงียบงัน
“คุณจะพาฉันไปไหน ปล่อยนะ”
นวพรรษเดินตามมาแรงฉุดกระชาก ไม่อาจขัดขืน
“บอกให้ปล่อยไงเล่า ปล่อย”
นวพรรษพยายามขัดขืน พยายามแกะมือกันย์ออก แต่ก็ไร้ประโยชน์ ไม่นานเขาก็รากเธอมาจนถึงบันไดหนีไฟ
“ปล่อยฉัน”
นวพรรษสะบัดอย่างแรงจนหลุดจากพันธนาการ ยืนเผชิญหน้ากับชายหนุ่มหน้าตาท่าทางเลือดเย็นตรงหน้า ชิงชัง
“เราไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีกแล้ว อย่ามายุ่งกับฉัน”
นวพรรษเดินหนีแต่กันย์จับแขนเธอเอาไว้ หญิงสาวหันขวับมามองจ้องหน้าเขาแสนเกลียดชัง
“พี่สาวคุณทำร้ายน้องสาวผมปางตาย ผมยอมไม่ได้”
กันย์กัดฟันพูด ความชิงชังในใจเขามันทำให้เขามองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากความสุขของเกตุแก้ว
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน คุณยังทำร้ายฉันไม่พอใช่มั้ย ถึงได้ทำกับฉันแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าอยากให้ฉันตายนัก
ทำไมไม่เอาปืนมายิงฉันให้ตายไปซะเลยล่ะ”
นวพรรษพยายามซ่อนความเสียใจและหยดน้ำตาของเธอเอาไว้
“หัวใจของผมมันไม่มีความรู้สึกอีกแล้ว ไม่ว่าจะจะต้องมาเจ็บปวดเพราะผม สิ่งเดียวที่ใจของผมมันรู้สึกได้ก็คือ
ใครจะมาทำร้ายน้องสาวของผมไม่ได้ ผมไม่ยอม ต่อให้ต้องทำร้ายคนทั้งโลกเพื่อปกป้องคนที่ผมรัก ผมก็จะทำ”
กันย์พูดทิ้งท้ายและรากนวพรรษลงบันไดต่ออย่างโหดร้าย
“ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ”
นวพรรษขัดขืนและสะบัดแขนอย่างแรงจนทำให้กันย์กลิ้งตกบันไดลงไปหัวกระแทกพื้น
เลือดของเขาไหลอาบออกมาแดงฉานดูน่ากลัว ชายหนุ่มนั่งนิ่งงันมองจ้องนวพรรษโกรธเคือง
“ฉันก็แค่อยากเป็นแม่ธรรมดาๆคนนึง ที่มีชีวิตที่เรียบง่าย มีความสุขแล้วก็อบอุ่นกับทุกคนที่รักฉัน ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง”
นวพรรษพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตารินไหล เธอเดินหนีเขาอีกครั้ง แต่เพราะคำพูดของเขาทำให้เธอต้องนิ่งและหยุดฟัง
“ผมทำให้ไม่ได้ ตราบใดที่พี่สาวคุณยังไม่เลิกกับนายพนธ์ ตราบใดที่พี่สาวของคุณยังทำร้ายน้องสาวของผมอยู่
ผมก็ไม่สามารถปล่อยให้คุณไปมีชีวิตที่มีความสุขแบบนั้นได้”
ประพนธ์ยืนยันความรู้สึกของเขา แม้ว่าคำพูดนั้นมันจะฟังดูแสนโหดร้าย แต่นั่นก็เป็นคำพูดที่ออกมาจากหัวใจของเขาจริงๆ


    กว่าประพนธ์จะจัดการธุระที่โรงพยาบาลเรียบร้อย เขากลับมาถึงบ้านก็เกือบจะบ่ายสามโมงอยู่แล้ว แต่บ้านที่เงียบสงัด
ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ
“ส้มๆ ทุกคนหายไปไหนกันหมด”
ประพนธ์ถามด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“อยู่กับคุณหมอบนห้องของคุณค่ะ”
สาวใช้ตอบสุภาพเดินถืออ่างน้ำขึ้นบันได โดยมีประพนธ์เดินตามไปด้วยความไม่เข้าใจ
“แอ๊ดดด..”
ประพนธ์เปิดประตูห้อง เดินเข้าไป ภาพตรงหน้าที่เขามองเห็นคือภคพรนอนหน้าซีดเผือดอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงนอนของเขา พร้อมกับพ่อแม่และคุณหมอที่นั่งล้อมรอบเตียงนอนของเธออยู่
“แกหายไปไหนมา ทำไมปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายภรรยาของแกหนักหนาสาหัสขนาดนี้ แกทำแบบนี้
พ่อกับแม่จะมีหน้าไปพบพ่อแม่ของหนูเนย์เขาได้ยังไง”
พิภพดุลูกชายเสียงเข้ม
“คนอื่นที่พ่อพูดถึงหมายถึงเกตุหรือเปล่า พ่อเข้าใจผิดแล้ว คนที่ไปตามราวีคนอื่นเขาจนตัวเองต้องมีสภาพทุเรศทุรังแบบนี้
ก็คือยายนี่แหละพ่อ เกตุแก้วต่างหากที่ถูกยายนี่ทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล”
ประพนธ์ยืนยันความบริสุทธิ์ให้คนรัก มองดูภคพรที่นอนอยู่บนเตียงนอนด้วยความสมเพช
“แก..”
พิภพทำท่าจะโวยใส่ลูกชายแต่ถูกประไพรปรามเอาไว้
“ฉันพูดกับลูกเองค่ะ”
ประไพรวางมาดขรึม
“ฟังแม่นะพนธ์ ถึงแม่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแม่จะส่งเสริมให้ลูกทำร้ายเขาขนาดนี้
ถ้าเขาเกิดตายขึ้นมาลูกจะว่ายังไง”
ประไพรมองจ้องหน้าลูกชาย
“นี่แม่เข้าข้างยายผู้หญิงร้ายกาจคนนี้หรอ หนังเหนี่ยวขนาดนี้ไม่ตายง่ายๆหรอก”
ประพนธ์ยังคงเกรี้ยวกราดเมื่อพูดถึงภคพร
“พนธ์ นี่ลูกจะไม่ฟังแม่ใช่มั้ย อย่าทำร้ายเขาจนถึงขั้นเลือดตกยางออกแบบนี้อีก แผลที่มือเขาเป็นฝีมือของลูกหรือเปล่า”
ประไพรถามคาดคั้น
“แผล!! แผลอะไร”ป
ระพนธ์เลิกคิ้ว ก่อนจะนึกภาพเหตุการณืที่เพิ่งผ่านไปได้ว่าเขาเป็นคนผลักภคพรจนล้มคว่ำลงไปกับกระถางต้นไม้
“ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแผล ผมไม่รู้จริงๆว่าเขามีแผล”
ประพนธ์แก้ตัว
“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว หนูภคพรไม่สบายครั้งนี้แกต้องเป็นคนดูแล”
พิภพยื่นคำขาด ประพนธ์หันขวับไปหาแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ประไพรเลือกที่จะหันหน้าหนีเขาแทน
ประพนธ์จึงจำใจต้องก้มหน้ารับกรรมอย่างไม่มีทางเลือกกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

     

    เมื่อทุกคนออกจากห้องไปภาระหน้าที่ในการดูแลทุกอย่างจึงตกมาเป็นของประพนธ์ แต่เพราะหัวใจที่เป็นห่วงเป็นใยคนรัก
ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจและไม่มีความสุขเอาซะเลย
“ผู้หญิงคนนี้ช่างหน้ารำคาญ”
ประพนธ์ยืนมองดูร่างของภคพรที่นอนไร้สติมีสายน้ำเกลือระโยงรยางค์อย่างขัดอกขัดใจ เพราะคำสั่งของพ่อทำให้เขาทิ้งเธอไปไหนไม่ได้
แต่เขาก็ไม่อาจทำใจให้ดูแลเธอได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“เมย์ พี่จะแก้แค้นให้เธอ พี่จะแก้แค้น เมย์อย่าร้องไห้นะ อย่างร้องนะ เมย์ เมย์”
ภคพรนอนพร่ำเพ้อ เพราะหัวใจที่เต็มแน่นไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังและคิดแต่ที่จะแก้แค้น
“ยายบ้าเอ๊ยย..นี่ขนาดหลับยังคิดแต่ที่จะทำร้ายคนอื่น เวรกรรมอะไรของผมที่ต้องมาเจอกับคุณเนี่ย”
ประพนธ์บ่นกับตัวเอง ก่อนจะเดินหายไปอีกทางเพื่อให้ร่างของภคพรหายไปจากสายตาของเขา


    ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาภคพรก็ไข้ขึ้นสูงจนน่าใจหาย เดือดร้อนประพนธ์ต้องออกตามหาคนมาช่วยให้วุ่นวาย
แต่ก็ไม่มีใครอยู่ให้เขาขอความช่วยเหลือเลยเพราะทุกคนตามออกไปช่วยงานพิภพที่ข้างนอกบ้านกันหมด
“เวรกรรมล่ะกู”
ประพนธ์หน้าตาเลิ่กลั่ก โทรหาหมอประจำบ้านก็ติดธุระและกว่าที่เขาจะพาร่างของภคพรไปถึงโรงพยาบาลเธอก็มีหวังไข้ขึ้นสูงช็อกตายไปซะก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาล
“เฮ้อ!! ทำไมทุกเรื่องทุกอย่าง มันถึงได้วุ่นวายขนาดนี้นะ”
ประพนธ์หน้ายุ่ง จัดแจงหาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดตัวให้ภรรยาในนามของเขาด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ ความประหม่าเกิดขึ้นทันที
เมื่อเขาได้สัมผัสร่างกายของหญิงสาวไร้สติตรงหน้า กว่าเขาจะเช็ดตัวให้เธอเสร็จเสื้อผ้าของภคพรก็เปียกชุ่มไปหมด
แต่ก็ยังโชคดีที่ไข้ของเธอค่อยๆลดลงบ้างแล้ว
“....”
เพราะเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มทำให้ภคพรลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความหนาวเหน็บ
“นี่นายทำเสื้อผ้าฉันเปียกหรอ”
ภคพรพุดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นอนซมเพราะพิษไข้ แม้แต่แรงที่จะพูดกับประพนธ์ก็แทบจะไม่มี ปวดทรมานเพราบาดแผลที่มือจนแทบขาดใจ
“งั้นผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”
ประพนธ์ปรี่เข้าหาภคพร จับกระดุมเสื้อเธอ ทำท่าจะปลด แต่ภคพรยกมือขึ้นกุมมือของเขาเอาไว้แน่นหนา
“ไม่ ไปตามส้มมา”
ภคพรพยายามที่จะอ้าปากพูด น้ำเสียงของเธอนั้นแผ่วเบาจนประพนธ์ฟังแทบไม่ได้ยิน
“ไม่มีใครอยู่บ้าน ถ้าไม่อยากหนาวตายก็อยู่เฉยๆ ผมจะพยายามไม่มองคุณก็แล้วกัน”
ประพนธ์ที่จะเคร่งขรึม  ปัดมือภคพรออกอย่างแสนง่ายดาย เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอด้วยความดุดันเพื่อปิดบังความอายที่ยังไงก็ปิดไม่มิด
“นี่นาย...”
ภคพรพยายามจะอ้าปากจะพูด แต่ก็ไม่มีปัญญาที่จะขัดขืน ประพนธ์เองก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการบังคับตัวเอง
ไม่ให้มองเรือนร่างขาวนวลเนียนของหญิงสาวตรงหน้า
“ห้า..ม..มองง”
ภคพรพยายามอ้าปากพะงาบๆเพื่อพูดกับประพนธ์แต่เสียงของเธอก็เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
“รู้แล้วๆ แต่ถ้าผมไม่มองเลย ผมจะเอาเสื้อผ้าของคุณออกได้ยังไงล่ะ”ประพนธ์หงุดหงิดใส่ภคพร จับเธอใส่เสื้อผ้าใหม่
หลังจากที่ลอกคราบเธอจนเหลือแต่ชุดชั้นใน
“เสร็จแล้ว”
ประพนธ์พูดขึ้นหลังจากที่ติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ
“ชุดนอนคุณมันไม่มีแบบที่เป็นกระดุม มันใส่ลำบาก ใส่ของผมไปก่อนก็แล้วกันนะ”
ประพนธ์พูดส่งๆด้วยความอึดอัดใจ ก่อนจะห่มผ้าห่มให้ภคพรด้วยมือของเขาเองอย่างไม่มีทางเลือก
“ฉันหนาว ขอผ้าห่มหน่อย”
ภคพรนอนสลึมสลือทุกข์ทรมานเพราะผิดไข้ ประพนธ์ยืนมองจ้องเธอด้วยความสมเพช
ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าห่มในตู้มาห่มให้เธออีกผืนหนึ่ง
“ความจริงไม่ว่ายังไงในฐานะของความเป็นมนุษย์ ผมขอโทษที่ปล่อยให้พี่กันย์ทำร้ายคุณหนักถึงขนาดนี้
จะแก้แค้นกันยังไงมันก็เป็นเรื่องของคุณสองคน ผมแค่หวังว่าซักวันคุณจะเปลี่ยนใจและเลิกทำร้ายเกตุแก้ว
ผมขอพูดตรงๆว่าผมเฝ้ารอวันนั้นจากคุณ ด้วยความหวังอันน้อยนิด น้อยจนผมแทบมองไม่เห็นมันเลยด้วยซ้ำ”
ประพนธ์พูดขึ้นเศร้าๆ นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็กๆข้างเตียงนอนของเขาเอง
“คืนนี้ผมจะอยู่กับคุณ ไม่ใช่เพราะผมมีความรู้สึกบางอย่างกับคุณหรอกนะ แต่เพราะว่าจะได้ไม่มีใครมาต่อว่าครอบครัวของผมได้
เกตุมีพี่กันย์คอยดูแลแล้ว คืนนี้ผมจะนอนกับคุณที่นี่แหละ”
พูดจบชายหนุ่มก็อุ้มร่างบางใต้ผ้าห่มหน้าเขยิบเข้าไปชิดกับริมขอบเตียงด้านซ้ายมือ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆกายเธอด้วยความเหนื่อยล้า


    เช้าของวันใหม่อากาศยามเช้าแสนสดใส สายแดดอุ่นๆเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอนของประพนธ์ทางหน้าต่าง
เรือนร่างของบ่าวสาวคู่กัดนอนกอดกันกลมอยู่ใต้ผ้าห่ม
“ร้อน”
ภคพรเริ่มขยับตัว รู้สึกไม่สบายตัวรู้สึกหนักอยู่ที่หน้าอก ก่อนจะต้องกรีดร้องเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เพราะใบหน้าของประพนธ์ที่แนบแน่นอยู่ใบหน้าอกเธอ
“นาย...”
ภคพรผงะถอยออกห่าง ในขณะที่ประพนธ์ยังคงนอนพลิกไปพลิกมาไม่รู้เรื่องรู้ราว
“นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย นายทำอะไรฉัน”
ภคพรลุกนั่งก่อนจะปรี่เข้าหาประพนธ์และตีแขนเขาเสียงดังเผี่ยๆหลายป้าบ
“น่ารำคาญ”
ประพนธ์พลิกตัวหันมาหาภคพร ตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ยอมลุกจากที่นอน
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณทั้งนั้นแหละ ตัวคุณเดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็เย็น คุณเองนั่นแหละที่บอกว่าหนาวๆๆ
แล้วก็รากผมเข้าไปกอดเฉยเลย แกะยังไงก็แกะไม่ออก ผมก็เลยเผลอหลับไปท่านี้แหละ เลิกโวยวายซะที
คนจะนอน ถ้ายังขืนเสียงดังอีก คุณเจอผมแน่”
ประพนธ์ข่มขู่ หลับตาลงนอนต่อด้วยความอ่อนเพลีย ในขณะที่ภคพรนั่งเงียบงันหน้าตาตื่นตระหนก
พยายามนึกทบทวนถึงเหตการณ์ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่