ไร้หัวใจ ตอนที่ 30

กระทู้สนทนา


.......ภคพรตื่นนอนตอนเช้าด้วยอาการที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก หญิงสาวรู้สึกปวดหัวเหมือนกับมีใครเอาอะไรมาบีบรัดศีรษะของเธออยู่ตลอดเวลา
“โอ๊ยยย ปวดหัวจะแตก”
ภคพรลุกขึ้นนั่งกุมขมับ สำรวจตัวเองที่ยังอยู่ในชุดราตรีสวยหรู ด้วยอาการมึนงง
“..........”
หญิงสาวมองไปรอบๆห้องของเธอ งงงัน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเริ่มได้สติว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องหอของเธอ
“ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
ภคพรมองซ้ายมองขวา รีบร้อนลงจากเตียงและตรงดิ่งไปหาทุกคนที่ห้องอาหารหน้าตาตื่นตระหนก
“พี่เนย์!!”
นวพรรษร้องทักเป็นคนแรก มองหน้าพี่สาวเธอในสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตามึนงง
“หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”
ภคพรโพล่งพรวดออกไปเสียงดัง ทุกคนในครอบครัวหันมามองเธอกันเป็นตาเดียว
“ไม่มีใครรู้ใช่มั้ยคะ ว่าหนูมาที่นี่ได้ยังไง”
ภคพรเสียงดัง
“ใจเย็นๆก่อนสิลูก แม่ว่าน่าจะเป็นสามีหนูนั่นแหละที่พาหนูมาที่นี่ ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานข้าวด้วยกันมา”
เพียงพรจับแขนลูกสาวเบาๆเพื่อให้เธอสงบใจลง
“ไม่ค่ะ หนูลานะคะ หนูทนอยู่แบบอึดอัดใจแบบนี้ไม่ได้แน่ หนูต้องไปคุยกับผู้ชายคนนั้นให้รู้เรื่องก่อน”
ภคพรรีบร้อนจะเดินออกจากบ้าน แต่นวภคร้องเรียกลูกสาวเสียงดัง
“ยายเนย์ นายเนย์”
นวภคขึ้นเสียง นวพรรษต้องยอมหยุดนิ่งด้วยความร้อนรน
“ขึ้นไปบนห้อง ไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทานข้าว ทำอะไรด้วยอารมณ์มันมีแต่ทำให้ชีวิตเราพังกับพัง พ่อไม่เห็นด้วยที่หนู
เอาแต่เกรี้ยวกราดคนอื่นไปทั่วแบบนี้ พ่อทนดูลูกเที่ยวเกะกะระรานคนอื่นมานานเกินไปแล้ว ถ้าหนูสงบจิตสงบใจตัวเองไม่ได้
พ่อจะเป็นคนทำให้ลูกสงบลงเอง”
นวภคดุลูกสาวเสียงเข้ม มองจ้องเธอหน้าตาจริงจัง
“คุณพ่อไม่เคยดุหนู ทำไมคุณพ่อต้องดุหนูด้วย”
ภคพรยืนน้ำตาเอ่อไหล งอแงเหมือนเด็กที่ไม่รู้จักโต นวภคเดินเข้ามาหาลูกสาว วางมือลงบนบ่าและกระชับอ้อมกอดเบาๆด้วยความรัก
“ที่พ่อทำก็เพราะว่าพ่อรักหนู มันอาจจะช้าเกินไปด้วยซ้ำที่พ่อเพิ่งจะเอามาพูดตอนนี้ ก่อนหน้านี้หนูมีจิตใจที่แข็งกระด้างและ
เต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง พ่อกับแม่พูดอะไรไป หนูก็ไม่เคยยอมรับฟัง แต่ตอนนี้พ่อรู้สึกได้ว่าลูกสาวของพ่อเปลี่ยนไปแล้ว
พ่อถึงได้ลองพูดขอร้องหนูให้ลองฟังพ่ออีกซักครั้ง....”
นวภคบีบไหล่ลูกสาวเบาๆด้วยรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน
“ถ้าหนูอยากจะเอาชนะใจพี่เค้า หนูต้องใจเย็นกว่านี้ เป็นคนดีให้มากกว่านี้ ลืมเรื่องแก้แค้นแล้วทำให้พี่ประพนธ์เค้ารักหนูให้ได้”
นวภคแนะนำลูกสาวอันเป็นที่รัก ภคพรได้แต่ยืนนิ่ง มองเขาตาแป๋วทั้งน้ำตา
“ใช่ค่ะ พี่เนย์ พี่เนย์ต้องไม่เกรี้ยวกราดใส่คุณประพนธ์ พี่เนย์ต้องทำดี คิดดีกับเขาในทุกๆเรื่องและที่สำคัญ พี่เนย์ต้องปล่อยวาง
เรื่องการแก้แค้นทิ้งไปให้หมด แล้วคนพวกนั้นก็จะพ่ายแพ้เราไปเอง เชื่อเมย์เถอะค่ะ”
นวพรรษเดินเข้ามาจับมือพี่สาวเธอเบาๆอีกคนเพื่อให้กำลังใจ
“การปล่อยวางจะทำให้พ่อแม่แล้วก็น้องสาวของลูก ได้ลูกสาวที่แสนดีและพี่สาวที่ที่น่ารักกลับคืนมา ปล่อยวางความแค้นในใจลูก
ซะเถอะนะ แม่ขอร้อง”
เพียงพรเดินเข้ามาลูบหัวลูกสาวของเธออีกคน ในช่วงเวลาที่จิตใจของภคพรเต็มไปด้วยความรักและความอ่อนแอแบบนี้ นี่คือช่วงเวลา
ที่ดีที่สุดที่ทุกคนจะช่วยกันเกลี้ยกล่อมเธอ
“หนูขอทานข้าวอย่างเดียวได้มั้ยค่ะ ส่วนเรื่องอาบน้ำหนูขอกลับไปอาบที่บ้านโน้นนะคะ”
ภคพรยิ้มออกมาทั้งน้ำตา รู้สึกอบอุ่นหัวใจและรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลุดพ้นจากพันธนาการความแค้นต่างๆที่มันเกาะกินหัวใจเธอ
จนให้หัวใจมีแต่ความมืดบอด ทำแต่เรื่องอะไรๆที่มันร้ายๆ

    เกตุแก้วยืนดูกันย์คุยกับผู้ชายแปลกหน้าอยู่ในห้องทำงานของเขาด้วยความประหลาดใจ หน้าตาท่าทางของผู้ชายคนนั้น
ดูมีเล่ห์เหลี่ยมและไม่น่าไว้ใจ
“สวัสดีครับ”
กันย์พูดกับผู้ชายคนนั้น ก่อนจะส่งเข้าออกจากบ้านไปอย่างให้เกียรติ
“พี่กันย์ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร ทำไมหน้าตาเขาดูคุ้นๆจังเลย”
เกตุแก้วถามด้วยความสงสัย
“นี่ไม่ใช่เรื่องของเด็กนะ พี่จัดการเรื่องนี้เองคนเดียว เกตุเข้านอนเถอะ”
กันย์ตัดบทด้วยท่าทางมึนตึง
“.........”
เกตุแก้วยังคงยืนนิ่งและพยายามคิดว่าผู้ชายหน้าคุ้นๆคนเมื่อกี้คือใคร
“เกตุนึกออกแล้ว นั่นมันผู้จัดการใหญ่ของบริษัทพรพรรษไม่ใช่หรอคะ”
เกตุแก้วเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“อย่าพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ถ้าเธอไม่อยากเห็นพี่ต้องตายไปต่อหน้าเธอ”
กันย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่นะพี่กันย์ ถ้าพี่ทำแบบนั้นจริงๆ เกตุจะมีหน้าไปมองใครที่ไหนได้อีก”
เกตุแก้วเกาะแขนพี่ชายเธอแน่น กลัวในสิ่งที่กันย์กำลังคิดที่จะทำ
“พี่ตัดสินใจไปแล้ว จะเดินกลับหลังไม่ได้อีก เธอจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ทั้งหมดพี่เป็นคนทำเองคนเดียว ขอแค่เธอ
อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร แม้กระทั่งนายประพนธ์เองก็ตาม”
กันย์ยื่นคำขาด
“พี่กันย์ พี่กลายเป็นคนใจร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พี่ลืมไปแล้วหรอ ว่าคุณนวพรรษลูกสาวของประธานบริษัทพรพรรษ
เธออุ้มท้องลูกของพี่อยู่นะ....อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ เกตุขอร้อง”
เกตุแก้วพูดเสียงสั่น น้ำตาเอ่อไหล กลัวจริงๆว่ากันย์จะทำให้บริษัทพรพรรษต้องพังพินาศย่อยยับ
“พี่บอกแล้วไง ว่าพี่ตัดสินใจไปแล้ว”
กันย์ยังคงดื้อดึง เกตุแก้วสะบัดมือเขาออก ยืนมองจ้องเขาทั้งน้ำตา
“พี่กันย์ใจร้าย พี่กันย์ใจดำ คนไม่มีหัวใจ พี่ทำร้ายทุกคนอย่างเลือดเย็นขนาดนี้ได้ยังไง นอกจากตัวเองแล้วพี่เคยรักคนอื่นบ้างมั้ย
ทำไมพี่เป็นคนแบบนี้ ทำไมทำแบบนี้”
เกตุแก้วตะโกนใส่พี่ชายเธอทั้งน้ำตา เสียใจในสิ่งที่เขาเป็น กันย์ยืนกำหมัดแน่น พูดอะไรไม่ออก หยดน้ำตาที่ไม่เคยคิดว่าจะไหล
ก็รินไหลออกมาด้วยความทุกข์ทรมานกับความรักที่ไม่มีวันพูดบอกออกไปได้
“ถ้าเรื่องนี้ทำให้พนธ์ไม่มองหน้าเกตุอีก เกตุจะไม่ให้อภัยพี่กันย์เลยตลอดชีวิต ถ้าพี่กันย์แตะต้องบริษัทของประพนธ์แม้แต่ปลายก้อย
เกตุก็จะไม่ให้อภัยพี่อีกเลยเหมือนกัน คนใจร้าย!!!”
เกตุแก้วหุนหันออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่เกรี้ยวกราด
“..............”
กันย์ยืนแน่นิ่ง น้ำตาเอ่อไหล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อเธอคนเดียวที่กำลังยืนด่าเขาทั้งน้ำตาคนที่เพิ่งเดินจากเขาไป
“ถ้าบนโลกใบนี้ไม่มีเธอ พี่ก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม....ถ้าบนโลกใบนี้มีคนที่ทำให้เธอต้องเสียใจ พี่ก็ไม่รู้จะทนดูอยู่เฉยๆได้ยังไงเหมือนกัน”
กันย์กล่าวเสียงแผ่วเบาทั้งน้ำตา รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดลงตรงกลางหัวใจ

    ภคพรเดินหน้าตาบึ้งตึงลงจากรถทันทีที่ขับมาจอดสนิทลงที่หน้าบ้านของประพนธ์ การเคลียร์ปัญหากับเขาจะทำให้เธอ
ไม่รู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมานขนาดนี้
“อ้าว!! หนูภคพร มายังไงล่ะลูก ไหนตาพนธ์บอกว่าหนูจะกลับไปช่วยงานพ่อกับแม่ที่บ้านซักพัก”
ประไพรถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะค่ะ เขาอยู่บ้านไหมคะวันนี้”
ภคพรถามขึ้นหน้าตาเคร่งเครียด
“ตาพนธ์ไปบริษัทกับพ่อตั้งแต่เช้าแล้ว มีอะไรกันหรือเปล่าลูก ทำไมหน้าตาเคร่งเครียดแบบนี้ล่ะ”
ประไพรจับแขนลูกสะใภ้เบาๆ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูขอตัวไปหาเขาก่อนนะคะ พอดีมีธุระ”
ภคพรรีบร้อนหันหลัง แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้กลิ่นดอกมะลิหอมโชยเข้ามาเตะจมูก
“เป็นอะไรลูก”
ประไพรเดินเข้ามาหา ภคพรยืนผะอืดผะอมทำท่าเหมือนจะอาเจียน
“อ้วกๆๆๆ”
ภคพรวิ่งถลาไปที่โคนต้นไม้และอ้วกอาหารเช้าที่เพิ่งกินเข้าไปจนหมดไส้หมดพุง
“.........”
ประไพรลูบหลังให้ลูกสะใภ้ มองดูอาการของเธออย่างพิจารณา
“หนูท้องหรือเปล่าเนี่ย”
ประไพรถามขึ้นเสียงดังอย่างไม่อ้อมค้อม
“หนูเปล่านะคะ หนูแค่ดื่มหนักไปหน่อย”
ภคพรรีบร้อนปฏิเสธทันควัน
“อ้อ จร้าๆๆ”
ประไพรยังคงสงสัย
“หนูไปก่อนนะคะ หนูมีเรื่องจะคุยกับลูกชายของคุณ”
ภคพรรีบลุกขึ้นและรีบร้อนออกไป




    ตั้งแต่แต่งงานกันมาหกเดือน ภคพรไม่เคยย่างกายมาที่บริษัทของประพนธ์เลย การมาของเธอในวันนี้จึงทำให้พนักงานในบริษัท
ของประพนธ์แตกตื่นกันยกใหญ่ รูปร่างหน้าตาของเธอนั้นสวยงามและดูดีราวกับภาพวาด ท่วงท่าในการเดินก็ดูมั่นใจประหนึ่งนางพญาหงส์
ไม่ว่าเธอจะเดินผ่านไปที่ไหน ทุกสายตาก็จับจ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
“พลั๊ว!!”
ภคพรพรวดพราดเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของประพนธ์โดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆจากเลขาสาวสวยหน้าห้อง
“.........”
ภคพรยืนอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ภาพตรงหน้ามันทำให้เธอปี๊ดขึ้นไปจนถึงหัวสมอง ภคพรยืนกำลูกบิดประตูแน่นอยู่อย่างนั้น
รู้สึกชาไปหมดทั้งหัวใจ กันย์ เกตุแก้ว พิภพและประพนธ์จดจ้องมาที่เธอเป็นสายตาเดียว
“ปั้ง!!!”
ภคพรปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว รีบร้อนเดินออกจากห้องด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างอะไรจากการถูกทรยศหักหลัง
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
ประพนธ์เดินตามออกมา หน้าตาของเขาดูเศร้าสร้อยกว่าทุกวัน
“แล้วพวกคุณล่ะ มารวมหัวทำอะไรกันอยู่ที่นี่”
ภคพรเปิดศึกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“เอกสารหย่าของเราผมกำลังให้ทนายทำอยู่ ไม่เกินสองสามวันผมจะรีบให้ทนายเอาไปให้คุณเซ็นที่บ้าน”
ประพนธ์พูดโพล่งออกมาเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง
“เพี๊ยะ!!”
ภคพรตบชายหนุ่มหน้าหัน มองจ้องเขาเขม็ง น้ำตาค่อยๆรินไหล เอ่อทะลักออกมาเพราะคำพูดบาดหัวใจของประพนธ์
“ฉันไม่หย่า ฉันจะอยู่กับคุณไปจนกว่าเราจะตายจากกันไปเลย อย่าหวังว่าคุณจะได้ไปเสวยสุขกับผู้หญิงคนนั้น”
ภคพรเกรี้ยวกราด พนักงานในบริษัทหลายสิบชีวิตที่ทำงานอยู่บริเวณนั้น ต่างเดินมาดูด้วยความตกใจ
“มานี่คุณ...”
ประพนธ์รากภคพรเข้ามาในห้องประชุมใกล้ๆห้องทำงานของเขา
“ปล่อย!!”
ภคพรสะบัดแขน ยืนจ้องหน้าประพนธ์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เลิกดื้อซักทีสิคุณ ครอบครัวคุณกำลังจะพังพินาศย่อยยับเพราะคุณยังไม่รู้ตัวอีก!!”
ประพนธ์ตะวาดใส่ภคพรอย่างหมดความอดทน
“ไม่มีใครทำอะไรฉันได้ คุณเข้าใจมั้ยว่าไม่มีใครทำอะไรฉันได้”
ภคพรตะวาดกลับอย่างไม่กลัวเกรง
“ไม่มีใครทำอะไรคุณได้หรอ!! หลอกตัวเองชัดๆ ถ้าไม่มีใครทำอะไรคุณได้ ทำไมพี่กันย์เค้าถึงได้สิทธิ์การถือครองบริษัท
ของพ่อคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมายมาล่ะ”
ประพนธ์ตะคอกใส่ภคพร โกรธโมโหที่เธอไม่ยอมเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองซักที
“ไม่จริง คุณโกหก”
ภคพรเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ยังอยากที่จะเชื่อว่าจะไม่มีใครทำอะไรเธอได้
“ผมไมได้โกหก ถ้าคุณไม่ยอมเซ็นใบหย่ากับผม คุณแล้วก็ทุกคนในครอบครัวของคุณจะไม่เหลืออะไรเลย หย่ากับผมซะ เพื่อแลกกับ
บริษัทของพ่อคุณ ผมไม่ได้ล้อคุณเล่น พี่กันย์เขาต้องการทำแบบนั้นจริงๆ”
ประพนธ์จับบ่าทั้งสองข้างของภคพร ที่ตอนนี้ยืนนิ่ง อึ้งไป ด้วยความสับสน
“คุณเอาอะไรมาพูด พ่อฉันไม่มีทางหลวมตัวกับคนอื่นง่ายๆแบบนี้แน่”
ภคพรยังคงตะแบง
“พ่อคุณยอมเซ็นยกทุกอย่างให้พี่กันย์มาหมดแล้ว ทันทีที่ผมกับเกตุแก้วได้แต่งงานกันสัญญาฉบับนี้ก็จะถูกยกเลิก แต่ถ้าผมไม่แต่ง
ก็จะกลายเป็นบริษัทของคุณกับผมที่จะต้องพังพินาศย่อยยับไปกับตา”
ประพนธ์มองจ้องหน้าภคพรไม่วางสายตา
“ฉันจะกลับไปหาพ่อ”
ภคพรรีบร้อนหันหลังเดินหนี แต่ถูกประพนธ์ฉุดแขนเอาไว้
“หย่ากับผมเถอะนะครับ แล้วเราทุกคนก็จะไม่มีใครเสียอะไรไป”
ประพนธ์กัดฟันพูดในสิ่งที่เลวร้ายออกไปเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกคน
“พลั่ก”
ภคพรสะบัดมือหนี ก่อนจะหันมาฟาดฝ่ามือลงไปเต็มแรงบนใบหน้าของประพนธ์
“ไม่ต้องมาขอร้องให้ฉันทำอะไร ฉันมีสมอง คิดเองได้ว่าต้องทำยังไง”
ภคพรกัดฟันพูดทั้งน้ำตา ท้ายที่สุดแล้วประพนธ์ก็เลือกที่จะทิ้งเธอ

    

สาวแว่นต่อด้านล่างจร้า

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่