ค้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ ยุบโรงเรียนขนาดเล็กชี้กระทบนักเรียน 1 ล้านคน-ขัดรธน.ขู่ฟ้องศาลถ้าไม่ได้คำตอบใน30วัน

ค้านศธ.ยุบโรงเรียนขนาดเล็กชี้กระทบนักเรียน1ล้านคน-ขัดรธน.ขู่ฟ้องศาลถ้าไม่ได้คำตอบใน30วัน



          เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้แทนกลุ่มโรงเรียนทางเลือกประมาณ 20 คน นำโดยนายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ เลขาธิการสภาการศึกษาทางเลือก ถือป้ายประท้วงพร้อมยื่นหนังสือเรื่อง "ขอคัดค้านนโยบายยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก" ต่อนายชินวรณ์บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. และนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) โดยมีผู้แทนจากสำนักงานรัฐมนตรีรับเรื่องไว้
          นายชัชวาลย์เปิดเผยว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีนโยบายยุบควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่มีทั้งหมด14,000 โรงทั่วประเทศ ให้เหลือประมาณ7,000 โรง หรือ 50% ภายในปี 2561 โดยสพฐ.สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไปจัดทำแผนยุบหรือควบรวมโรงเรียนที่ชัดเจน ซึ่งมีเป้าหมายล็อตแรกประมาณ2,500 โรงนั้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และเด็กกว่า 1 ล้านคน จะได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ ยังอาจขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้ประชาชนไม่ได้รับบริการทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ คือ ลูกหลานต้องย้ายไปเรียนในโรงเรียนใหม่ที่ห่างไกลบ้าน ขัดหลักการกระจายอำนาจการบริหาร และการจัดการศึกษาที่ให้มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ เพราะแผนยุบ หรือควบรวมโรงเรียนเล็กไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ถามความเห็นประชาชนในพื้นที่เลย
          "สภาการศึกษาทางเลือกขอให้ ศธ.และสพฐ.ยุติการดำเนินนโยบาย รวมถึงยุติการสั่งการให้เขตพื้นที่การศึกษายุบหรือควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก และให้ ศธ.จัดตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ และภาคประชาสังคม จัดเวทีประชาคมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งขอข้อมูลจาก สพฐ.ใน4 รายการ ได้แก่ จำนวน รายชื่อ ที่ตั้งของโรงเรียนขนาดเล็ก และหลักเกณฑ์ในการยุบหรือควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อนำไปใช้ศึกษาวิจัยหาทางออก ทั้งนี้ สภาการศึกษาทางเลือกขอให้ ศธ.และ สพฐ.ให้คำตอบภายใน 30 วันจากนี้ ถ้าไม่มีการดำเนินการใดๆ จะยื่นฟ้องศาลปกครอง หรือศาลรัฐธรรมนูญต่อไป เพราะออกนโยบายที่ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ" นายชัชวาลย์กล่าว



ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=23604&Key=hotnews
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่