Over Man! ตอนที่ 6 เดวิด

กระทู้สนทนา




เดวิดอ่านจดหมายของอลิธีอา  ซึ่งเธอตอบในเรื่องการสร้างเครื่องรางไล่ฝันร้าย  เขาม้วนจดหมายเก็บไว้ในถุงตรงอก  แล้วเดินออกไปจากวงกองไฟและเกวียนที่พวกโอเวอร์แมนหลับพักผ่อนอยู่

ในป่าละเมาะใกล้ ๆ เด็กหนุ่มจุ่มหินแกรนิตที่เก็บมาจากแถวนั้น  แกว่งมันในบ่อน้ำให้ตรงกับเงาจันทร์ที่สะท้อนอยู่  เขาแกว่งมันจนสีของมันซีดจางและกลายเป็นผลึกสีขาวขุ่นเหมือนก้อนสารส้ม  จากนั้นโรยขี้ม้าที่บดเป็นผง  แล้วล้างในเงาจันทร์อีกครั้ง  เขากระซิบคำศักดิ์สิทธิ์ใส่ก้อนหิน  แล้วยัดมันลงในถุงหนังที่เตรียมไว้

ดาบเย็นเฉียบมาพาดที่คอ  เดวิดชะงัก  แม้ลมหายใจก็ไม่กล้าระบายออกมาโดยแรง

"นักล่าแม่มดมาทำพิธีของแม่มดอย่างงั้นรึ  หึหึ"

"เว..เวโรนิก้า"

นางเคลื่อนตัวออกจากเงามืดของป่าเตี้ย  จนแสงจันทร์สาดส่องบนผ้าคลุมสีขาวที่ดูเรืองรองอย่างประหลาด  มือกระชับดาบแห่งความยุติธรรมไว้มั่น

"พ่อหนุ่มที่เอาชั้นไปฝัง"  นางพูดด้วยเสียงแผ่วอย่างพึงพอใจ  "หน้าตาคมคายไม่ใช่เล่น  ดูจะเป็นเด็กดีซะด้วย"

"เอ่อ...เธอต้องการอะไร"

"หุบปาก"  คมดาบกดมาที่ลำคอจนเลือดซิบ  "ถ้าชั้นต้องการอะไรชั้นจะพูดเอง  เด็กดี..."  เวโรนิก้ายื่นหน้าเข้ามาดูคอขาว ๆ ของเดวิดที่แหงนหนีอย่างตระหนก  "ดูท่าแกก็มีความลับสินะ  ถุงหนังเมื่อกี้แกทำอะไร"

"เครื่องรางไล่ฝันร้าย"

"แกฝันร้ายหรอ  โถ...หนุ่มน้อยกลัวฝันร้าย  กลิ่นนมยังติดอยู่เลย"  เวโรนิก้าสูดกลิ่นจากใบหูของเขา

เดวิดหน้าแดงซ่าน  "นี่มันของเพื่อนข้าตะหาก"

"เพื่อนของแก  อ้อ   ไอ้หนุ่มนั่นสินะ"  หล่อนสายตาวาววับ  "ชั้นเห็นพวกแกยืนอี๋อ๋อกันตลอดการไต่สวน  แต่ก็ดีล่ะ  ชั้นมีงานให้แกทำ"

หล่อนบิดใบดาบให้สะท้อนแสงจันทร์เข้าตาเดวิด

"พอจะเดาได้  แต่ข้าไม่ทำตามที่เธอบอกเด็ดขาด  เวโรนิก้า"

"โอ้  ใจกล้าดีนี่"  หล่อนอุทานอย่างพึงใจ  "แต่ความกล้ามักมีพลังเพียงชั่วแล่น  หากมีเวลาให้แกคิดทบทวนสักหน่อย  แม้แต่เฮราเคลสก็ยังพังทลาย  แกว่าจริงมั้ย"

"หมายความว่าไง"

หล่อนแย้มยิ้มจากนั้นปล่อยขวดน้ำยาสีม่วงใสเล็ก ๆ ที่ผูกเชือกไว้จากฝ่ามือ  มันแขวนอยู่กลางอากาศสะท้อนประกายแสงจันทร์เป็นประกายวาววาม  

"นี่คือยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้า  พวกไวส์เวอร์จิ้นมักใช้ไต่สวนนักโทษ  ประวิงเวลาตายของแกออกไปนาน ๆ แต่แกจะต้องตายแน่นอนหากลิ้มชิมแม้เพียงหยด  แน่นอน..ชั้นมียาแก้พิษ  ซึ่งแกจะได้มันถ้าแกเป็นเด็กดี"

"เวโรนิก้า  ได้โปรด.."

"โอเวอร์แมน..โอเวอร์แมนที่แสนหลงตัวเองออกปากขอร้องไวส์เวอร์จิ้น  หากเครทอสนายของพวกแกได้ยินเข้าคงโกรธจนหนวดกระดิก   ฮ่าๆๆ  หนุ่มน้อย  ชั้นออกจะใจดีกับแกนะ  ชั้นให้ทางเลือกกับแกตั้งสามทาง  ตายซะตรงนี้  เป็นม้าใช้  หรือจะประวิงเวลาตัดสินใจไปก่อน  คิดดูดี ๆ"  หล่อนพลิกใบดาบตบลำคอเขา  แล้วเปลี่ยนตำแหน่งไปยืนตรงหน้า  ปลายดาบจี้หัวใจของเด็กหนุ่ม

เดวิดมองตาเวโรนิก้า  มือซ้ายกำเครื่องรางไว้แน่น  มือขวาค่อย ๆ เอื้อมไปหยิบขวดน้ำยาที่ห้อยลงจากมืออันกุมดาบอยู่ของนาง

นางเลิกคิ้วมอง  เดวิดชะงัก  สูดจมูกหนึ่งครั้ง  แล้วค่อย ๆ เชือกรัดกระดาษที่ปิดขวดไว้  เขาไม่ปล่อยให้ความลังเลมีโอกาส  กระดกขวดกินน้ำยาเข้าไปครึ่งหนึ่ง

เวโรนิก้าตบหน้าเขาดังฉาดจนขวดกระเด็นหลุดมือ  แล้วถีบเดวิดให้กลิ้งไปนอนหงายกับพื้น

"ไอ้งั่งที่น่าสมเพชเอ๊ย  คิดว่าชั้นจะปล่อยให้แกมีโอกาสไปเตือนคนอื่นอีกหรือไง  ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง"

นางเสียบดาบใส่ดินตรงซอกรักแร้ของเดวิด  ซึ่งไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวหนี  ใบหน้าของเขาขาวซีดและความง่วงงุนเข้าเกาะกุมสติ  จนต้องกระพริบตาเพื่อรักษาความตื่นตัวเอาไว้

เวโรนิก้าดึงดาบออกจากดิน  เอาซ่อนพันไว้ในผ้าคลุม  แล้วหลบหายไปในเงาของสุมทุมพุ่มไม้







อัลลันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางคันจากความฝันทำนายความตายของเขาที่ประสบซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดสามสี่วันมานี้  เขาสะบัดหน้าไล่ความง่วงงุนแล้วเอื้อมมือคลำที่นอนข้าง ๆ ในความมืด

"เดวิด"  อัลลันเรียกชื่อเพื่อนของเจ้าของที่นอนว่างเปล่า  แล้วเร่งเสียงดังขึ้นเมื่อแน่ใจว่าเจ้าของที่นอนไม่อยู่  "เดวิด!"

เขาลุกขึ้นแล้วเดินโซเซเข้าไปใกล้ ๆ กองไฟ  ฮาโมเดียสและคนอื่น ๆ ที่ตื่นไวลุกขึ้น  ยาคอบพยุงอัลลันซึ่งดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่

"เจ้าเป็นอะไรของเจ้า"

"ข้าฝันร้าย"  

ทุกคนอึ้งไป  เครทอสยันตัวลุกจากที่นอนเป็นท่ากึ่งนอนกึ่งนั่ง

"มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่"

"ไม่  นั่นมันไม่สำคัญ  เดวิดหายไป  ใครเห็นเขาบ้าง  เดวิด!"  อัลลันป้องปากตะโกน

"สงบใจไว้อัลลัน  ข้าแน่ใจว่าเขาน่าจะอยู่แถว ๆ นี้"  ฮาโมเดียสจ่อคบเพลิงเข้ากับกองไฟ  แล้วส่งให้เจ้าบ่ากว้างที่ยืนรออยู่ด้านหลัง  

"ความฝันของข้าเปลี่ยนไป"  อัลลันพูดพร้อมกับขบกรามแน่น  "ใบหน้าของคนที่ตายมันไม่ใช่ข้า..ไม่ใช่ข้า"

"มันไม่ใช่วิสัยของเขาที่จะออกไปนอกวงคุ้มกันตอนกลางคืน"  ยาคอบตั้งข้อสังเกต

"เราจะออกไปค้นหา  อัลลัน  เจ้าควรจะรออยู่ที่นี่  เจ้าคือเหยื่อของปีศาจที่ถูกป้ายสติกม่าเอาไว้ด้วยฝันร้ายนั้น  เราจะไม่ยอมให้มีการสูญเสียคนหนุ่มเกิดขึ้นอีก"

ฮาโมเดียสพูดจบก็พาคนฉกรรจ์ที่แข็งแรงรวมทั้งทาสของพวกเขาออกไปจากเขตกองไฟและวงคุ้มกัน






ทราซีมาคัสถูมือไปมาใกล้กองไฟเนื่องจากความหนาว  และกล่าวกับเครทอส

"ข้าคิดแล้วว่าพวกเขาต้องทำให้เกิดเรื่อง"

"มันไม่ใช่ความผิดของพวกเขา"  ผู้สูงวัยตอบกลับไป  "ถึงอย่างไรปีศาจก็หมายตาเครื่องสังเวยของมัน  พวกเราควรจะละอายใจเสียมากกว่าที่ไม่ได้่ป้องกันไว้เป็นอย่างดี  อัลลัน  เจ้าฝันร้ายมานานแค่ไหน  เหตุใดไม่บอกให้ใครรู้"

อัลลันจ้องกลับอย่างไม่พอใจ  "ท่านยังมีความลับของท่าน  ทำไมข้าจะมีบ้างไม่ได้"

เครทอสนิ่งเงียบไป  ฮาโมเดียสกลับมาพอดี  เจ้าบ่ากว้างทาสร่างยักษ์แบกร่างอ่อนปวกเปียกของเดวิดไว้บนบ่า  มันวางเดวิดลงบนก้อนฟางอัดซึ่งใช้แทนที่นอน  ทั้งแคมป์ตื่นแล้ว  และตอนนี้ทุกคนก็เดินเข้ามาดูด้วยอารมณ์ต่าง ๆ กัน

เปลือกตาของเด็กหนุ่มปิดสนิท  ผิวขาวซีดจนเกือบเขียว  อัลลันพุ่งตรงไปยื้อคอเสื้อของเพื่อนรักขึ้นมาเขย่าและตะโกนเรียกชื่อ  แต่ไม่มีอาการใด ๆ ตอบรับว่ายังรู้สึกตัว

"เราเจอนี่ตกอยู่ใกล้ ๆ  ถึงจะมืดแต่มันเรืองแสงเองได้  และข้าคิดว่ามันประหลาด"  ฮาโมเดียสประคองขวดบรรจุของเหลวสีม่วงไปให้กับเครทอส  ซึ่งเพ่งมองพินิจ

"โอ..."  ผู้ชี้ทางอุทาน  "ยาพิษของพวกไวส์เวอร์จิ้น!"

ฮาโมเดียสซึ่งเห็นใบหน้าบิดเบี้ยวของเครทอสถามรุกไล่  "ไวส์เวอร์จิ้นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือ"

"ข้าไม่อยากเชื่อเช่นนั้น  แต่ไม่มีทางคิดเป็นอื่น  น้อยคนนั้นที่รู้จักสิ่งนี้  นี่คือยาที่ผู้เห็นจะต้องตาย  หรือมิเช่นนั้นก็จะกลายเป็นไวส์เวอร์จิ้น"

"หมายความว่ายังไงเครทอส"

"มันคือน้ำยาที่ใช้กับสตรี  ใช้ในการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติ  ผู้ซึ่งผ่านการทดสอบจะได้รับปัญญาจากเทพี  หรือพวกเจ้าก็รู้ดีว่ามันคือการตกอยู่ใต้มหิทธิอำนาจของปีศาจ  ตัวยานี้ศักดิ์สิทธิ์พอ ๆ กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในครอบครองของพวกนาง  ข้าไม่รู้ว่ามันหลุดจากวิหารแห่งไบเอโอเธียได้อย่างไร"

"ข้าไม่สนว่ามันคือน้ำยาห่าเหวอะไร  แต่พวกท่านต้องช่วยเดวิดให้ได้  ได้โปรด"

"สหายวัยเยาว์ของข้า  ข้ารักเขาเหมือนบุตรในอุทรคนหนึ่ง  แต่หากว่าเขาดื่มยานี้เข้าไป  เขาจะมีทางเลือกแค่สองทางเท่านั้น  เส้นทางหนึ่งจะบรรจบยังโลกแห่งความตาย  และอีกเส้นทางหนึ่งคือกลายเป็นส่วนหนึ่งในแผนการอันยิ่งใหญ่ของปีศาจชั่วร้าย  ซึ่งไม่ว่าเส้นทางใดก็บีบหัวใจข้าจนแทบแหลกสลาย"

"เขายังมีโอกาสรอดอย่างงั้นหรือ"  ฮาโมเดียสถามแทรก

"ข้าเกรงว่าจะไม่  เดวิดไม่มีคุณสมบัติสำคัญสำหรับการเป็นไวส์เวอร์จิ้น  เขามิใช่สตรี  คนที่ป้อนยานี้ให้แก่เขาไม่ว่าจะเป็นหนึ่งในไวส์เวอร์จิ้นหรือไม่  คงตั้งใจให้เขาตกตายเป็นแน่  ทั้งสัญญาณชีพของเขาก็สิ้นสุดแล้ว"

แอนโธนี่ซบหน้าลงกับฝ่ามือ  อัลลันถลันเข้าไปจับข้อมือเย็นเฉียบของเพื่อนรักอีกครา  มันนิ่งสนิทและแข็งกระด้างดุจหินอ่อน  เขานั่งอึ้งอยู่ข้าง ๆ ร่างของเดวิด

"เราจะเดินทางไปโดยไม่มีเขา  ไม่ว่าในกรณีไหน  แม้ว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา  แต่อย่าลืมว่าเขาไม่ใช่พวกของเราแล้ว"

"ไม่  ท่านทำแบบนั้นไม่ได้นะ"  อัลลันลุกขึ้นยืน  แต่แล้วก็หัวเราะ  "ฮ่าๆๆ  ช่างบังเอิญเสียจริง ๆ  ข้ามีสติ๊กม่าของปีศาจร้าย  เพื่อนรักของข้าก็ต้องพิษของไวส์เวอร์จิ้น  ข้าอยากจะพูดอย่างงี้มาตั้งนานแล้ว  และข้าจะประกาศต่อพวกท่าน  ข้าเหม็นขี้หน้าพวกท่าน  โอเวอร์แมนทุกคน  ไอ้พวกเพี้ยนสติแตก  ปีศาจมันมีซะที่ไหน  ข้าไม่เชื่อ  ต่อให้มีข้าจะไปจูบตูดมัน  จูบตีนมัน  สาบานว่าจะเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ของมัน"

"อัลลัน  เจ้าบ้าไปแล้ว"  ยาคอบกล่าวแก่เพื่อนร่วมรุ่นของตนที่กำลังพยายามประคองร่างซึ่งเริ่มแข็งทื่อของเดวิดไว้บนบ่าของตน

"พวกเจ้าต่างหากที่บ้า  เชื่อคำโกหกพกลมของตาแก่  ที่ไม่เคยพิสูจน์ได้เลยว่ามีปีศาจอยู่จริง"

"แต่โลกนี้มันวิปริตบิดเบี้ยวนะ  นั่นคือหลักฐานการมีอยู่ของปีศาจ"

"มันก็บิดเบี้ยวไปทุกโลกนั่นแหละ  ข้าจะไป"

อัลลันพาร่างของเดวิดจากไป  โดยปราศจากการขัดขวางของผู้ใด




บนยอดผาไม่ไกลจากแคมป์พักผ่อนของโอเวอร์แมน  อราเบลยืนมองภาพที่เกิดขึ้นด้วยสายตาวาววับ  เงาวูบปรากฎข้างหลังนางเป็นพวกองครักษ์หญิงภายใต้บัญชาของไวส์เวอร์จิ้น

"เราพบร่องรอยของท่านเวโรนิก้ารอบ ๆ แค้มป์ของพวกเขา  แต่ว่าไม่สามารถแกะรอยนางต่อได้"

"อ้า...นั่นแหละ  ผ้าคลุมแห่งความดีงาม  ทวยเทพจะปกปักษ์นางให้พ้นจากสายตาของศัตรูทั้งปวง"  อราเบลพูดอย่างชื่นชม  "คอยดูต่อไป  เราจะต้องจับนางให้ได้ตอนที่นางกำลังจะลงมือ  นางอาฆาตตาแก่เครทอสมากที่สุด"

"รับทราบค่ะ"  เงาทั้งหลายหายวับไปจากบริเวณหินเรียบยอดผาโดยทันที
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่