.......ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ...........
มิได้เกิดจากการยึดติดในตัวตน หรือ ตัวบ่งชี้ภาวะป่วยแฝงเร้น เสมอไป
หากแต่เป็นเสียงร้องอันแผ่วเบา ที่เป็น "ข่าวสาร"
โดยตรงจากธรรมชาติ ที่เตือนมนุษย์ว่า "เขากำลังดำเนินชีวิตแบบผิดธรรมชาติ"
ที่จริง เผ่าพันธุ์มนุษย์เดินผิดธรรมชาติมานานแล้ว
เพราะ เขาไม่ต้องการเดินตามธรรมชาติมาแต่ต้น
โลกทัศน์ของพุทธฯ มองว่า ชีวิต คือ ทุกข์
เป้าหมายชีวิตที่ดี คือ พ้นทุกข์ และไปให้ถึงนิพพนาน
ที่นั่น คือ อนัตตา หรือ การไม่มีตัวตนอีก คือ พ้นจากสังสารวัฏฏ์
ขณะที่ "เต๋า" ถือคติ ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ
เท่ากับยอมรับโลกจริงทางกายภาพ รวมถึง ร่างกาย อันจิตสิงสถิตย์เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย
ผมเห็นด้วยกับ หลัก Man is Microcosm นี้
จึงเข้าใจได้ว่า เหตุใด ทุกข์ (ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ)จึงอาจถือเป็น "ข่าวสาร" จากธรรมชาติ ว่า
เราได้ทำผิดธรรมชาติอะไรหรือไม่?
ถ้าเช่นนั้น มนุษย์ก็พึงมีหน้าที่พื้นฐานอย่างหนึ่งอันสำคัญยิ่ง คือ การดูแลจุลจักรวาลแห่งกายตนนี้ ให้จงดีเถิด
เพราะ มิฉะนั้น ทุกข์ก็จักเป็นตราบาป หรือเงามัจจุราชผ่อนส่งไปกับใครผู้ใดที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ และใช้ชีวิตอย่างโง่เขลา
เพราะ ไม่รู้จักชีวิต ไม่รู้จักตัวตนแบบองค์รวมของตน ..ไปแล้ว
สาเหตุหนึ่ง ก็เพราะ คนเราไขว่คว้าการพ้นทุกข์มากหลายจากภายนอกที่ไกลโพ้น แต่ได้ลืมรากฐาน
แห่งสุขหรือการพ้นทุกข์อันใกล้ คือ การดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยเฉพาะวิถีการ
ดำเนินชีวิตรายวันง่ายๆ เช่น การกิน การนอน การนั่ง และการเคลื่อนไหว เป็นต้น
วิถีชีวิต ถูกสร้างขึ้น โดยอานิสงค์ของผลผลิตแห่งวิทยาการทั้งผอง
ดังนั้น จึงยากจะหลุดพ้นไปจากฝาครอบอันผิดทิศผิดทาง จากผลของความศิวิไลซ์ไปได้โดยง่าย
เราชินกับสิ่งไม่ปรกติ จนยากจะถือว่า ผิดปรกติ หรือไม่?
ข่าวสารจากร่างกาย คุณได้เปิดการรับรู้นั้นบ้าง หรือไม่?
ข่าวสารจากร่างกาย
มิได้เกิดจากการยึดติดในตัวตน หรือ ตัวบ่งชี้ภาวะป่วยแฝงเร้น เสมอไป
หากแต่เป็นเสียงร้องอันแผ่วเบา ที่เป็น "ข่าวสาร"
โดยตรงจากธรรมชาติ ที่เตือนมนุษย์ว่า "เขากำลังดำเนินชีวิตแบบผิดธรรมชาติ"
ที่จริง เผ่าพันธุ์มนุษย์เดินผิดธรรมชาติมานานแล้ว
เพราะ เขาไม่ต้องการเดินตามธรรมชาติมาแต่ต้น
โลกทัศน์ของพุทธฯ มองว่า ชีวิต คือ ทุกข์
เป้าหมายชีวิตที่ดี คือ พ้นทุกข์ และไปให้ถึงนิพพนาน
ที่นั่น คือ อนัตตา หรือ การไม่มีตัวตนอีก คือ พ้นจากสังสารวัฏฏ์
ขณะที่ "เต๋า" ถือคติ ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ
เท่ากับยอมรับโลกจริงทางกายภาพ รวมถึง ร่างกาย อันจิตสิงสถิตย์เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย
ผมเห็นด้วยกับ หลัก Man is Microcosm นี้
จึงเข้าใจได้ว่า เหตุใด ทุกข์ (ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ)จึงอาจถือเป็น "ข่าวสาร" จากธรรมชาติ ว่า
เราได้ทำผิดธรรมชาติอะไรหรือไม่?
ถ้าเช่นนั้น มนุษย์ก็พึงมีหน้าที่พื้นฐานอย่างหนึ่งอันสำคัญยิ่ง คือ การดูแลจุลจักรวาลแห่งกายตนนี้ ให้จงดีเถิด
เพราะ มิฉะนั้น ทุกข์ก็จักเป็นตราบาป หรือเงามัจจุราชผ่อนส่งไปกับใครผู้ใดที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ และใช้ชีวิตอย่างโง่เขลา
เพราะ ไม่รู้จักชีวิต ไม่รู้จักตัวตนแบบองค์รวมของตน ..ไปแล้ว
สาเหตุหนึ่ง ก็เพราะ คนเราไขว่คว้าการพ้นทุกข์มากหลายจากภายนอกที่ไกลโพ้น แต่ได้ลืมรากฐาน
แห่งสุขหรือการพ้นทุกข์อันใกล้ คือ การดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยเฉพาะวิถีการ
ดำเนินชีวิตรายวันง่ายๆ เช่น การกิน การนอน การนั่ง และการเคลื่อนไหว เป็นต้น
วิถีชีวิต ถูกสร้างขึ้น โดยอานิสงค์ของผลผลิตแห่งวิทยาการทั้งผอง
ดังนั้น จึงยากจะหลุดพ้นไปจากฝาครอบอันผิดทิศผิดทาง จากผลของความศิวิไลซ์ไปได้โดยง่าย
เราชินกับสิ่งไม่ปรกติ จนยากจะถือว่า ผิดปรกติ หรือไม่?
ข่าวสารจากร่างกาย คุณได้เปิดการรับรู้นั้นบ้าง หรือไม่?