htech จะขยายตลาดไปอินโด

กระทู้สนทนา
นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จํากัด (มหาชน) หรือ HTECH กล่าว ว่า ในปี 2556 บริษัทฯ ตั้งเป้าธุรกิจเติบโต 15-20% ในช่วงเริ่มต้น ส่วนใหญ่จะขยายการตลาด เน้นบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศฟิลลิปปินส์ และมองประเทศถัดไป คือ มีแผนจะเข้าไปดำเนินการในอินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสินค้าของบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูง
ส่วนธุรกิจในประเทศไทย ในปี 2556 จะเน้นหนักด้านรถยนต์มากขึ้น เป็นเป้าหมายหลักของธุรกิจในเมืองไทย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้เข้าไปดำเนินการด้านนี้มากนัก มองว่าปีหน้าน่าจะเป็นปีทองของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะยังหนักหน่วงและเข้มข้นมากขึ้น ในอดีตบริษัทมีส่วนแบ่งด้านรถยนต์น้อยมาก
ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทยังคงมาจากกลุ่มชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 70:30 และตั้งใจว่าภายใน 12 เดือนข้างหน้า บริษัทจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เทียบเท่ากับรายได้จากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และHDD ให้อยู่ที่ 50%-50% ซึ่งยอมรับว่าเป็นงานหนัก ที่คิดว่าน่าจะทมาเราเน้นเรื่องความเป็น Automation และเน้น Hi-end technology เพื่อหลบปัญหาค่าแรง และหลบปัญหาการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ที่จะเข้ามารุกราน และที่สำคัญที่สุด คือ จะต้องก้าวข้ามญี่ปุ่นให้ได้ เพราะตอนนี้ส่วนใหญ่ยังมีการนำเข้าอยู่
"ในอดีตบริษัทดำเนินธุรกิจในเมืองไทยในสัดส่วนสูง และการเข้าไปเปิดโรงงานที่ฟิลิปปินส์ก็ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีการส่งออกและนำเข้ากับประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าใช้เวลาครึ่งปี ไม่เกิน3ไตรมาสในการตัดสินใจตั้งโรงงานที่อินโดนีเซีย ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ส่วนการบุกอเมริกา จะเน้นหนักด้าน Hi-end พวก aerospace , medical product และตลาดรถยนต์ ส่วนธุรกิจที่เรายังไม่ได้เข้าไปทำก็คือ อุตฯนาฬิกา กล้องถ่ายรูปก็ยังไม่ถึงที่สุด ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จสูง บ้านเราน่าจะตื่นเต้นกับอุตฯกล้องถ่ายรูปในปีหน้า มองว่าเป็นตลาดเปิด และบริษัทมีความพร้อมเข้าตลาด และน่าจะเป็นสินค้าใหม่ที่สร้างสีสันให้บริษัทใน sector นี้ " นายพีท กล่าว
นายพีท กล่าวต่อด้วยว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ครึ่งปีแรกของปี 2555 บริษัทมีผลประกอบการออกมาดีเกินความคาดหมาย ส่วนครึ่งปีหลังอาจแผ่วไปบ้าง เนื่องจากผลกระทบจากยุโรปและญี่ปุ่นเข้ามา คาดว่าจะสามารถดันผลงานทั้งปีโ่ต่ำกว่า 25% จากปีก่อน จากผลประกอบการงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 ของบริษัทและบริษัทย่อยพบว่ามีกำไรสุทธิรวมจำนวน 91.63 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 68.56 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 23.07 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 33.65% โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 36.03% เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นในส่วนของบริษัทย่อยในฟิลิปปินส์ อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ยังขยายตัวได้ดี
"ฝากนักลงทุน ไม่อยากให้ถือติดกับฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) เพราะการดำเนินธุรกิจของเรามีความหลากหลาย เราพยายามทำทุกอย่างให้เป็นไปตามเป้าหมาย เมื่อผลประกอบการได้ตามเป้าหมาย เรื่องปันผลก็จะพยายามดูให้ดีขึ้นกว่าเก่า อย่าห่วงครับ เราทำงานเต็มที่ "นายพีท กล่าว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่