"พินิจ" นำนักธุรกิจจีนกระชับความสัมพันธ์ เดินหน้าลงทุนไทยกระหึ่ม

กระทู้สนทนา

"พินิจ" นำนักธุรกิจจีนกระชับความสัมพันธ์ เดินหน้าลงทุนไทยกระหึ่ม


อีกครั้งที่นายพินิจ  จารุสมบัติ นายกสมาคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจไทย-จีน นำคณะนักธุรกิจจากประเทศจีนกว่า 30 คน เดินทางมาสำรวจลู่ทางการค้า และการลงทุนในประเทศไทย โดยครั้งนี้เป็นผู้แทนจากสมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประชาชนจีน และบรรดาผู้ส่งออก-นำเข้า ตลอดจนถึงกลุ่มนักธุรกิจที่ให้ความสนใจในเรื่องของการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ และการใช้สมุนไพรจีนอย่างถูกต้องด้วย

นายพินิจเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงต้อนรับคณะนักธุรกิจจีนเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่โรงแรมแชงกรีลา ว่า นักธุรกิจกลุ่มนี้ประสงค์จะขอแลกเปลี่ยนความคิด ข้อมูล และดูลู่ทางในระบบเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมด้านการลงทุนของประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องข้อกฎหมายการค้า และการลงทุน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้นักลงทุนชาวจีนที่มีความสนใจอยากจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้รับทราบ และเกิดความเข้าใจตรงกันในหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ประเทศไทยกำหนด “จุดประสงค์อีกประการก็คือ อยากมาศึกษาวิถีชีวิตของนักธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อาจส่งผลให้นักธุรกิจชาวจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ ทางคณะผู้แทนสมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประชาชนจีน และคณะนักธุรกิจชาวจีน ได้มีโอกาสเดินทางไปเขตนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ของนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานมูลนิธิอมตะ ส่งผลให้ได้เรียนรู้สภาวการณ์ในภาคอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักธุรกิจชาวจีนเตรียมตัวและปรับตัวกับระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆก่อนที่จะเข้าไปลงทุน

สำหรับการลงทุนในไทยของกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนก่อนหน้านี้ ก็มีความสนใจที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่แถบจังหวัดระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหาพื้นที่ เพราะพื้นที่ที่หาได้ขณะนี้ยังไม่สามารถ ที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมได้ ขณะนี้ก็กำลังเร่งหาพื้นที่ตามความต้องการลงทุนของนักธุรกิจชาวจีน โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตร และโรงงานผลิตยางรถยนต์ของกลุ่มชิงเต่า เพราะนักธุรกิจชาวจีนเห็นว่าประเทศไทยมีความพร้อมทั้งวัตถุดิบ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน น้ำประปา ไฟฟ้า เป็นต้น

คณะผู้แทนสมาคมมิตรภาพวิเทศสัมพันธ์แห่งประชาชนจีน และคณะนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งนำโดยนายเฝิง จั๋วคู่ อุปนายกสมาคมมิตรภาพจีนฯ ยังได้มีโอกาสเข้าหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลด้วย โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่สมาคมวัฒนธรรม และเศรษฐกิจไทย-จีน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสนับสนุนนโยบายเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศของรัฐบาล ทั้งยังคาดหวังด้วยว่าการเดินทางเยือนไทยของกลุ่มนักธุรกิจจีนในครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการเพิ่มพูนประโยชน์ร่วมกันให้กว้างขวางยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีหวังว่าการเดินทางเยือนไทยของคณะนักธุรกิจจีนครั้งนี้จะเปิดช่องทางการค้า การลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น โดยรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนนักลงทุนจีนที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างเต็มที่

อุปนายกสมาคมมิตรภาพจีนฯยังเผยด้วยว่า ในช่วงที่นายเวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เยือนไทยอย่างเป็นทางการนั้น ไทยกับจีนได้มีการลงนามความร่วมมือหลายด้านภายใต้ข้อตกลงว่าด้วย “ความร่วมมือไทย-จีน : พัฒนาอย่างยั่งยืน” ประกอบด้วยความร่วมมือ 4 ด้าน ได้แก่ 1. ระบบชลประทาน และโครงข่ายระบบชลประทาน  2. ระบบโครงข่ายรางรถไฟ 3. ความร่วมมือทางด้านพลังงานทดแทน และ 4. ความร่วมมือทางด้านการศึกษา โดยทั้ง 4 โครงการนี้เป็นทิศทางของทั้ง 2 ประเทศในอนาคต โดยโครงการที่รัฐบาลไทยและจีนให้ความสนใจตรงกันคือ  การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานประเทศ มูลค่า 74,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นมูลค่าราว 2.2 ล้านล้านบาท (30 บาทต่อดอลลาร์) ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายรอคอย และคาดว่าไม่เกิน 10 ปีนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่พลิกโฉมหน้าของประเทศไทยไปเลยทีเดียว.

 
ไทยรัฐออนไลน์

    โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
    22 ธันวาคม 2555, 05:15 น.

 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่