วันนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการประชุมนานาชาติเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจในหัวข้อ
“ก้าวไปข้างหน้ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมด้วยมิตรภาพชายแดนใต้“ ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมแกรนด์ แมนดาริน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีผู้สนใจทั้งนักธุรกิจจากไทยและต่างประเทศกว่า 400 ราย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาต่อยอดโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่ความร่วมมือการพัฒนากับประเทศเพื่อนบ้านที่ด้วยการเปิดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ “Economic Corridor ที่ 6” ที่จะเชื่อมต่อโลกภายนอกผ่าน “มิตรภาพชายแดนภาคใต้” นำพลังของนักธุรกิจรุ่นใหม่ และธุรกิจที่มีศักยภาพเข้ามาทำงานในรูปแบบของเครือข่ายที่จะเสริมฐานการพัฒนาตามเป้าหมาย
นายอาคมฯ กล่าวว่าการขยายผลนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ผ่านโครงการเมืองต้นแบบฯ สามารถดำเนินการได้หลายระดับ วันนี้ได้มีการขยายผลโครงการฯ ไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศตามกรอบ IMT-GT เช่น การเชื่อมต่อเขตการพัฒนาไปยังรัฐเปรัคและกลันตันของมาเลเซีย รวมถึง หมู่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย โดยมีประเทศสำคัญอย่างจีนและสิงคโปร์เดินไปพร้อมกันตามแนวทางการพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ซึ่งตนเองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันในการประชุม IMT-GT เมือเดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมา รวมทั้งการประชุมระดับนายกรัฐมนตรี เมื่อ เมษายน 2561 ที่นายกรัฐมนตรีไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีข้อเสนอและให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและต้องการร่วมมือกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายความร่วมมือของมิตรประเทศเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจที่ 6
ในขณะที่
นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. ในฐานะผู้จัดการประชุมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าการประชุมในครั้งนี้ เป็นการทำงานครั้งสำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในขณะที่เหตุการณ์ในวันนี้ดีขึ้นอย่างมาก หลายภาคส่วนจึงพร้อมใจกันแสดงศักยภาพและโอกาสการพัฒนาพื้นที่ พร้อมจะเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจจากทั่วโลกด้วยความเป็นพหุสังคมที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายประเทศ เช่น จีนและโลกมุสลิม ซึ่งจะเป็นกลุ่มเป้าหมายการทำงานที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนงานในวันนี้
พร้อมนี้
นายดาวิน หยาง นายกสมาคมการค้าอาเซียน-จีน กล่าวสรุปท้ายว่าการประชุมฯ เป็นการริเริ่มความร่วมมือระหว่างประเทศบนฐานการทำงานระเบียงเศรษฐกิจที่ 6 ที่จะประสานเชื่อมโยงการทำงานของหุ้นส่วนทางธุรกิจทั้งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และอินเดีย ยินดีจะผลักดัน สร้างและขยายเครือข่ายการทำงานและร่วมมือการพัฒนาไปสู่เป้าหมายที่กำหนดร่วมกันต่อไป โดยในปีหน้านี้ ทางหอการค้ามาเลเซีย จะรับเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสิง่สำคัญว่าการริ่เริ่มของรัฐบาลในครั้งนี้ มาถูกที่ ถูกทางและถูกเวลาที่จำเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้โดยไม่ยาก
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนใต้
วันนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการประชุมนานาชาติเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจในหัวข้อ “ก้าวไปข้างหน้ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมด้วยมิตรภาพชายแดนใต้“ ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมแกรนด์ แมนดาริน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีผู้สนใจทั้งนักธุรกิจจากไทยและต่างประเทศกว่า 400 ราย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาต่อยอดโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่ความร่วมมือการพัฒนากับประเทศเพื่อนบ้านที่ด้วยการเปิดระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ หรือ “Economic Corridor ที่ 6” ที่จะเชื่อมต่อโลกภายนอกผ่าน “มิตรภาพชายแดนภาคใต้” นำพลังของนักธุรกิจรุ่นใหม่ และธุรกิจที่มีศักยภาพเข้ามาทำงานในรูปแบบของเครือข่ายที่จะเสริมฐานการพัฒนาตามเป้าหมาย
นายอาคมฯ กล่าวว่าการขยายผลนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ผ่านโครงการเมืองต้นแบบฯ สามารถดำเนินการได้หลายระดับ วันนี้ได้มีการขยายผลโครงการฯ ไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศตามกรอบ IMT-GT เช่น การเชื่อมต่อเขตการพัฒนาไปยังรัฐเปรัคและกลันตันของมาเลเซีย รวมถึง หมู่เกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย โดยมีประเทศสำคัญอย่างจีนและสิงคโปร์เดินไปพร้อมกันตามแนวทางการพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ซึ่งตนเองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันในการประชุม IMT-GT เมือเดือนกันยายน 2560 ที่ผ่านมา รวมทั้งการประชุมระดับนายกรัฐมนตรี เมื่อ เมษายน 2561 ที่นายกรัฐมนตรีไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีข้อเสนอและให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและต้องการร่วมมือกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายความร่วมมือของมิตรประเทศเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจที่ 6
ในขณะที่ นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. ในฐานะผู้จัดการประชุมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าการประชุมในครั้งนี้ เป็นการทำงานครั้งสำคัญของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในขณะที่เหตุการณ์ในวันนี้ดีขึ้นอย่างมาก หลายภาคส่วนจึงพร้อมใจกันแสดงศักยภาพและโอกาสการพัฒนาพื้นที่ พร้อมจะเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเศรษฐกิจจากทั่วโลกด้วยความเป็นพหุสังคมที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายประเทศ เช่น จีนและโลกมุสลิม ซึ่งจะเป็นกลุ่มเป้าหมายการทำงานที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนงานในวันนี้
พร้อมนี้ นายดาวิน หยาง นายกสมาคมการค้าอาเซียน-จีน กล่าวสรุปท้ายว่าการประชุมฯ เป็นการริเริ่มความร่วมมือระหว่างประเทศบนฐานการทำงานระเบียงเศรษฐกิจที่ 6 ที่จะประสานเชื่อมโยงการทำงานของหุ้นส่วนทางธุรกิจทั้งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และอินเดีย ยินดีจะผลักดัน สร้างและขยายเครือข่ายการทำงานและร่วมมือการพัฒนาไปสู่เป้าหมายที่กำหนดร่วมกันต่อไป โดยในปีหน้านี้ ทางหอการค้ามาเลเซีย จะรับเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมนานาชาติครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสิง่สำคัญว่าการริ่เริ่มของรัฐบาลในครั้งนี้ มาถูกที่ ถูกทางและถูกเวลาที่จำเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้โดยไม่ยาก