เชิญคุณ วอน มาดูว่า เปิดร่างMOUไทย-จีนร่วมการค้าข้าว เสียหายตรงใหน

กระทู้ข่าว
เปิดร่างMOUไทย-จีนร่วมการค้าข้าว

เปิดร่าง MOU ไทย-จีนร่วมการค้าข้าว หลังทั้งสองประเทศชื่นมื่น โดยนายกรัฐมนตรี และภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย เซ็นสัญญาซื้อขายข้าวร่วมกัน "ยิ่งลักษณ์"วอนจีนแก้ปัญหาข้อติดขัดการส่งออกสินค้าไทย ด้าน "เวิน เจียเป่า"ยาหอม บอก“ไทย-จีนพี่น้องกัน” พร้อมเดินหน้าความร่วมมือตามแผนการพัฒนาเศรษฐกิจการลงทุน 5 ปี พร้อมกล่าวขอบคุณนักธุรกิจจีนโพ้นทะเลในไทยร่วมพัฒนาเศรษฐกิจจีน ยืนยันช่วง 3 เดือน ที่เหลือจะทำงานเต็มที่

ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (21 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีพิธีต้อนรับและตรวจแถวกองทหารเกียรติอย่างเป็นทางการที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นหารือทวิภาคีเต็มคณะร่วมกัน และร่วมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามความตกลงจำนวน 4 ฉบับ ที่ตึกสันติไมตรี ประกอบด้วย 1.บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงการต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือ 2.การแลกเปลี่ยนสัตยาบันสารสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องโทษคำพิพากษา 3.ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทย และ 4.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการค้าข้าวสองฝ่าย

โดยเฉพาะ ร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือการค้าข้าวทวิภาคีระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญประกอบด้วย

1.ทั้ง 2 ฝ่ายจะสนับสนุนการพัฒนาการค้าข้าวระหว่าง 2 ประเทศให้มีความมั่นคง โดยคำนึงถึงมิตรภาพระหว่างประเทศ มีการพึ่งพาอาศัยและมีผลประโยชน์ร่วมกัน

2.ทั้ง 2 ฝ่ายจะสร้างบรรยากาศความร่วมมือที่มีเสถียรภาพ เป็นธรรมและโปร่งใส สำหรับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัททุกรูปแบบในด้านการค้าข้าว โดยสอดคล้องกับกฎหมายภายในประเทศและเป็นไปตามหลักการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนสนับสนุนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัททุกรูปแบบเพื่อส่งเสริมความร่วมมือการค้าข้าวและเพิ่มปริมาณการนำเข้าข้าวจากไทยให้มากขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้

3.ทั้ง 2 ฝ่ายจะส่งเสริมสนับสนุนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัททุกรูปแบบในการผลักดันการค้าข้าวระหว่าง 2 ประเทศ และแสวงหาตลาดข้าวระหว่างประเทศบนพื้นฐานของกฎเกณฑ์การตลาด และจะส่งเสริมสนับสนุนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัทของแต่ละประเทศให้มีการจัดการและแก้ไขปัญหาด้านการค้าข้าวอย่างเหมาะสมบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและผลประโยชน์ร่วมกัน โดยมีความสอดคล้องกับสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องของทั้ง 2 ประเทศ

4.ประเทศใดประเทศหนึ่งสามารถทบทวนแก้ไขบันทึกความเข้าใจเพิ่มเติมได้ โดยต้องเป็นการยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการยุติการดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า ซึ่งจะมีผลสิ้นสุดในทางปฏิบัติในอีก 6 เดือนข้างหน้าหลังจากอีกฝ่ายหนึ่งได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการแล้ว
ร่าง MOU ไทย-จีน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไทยและจีน ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางเยือนไทยก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งถือเป็นการให้เกียรติประเทศไทยและรัฐบาลไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งได้มีการหารือกันอย่างกว้างขวางในบรรยากาศที่เป็นมิตร เราต่างมีความพึงพอใจต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะภาคประชาชน ในด้านการศึกษา ไทยและจีนมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการลงนามความตกลงด้านการศึกษาระหว่างกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้มีความร่วมมือใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนมาไทยก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปีนี้มีถึง 1.9 ล้านคน และเรายังได้ตกลงที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เช่นการเปิดเส้นทางบินใหม่ ๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะหารือกันในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็นข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ผลไม้ โดยเราอยากให้รัฐบาลจีนได้ช่วยดูแลแก้ไขข้อติดขัดทางการค้าต่าง ๆ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น และไทยยังแสดงความสนใจที่จะส่งออกแอทธานอลไปยังจีนอีกด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จีนได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนครั้งที่ 3 ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและจีนว่าด้วยการซื้อขายข้าวระหว่างกัน โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ภาคเอกชนทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายข้าวร่วมกันด้วย ในด้านการลงทุน ไทยอยากเชิญชวนให้ชาวจีนมาลงทุนมากขึ้นอีก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในการที่จะเพิ่มการลงทุนอีกร้อยละ 15 ต่อปี และตนก็ได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีจีนทราบถึงการลงทุนที่ไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

เช่น การแปรรูปยางธรรมชาติ พลาสติกชีวภาพ ยานยนต์ รวมทั้งได้เชิญชวนให้เข้าร่วมลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในการเชื่อมโยงภูมิภาค เช่นโครงการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย รถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือระบบป้องกันน้ำท่วมในไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีจีนได้แจ้งว่าฝ่ายจีนมีความสนใจในโครงการเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นจะได้หารือในรายละเอียดกันต่อไป และตนก็ได้ฝากให้ช่วยดูแลนักลงทุนไทยในจีนด้วย

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า การเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ผลงานที่สำคัญคือทั้งสองประเทศได้จัดตั้งความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ซึ่งการเดินทางมาไทยครั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทั้งสองฝ่ายให้มีความคืบหน้า ทั้งนี้ประเทศไทยมีความประสบความสำเร็จในการขจัดปัญหาและการรับมือกับความท้าทายอย่างรุนแรง เช่น อุทกภัยครั้งใหญ่ และมิติทางการเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจและการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งจีนรู้สึกดีใจอย่างมาก

เพราะความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาของไทย ไม่เพียงแต่จะนำความสุขให้ประชาชนชาวไทยเท่านั้น แต่ยังสร้างเงื่อนไขที่ดีสำหรับความร่วมมือระหว่างจีนกับไทยด้วย ในสถานการณ์ระดับโลก และภูมิภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงและสลับซับซ้อนนั้น จีนยินดีที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อให้การสนับสนุน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพัฒนาพัฒนาไปด้วยกัน รวมทั้งกระชับความร่วมมือและการประสานงานในกิจการระดับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมและผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียนให้พัฒนาไปอย่างมีคุณภาพและมั่นคง ส่งเสริมสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

นายกรัฐมนตรีจีน ยังกล่าวด้วยว่า ไทยและจีนเป็นหุ้นส่วนและคู่ค้าที่สำคัญระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายมีเงื่อนไขและอนาคตที่ดีในการขยายความร่วมมือ ซึ่งจีนยินดีร่วมมือกับไทยเพื่อดำเนินการตามแผนการพัฒนา 5 ปีทางด้านเศรษฐกิจการค้า ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามไปแล้ว และจะกระชับความร่วมมือทางด้านสิ่งก่อสร้างพื้นฐาน เช่นการคมนาคม ชลประทาน รวมทั้งด้านการเกษตรและการลงทุน รวมทั้งความร่วมมือลุ่มน้ำโขงด้วย และจีนยินดีสนับสนุนเพื่อขยายและยกระดับการเรียนการสอนภาษาจีนในไทย และผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และการติดต่อประสานงานของเยาวชนทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ จีนและไทยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมายาวนาน โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่ในไทยถึงเกือบ 10 ล้านคน ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า “จีนไทยมิใช่อื่นไกลพี่น้องกัน” นั้น ถือเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ของเราให้ดียิ่งขึ้น และนำความสุขมาให้ประชาชนทั้งสองประเทศมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ตึกสันติไมตรี โดยมี ครม.ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าร่วม

นายกฯจีนขอบคุณนักธุรกิจจีนโพ้นทะเลในไทย

ทั้งนี้ นายธนากร เสรีบุรี ประธานสภาธุรกิจไทย-จีน เปิดเผยว่า นายเหวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในงานเลี้ยงรับรองของหอการค้าไทย-จีน ให้กับนักธุรกิจไทยและจีน 800 คน เมื่อเย็นวันที่ 20 พ.ย.2555 ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนขยายตัวเฉลี่ย 9 % ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากชาวจีนโพ้นทะเลที่ทำธุรกิจในประเทศต่างๆ และการทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วง 3 เดือน สุดท้ายจะทำอย่างเต็มที่ โดยเมื่อพ้นวาระไปแล้วขอให้นักธุรกิจทุกคนลืมนายกรัฐมนตรีคนนี้ไปแต่นายกรัฐมนตรีคนนี้จะไม่ลืมทุกคน และเมื่อได้ฟังนายเหวิน เจีย เป่าแล้วรู้สึกว่าพูดมาจากใจจริงและเชื่อมั่นที่จะทำธุรกิจกับจีนต่อไป ซึ่งถ้าจีนสามารถแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนและปัญหาคอร์รัปชั่นได้จะทำให้จีนน่าสนใจมากขึ้น เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นอุปสรรคในการพัฒนาของจีน

นายธนากร กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนชะลอตัวแต่เชื่อว่าแต่ละปีคงขยายตัวไม่ต่ำกว่า 7% จากเดิม 30 ปี ที่ผ่านมาที่ขยายตัวเฉลี่ย 9 % ซึ่งรัฐบาลจีนพยายามสร้างตลาดภายในขึ้นมาและจะส่งผลดีต่อสินค้าส่งออกของไทย โดยจีนยังเป็นตลาดใหญ่ของไทยเพราะเมื่อประชากรมากขึ้นก็ต้องบริโภคสินค้าเกษตรและโปรตีนมากขึ้นจึงเห็นว่านักธุรกิจไทยควรใช้โอกาสนี้ส่งออกไปจีน รวมทั้งส่งเสริมนักธุรกิจจีนให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นจึงมีโอกาสที่ไทยจะเป็นพันธมิตรธุรกิจกับจีนในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจีนมีนโยบายชัดเจนที่จะเข้ามาทำธุรกิจในอาเซียนมากขึ้นและไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนจึงมีโอกาสที่ดี

http://www.suthichaiyoon.com/home/details.php?NewsID=359


จากกระทู้นี้ของผม http://ppantip.com/topic/31072253/comment15 คุณวอนท้วงติงเรื่อง MOU ไทย จีน
เชิญครับ มาดูกันว่าไทยเสียหายตรงใหน ในการทำ MOU  มันเป็นอย่างที่ ชวน เสนอหรือไม่ ใครโดนใครหลอกกันแน่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่