"ยิ่งลักษณ์"แจงเยือนมัลดีฟส์ เซ็นเอ็มโอยู หวังขยายความร่วมมือส่งออกอาหาร-ประมง
วันที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 10:46:08 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน เป็นการเผยแพร่เทปการเดินทางเยือนสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะและนักธุรกิจไทย โดยมีนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินรายการ
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐมัลดีฟส์ว่า เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้เดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ หลังไทย-มัลดีฟส์มีความสัมพันธ์กันมานานถึง 34 ปี โดยระหว่างมัลดีฟส์กับไทยมีความร่วมมือในหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยวที่มีนักธุรกิจไทยมาลงทุนหลายแห่ง และมัลดีฟส์ยังเป็นประเทศคู่ค้าของไทย จากการที่ไทยนำเข้าปลาทูน่า
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุได้มีการลงนามเอ็มโอยู 7 ฉบับ เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ในการหารือการค้าการลงทุนให้มากขึ้นในอนาคต โดยหวังขยายความร่วมมือด้านการส่งออกอาหาร การประมง ความร่วมมือด้านการศึกษา การแพทย์ และสาธารณสุข รวมถึงสินค้าโอท็อป ซึ่งทางประธานาธิบดีของมัลดีฟส์ ก็ให้ความสนใจ และจะขอความร่วมมือในการศึกษารูปแบบการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและภาคเอสเอ็มอี และจากการที่มัลดีฟส์เป็นประเทศเกาะ และได้ให้ภาคเอกชนที่สนใจมาลงทุน มาขอรับสัมปทานสร้างโรงแรม การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำจืด จึงอยากให้มีการลงทุนเรื่องน้ำ รวมถึงการท่องเที่ยว ความมั่นคง และแรงงานไทย
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวอีกว่า ในอนาคตอาจมีการเชื่อมท่าเรือทวาย มาที่มัลดีฟส์ด้วย ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องระบบการขนส่ง ขณะที่ศาลฎีกาของมัลดีฟส์ก็กำลังศึกษาข้อกฎหมายในการปกป้องนักลงทุน รวมถึงการพัฒนาประชาธิปไตย ที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์กำลังจะมีการเลือกตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370662704&grpid=&catid=01&subcatid=0100
ไปมัลดีฟส์เหมือนกัน ได้ผลต่างกัน เป็นครั้งแรกที่ไทยเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ หลังไทย-มัลดีฟส์มีความสัมพันธ์กันกว่า34ปี
วันที่ 08 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 10:46:08 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน เป็นการเผยแพร่เทปการเดินทางเยือนสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะและนักธุรกิจไทย โดยมีนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินรายการ
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงการเดินทางเยือนสาธารณรัฐมัลดีฟส์ว่า เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้เดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ หลังไทย-มัลดีฟส์มีความสัมพันธ์กันมานานถึง 34 ปี โดยระหว่างมัลดีฟส์กับไทยมีความร่วมมือในหลายด้าน เช่น การท่องเที่ยวที่มีนักธุรกิจไทยมาลงทุนหลายแห่ง และมัลดีฟส์ยังเป็นประเทศคู่ค้าของไทย จากการที่ไทยนำเข้าปลาทูน่า
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุได้มีการลงนามเอ็มโอยู 7 ฉบับ เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ในการหารือการค้าการลงทุนให้มากขึ้นในอนาคต โดยหวังขยายความร่วมมือด้านการส่งออกอาหาร การประมง ความร่วมมือด้านการศึกษา การแพทย์ และสาธารณสุข รวมถึงสินค้าโอท็อป ซึ่งทางประธานาธิบดีของมัลดีฟส์ ก็ให้ความสนใจ และจะขอความร่วมมือในการศึกษารูปแบบการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและภาคเอสเอ็มอี และจากการที่มัลดีฟส์เป็นประเทศเกาะ และได้ให้ภาคเอกชนที่สนใจมาลงทุน มาขอรับสัมปทานสร้างโรงแรม การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำจืด จึงอยากให้มีการลงทุนเรื่องน้ำ รวมถึงการท่องเที่ยว ความมั่นคง และแรงงานไทย
นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวอีกว่า ในอนาคตอาจมีการเชื่อมท่าเรือทวาย มาที่มัลดีฟส์ด้วย ซึ่งก็จะช่วยในเรื่องระบบการขนส่ง ขณะที่ศาลฎีกาของมัลดีฟส์ก็กำลังศึกษาข้อกฎหมายในการปกป้องนักลงทุน รวมถึงการพัฒนาประชาธิปไตย ที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์กำลังจะมีการเลือกตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370662704&grpid=&catid=01&subcatid=0100