JJNY : นิด้าเปิดผลสำรวจคนกรุง│BRN ร้องไทย│อุตุนิยมวิทยาใต้ฝั่งตอ.เตือนฝนตกหนัก│แฉรัสเซียระดมทหารเกาหลีเหนือสู้ในเคิร์สก์

นิด้า เปิดผลสำรวจคนกรุงกรณีเก็บค่าธรรมเนียม ‘คัดแยกขยะ-รถติด’
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4954420
 
 
โพลชี้ คนกรุงหนุนค่าธรรมเนียมเก็บขยะตามพฤติกรรมการคัดแยก แต่ค้านเก็บค่าธรรมเนียมรถติดเฉพาะรถเก๋ง
 
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “สองมาตรการใหม่ คน กทม. จะเอาไง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กระจายระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง
 
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของคนกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเก็บขยะในอัตราที่แตกต่างกัน ตามพฤติกรรมการคัดแยกขยะ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.31 ระบุว่า เห็นด้วยมาก รองลงมา ร้อยละ 23.66 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 15.73 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย และร้อยละ 10.30 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย
 
ด้านการรับรู้ของคนกรุงเทพมหานครต่อการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะพร้อมส่งภาพประกอบการคัดแยกขยะ เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมการเก็บขยะต่อเดือนในอัตรา 20 บาท พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 80.76 ระบุว่า ไม่ทราบเลย รองลงมา ร้อยละ 13.21 ระบุว่า พอทราบอยู่บ้าง และร้อยละ 6.03 ระบุว่า ทราบดี
 
สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับการให้ความร่วมมือของคนกรุงเทพมหานครในการเข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 44.81 ระบุว่า ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ รองลงมา ร้อยละ 28.93 ระบุว่า ค่อนข้างให้ความร่วมมือร้อยละ 15.65 ระบุว่า ไม่ให้ความร่วมมือเลย ร้อยละ 9.69 ระบุว่า ให้ความร่วมมือมาก และร้อยละ 0.92 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ด้านความคิดเห็นของคนกรุงเทพมหานครต่อการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติดเฉพาะรถเก๋ง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรและเพื่ออุดหนุนกองทุนซื้อคืนรถไฟฟ้า พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 49.92 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 18.24 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 17.10 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 13.98 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติดในกรุงเทพมหานครตามแนวคิดของกระทรวงคมนาคม พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 55.50 ระบุว่า ไม่ประสบความสำเร็จเลย รองลงมา ร้อยละ 28.47 ระบุว่า ไม่ค่อยประสบความสำเร็จร้อยละ 12.29 ระบุว่า ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ร้อยละ 2.44 ระบุว่า ประสบความสำเร็จมาก และร้อยละ 1.30 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ




ขบวนการ BRN ออกแถลงการณ์เรียกร้องไทยตั้งคณะเจรจาสันติภาพชุดใหม่ โอกาส นายกฯเยือนมาเลเซีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4954344

ขบวนการ BRN ออกแถลงการณ์เรียกร้องไทยตั้งคณะเจรจาสันติภาพชุดใหม่ โอกาส นายกฯเยือนมาเลเซีย
 
เอกสารแถลงข่าวขบวนการ BRN ในโอกาสที่ นายกรัฐมนตรีไทย จะเดินทางเยือนมาเลเซีย โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยิบยกเรื่องการพูดคุยระหว่างไทย กับ BRN ให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้  เอกสารดังกล่าวถูกยกร่างขึ้นโดย องค์กร HumanItalian Dialog (HD) ตามที่เมื่อ 11 ธันวาคม 2567 HD ได้จัดการพบปะระหว่างคณะพูดคุย BRN กับ องค์กร IAIS สถาบัน Think tank มาเลเซีย ซึ่งใกล้ชิดกับ นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ที่กรุงจาการ์ตา เพื่อล็อบบี้ให้ นายกรัฐมนตรี อันวาร์ ขอ นายกรัฐมนตรีไทย เร่งแต่งตั้งคณะพูดคุยฯ
 
แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในวิธีการกดดันให้ไทยเร่งแต่งตั้งคณะพูดคุยชุดใหม่ มีเนื้อหา ต่อไปนี้
 
ขอความสันติสุข ความเมตตา และความเป็นสิริมงคลจากพระองค์อัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน
 
ประชาชนปาตานีต้องประสบความเดือนร้อนจากความขัดแย้งอันยาวนานที่ยังไม่สิ้นสุด และยิ่งไปกว่านั้น ที่ผ่านมายังต้องประสบอุทกภัยอันยิ่งใหญ่สองปีติดต่อกัน ประชาชนปาตานีรักในสันติภาพและต้องการใช้ชีวิตตามปกติ สงบเรียบร้อยดังเช่นชาติอื่น ๆ บนโลกนี้
 
บีอาร์เอ็น ได้แสดงถึงความจริงจังที่ชัดเจนในการแสวงหาแนวทางแก้ไขทางการเมืองเพื่อยุติความขัดแย้งอันยืดยาวที่ปาตานี แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลไทยยังไม่มีความต่อเนื่องในการค้นหาแนวทางแก้ไขทางการเมืองเลย รัฐบาลชุดใหม่ที่นำโดยนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาก็ยังไม่แสดงจุดยืน นโยบาย ความใส่ใจที่ชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลชุดนี้ก็ไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นความขัดแย้งที่ปาตานีเลย นี่เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาคมปาตานีที่ต้องใช้ชีวิตในสภาพที่ไม่ปกติ ท่ามกลางการจำกัดเสรีภาพภายใต้ระบบกฎหมายแบบเผด็จการทหาร การคุกคาม การกดขี่และการละเมิดสิทธิต่าง ๆ
 
กระบวนการเจรจาสันติภาพเริ่มต้นด้วยการลงนามในฉันทามติทั่ว (General Consensus) ไปในปี 2556 และได้รับการต่อยอดด้วยข้อตกลงความริเริ่มเบอร์ลิน (Berlin Initiative) ใน 2562 และหลักการทั่วไป (General Principles) ในปี 2565 ณ ตอนนี้ บีอาร์เอ็นกับรัฐบาลไทยได้ตกลงกันว่า แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม (JCPP) เป็นแผนการสันติภาพที่ครอบคลุมและจะมีการพิจารณาประเด็นรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขทางการเมือง การปรึกษาหารือกับสาธารณะ และการหยุดยิง
 
บีอาร์เอ็นได้แสดงความจริงจังต่อข้อตกลงต่าง ๆ และหวังว่าจะมีการพบปะกันระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยนางสาว แพทองธาร ชินวัตรกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโต๊ะ ซือรี อันวาร์ อิบราฮีม ในอนาคตอันไม่ไกล เพื่อสร้างพลวัตในการสร้างสันติภาพที่ปาตานี สำหรับประชาคมปาตานี และดำเนินนโยบายที่เป็นรูปธรรมและมีนัยสำคัญ แต่หากรัฐบาลไทยมีท่าที่ที่ละเลย (ความสำคัญของความขัดแย้ง) และไม่มีความจริงจังและความจริงใจในการแสวงหาแนวทางแก้ไขสำหรับความขัดแย้ง อาจจะเป็นชนวนสำหรับการต่อต้านของประชาชนปาตานีที่ร้ายแรงกว่า รุนแรงกว่า และไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป
สุดท้ายนี้ บีอาร์เอ็นขอแสดงความชื่นชมต่อความพยายามทุกรูปแบบและบทบาทสำคัญอย่างต่อเนื่องของประชาคมปาตานี นักเคลื่อนไหวสันติภาพ นักการเมือง นักวิชาการ และนักการทูต ไม่ว่าจะเป็นระดับประเทศหรือนานาชาติ ที่ได้ทำงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อสร้างสันติภาพที่ปาตานี
 
ขอขอบคุณ วัสลาม
 
กองเลขาธิการการเจรจาบีอาร์เอ็น



ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศ ฉบับที่ 8 เตือน ฝนตกหนัก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9549036

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศ ฉบับที่ 8 เตือน มรสุมกำลังค่อนข้างแรง ฝนถล่ม 8 จังหวัด ตกหนักถึงหนักมาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก ดินโคลนถล่ม
 
วันที่ 15 ธ.ค.2567 ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศ ฉบับที่ 8 (78/2567) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (ระหว่างวันที่ 15-16 ธันวาคม 2567) ระบุว่า
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่านอ่าวไทยตอนล่าง ภาคใต้ตอนล่าง และประเทศมาเลเซีย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 15-16 ธันวาคม 2567 มีฝนหนักถึงหนักมาก ดังนี้
 
ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศ ฉบับที่ 8 เตือน มรสุมกำลังค่อนข้างแรง ฝนถล่ม 8 จังหวัด ตกหนักถึงหนักมาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก ดินโคลนถล่ม
ช่วงวันที่ 15-16 ธันวาคม 2567 มีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี มีฝนหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
 
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา

คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง
 
ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่