สังเขปมรรค: แนวทางการฝึกปฏิบัติของพระอธิการมนตรี ปภสฺสโร วัดเทพนิมิต
สังเขปมรรค เป็นแนวทางการฝึกปฏิบัติที่พัฒนาโดย พระอธิการมนตรี ปภสฺสโร วัดเทพนิต ซึ่งมุ่งเน้นการฝึก ๓ ส ได้แก่ สติ สัมปชัญญะ และสมาธิ โดยไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ให้ความสำคัญกับ กระบวนการรู้ ตื่น เบิกบาน เพื่อให้สามารถนำไปใช้กับอารมณ์ที่กระทบจิตได้อย่างเป็นระบบ
๑. การเริ่มต้นฝึกด้วย “คณนารมณ์”
แนวทางนี้เริ่มจาก การนับการรู้อารมณ์ที่กระทบจิต หรือที่เรียกว่า “คณนารมณ์” ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เกิด สติรู้ตัวทั่วพร้อม และพัฒนา สัมปชัญญะ เพื่อป้องกันไม่ให้อารมณ์ที่กระทบจิตส่งผลรุนแรงจนเกิดความทุกข์
การนับอารมณ์นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการรู้ว่ามีอารมณ์เกิดขึ้น แต่เป็นการฝึกให้เห็นว่า จิตได้รับผลกระทบจากอารมณ์เหล่านั้นอย่างไร และสามารถ ตั้งอยู่ในสมดุล ได้มากน้อยแค่ไหน
๒. การฝึกสมาธิเพื่อความสงบและปลอดโปร่ง
ในสังเขปมรรค สมาธิไม่ได้หมายถึงการเพ่งจิตให้นิ่งเฉยเท่านั้น แต่เป็นการฝึกให้จิตมี เสถียรภาพ และ คล่องตัว ในการรับรู้อารมณ์ที่เข้ามากระทบโดยไม่ถูกดูดกลืนเข้าไป การฝึกสมาธิในแนวทางนี้จึงเป็นการ ฝึกให้จิตตั้งมั่น แต่ไม่ยึดติด ทำให้เกิดความรู้สึก ปลอดโปร่ง โล่ง เบา ซึ่งเป็นภาวะที่เหมาะสมในการเห็นธรรม
๓. การใช้เครื่องนับหรือประคำเพื่อเสริมการฝึก
เพื่อให้สามารถ ติดตามสภาวะจิต และ ฝึกสติสัมปชัญญะ ได้อย่างต่อเนื่อง บางครั้งอาจใช้ เครื่องนับ หรือประคำ ในการช่วยสังเกต จังหวะของอารมณ์และความคิด ที่เกิดขึ้น การใช้เครื่องมือเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการยึดติดกับวัตถุภายนอก แต่เป็น เครื่องมือที่ช่วยให้การฝึกมีความเป็นระบบ และสามารถ สังเกตความเปลี่ยนแปลงของจิต ได้ง่ายขึ้น
๔. เป้าหมายของสังเขปมรรค: รู้ตัวและปล่อยวาง
โดยสรุป สังเขปมรรค เป็นแนวทางที่ ผสมผสานการฝึกสติ สัมปชัญญะ และสมาธิ เพื่อให้เกิด การรู้ตัวทั่วพร้อม และ การปล่อยวางอารมณ์ที่มากระทบจิต ไม่ใช่เพียงแค่การเฝ้าดูอารมณ์อย่างเฉยเมย แต่เป็นการ เห็นอย่างเข้าใจ และสามารถ วางลงได้เองโดยธรรมชาติ
แนวทางนี้สามารถนำมาใช้ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับอารมณ์ หรือการฝึกปฏิบัติทางจิตอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ พระอธิการมนตรี ปภสฺสโร ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับ ธรรมชาติของจิตและการปฏิบัติในยุคปัจจุบัน
สังเขปมรรคกัมมัฏฐาน
สังเขปมรรค เป็นแนวทางการฝึกปฏิบัติที่พัฒนาโดย พระอธิการมนตรี ปภสฺสโร วัดเทพนิต ซึ่งมุ่งเน้นการฝึก ๓ ส ได้แก่ สติ สัมปชัญญะ และสมาธิ โดยไม่ยึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ให้ความสำคัญกับ กระบวนการรู้ ตื่น เบิกบาน เพื่อให้สามารถนำไปใช้กับอารมณ์ที่กระทบจิตได้อย่างเป็นระบบ
๑. การเริ่มต้นฝึกด้วย “คณนารมณ์”
แนวทางนี้เริ่มจาก การนับการรู้อารมณ์ที่กระทบจิต หรือที่เรียกว่า “คณนารมณ์” ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เกิด สติรู้ตัวทั่วพร้อม และพัฒนา สัมปชัญญะ เพื่อป้องกันไม่ให้อารมณ์ที่กระทบจิตส่งผลรุนแรงจนเกิดความทุกข์
การนับอารมณ์นี้ ไม่ได้เป็นเพียงการรู้ว่ามีอารมณ์เกิดขึ้น แต่เป็นการฝึกให้เห็นว่า จิตได้รับผลกระทบจากอารมณ์เหล่านั้นอย่างไร และสามารถ ตั้งอยู่ในสมดุล ได้มากน้อยแค่ไหน
๒. การฝึกสมาธิเพื่อความสงบและปลอดโปร่ง
ในสังเขปมรรค สมาธิไม่ได้หมายถึงการเพ่งจิตให้นิ่งเฉยเท่านั้น แต่เป็นการฝึกให้จิตมี เสถียรภาพ และ คล่องตัว ในการรับรู้อารมณ์ที่เข้ามากระทบโดยไม่ถูกดูดกลืนเข้าไป การฝึกสมาธิในแนวทางนี้จึงเป็นการ ฝึกให้จิตตั้งมั่น แต่ไม่ยึดติด ทำให้เกิดความรู้สึก ปลอดโปร่ง โล่ง เบา ซึ่งเป็นภาวะที่เหมาะสมในการเห็นธรรม
๓. การใช้เครื่องนับหรือประคำเพื่อเสริมการฝึก
เพื่อให้สามารถ ติดตามสภาวะจิต และ ฝึกสติสัมปชัญญะ ได้อย่างต่อเนื่อง บางครั้งอาจใช้ เครื่องนับ หรือประคำ ในการช่วยสังเกต จังหวะของอารมณ์และความคิด ที่เกิดขึ้น การใช้เครื่องมือเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการยึดติดกับวัตถุภายนอก แต่เป็น เครื่องมือที่ช่วยให้การฝึกมีความเป็นระบบ และสามารถ สังเกตความเปลี่ยนแปลงของจิต ได้ง่ายขึ้น
๔. เป้าหมายของสังเขปมรรค: รู้ตัวและปล่อยวาง
โดยสรุป สังเขปมรรค เป็นแนวทางที่ ผสมผสานการฝึกสติ สัมปชัญญะ และสมาธิ เพื่อให้เกิด การรู้ตัวทั่วพร้อม และ การปล่อยวางอารมณ์ที่มากระทบจิต ไม่ใช่เพียงแค่การเฝ้าดูอารมณ์อย่างเฉยเมย แต่เป็นการ เห็นอย่างเข้าใจ และสามารถ วางลงได้เองโดยธรรมชาติ
แนวทางนี้สามารถนำมาใช้ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการรับมือกับอารมณ์ หรือการฝึกปฏิบัติทางจิตอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นหลักธรรมที่ พระอธิการมนตรี ปภสฺสโร ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับ ธรรมชาติของจิตและการปฏิบัติในยุคปัจจุบัน