เริ่มแบบสั้นๆตอนนี้ตัวผมเองก็17ปีแล้วครับ
เรื่องความเครียด คือมีหลายปัจจัยที่ทำให้ตัวผมค่อนข้างที่จะเครียดสะสมพอสมควร เกี่ยวกับด้านสุขภาพ จิตใจ ไปจนถึงปัญหาชีวิตในสังคมภายนอก
คือต้องบอกว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวอยู่คนเดียว เพราะติดนิสัยมาในตอนโควิดที่ออกไปไหนไม่ได้นั่นแหละครับ จึงกลายเป็นคนที่กล้าๆกลัวๆเวลาจะพูดกับคนอื่น โดยเดิมทีแต่แรกผมก็เป็นเด็กขี้อายที่มักจะโดนแกล้งมาก่อนแล้วอะไรแบบนั้นครับ
คือต้องบอกว่าผมก็พึ่งสังเกตุปัญหาหลายๆอย่างที่คนอื่นๆก็อาจจะเจอเหมือนกันเลย คือผมไม่เคยได้สัมผัสกับความอบอุ่นจากพ่อแม่เลยครับ
เนื่อกจากพวกเขาหย่ากันตั้งแต่ที่ผมยังเด็กๆเลย อีกทั้งแม่ผมก็ไปทำงานที่ต่างพระเทศ เรียกได้ว่าผมสามารถนับครั้งได้ว่าผมเจอกับแม่ตัวเองได้เลยแหละครับ แต่อันนี้ผมเข้าใจได้ว่าเขาทำงานหาเงินอ่ะเนอะ และถึงอย่างนั้นครอบครัวผมก็เป็นครอบครัวที่ดีเลยแหละ ส่วนใหญ่เขาไม่ได้คิดจะด่าหรือทำร้ายแบบไร้เหตุผล
อีกจุดเลยคือ ผมไม่มีเพื่อนนั่นแหละครับ ทั้งจะในชีวิตจริงไปจนถึงในโซเซียล เรียกได้ว่าในชีวิตประจำวันผมไม่มีโอกาสได้ทำอะไรสนุกๆเหมือนกับคนอื่นๆเลย หรือจะในการพูดคุยผมก็ไม่มีคนร่วมพูดเรื่องไร้สาระหรือการระบายเรื่องต่างๆ จึงได้แต่เก็บไว้ในใจแค่นั้น
ในเรื่องความเครียดนั้น ก็มาจากสุขภาพผมที่ค่อนข้างจะอ่อนแอระดับนึง ที่สังเกตุได้ชัดคือในตอนเด็กผมเป็นคนที่เข้าโรงบาลเป็นว่าเล่นเลยเเหละครับเพราะป่วยง่ายมากๆ จนตอนนี้เรียกได้ว่ากลายเป็นภูมิคุ้มกันแล้วมั้งครับเพราะแทบจะไม่ป่วยเลย
ด้านจิตใจคือในตอนเด็กผมก็จะมักจะเจอกับเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัวและทำร้ายจิตใจได้เลย ในหลายๆครั้งผมมักจะพบเจอกับเรื่องอุบัติเหตุตรงหน้าเลยก็มี จนแทบจะซึมซับจนเป็นภาพติดตาเลยอะไรแบบนี้ ทำให้ผมเป็นคนขี้กลัวเลย
เรื่องโรคซึมเศร้าอันนี้ผมได้ไปตรวจมาแล้วประมาณ3-4ครั้ง ก็คือผมเป็นโรคซึมเศร้าในระดับที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
แต่ว่าเรื่องนี้จะเรียกว่าโชคดีหรืออะไรแบบนั้นก็ได้ครับ เพราะผมนั้นเป็นพวกที่มีนิสัยบ้าๆบอและหัวเราะ บ้าจี้ได้ง่าย บวกกับคิดอะไรหลายๆอย่างได้ด้วยเหตุผล กลายเป็นว่าส่วนใหญ่ในกิจวัตรประจำวันผมมักจะ วาดรูป ฟังเพลง และดูยูทูป เพื่อหาความสุข อย่างการดู ยูทูป หรือการ์ตูน ผมก็เจอกับช่องที่มอบความสุขให้ผมแบบสุดๆ พร้อมกับการ์ตูน ที่มันสามารถเปลี่ยนชีวืตผมให้เป็นคนละคนเลยหลังจากนั้น คือผมกล้าพูดได้เต็มปากแบบไม่อายเลยว่ามันช่วยชีวีตผมในตอนนั้นจริงๆ
แต่ว่าก็นั่นแหละครับปัญหาที่เจอในตอนนี้ก็คือความเครียดสะสม การฟังเพลง ดูยูทูป อะไรสักอย่างที่ถ้าผมไม่ได้ทำมันสักอย่าง หัวผมก็มันจะแล่นแต่ความคิดลบๆออกมาซึ่งผมก็พึ่งจะมีปัญหาไม่กี่ปีนี่แหละ ก็คือ ผมหยุดคิดไม่ได้ ผมที่พยายามจะคิดเรื่องอื่นแต่มันก็จะวนกับมาแต่เรื่องเดิมซ้ำๆ ซึ่งพอเป็นแบบนั้นในวันนั้นจะเป็นวันที่ผมซึมและไม่มีแรงจะทำอะไรเลยแหละครับ จึงเป็นสาเหตุที่ปัจจุบันผมต้องหาอะไรที่มันต้องอยู่ในด้านดีๆหรือผ่อนคลายไว้อยู่เสมเพื่อไม่ให้อารมณ์ผมมันระเบิดออกมา ซึ่งมันก็เป็นอารมณ์ลึกๆในใจที่ถ้าผมไม่พยายามคิดถึง มันก็พอจะช่วยผมได้ประมาณนึงเลยครับ
ปล. อันนี้เป็นคำถามที่ผมสงสัยครับว่าตัวเองอาจจะมีปัญหาในด้านอารมณ์รึป่าว คือในแต่ละวันถ้าผมมีความสุขปุ๊บก็คือจะทำตัวบ้าๆบอๆไปเลย แต่พอบางวันจะซึมปุ๊บ ก็พลีกหน้ามือเป็นหลังมือเลย คิดเรื่องอดีตซ้ำๆทั้งจะไม่มีแรงจนไม่มีอันจะทำอะไร อดร้องไห้ไม่ได้ด้วย มันก็วนไปมาซ้ำๆแบบนี้เลยครับ
ควรแก้ปัญหาในด้านความเครียดยังไงดีครับ
เรื่องความเครียด คือมีหลายปัจจัยที่ทำให้ตัวผมค่อนข้างที่จะเครียดสะสมพอสมควร เกี่ยวกับด้านสุขภาพ จิตใจ ไปจนถึงปัญหาชีวิตในสังคมภายนอก
คือต้องบอกว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวอยู่คนเดียว เพราะติดนิสัยมาในตอนโควิดที่ออกไปไหนไม่ได้นั่นแหละครับ จึงกลายเป็นคนที่กล้าๆกลัวๆเวลาจะพูดกับคนอื่น โดยเดิมทีแต่แรกผมก็เป็นเด็กขี้อายที่มักจะโดนแกล้งมาก่อนแล้วอะไรแบบนั้นครับ
คือต้องบอกว่าผมก็พึ่งสังเกตุปัญหาหลายๆอย่างที่คนอื่นๆก็อาจจะเจอเหมือนกันเลย คือผมไม่เคยได้สัมผัสกับความอบอุ่นจากพ่อแม่เลยครับ
เนื่อกจากพวกเขาหย่ากันตั้งแต่ที่ผมยังเด็กๆเลย อีกทั้งแม่ผมก็ไปทำงานที่ต่างพระเทศ เรียกได้ว่าผมสามารถนับครั้งได้ว่าผมเจอกับแม่ตัวเองได้เลยแหละครับ แต่อันนี้ผมเข้าใจได้ว่าเขาทำงานหาเงินอ่ะเนอะ และถึงอย่างนั้นครอบครัวผมก็เป็นครอบครัวที่ดีเลยแหละ ส่วนใหญ่เขาไม่ได้คิดจะด่าหรือทำร้ายแบบไร้เหตุผล
อีกจุดเลยคือ ผมไม่มีเพื่อนนั่นแหละครับ ทั้งจะในชีวิตจริงไปจนถึงในโซเซียล เรียกได้ว่าในชีวิตประจำวันผมไม่มีโอกาสได้ทำอะไรสนุกๆเหมือนกับคนอื่นๆเลย หรือจะในการพูดคุยผมก็ไม่มีคนร่วมพูดเรื่องไร้สาระหรือการระบายเรื่องต่างๆ จึงได้แต่เก็บไว้ในใจแค่นั้น
ในเรื่องความเครียดนั้น ก็มาจากสุขภาพผมที่ค่อนข้างจะอ่อนแอระดับนึง ที่สังเกตุได้ชัดคือในตอนเด็กผมเป็นคนที่เข้าโรงบาลเป็นว่าเล่นเลยเเหละครับเพราะป่วยง่ายมากๆ จนตอนนี้เรียกได้ว่ากลายเป็นภูมิคุ้มกันแล้วมั้งครับเพราะแทบจะไม่ป่วยเลย
ด้านจิตใจคือในตอนเด็กผมก็จะมักจะเจอกับเรื่องที่ค่อนข้างน่ากลัวและทำร้ายจิตใจได้เลย ในหลายๆครั้งผมมักจะพบเจอกับเรื่องอุบัติเหตุตรงหน้าเลยก็มี จนแทบจะซึมซับจนเป็นภาพติดตาเลยอะไรแบบนี้ ทำให้ผมเป็นคนขี้กลัวเลย
เรื่องโรคซึมเศร้าอันนี้ผมได้ไปตรวจมาแล้วประมาณ3-4ครั้ง ก็คือผมเป็นโรคซึมเศร้าในระดับที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
แต่ว่าเรื่องนี้จะเรียกว่าโชคดีหรืออะไรแบบนั้นก็ได้ครับ เพราะผมนั้นเป็นพวกที่มีนิสัยบ้าๆบอและหัวเราะ บ้าจี้ได้ง่าย บวกกับคิดอะไรหลายๆอย่างได้ด้วยเหตุผล กลายเป็นว่าส่วนใหญ่ในกิจวัตรประจำวันผมมักจะ วาดรูป ฟังเพลง และดูยูทูป เพื่อหาความสุข อย่างการดู ยูทูป หรือการ์ตูน ผมก็เจอกับช่องที่มอบความสุขให้ผมแบบสุดๆ พร้อมกับการ์ตูน ที่มันสามารถเปลี่ยนชีวืตผมให้เป็นคนละคนเลยหลังจากนั้น คือผมกล้าพูดได้เต็มปากแบบไม่อายเลยว่ามันช่วยชีวีตผมในตอนนั้นจริงๆ
แต่ว่าก็นั่นแหละครับปัญหาที่เจอในตอนนี้ก็คือความเครียดสะสม การฟังเพลง ดูยูทูป อะไรสักอย่างที่ถ้าผมไม่ได้ทำมันสักอย่าง หัวผมก็มันจะแล่นแต่ความคิดลบๆออกมาซึ่งผมก็พึ่งจะมีปัญหาไม่กี่ปีนี่แหละ ก็คือ ผมหยุดคิดไม่ได้ ผมที่พยายามจะคิดเรื่องอื่นแต่มันก็จะวนกับมาแต่เรื่องเดิมซ้ำๆ ซึ่งพอเป็นแบบนั้นในวันนั้นจะเป็นวันที่ผมซึมและไม่มีแรงจะทำอะไรเลยแหละครับ จึงเป็นสาเหตุที่ปัจจุบันผมต้องหาอะไรที่มันต้องอยู่ในด้านดีๆหรือผ่อนคลายไว้อยู่เสมเพื่อไม่ให้อารมณ์ผมมันระเบิดออกมา ซึ่งมันก็เป็นอารมณ์ลึกๆในใจที่ถ้าผมไม่พยายามคิดถึง มันก็พอจะช่วยผมได้ประมาณนึงเลยครับ
ปล. อันนี้เป็นคำถามที่ผมสงสัยครับว่าตัวเองอาจจะมีปัญหาในด้านอารมณ์รึป่าว คือในแต่ละวันถ้าผมมีความสุขปุ๊บก็คือจะทำตัวบ้าๆบอๆไปเลย แต่พอบางวันจะซึมปุ๊บ ก็พลีกหน้ามือเป็นหลังมือเลย คิดเรื่องอดีตซ้ำๆทั้งจะไม่มีแรงจนไม่มีอันจะทำอะไร อดร้องไห้ไม่ได้ด้วย มันก็วนไปมาซ้ำๆแบบนี้เลยครับ