ตอนเช้า
มิกมี่ตื่นขึ้นมาเห็นแม่กำลังหลับอยู่บนเตียงเยื่อไม้ มิกมี่ค่อยๆ ดันตัวออกมาจากถุงใยบวบ แล้วย่องมาหาลิลี่ที่ถุงข้างๆ เมื่อลิลี่มองตาแป๋ว นิ้วอันเล็กจิ๋วของมิกมี่ก็ชี้ลงล่าง
ในเวลาต่อมามิกมี่และลิลี่ก็ย่องออกจากโพรงไม้ที่11 มุ่งไปสู่ตลาดในหมู่บ้านกิ่งที่33
ตลาด33/4 เป็นศูนย์รวมของกินของหมู่บ้าน นอกจากเผ่าพันธุ์ของมิกมี่แล้ว ยังมีเผ่าอื่นๆ ทั้งเผ่าสี่ขา เอวคอด ปีกบาง สีทอง ตัวแบน ลอยน้ำ และอีกมาก
มิกมี่จูงลิลี่ไปซื้ออาหาร น้ำ และของกินเล่นต่างๆ โดยทุกเกล็ดที่จ่ายไปล้วนมาจากของป่าที่มิกมี่กับลิลี่หามาเอง
เมื่อได้ของที่ต้องการครบแล้วมิกมี่กับลิลี่ก็กลับไปยังโพรงไม้ที่11เก็บอาหารและน้ำส่วนใหญ่ไว้ เหลือแต่ของกินเล่นและเสบียงบางส่วน
แล้วมิกมี่จึงพาลิลี่ออกเดินทางไปยังโคนต้น ที่มีทหารอารักขาคอยคุ้มครองป้องกันอย่างหนาแน่น
เมื่อเดินทางมาถึงโคนต้นและรับทราบข่าวสารต่างๆ และข้อห้ามแล้ว มิกมี่กับลิลี่จึงเดินทางไปยังป่าส่วนที่ลึกกว่าที่เคยสำรวจ แต่ห่างจากป่าต้องห้ามพอสมควร
ลิลี่เป็นอัฉริยะนักแกะรอย ถ้าเป็นในป่าต้องยกให้ลิลี่นำ ส่วนมิกมี่จะมองหาของป่าที่ราคาดี เรื่องพวกนี้มิกมี่ชำนาญนัก
เมื่อเวลาผ่านไป มิกมี่กับลิลี่ก็เก็บของสำคัญอย่างไม้เพลิงได้หลายท่อน ลิลี่จึงทำเครื่องหมายไว้ที่พื้น และพักกินอาหารกับน้ำ แล้วเคี้ยวของกินเล่นอย่างอร่อย
ลิลี่เห็นบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนเนิน จึงพามิกมี่ไปดู
และเมื่อทั้งคู่มาถึงก็ได้เห็นสิ่งประหลาดที่ไม่เคยพบมาก่อน มิกมี่จึงเดินไปดูใกล้ๆ ด้วยความอยากรู้
ทันใดนั้น ระยางค์สีเขียวก็โจมตีมิกมี่อย่างรวดเร็วและรัดพันมิกมี่ไว้แล้วส่งไปเข้าฝักสีแดงเพื่อจัดการขั้นสุดท้าย
พอลิลี่ได้สติก็รีบวิ่งไปบอกทหารอารักขาด่วนจี๋
®
แล้วลิลี่ก็นำทาง พาทหารฝูงหนึ่งมาที่ถั่วแดงอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
เมื่อลิลี่ชี้นิ้วเล็กๆ ไปที่เป้าหมาย ฝูงทหารจึงพุ่งเข้าไปโจมตีถั่วแดงอย่างไม่หยุดหย่อน จนถั่วแดงต้องคลายฝักออก และหนีเข้าป่าดำ...ป่าต้องห้าม!
แต่สิ่งที่คลายออกมาจากฝักถั่วแดงกลับเป็นสิ่งที่ดูไม่ออก ว่าเป็นเศษซากของอะไร.....
ขณะที่ทหารและลิลี่กำลังไว้อาลัย ก็พบกับเผ่าตัวสูงกำลังแบกน้ำมาทางนี้
หลังจากสื่อสารกันแล้ว ฝูงทหารอยากซื้อน้ำที่ตัวสูงแบกมา จึงให้ตัวสูงร่วมทางไปด้วย และบอกว่าถ้าตัวสูงแบกน้ำมาอีกบ่อยๆ จะได้แลกเกล็ดเยอะๆ ไว้ซื้อโพรงสวยๆ เตียงเยื่อไม้นุ่มๆๆ ได้เลย......
แล้วชีวิตประจำวันในโลกใบน้อยของทุกเผ่าที่นี่ก็ผ่านไปอีกวัน......
อีกมุมหนึ่งในป่า
ช่วงเวลาก่อนหน้านั้น ®
มิกมี่พยายามสื่อสารกับถั่วแดงผ่านเยื่อบางๆ ว่ามิกมี่มีน้ำในกระบอกถ้าถั่วแดงอยากได้น้ำ มิกมี่จะไปหยิบมาให้ ถั่วแดงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงคลายมิกมี่ออกจากฝัก แต่ มิกมี่ถูกฝักถั่วแดงรัดมาระยะหนึ่ง มิกมี่จึงมีรูปร่างที่ลีบยาว แต่มิกมี่ก็ไปเอากระบอกบรรจุน้ำมาให้ถั่วแดง
ถั่วแดงใช้ระยางค์ดูดน้ำในกระบอกดอกไม้จนหมด แต่ก็ยังไม่พอถั่วแดงจึงสื่อสารให้มิกมี่เข้าไปในป่าดำ ไปเอาน้ำในป่าดำมาให้ถั่วแดง
มิกมี่เข้าไปในป่าดำ เผ่าตัวลายเห็นเข้าจึงรีบถอยเปิดทางให้มิกมี่ผ่านไปได้อย่างสะดวก ดูเหมือนว่าพวกตัวลายจะกลัวมิกมี่เอามากๆ
มิกมี่เข้าไปถึงบึงน้ำแล้วดื่มน้ำจนเต็มท้อง แต่แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
มิกมี่รู้สึกว่าความแข็งแรงของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลรวมทั้งสามารถสร้างเยื่อบางๆ แต่เหนียวจากร่างกายของตัวเองได้ด้วย
มิกมี่จึงสร้างเยื่อบางใสขึ้นเป็นแผ่นใหญ่ ห่อหุ้มน้ำไว้ภายในและแบกมันกลับไปหาถั่วแดง
มิกมี่คิดถึงลิลี่และแม่ แต่ก็ไม่สามารถกลับไปได้อีกแล้ว มิกมี่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเหลือเกิน......ต่อไปนี้ไม่มีมิกมี่อีกแล้ว......มีแต่มิก.....ผู้แบกน้ำ......
แล้วมิกก็เจอลิลี่......
โลกใหม่ในมุมเดิมก็ดำเนินไปในลักษณะนี้
มิกแลกน้ำเป็นเกล็ดได้จำนวนหนึ่ง แล้วจึงสร้างเยื่อที่หนาเป็นพิเศษให้ออกมาในรูปถุงเล็กๆ ติดไว้ที่ข้างตัวเพิ่อเก็บเกล็ดทั้งหมดไว้ ส่วนถุงที่แบกน้ำมาก็ม้วนติดไว้ที่ด้านหลัง
มิกเดินออกมาจากโรงแรม จ่ายค่าที่พักไปสามเกล็ด เดินมาที่ลานตรงปลายกิ่งที่42 ซึ่งเป็นท่าอากาศสำหรับเผ่าที่บิน หรือร่อนได้ พวกมีปีกที่จับกลุ่มสนทนากันก็หยุดคุย หันจับตามองเผ่าตัวสูงกันหมด
มิกเดินขึ้นไปที่ชั้นบนแล้วกระโดดลงมา ถุงที่ม้วนอยู่ก็เริ่มแผ่และพองออกเป็นบอลลูน พามิกลงมาที่ชั้นล่างโดยสวัสดิภาพ
ภาพจากมุมสูงแจ่มชัดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าทุกอย่างเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ น้ำจากบึงในป่าดำน่าจะมีส่วนอยู่ไม่น้อย
มิกถลาลงมาจากลาน ถุงใบใหญ่กินลมเต็มที่ พาร่างค่อยๆ ลดระดับลงมาเรื่อยๆ
ในมุมหนึ่งของสายตา เงาร่างของลิลี่ปรากฏท่ามกลางผู้คนมากหลาย แม้จะไม่หันไปมอง แต่มิกก็แน่ใจว่าลิลี่จะยังมีชีวิตที่เข้มแข็งต่อไป
สายลมพัดโชย พามิกที่กำลังละล่องออกไปไกลจากต้นไม้ใหญ่ทุกขณะ
เสียงกระพือปีกดังมาจากด้านบน เผ่ามีปีกนั่นเองที่ตามมาดู แต่จู่ๆ ก็เข้ามาโฉบถุงพองลมของมิกจนเกิดรูรั่ว นั่นทำให้มิกโกรธมาก
เผ่ามีปีกที่ส่อเจตตาร้าย บินโฉบเข้ามาอีกครั้ง แต่พลาด เพราะมิกไล่ลมออกโดยม้วนให้ถุงมีขนาดที่เล็กลง และปล่อยเยื่อให้ออกเป็นเส้นเหนียวๆ แต่แข็งแรง
เมื่อเผ่ามีปีกโฉบเข้ามาเป็นครั้งที่สาม ก็พบว่ามีอะไรบางอย่างแหวกอากาศมาด้วยความเร็วสูงและตัดปีกข้างหนึ่งขาด ส่งผลให้ร่างนั้นร่วงลงไปยังป่าดำในที่สุด
มิกม้วนเก็บเส้นนั้นไว้ที่เอวอีกด้านแล้วขยายถุงออกจนกระทั่งกลับมากินลมเต็มที่อีกครั้ง แต่รอยขาดก็เริ่มฉีกออกเรื่อยๆ ทีละน้อย
แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ มิกก็ปล่อยเยื่อออกมาเป็นแผ่นใหญ่ ห่อหุ้มถุงเดิมเอาไว้ได้ในที่สุด ภาพข้างล่างบ่งบอกว่ากำลังจะออกจากเขตป่าดำแล้ว
และเข้าสู่เขตหนองน้ำที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่สุดสายตา
ปกติแล้วมิกมี่จะเดินตามลิลี่เสมอ ยกเว้นครั้งนี้ที่ต่างไป
สายลมโชยพัดขึ้นมาจากด้านล่าง ทำให้มิกลอยสูงขึ้นกว่าเดิม ข้างหน้ามองเห็นเงามืดครึ้มของบางสิ่งบางอย่าง
ยิ่งเข้าใกล้สิ่งนั้น สายลมก็ยิ่งโหมพัด มิกจึงจำใจต้องม้วนเยื่อให้เล็กลง เพื่อลดแรงปะทะในการเข้าหาสิ่งนั้น
และเมื่อเห็นชัดตา ว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าก็คือหน้าผาหิน และต้นไม้ใหญ่รูปร่างแปลกตา สายลมก็โหมกระหน่ำในระดับที่น่ากลัว หากเป็นมิกมี่คนเดิมร่างคงแหลกในสี่สุด
แต่นี่คือมิก และมิกม้วนพันเยื่อนั้นไว้กับปลายเส้น ปิดรูอากาศเข้าออก และตวัดเส้นไปข้างหน้า จะกระทั่งกระทบหน้าผา
มิกที่ตามมาถึงก็เหยียบเยื่อที่หุ้มอากาศนั้นไว้ อาศัยแรงดีดสะท้อนม้วนตัวไปข้างหน้า สบัดเส้นที่หลุดจากเยื่อม้วนพันกิ่งสีเทาไว้ และดึงตัวข้ามขอบผามาได้
อีกฟากหนึ่งของขอบผา
สายลมโชยอ่อนๆ ต้นอ้อโอนเอน ใบไม้พลิ้วไหว ทุ่งหญ้าเขียวขจี ลำธารสายน้อยทอดตัวกลางหุบเขา ในขณะที่พายุกระหน่ำอยู่ด้านหลัง
ชายหนุ่มตื่นขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเข้ามาในห้อง เขาควานหามือถือเพื่อที่จะจดบางส่วนของความฝันไว้ แม้ครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่การเฝ้าดู แต่เขากลับมีความรู้สึกพิเศษต่อมิกมี่อย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
* ไม้เพลิง คือไม้ขีดไฟ
* กระบอกน้ำ คือ น้ำหวานในดอกไม้
* มิกมี่และลิลี่น่าจะเป็นแมลง แต่จริงๆ แล้วก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ในความฝันก็ไม่ได้อธิบายไว้ด้วย ว่านี่คือแมลงนะ แค่รับรู้ว่านี่คือมิกมี่
ฉบับแก้ไข จากมู้นี้
https://ppantip.com/topic/38778346?sc=NX554vz
โลกใหม่ในมุมเดิม (ฉบับแก้ไข)
มิกมี่ตื่นขึ้นมาเห็นแม่กำลังหลับอยู่บนเตียงเยื่อไม้ มิกมี่ค่อยๆ ดันตัวออกมาจากถุงใยบวบ แล้วย่องมาหาลิลี่ที่ถุงข้างๆ เมื่อลิลี่มองตาแป๋ว นิ้วอันเล็กจิ๋วของมิกมี่ก็ชี้ลงล่าง
ในเวลาต่อมามิกมี่และลิลี่ก็ย่องออกจากโพรงไม้ที่11 มุ่งไปสู่ตลาดในหมู่บ้านกิ่งที่33
ตลาด33/4 เป็นศูนย์รวมของกินของหมู่บ้าน นอกจากเผ่าพันธุ์ของมิกมี่แล้ว ยังมีเผ่าอื่นๆ ทั้งเผ่าสี่ขา เอวคอด ปีกบาง สีทอง ตัวแบน ลอยน้ำ และอีกมาก
มิกมี่จูงลิลี่ไปซื้ออาหาร น้ำ และของกินเล่นต่างๆ โดยทุกเกล็ดที่จ่ายไปล้วนมาจากของป่าที่มิกมี่กับลิลี่หามาเอง
เมื่อได้ของที่ต้องการครบแล้วมิกมี่กับลิลี่ก็กลับไปยังโพรงไม้ที่11เก็บอาหารและน้ำส่วนใหญ่ไว้ เหลือแต่ของกินเล่นและเสบียงบางส่วน
แล้วมิกมี่จึงพาลิลี่ออกเดินทางไปยังโคนต้น ที่มีทหารอารักขาคอยคุ้มครองป้องกันอย่างหนาแน่น
เมื่อเดินทางมาถึงโคนต้นและรับทราบข่าวสารต่างๆ และข้อห้ามแล้ว มิกมี่กับลิลี่จึงเดินทางไปยังป่าส่วนที่ลึกกว่าที่เคยสำรวจ แต่ห่างจากป่าต้องห้ามพอสมควร
ลิลี่เป็นอัฉริยะนักแกะรอย ถ้าเป็นในป่าต้องยกให้ลิลี่นำ ส่วนมิกมี่จะมองหาของป่าที่ราคาดี เรื่องพวกนี้มิกมี่ชำนาญนัก
เมื่อเวลาผ่านไป มิกมี่กับลิลี่ก็เก็บของสำคัญอย่างไม้เพลิงได้หลายท่อน ลิลี่จึงทำเครื่องหมายไว้ที่พื้น และพักกินอาหารกับน้ำ แล้วเคี้ยวของกินเล่นอย่างอร่อย
ลิลี่เห็นบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนเนิน จึงพามิกมี่ไปดู
และเมื่อทั้งคู่มาถึงก็ได้เห็นสิ่งประหลาดที่ไม่เคยพบมาก่อน มิกมี่จึงเดินไปดูใกล้ๆ ด้วยความอยากรู้
ทันใดนั้น ระยางค์สีเขียวก็โจมตีมิกมี่อย่างรวดเร็วและรัดพันมิกมี่ไว้แล้วส่งไปเข้าฝักสีแดงเพื่อจัดการขั้นสุดท้าย
พอลิลี่ได้สติก็รีบวิ่งไปบอกทหารอารักขาด่วนจี๋
®
แล้วลิลี่ก็นำทาง พาทหารฝูงหนึ่งมาที่ถั่วแดงอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
เมื่อลิลี่ชี้นิ้วเล็กๆ ไปที่เป้าหมาย ฝูงทหารจึงพุ่งเข้าไปโจมตีถั่วแดงอย่างไม่หยุดหย่อน จนถั่วแดงต้องคลายฝักออก และหนีเข้าป่าดำ...ป่าต้องห้าม!
แต่สิ่งที่คลายออกมาจากฝักถั่วแดงกลับเป็นสิ่งที่ดูไม่ออก ว่าเป็นเศษซากของอะไร.....
ขณะที่ทหารและลิลี่กำลังไว้อาลัย ก็พบกับเผ่าตัวสูงกำลังแบกน้ำมาทางนี้
หลังจากสื่อสารกันแล้ว ฝูงทหารอยากซื้อน้ำที่ตัวสูงแบกมา จึงให้ตัวสูงร่วมทางไปด้วย และบอกว่าถ้าตัวสูงแบกน้ำมาอีกบ่อยๆ จะได้แลกเกล็ดเยอะๆ ไว้ซื้อโพรงสวยๆ เตียงเยื่อไม้นุ่มๆๆ ได้เลย......
แล้วชีวิตประจำวันในโลกใบน้อยของทุกเผ่าที่นี่ก็ผ่านไปอีกวัน......
อีกมุมหนึ่งในป่า
ช่วงเวลาก่อนหน้านั้น ®
มิกมี่พยายามสื่อสารกับถั่วแดงผ่านเยื่อบางๆ ว่ามิกมี่มีน้ำในกระบอกถ้าถั่วแดงอยากได้น้ำ มิกมี่จะไปหยิบมาให้ ถั่วแดงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจึงคลายมิกมี่ออกจากฝัก แต่ มิกมี่ถูกฝักถั่วแดงรัดมาระยะหนึ่ง มิกมี่จึงมีรูปร่างที่ลีบยาว แต่มิกมี่ก็ไปเอากระบอกบรรจุน้ำมาให้ถั่วแดง
ถั่วแดงใช้ระยางค์ดูดน้ำในกระบอกดอกไม้จนหมด แต่ก็ยังไม่พอถั่วแดงจึงสื่อสารให้มิกมี่เข้าไปในป่าดำ ไปเอาน้ำในป่าดำมาให้ถั่วแดง
มิกมี่เข้าไปในป่าดำ เผ่าตัวลายเห็นเข้าจึงรีบถอยเปิดทางให้มิกมี่ผ่านไปได้อย่างสะดวก ดูเหมือนว่าพวกตัวลายจะกลัวมิกมี่เอามากๆ
มิกมี่เข้าไปถึงบึงน้ำแล้วดื่มน้ำจนเต็มท้อง แต่แล้วก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
มิกมี่รู้สึกว่าความแข็งแรงของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลรวมทั้งสามารถสร้างเยื่อบางๆ แต่เหนียวจากร่างกายของตัวเองได้ด้วย
มิกมี่จึงสร้างเยื่อบางใสขึ้นเป็นแผ่นใหญ่ ห่อหุ้มน้ำไว้ภายในและแบกมันกลับไปหาถั่วแดง
มิกมี่คิดถึงลิลี่และแม่ แต่ก็ไม่สามารถกลับไปได้อีกแล้ว มิกมี่รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเหลือเกิน......ต่อไปนี้ไม่มีมิกมี่อีกแล้ว......มีแต่มิก.....ผู้แบกน้ำ......
แล้วมิกก็เจอลิลี่......
โลกใหม่ในมุมเดิมก็ดำเนินไปในลักษณะนี้
มิกแลกน้ำเป็นเกล็ดได้จำนวนหนึ่ง แล้วจึงสร้างเยื่อที่หนาเป็นพิเศษให้ออกมาในรูปถุงเล็กๆ ติดไว้ที่ข้างตัวเพิ่อเก็บเกล็ดทั้งหมดไว้ ส่วนถุงที่แบกน้ำมาก็ม้วนติดไว้ที่ด้านหลัง
มิกเดินออกมาจากโรงแรม จ่ายค่าที่พักไปสามเกล็ด เดินมาที่ลานตรงปลายกิ่งที่42 ซึ่งเป็นท่าอากาศสำหรับเผ่าที่บิน หรือร่อนได้ พวกมีปีกที่จับกลุ่มสนทนากันก็หยุดคุย หันจับตามองเผ่าตัวสูงกันหมด
มิกเดินขึ้นไปที่ชั้นบนแล้วกระโดดลงมา ถุงที่ม้วนอยู่ก็เริ่มแผ่และพองออกเป็นบอลลูน พามิกลงมาที่ชั้นล่างโดยสวัสดิภาพ
ภาพจากมุมสูงแจ่มชัดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ว่าทุกอย่างเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ น้ำจากบึงในป่าดำน่าจะมีส่วนอยู่ไม่น้อย
มิกถลาลงมาจากลาน ถุงใบใหญ่กินลมเต็มที่ พาร่างค่อยๆ ลดระดับลงมาเรื่อยๆ
ในมุมหนึ่งของสายตา เงาร่างของลิลี่ปรากฏท่ามกลางผู้คนมากหลาย แม้จะไม่หันไปมอง แต่มิกก็แน่ใจว่าลิลี่จะยังมีชีวิตที่เข้มแข็งต่อไป
สายลมพัดโชย พามิกที่กำลังละล่องออกไปไกลจากต้นไม้ใหญ่ทุกขณะ
เสียงกระพือปีกดังมาจากด้านบน เผ่ามีปีกนั่นเองที่ตามมาดู แต่จู่ๆ ก็เข้ามาโฉบถุงพองลมของมิกจนเกิดรูรั่ว นั่นทำให้มิกโกรธมาก
เผ่ามีปีกที่ส่อเจตตาร้าย บินโฉบเข้ามาอีกครั้ง แต่พลาด เพราะมิกไล่ลมออกโดยม้วนให้ถุงมีขนาดที่เล็กลง และปล่อยเยื่อให้ออกเป็นเส้นเหนียวๆ แต่แข็งแรง
เมื่อเผ่ามีปีกโฉบเข้ามาเป็นครั้งที่สาม ก็พบว่ามีอะไรบางอย่างแหวกอากาศมาด้วยความเร็วสูงและตัดปีกข้างหนึ่งขาด ส่งผลให้ร่างนั้นร่วงลงไปยังป่าดำในที่สุด
มิกม้วนเก็บเส้นนั้นไว้ที่เอวอีกด้านแล้วขยายถุงออกจนกระทั่งกลับมากินลมเต็มที่อีกครั้ง แต่รอยขาดก็เริ่มฉีกออกเรื่อยๆ ทีละน้อย
แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ มิกก็ปล่อยเยื่อออกมาเป็นแผ่นใหญ่ ห่อหุ้มถุงเดิมเอาไว้ได้ในที่สุด ภาพข้างล่างบ่งบอกว่ากำลังจะออกจากเขตป่าดำแล้ว
และเข้าสู่เขตหนองน้ำที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่สุดสายตา
ปกติแล้วมิกมี่จะเดินตามลิลี่เสมอ ยกเว้นครั้งนี้ที่ต่างไป
สายลมโชยพัดขึ้นมาจากด้านล่าง ทำให้มิกลอยสูงขึ้นกว่าเดิม ข้างหน้ามองเห็นเงามืดครึ้มของบางสิ่งบางอย่าง
ยิ่งเข้าใกล้สิ่งนั้น สายลมก็ยิ่งโหมพัด มิกจึงจำใจต้องม้วนเยื่อให้เล็กลง เพื่อลดแรงปะทะในการเข้าหาสิ่งนั้น
และเมื่อเห็นชัดตา ว่าสิ่งที่อยู่ข้างหน้าก็คือหน้าผาหิน และต้นไม้ใหญ่รูปร่างแปลกตา สายลมก็โหมกระหน่ำในระดับที่น่ากลัว หากเป็นมิกมี่คนเดิมร่างคงแหลกในสี่สุด
แต่นี่คือมิก และมิกม้วนพันเยื่อนั้นไว้กับปลายเส้น ปิดรูอากาศเข้าออก และตวัดเส้นไปข้างหน้า จะกระทั่งกระทบหน้าผา
มิกที่ตามมาถึงก็เหยียบเยื่อที่หุ้มอากาศนั้นไว้ อาศัยแรงดีดสะท้อนม้วนตัวไปข้างหน้า สบัดเส้นที่หลุดจากเยื่อม้วนพันกิ่งสีเทาไว้ และดึงตัวข้ามขอบผามาได้
อีกฟากหนึ่งของขอบผา
สายลมโชยอ่อนๆ ต้นอ้อโอนเอน ใบไม้พลิ้วไหว ทุ่งหญ้าเขียวขจี ลำธารสายน้อยทอดตัวกลางหุบเขา ในขณะที่พายุกระหน่ำอยู่ด้านหลัง
ชายหนุ่มตื่นขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าสาดเข้ามาในห้อง เขาควานหามือถือเพื่อที่จะจดบางส่วนของความฝันไว้ แม้ครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่การเฝ้าดู แต่เขากลับมีความรู้สึกพิเศษต่อมิกมี่อย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
* ไม้เพลิง คือไม้ขีดไฟ
* กระบอกน้ำ คือ น้ำหวานในดอกไม้
* มิกมี่และลิลี่น่าจะเป็นแมลง แต่จริงๆ แล้วก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ ในความฝันก็ไม่ได้อธิบายไว้ด้วย ว่านี่คือแมลงนะ แค่รับรู้ว่านี่คือมิกมี่
ฉบับแก้ไข จากมู้นี้
https://ppantip.com/topic/38778346?sc=NX554vz