ช่วงนั้นปี 2022 หลังสงกรานต์เล็กน้อยอากาศบ้านเราร้อนมาก ไม่ได้เตรียมตัวเลย ไปแต่เป้มีล้อใบเล็กใบเดียว
ปสก ดำน้ำ Trekking Hiking = 0
อุปกรณ์ เทคโนโลยีกันน้ำ กันหนาว วิตามิน=ศูนย์!!!!
เริ่มจากดอนเมืองตอนเช้า จำเวลา departure ไม่ได้ แต่จำ ตอน arrival ได้ขึ้นใจว่า KLIA2 ไม่เปิด 24 ชม. ไฟดับ ร้านตรงแถว FM ปิดเหมือนเมืองร้าง เปิดอีกทีบ่ายๆ ดีที่มี Food court ริมหน้าต่าง ก็เลือกอาหารในความมืดแล้วพากันมากินตรงที่มีแสงสว่าง
ถึงเวลาเดินทางต่อไปอินโดด้วย QZ323 ไฟท์เย็น 6.40-8.00
ใช้ไกด์ท้องถิ่น Ajen trip Bromo ถึงแคมป์ประมาณ 5 ทุ่ม
ตื่นตีสามไปผาคิงคองกับแม่ลูกอินโดสุดสวย รถติดมาก รถแข็งมาก นั่งพักหนาวกินกาแฟอินโดรอพระอาทิตย์ขึ้นแบบมีกากสักพัก เริ่มหาที่ถ่ายรูปกับโบรโม่ โดยโบรโม่จะเตี้ยสุดปล่องกว้าง เป็นลูกเดียวที่มีควันขาวลอยออกมา
ความรู้สึกเหมือนยืนมองมอดอร์ก่อนที่โฟรโดจะเดินทางไปทิ้งแหวนใน return of the king ประมาณว่าจะไม่ไปต่อก็ไม่ได้ สวยมาก หมอกฟูๆ สลับกับทิวเขาสวยๆ แค่ในหัวเหมือนมีไฟล้อมอยู่ทุกที่ สวยแต่เริ่มไม่ใช่

พอเช้ามีแสงก็ลงไปกินเย็นตาโฟใส่ซีอิ้วดำแล้วหาม้าขึ้นโบรโม่ ถ้าไม่ขึ้นม้าเดินเองทางราบและขึ้นปล่องน่าจะไปกลับครึ่งวัน กลางทะเลทรายที่มีภูเขาไฟแล้วไม่ได้เตรียมตัวเดิน ไม่มีน้ำ ไม่มีรองเท้า เสื้อใส่ไปเป็นชุดธรรมดากับดาว์นเช่าเหม็นๆ เมื่อคืนนอนก็ไม่ได้นอน หนาวมาก มาถึงจุดนี้ต้องปีนเขาอีก มองดู 2 แม่ลูกสุดสวยใส่แค่เดรสขึ้นม้าทำคอนเทนต์ ตัดสินใจขึ้นม้าบ้าง แล้วเดินทางไปด้วยกัน

7-8 โมงถ่ายรูปนิดหน่อย ม้าเริ่มเดิน พอได้เหมือนนั่งม้าหมุนขึ้นทางชันและฝุ่นเยอะ ลงจากม้าต่อบันได!!สูงมาก ต้องใช้มือช่วย จุดนั้น phobia ทำงานดีมาก จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
ปัจจุบันสลับกัน กายเป็นนาย จิตเป็นบ่าว

ถึงปล่องก็นั่งอย่างเดียว เพราะกลัวมาก ถ่ายรูปได้นิดหน่อย ก็นั่งม้าเบอร์เดิมลง
ลงมาถ่ายรูปในทะเลทรายกับรถจิ๊ปที่นั่งมา
11 โมงกับถึงแคมป์กินข้าว เตรียมตัวไปน้ำตก Madakaripura
บ่ายสองถึงก็นั่งมอไซต์เข้าน้ำตก เริ่มเดินเข้าทางราบอย่างเดียว 2-3 กม. ไม่ชัน แปลกมาก แปลกสุดคือเป็นน้ำตกที่น้ำตกจริงๆ ตลอดทางประมาณ 500 เมตรตกเป็นฝอยๆ ไม่เจ็บ ไม่มีลุยน้ำ หนาว สวยชุ่มฉ่ำ เดินง่าย ได้คอนเทนต์ แต่น่าจะใส่ wet suit มากกว่าแขนกุด กางเกงขาสั้น ถ่ายรูปเสร็จ กลับถึงที่แคมป์ ตัวยังเย็นอยู่เลย ดีไม่ตุย
เช้าวันต่อมา ถ่ายรูปกับโบรโม่นิดหน่อย เริ่มออกเดินทางไป Ijen กว่าจะถึงที่พักไม่ได้พัก กินมาม่า แล้วไปกินอาหารพื้นเมือง
ออกจากที่พักเที่ยงคืน ถึง Ijen เริ่มเดินตอนตีสาม

นั่งลูกหาบเลยเพราะถ้าเดินขึ้นเหนื่อยมากสำหรับมือใหม่เดินป่า ความชันระดับ 5-6 ทางแรกๆ ดี แย่ลง ชันและแคบขึ้นเรื่อยๆ
ถึงปากปล่องตีสี่ ต้องลงความชันระดับ 8-9 ระยะประมาณ 1 กม. เป็นบันไดหิน แคบ ชัน คนเยอะ ลูกหาบ sulfur ก็เยอะ

ตีห้าถึง blue fire ถ่ายรูปนิดหน่อย

ตีห้านิดๆ ต้องเริ่มปีนขึ้นดูพระอาทิตย์ขึ้น กลัวมาก อาการ phobia หนักมาก ดีที่มืดมองไม่เห็นอะไร ต้องเดิน กลัวมาก ไม่สนุกเลย กลัวไปหมด นั่งลูกหาบกลับยังกลัว จากนั้นใช้เวลา 3 ชม ให้ 2 แม่ลูกมาส่งที่ท่าเรือ

ถึงท่าเรือ 11 โมง รอเรือ พักนิดหน่อย บ่ายสองถึงท่าเรือฝั่งบาหลี นั่ง Grab ไป Amed

พักที่ Amed คืนแรก Shore dive 2 dive ตอนเช้า

ตอนบ่ายว่าง ชวนเพื่อนว่ายน้ำต่อ

วันต่อมา ทำความรู้จัก Agung ไปวัดปลาคาร์ป
ไป Heaven gate

กลับเข้า Kuta ลองเล่น Surf
แล้วนอน Kuta 1 คืน แล้วบินกลับจากบาหลีไปสุราบายา
นี่คือรูปในหัวตอนเริ่มเพลนทริปนี้ แต่ในกลับมาบาหลีอีกตอนช่วงกันยายน สวยมาก Bali swing ที่ Nusa Pernida ที่ใช้ไกด์อีกคน
นอนสุราบายา 1 คืนบินไป KL ต่อเครื่องบินกลับดอนเมืองด้วยความระทึก เพราะ KLIA2 เปิดเต็มระบบ คนเยอะ เยอะได้อีก Custom ยาว Security check 2 รอบ แล้วเดินไกลอีก duty free ใหญ่
จบเป็นทริปต่างประเทศยาว 9 วัน ครั้งแรกในชีวิต
เที่ยวอินโดนีเซีย 2 เกาะ จาก Surabaya ข้ามไป Bali ปีน Bromo-Ijen จบด้วยดำน้ำ Amed เล่น surf ที่ Kota beach
ปสก ดำน้ำ Trekking Hiking = 0
อุปกรณ์ เทคโนโลยีกันน้ำ กันหนาว วิตามิน=ศูนย์!!!!
เริ่มจากดอนเมืองตอนเช้า จำเวลา departure ไม่ได้ แต่จำ ตอน arrival ได้ขึ้นใจว่า KLIA2 ไม่เปิด 24 ชม. ไฟดับ ร้านตรงแถว FM ปิดเหมือนเมืองร้าง เปิดอีกทีบ่ายๆ ดีที่มี Food court ริมหน้าต่าง ก็เลือกอาหารในความมืดแล้วพากันมากินตรงที่มีแสงสว่าง
ถึงเวลาเดินทางต่อไปอินโดด้วย QZ323 ไฟท์เย็น 6.40-8.00
ใช้ไกด์ท้องถิ่น Ajen trip Bromo ถึงแคมป์ประมาณ 5 ทุ่ม
ตื่นตีสามไปผาคิงคองกับแม่ลูกอินโดสุดสวย รถติดมาก รถแข็งมาก นั่งพักหนาวกินกาแฟอินโดรอพระอาทิตย์ขึ้นแบบมีกากสักพัก เริ่มหาที่ถ่ายรูปกับโบรโม่ โดยโบรโม่จะเตี้ยสุดปล่องกว้าง เป็นลูกเดียวที่มีควันขาวลอยออกมา
ความรู้สึกเหมือนยืนมองมอดอร์ก่อนที่โฟรโดจะเดินทางไปทิ้งแหวนใน return of the king ประมาณว่าจะไม่ไปต่อก็ไม่ได้ สวยมาก หมอกฟูๆ สลับกับทิวเขาสวยๆ แค่ในหัวเหมือนมีไฟล้อมอยู่ทุกที่ สวยแต่เริ่มไม่ใช่
พอเช้ามีแสงก็ลงไปกินเย็นตาโฟใส่ซีอิ้วดำแล้วหาม้าขึ้นโบรโม่ ถ้าไม่ขึ้นม้าเดินเองทางราบและขึ้นปล่องน่าจะไปกลับครึ่งวัน กลางทะเลทรายที่มีภูเขาไฟแล้วไม่ได้เตรียมตัวเดิน ไม่มีน้ำ ไม่มีรองเท้า เสื้อใส่ไปเป็นชุดธรรมดากับดาว์นเช่าเหม็นๆ เมื่อคืนนอนก็ไม่ได้นอน หนาวมาก มาถึงจุดนี้ต้องปีนเขาอีก มองดู 2 แม่ลูกสุดสวยใส่แค่เดรสขึ้นม้าทำคอนเทนต์ ตัดสินใจขึ้นม้าบ้าง แล้วเดินทางไปด้วยกัน
7-8 โมงถ่ายรูปนิดหน่อย ม้าเริ่มเดิน พอได้เหมือนนั่งม้าหมุนขึ้นทางชันและฝุ่นเยอะ ลงจากม้าต่อบันได!!สูงมาก ต้องใช้มือช่วย จุดนั้น phobia ทำงานดีมาก จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว
ปัจจุบันสลับกัน กายเป็นนาย จิตเป็นบ่าว
ถึงปล่องก็นั่งอย่างเดียว เพราะกลัวมาก ถ่ายรูปได้นิดหน่อย ก็นั่งม้าเบอร์เดิมลง
ลงมาถ่ายรูปในทะเลทรายกับรถจิ๊ปที่นั่งมา
11 โมงกับถึงแคมป์กินข้าว เตรียมตัวไปน้ำตก Madakaripura
บ่ายสองถึงก็นั่งมอไซต์เข้าน้ำตก เริ่มเดินเข้าทางราบอย่างเดียว 2-3 กม. ไม่ชัน แปลกมาก แปลกสุดคือเป็นน้ำตกที่น้ำตกจริงๆ ตลอดทางประมาณ 500 เมตรตกเป็นฝอยๆ ไม่เจ็บ ไม่มีลุยน้ำ หนาว สวยชุ่มฉ่ำ เดินง่าย ได้คอนเทนต์ แต่น่าจะใส่ wet suit มากกว่าแขนกุด กางเกงขาสั้น ถ่ายรูปเสร็จ กลับถึงที่แคมป์ ตัวยังเย็นอยู่เลย ดีไม่ตุย
เช้าวันต่อมา ถ่ายรูปกับโบรโม่นิดหน่อย เริ่มออกเดินทางไป Ijen กว่าจะถึงที่พักไม่ได้พัก กินมาม่า แล้วไปกินอาหารพื้นเมือง
ออกจากที่พักเที่ยงคืน ถึง Ijen เริ่มเดินตอนตีสาม
นั่งลูกหาบเลยเพราะถ้าเดินขึ้นเหนื่อยมากสำหรับมือใหม่เดินป่า ความชันระดับ 5-6 ทางแรกๆ ดี แย่ลง ชันและแคบขึ้นเรื่อยๆ
ถึงปากปล่องตีสี่ ต้องลงความชันระดับ 8-9 ระยะประมาณ 1 กม. เป็นบันไดหิน แคบ ชัน คนเยอะ ลูกหาบ sulfur ก็เยอะ
ตีห้าถึง blue fire ถ่ายรูปนิดหน่อย
ตีห้านิดๆ ต้องเริ่มปีนขึ้นดูพระอาทิตย์ขึ้น กลัวมาก อาการ phobia หนักมาก ดีที่มืดมองไม่เห็นอะไร ต้องเดิน กลัวมาก ไม่สนุกเลย กลัวไปหมด นั่งลูกหาบกลับยังกลัว จากนั้นใช้เวลา 3 ชม ให้ 2 แม่ลูกมาส่งที่ท่าเรือ
ถึงท่าเรือ 11 โมง รอเรือ พักนิดหน่อย บ่ายสองถึงท่าเรือฝั่งบาหลี นั่ง Grab ไป Amed
พักที่ Amed คืนแรก Shore dive 2 dive ตอนเช้า
ตอนบ่ายว่าง ชวนเพื่อนว่ายน้ำต่อ
วันต่อมา ทำความรู้จัก Agung ไปวัดปลาคาร์ป
ไป Heaven gate
กลับเข้า Kuta ลองเล่น Surf
แล้วนอน Kuta 1 คืน แล้วบินกลับจากบาหลีไปสุราบายา
นี่คือรูปในหัวตอนเริ่มเพลนทริปนี้ แต่ในกลับมาบาหลีอีกตอนช่วงกันยายน สวยมาก Bali swing ที่ Nusa Pernida ที่ใช้ไกด์อีกคน
นอนสุราบายา 1 คืนบินไป KL ต่อเครื่องบินกลับดอนเมืองด้วยความระทึก เพราะ KLIA2 เปิดเต็มระบบ คนเยอะ เยอะได้อีก Custom ยาว Security check 2 รอบ แล้วเดินไกลอีก duty free ใหญ่
จบเป็นทริปต่างประเทศยาว 9 วัน ครั้งแรกในชีวิต