ปากีสถาน วิวพันล้าน หนาวติดลบ EP2 :

Islamabad - Chilas
.
เช้าแรกที่ปากีสถาน ไกด์บอกว่าต้องตื่นเช้า เพราะวันนี้ต้องเดินทางไกลและนั่งรถทั้งวัน ป้าๆ ก็ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงละหมาด ของมัสยิดใกล้ๆ อากาศค่อนข้างหนาว 

ใกล้ๆ โรงแรมมีมัสยิด และเสียงละหมาดแต่เช้า

ที่นี่มีกรุ๊ปคนไทยที่ใช้บริการของพี่เป้า มาพักด้วยอีก 2 กรุ๊ป กรุ๊ปของป้าใหญ่สุดมี 11 คน ใช้รถบัสเล็ก ส่วนอีก 2 กรุ๊ป เป็นครอบครัวเล็กๆ 4 - 5 คน ใช้รถตู้ และเราก็เจอกันเรื่อยๆ เกือบตลอดทาง พี่เป้าอยู่กับกรุ๊ปเล็กกรุ๊ปหนึ่งที่ไม่ขึ้นไปเที่ยว Fairy Meadows
.
ช่วงที่ป้าไป (1 – 11 พ.ย.66) เป็นช่วงต้นฤดูหนาว หิมะเริ่มตกหนัก โดยเฉพาะตอนเหนือ ทำให้ Khunjerab Pass หรือด่านพรมแดนปากีสถาน-จีน ถูกตัดออกจากโปรแกรม เพราะเป็นตอนเหนือสุดของปากีสถานหิมะตกหนักเดินทางไม่ได้
.

อาหารเช้าที่โรงแรม ของง่ายๆ ขนมปัง ไข่ดาว โรตี แยม เนย กาแฟ 

รอบๆ โรงแรมกำลังก่อสร้าง ศูนย์กลางธุรกิจ
.
7.00 น. ล้อหมุน วันนี้โปรแกรมคือเดินทางจาก Islamabad ไปยังเมือง Chilas เพื่อรอขึ้น Fairy Meadows ในวันรุ่งขึ้น
.
ไกด์ของเราชื่อแซนด์ ซึ่งเค้าห้ามเราเรียกว่า แซนดี้ แต่เราก็เรียก กับผู้ช่วยไกด์ชื่ออาลี ทั้งสองถ่ายรูปสวยมาก และหาทุกอย่างที่เราอยากได้ให้ตลอดทริป อย่าได้ร้องขออะไร แซนด์หามาให้หมด

ผู้ร่วมชะตากรรม


ตอนเริ่มๆ ถนนก็จะดูดี

เริ่มใกล้ภูเขา ก็จะมีอุโมง

อุโมง เส้นทางนี้ จีนมาทำให้ ทำให้คนปากีสถานมีทัศนคติที่ดีกับคนจีน

จุดแวะพักทางด่วน

รถที่ป้าๆ นั่ง ทะเบียนสวยด้วยนะ

เส้นทางไป Chilas มี 2 เส้นทาง คือ ทางลัด ผ่าน Babusar Top และทางอ้อมผ่าน Besham และทัวร์เลือกทางอ้อมให้พวกเรา เพราะทางลัดหิมะตกหนัก แต่ระหว่างทางพี่เป้า (เจ้าของทัวร์) โทรมาบอกไกด์ว่า วันนี้ Babusar Top เปิด เราจึงเปลี่ยนเส้นทางไปผ่าน Babusar Top ซึ่งพวกเราต้องทำเวลา เพราะต้องผ่านด่านทหารก่อน 16.00 น. มิฉะนั้น ถ้าด่านปิด เราอาจต้องนอนในรถ การกินอาหารกลางวันของเราจึงกลายเป็นข้าวกล่อง คือ ลงเข้าห้องน้ำ คว้าข้าวกล่อง แล้วขึ้นรถ เมื่อเปลี่ยนเส้นทาง ถนนก็จะประมาณนี้ 
 
ลัดเลาะหมู่บ้าน

ร้านค้าชุมชน

ถนนดีบ้างไม่ดีบ้าง

แต่วิวสวยนะ

สีสันระหว่างทาง

เมืองบ้าง หมู่บ้านบ้าง
.
สีสันอีกอย่างหนึ่งของปากีสถาน ก็คือรถบรรทุก และ Track Art ซึ่งแต่ละคันประชันความสวยกันแบบสุดสุด ซึ่งป้าๆ เจอรถสวยๆ ไปตลอดทาง

รถขนไก่

รถขนผัก 

ถึงจุดที่สูงมาก ก็เริ่มจะไม่ค่อยมีต้นไม้ ยอดเขาเป็นหินดูแห้งแล้ง ไม่มีบ้านเรือนคนอาศัยอยู่
 
ระหว่างทางผ่านจุดชมวิว ซึ่งที่นี่เราได้รู้จักกับอาการ “แพ้ความสูง” 
.
ย้อนกลับไปก่อนป้ามา 
พี่เป้าบอกเราว่าให้ระวังอาการแพ้ความสูง ซึ่งป้าก็ไปค้นต่อพบว่า 
“อาการแพ้ความสูง” (High Attitude Illness) เป็นคนละเรื่องกัน “กลัวความสูง” 
ไม่ใช่อาการหูอื้อเวลาขึ้น-ลงภูเขา หรือเครื่องบินขึ้นลง
 .
อาการแพ้ความสูงคือร่างกายเกิดจากร่างกายไม่สามารถปรับตัว
ให้เข้ากับสภาวะที่มีออกซิเจนต่ำจากที่สูงได้ ทำให้ขาดออกซิเจน 
อาการแบบเบาๆ ก็ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ไปจนถึง สมองบวม ปอดบวม  และถ้ารุนแรงมากๆ สามารถเสียชีวิตได้ภายในเวลา 24 ชม. 
อาการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อ คนขึ้นไปอยู่บนที่สูงเกิน 3,000 เมตร เพราะระดับออกซิเจนในอากาศลดลงจนถึงระดับที่มีผลกระทบต่อร่างกาย และในระดับ 8,000 เมตรขึ้นไปออกซิเจนในอากาศจะลดลงเหลือเพียง 30 % ซึ่งถือเป็น Dead Zone หรือมนุษย์ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
แต่ดอยอินทนนท์ (2,500 เมตร) ไม่ถือว่าสูงจ้าาา ไม่ต้องเป็นห่วง
.
หรือถ้าเอาจริง จะต้องปรับตัว 3 – 4 วันจึงจะเดินทางต่อได้ ซึ่งคนที่ขึ้นยอด Everest (สูง 8,849 เมตร) จะใช้วิธีนี้ หรือมีถังออกซิเจนไปใช้ด้วย 
.
การเดินทางครั้งนี้ พี่เป้าให้พวกป้า เตรียมยา “Diamox” หรือ “Acetazolamide” ไปด้วย (เป็นยารักษาต้อหิน มีสรรพคุณลดความดันลูกตา) กินครึ่งเม็ดก่อนขึ้นที่สูง 1 วัน และอีกครึ่งเม็ดในวันที่ขึ้นที่สูง ถ้าเป็นฉุกเฉินหรือรุนแรง อาจใช้ “Dexamethasone” ซึ่งทั้งสองตัวนี้เป็นยาอันตราย มีผลต่อ ตับ ไต หัวใจ ป้าไปตามหาแถวร้านขายยา เค้าไม่ขาย หรือจะขายต้องมีแพทย์สั่ง แต่เพื่อนป้าก็ไปหามาจนได้ ยานี้อาจมีผลต่อคนที่เป็นความดันโลหิตสูง ก่อนไปป้ากังวลกับอาการแพ้ความสูงมาก เพราะป้ามีอาการความดันโลหิตสูง ถามหมอ หมอก็ไม่แนะนำให้กิน ป้าใช้วิธี ว่ายน้ำวันเว้นวันก่อนมา เกือบ 10 เดือน
.
นอกจาก Diamox แล้วอีกอย่างที่ควรเตรียมไปคือออกซิเจนแบบกระป๋อง ใครที่มีปัญหาปวดหัวมากๆ ตอนออกซิเจนน้อย (ป้าเป็น) ควรเตรียมไปด้วย ตามกฎของสายการบินไม่ให้เอาขึ้นเครื่อง แต่ป้าแอบใส่ไป 2 กระป๋อง (ซื้อจากแอปขายของนี่แหละ) กะว่าถ้าเค้าให้เอาออกก็ยอม แต่สุดท้ายก็เอาไปได้ ใช้หมดไป 1 กระป๋อง อีกกระป๋องให้พี่เป้าเก็บเอาไว้ใช้เผื่อฉุกเฉิน
.
กลับมาที่การเดินทางเมื่อเราผ่านจุดชมวิว ก่อนถึง Babusar Top ไกด์ได้จอดรถให้เราถ่ายรูปยอดเขาสูง ซึ่งพวกเราไม่รู้มาก่อนว่าจุดนี้เป็นจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางสายนี้ คือสูง 4,173 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล (สูงกว่า 3,000 เมตร) ป้าๆ ก็ลงไปถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน กรุ๊ปทัวร์ไทยอีก 2 กรุ๊ปที่ตามๆ กันมาก็ลงจอดด้วย

ที่ความสูง 4,173 เมตร มองเห็นทางคดเคี้ยวข้างล่างมั๊ย พวกเราเพิ่งผ่านมันมา
 
ถ่ายได้แค่ 2 รูป ก็เกิดเหตุ

เพื่อนป้าคนหนึ่งก็ล้มลง เหมือนต้นไม้โค่น ตัวเกร็งเหมือนชัก ตาค้าง ไกด์คว้าไว้ทัน พี่เป้าซึ่งอยู่ในรถอีกคันหนึ่ง (เพราะมากับอีกกรุ๊ป) คว้ากระป๋องออกซิเจนมาให้ทันที แล้วบอกพวกป้าๆ ว่านี่แหละคืออาการแพ้ความสูง 
.
คราวนี้เกิดอุปทานหมู่ เกือบทุกคนมีอาการวิ้งๆ หวิวๆ เลยพากันขึ้นรถ เพราะกลัว
.
ให้ออกซิเจนสักพัก เพื่อนป้าก็รู้สึกตัว เค้าบอกว่าไม่รู้ตัวเลยว่าเกิดอะไรขึ้น คือถ่ายรูปอยู่ดีๆ ก็ภาพตัดไปเลย

เมื่อรถออกจากจุดชมวิว เราก็ผ่านจุดที่เป็น Babusar Top ซึ่งเป็นจุดชมวิวถนนคดเคี้ยวของเส้นทางนี้ แต่ หิมะตก เลยอดชมวิว ค่อยมาอ่านจากเน็ตทีหลังและฟังจากไกด์ว่า จุดนั้นสำคัญอย่างไร เห็นป้าย Babusa Top ลางๆ แต่ตอนนั้นยังตกใจกับอาการแพ้ความสูงอยู่และทางข้างหน้าหมอกหนาค่อนข้างน่ากลัว เลยไม่สนใจกับป้ายนั้น

ก่อนถึง Babusa Top ฟ้าก็เริ่มมัว

แล้วก็หิมะตก หมอกหนา

ถ้าหมอกไม่ลง หิมะไม่ตก วิวที่จะได้เห็นคือถนนคดเคี้ยว ป้าย Babusa Top หมู่บ้าน และด่าน Babusa 

จากจุดที่เพื่อนป้าล้ม ถึง Babusa Top และทางลง เห็นมั๊ยว่าคดเคี้ยวขนาดไหน
.
จากจุดนั้นก็ชมวิวสวยๆ กันมาเรื่อยๆ จนถึงเมือง Chilas ซึ่งตอนนั้นพวกเราใจไม่ค่อยอยู่กับวิว เพราะตกใจที่เพื่อนมีอาการแพ้ความสูง


ก่อนเข้าเมือง แวะชมพระพุทธรูปที่หุบเขา Kargah (Kargah Buddha)
พระพุทธรูปนี้ถูกสร้างในยุคของหลวงจีนฟาเหียน หรือที่เรารู้จักกันในนาม “พระถังซัมจั๋ง” ในเรื่องไซอิ๋ว
 .
ถึงแม้ปากีสถานจะเป็นเมืองมุสลิม แต่พระพุทธศาสนาเคยเจริญที่นี่มาก่อน
เราคงเคยได้ยินเมืองตักศิลา (Taxila) ซึ่งเป็นเมืองแห่งวิทยาการ ที่ใครๆ ก็ต้องมาเรียน
สำนักอาจารย์ทิศาปาโมกข์ อยู่ที่นี่ พระเจ้าปเสนธิโกศล กษัตริย์ลิจฉวี หมอชีวกโกมารภัจน์ หรือ แม้แต่องคุลีมาล ก็จบจากสำนักนี้ พระพุทธรูป “คันธาระ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปชุดแรกของโลก เกิดที่นี่ (ก่อนหน้านั้นจะเป็นรูปสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ธรรมจักร แทนพระพุทธรูป) มีเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้โดยพระถังซัมจั๋งมากมายใน“จดหมายเหตุการเดินทางสู่ดินแดนตะวันตกของราชวงศ์ถัง”

Kargah Buddha พระพุทธรูปแกะสลักหิน จริงๆ มีหลายรูป แต่ป้าหลอนๆ เลยไม่กล้าเดินเยอะ
 .
ก้อนหินแถวนี้เสียหายจากการระเบิดหินสร้างคาราโครัมไฮเวย์ พระพุทธรูปบางส่วนเสียหายเพราะระเบิด และมุสลิมหัวรุนแรง ปัจจุบันรัฐบาลปากีสถานได้บูรณะกลับมาดังเดิมเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
 .
ถึง Chilas ก็เกือบค่ำ วันนี้เราพักที่ Grace Continental Hotel Chilas โรงแรมที่นี่ค่อนข้างฝุ่นเยอะ คงเพราะเรามาหน้าแล้งด้วย ฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีของขาย พวกเมล็ดถั่วต่างๆ ใหม่สด ราคาถูก ถุงอาจมีฝุ่นเยอะไปหน่อย ลองเดินดูหลายๆ เจ้า ราคาใกล้เคียงกัน วันแรกป้าๆ ลองซื้อมาชิม หน้าตาอาจไม่ดี แต่คอมเฟิร์มว่าอร่อย จนวันท้ายๆ ต้องแวะเข้ามาซื้ออีกรอบ 

ถึงที่พัก พี่วินดีเซล ค่อยๆ ลำเลียงของลงจากหลังคารถ
.
จบการเดินทางวันแรกแต่เพียงเท่านี้ สรุป ป้ายอมกินยา Diamox ทั้งที่ตั้งใจจะไม่กินเพราะกลัวเป็นแบบเพื่อน
ว่างๆ มาเล่าต่อ
.
EP 1 : Bkk – Islamabad : https://ppantip.com/topic/43254795
EP 2 : Islamabas – Chilas : https://ppantip.com/topic/43263775
EP 3 : Chailas – Fairy Medows
EP 4 : Fairy Medows – Hunza Duikar
EP 5 : Hunza Duikar – Nagar – Attabad
EP 6 : Attabad – Passu – Hunza Aliabad
EP 7 : Hunza Aliabad – Skardu
EP 8 : Skardu – Khaplu
EP 9 : Skardu
EP 10 : Skardu – Basham
EP 11 : Basham – Islamabad - Bkk

หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้จากเพจ หลากหลาย by Artima : https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่