หนุ่มเมียนมา เขียนระบายท่ามกลางความมืด ปมแก๊งคอล ที่มาม็อบแบนสินค้าไทย ชี้ ปชช.ไม่มีสิทธิ
https://www.matichon.co.th/social/news_5040409
หนุ่มเมียนมา เขียนระบายท่ามกลางความมืด ปมแก๊งคอล ที่มาม็อบแบนสินค้าไทย ชี้ ปชช.ไม่มีสิทธิ
วันที่ 8 ก.พ.68 บนเฟซบุ๊กชื่อ
ชุมชนคนแม่สาย มีชายที่แนะนะตัวเองว่าเป็นชาวเมียนมาได้เขียนโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเมียนมา โดยระบุว่า
พี่น้องชาวไทย ก่อนอื่น ผมขอแนะนำตัว ผมเป็นคนฉานที่มาจากรัฐอื่น ต้องอพยพมาอยู่ที่ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่หลังรัฐประหาร ผมอ่านออกเขียนได้ภาษาไทย เนื่องด้วยอาชีพที่เป็นไกด์ และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพม่าและไทยอยู่ตลอด
วันนี้ผมอยากใช้พื้นที่นี้เพื่ออธิบายให้ทุกคนเข้าใจในมุมของพวกเรา เพราะผมเห็นว่ามีความเข้าใจผิด ความเกลียดชัง และอคติที่เกิดขึ้นมากมายจากทั้งสองฝั่ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการรับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว
#พม่าวันนี้แผ่นดินที่ประชาชนไม่มีทางเลือก
สำหรับคนไทยหลายคน พม่าคือเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยปัญหา เป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นดินแดนที่ดูเหมือนจะปล่อยปละละเลยให้มิจฉาชีพเติบโต แต่ถ้าคุณได้เห็นด้วยตาตัวเอง ได้สัมผัสกับความจริงที่พวกเราเผชิญอยู่ทุกวัน คุณจะเข้าใจว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
พม่าทุกวันนี้ ไม่ใช่ประเทศที่ประชาชนมีสิทธิ์เลือก ไม่ใช่ประเทศที่คนธรรมดาสามารถเรียกร้องความยุติธรรมได้ รัฐบาลพม่าไม่เคยทำเพื่อประชาชน สิ่งที่พวกเขาสนใจคือการรักษาอำนาจของตัวเอง ไม่ว่าต้องใช้วิธีไหนก็ตาม
การทำให้ประชาชนกลัว คือกลไกสำคัญของพวกเขา การใช้กำลังเข้าปราบปราม การใช้ระเบิดทำลายหมู่บ้าน การจับกุมและทรมานผู้ที่เห็นต่าง มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติในหลายพื้นที่ในบางรัฐของพม่า โรงเรียนไม่สามารถเปิดสอนได้เพราะโดนทิ้งระเบิด คนจำนวนมากต้องทิ้งบ้าน ทิ้งทุกอย่างที่มี เพื่อหนีตาย เด็ก ๆ ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ คนหนุ่มสาวไม่มีอนาคต ผู้อพยพจำนวนมากอย่างพวกเราต้องหาที่ซ่อน ต้องดิ้นรนหาที่อยู่ใหม่
และท่าขี้เหล็ก คือ ‘ประตูด่านสุดท้าย’ ที่พม่าเองยังไม่กล้าทิ้งระเบิดใส่ เพราะอยู่ติดกับประเทศไทย พวกเราไม่อยากสร้างปัญหาให้ไทยเลย เรารู้สึกขอบคุณประเทศไทยเสมอมา เพราะในช่วงเวลาที่ประเทศเราล้มเหลว ประเทศไทยคือที่พึ่งที่ใกล้ที่สุด คนไทยช่วยเหลือคนพม่ามาตลอด เราไม่เคยลืมบุญคุณนี้ แต่เราเองก็ไม่มีอำนาจไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
#ทำไมไม่กดดันรัฐบาลพม่าให้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ผมเห็นหลายคนถามคำถามนี้ และขอพูดตรง ๆ ว่า “เป็นไปไม่ได้” ก็รัฐบาลพม่านั่นแหละที่เป็นคนเปิดทางให้พวกนี้เข้ามา! ใครกันที่อนุญาตให้แก๊งพวกนี้ตั้งฐาน? ใครกันที่ได้ผลประโยชน์จากเงินที่ไหลเข้ามา? ประชาชนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ แม้แต่จะตั้งคำถาม ไม่มีใครกล้าแตะต้องอิทธิพลของพวกนี้ เพราะเราทุกคนรู้ดีว่า ถ้าไปขัดขวางผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ อาจไม่มีวันได้กลับบ้านอีกเลย
พวกเราเกลียดพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ต่างจากคนไทย แต่แค่เอาตัวรอดในชีวิตประจำวันยังยาก แล้วเราจะไปกดดันใครได้? คนไทยต้องเข้าใจว่าพม่าทุกวันนี้ไม่ใช่ประเทศที่เสียงของประชาชนมีค่า เราไม่มีเสรีภาพเหมือนพวกคุณ เราไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง
#ชนกลุ่มน้อยสงครามและเกมอำนาจของรัฐบาลพม่า
รัฐบาลพม่าฉลาดแกมโกง พวกเขาไม่ได้รบกับชนกลุ่มน้อยเพื่อจะเอาชนะ แต่พวกเขาใช้ชนกลุ่มน้อยเป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกและปกครอง ทุกครั้งที่รบกับกลุ่มหนึ่ง พวกเขาจะปล่อยให้อีกกลุ่มหนึ่งเป็นอิสระ หรือทำตามอำเภอใจ เพื่อให้เกิดความขัดแย้งไม่รู้จบ เพื่อให้ไม่มีใครสามารถลุกขึ้นมาแข็งแกร่งพอที่จะโค่นพวกเขาได้ บางชนกลุ่มน้อยที่อยู่ติดกับประเทศไทย มีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับรัฐบาลพม่า ผมขอไม่เอ่ยถึงตรงนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่ผมคิดว่าหลายท่านก็น่าจะพอเข้าใจว่าหมายถึงอะไร
ทุกวันนี้ คนพม่าหลายล้านคนต้องอยู่ภายใต้กระสุน ระเบิด และเผด็จการ คนจำนวนมากสูญเสียครอบครัว พ่อแม่โดนฆ่า เด็ก ๆ เติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้จักแม้แต่คำว่า ‘สันติภาพ’ ผู้หญิงจำนวนมากต้องหวาดกลัว ว่าจะถูกทหารข่มขืน ทุกวันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและไร้หนทางไป
#เบื้องหลังของการประท้วงแบนสินค้าไทย
ผมเข้าใจดีว่าคนไทยหลายคนไม่พอใจที่ฝั่งพม่ามีการประท้วงหรือแบนสินค้าไทยที่แม่สอด แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า… คนธรรมดาไม่มีใครอยากทำแบบนั้นหรอก! การประท้วงเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้ว อยู่ภายใต้การชักนำของทหาร หรือครอบครัวของคนที่มีอำนาจ คนธรรมดาไม่มีใครกล้าออกมาเคลื่อนไหว เพราะทุกคนรู้ดีว่าถ้าออกมายุ่งเรื่อง ที่ไม่ควรยุ่ง อาจหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย นี่ไม่ใช่ความสมัครใจ
แต่มันคือคำสั่งจากผู้ที่อยู่เบื้องบน พวกเราที่มาอาศัยที่นี่ท่าขี้เหล็ก เราไม่อยากให้มีความขัดแย้งกับไทย เรารู้ดีว่าประเทศไทยไม่ใช่ศัตรูของเรา พวกเราซาบซึ้งกับความช่วยเหลือที่ได้รับมาตลอดตั้งแต่น้ำท่วมและหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา
และพวกเราไม่อยากให้การกระทำของคนไม่กี่กลุ่มมากลายเป็นตัวแทนของพม่าทั้งประเทศ และอีกประเด็นว่าทำไมพวกเราไม่อยากไปเกณฑ์ทหาร
#เกณฑ์ทหารในพม่าถ้าไปคือไปตาย
ในหลายประเทศ การเกณฑ์ทหารอาจเป็นหน้าที่พลเมือง แต่ในพม่า มันคือคำสั่งที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ และหากไป นั่นหมายถึงเดินเข้าสู่ความตายแทบจะแน่นอน ทหารใหม่ไม่ได้รับการฝึกที่ดี ไม่มีอาวุธเพียงพอ ถูกส่งไปแนวหน้าทันทีเพื่อเป็น “โล่มนุษย์” ในสงครามที่ไม่มีวันจบ คนที่กลับมาได้แทบจะไม่มี พ่อแม่บางคนต้องส่งลูกหนีออกจากประเทศ เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ต่อก็มีแต่ตาย พวกเรามองไปฝั่งไทย เห็นวัยรุ่นมีอนาคต ได้เรียน ได้ใช้ชีวิต พวกเราก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า “ทำไมชีวิตเราถึงต่างกันขนาดนี้”
#ขอโทษจากใจและหวังว่าสักวันหนึ่งพม่าจะเปลี่ยนแปลง
พวกเราเห็นข้อความเกลียดชังที่วัยรุ่นบางคน หรือคนที่ไม่รู้เรื่องมาโพสต์หรือ คอมเม้นโจมตีกันไปมา บางคนอาจถูกปั่นหัวให้เกลียดไทย บางคนอาจพูดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีแต่ทำให้เราห่างกันมากขึ้น พวกเราขอโทษคนไทยอีกครั้ง
ขอโทษแทนคำพูดไม่ดีที่ออกมาจากคนพม่า ขอโทษแทนบางคนที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้สถานการณ์แย่ลง เราไม่เคยลืมว่าประเทศไทยช่วยเหลือพม่ามาตลอด และเราซาบซึ้งในน้ำใจนั้นเสมอ
อีกครั้งความคิดเห็นที่หลายคนเห็นในโพสต์หรือคอมเมนต์ที่สร้างความขัดแย้ง จริงๆ แล้วไม่ได้สะท้อนเสียงส่วนใหญ่ของพวกเราเลย มันเป็นเพียงเสียงของคนส่วนน้อย คนที่อาจไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด หรือบางคนก็แค่ต้องการระบายอารมณ์ โดยไม่คิดถึงผลกระทบตามมา
เรื่องที่ประเทศไทยตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต งดส่งน้ำมัน เราเข้าใจดีว่าผู้มีอำนาจฝั่งไทย ก็ต้องแสดงให้ประชาชนของตัวเองเห็นว่ากำลังแก้ปัญหา พวกเขามีสิทธิ์ที่จะปกป้องประชาชนและทำทุกอย่างเพื่อรักษาประชาธิปไตยในประเทศของตัวเอง พวกเราก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะมีรัฐบาลที่คิดถึงประชาชนของตัวเองแบบนั้นบ้าง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ บทความนี้ถูกเขียนขึ้นจากห้องเล็กๆ ที่มืดสนิทอยู่ตรงข้ามฝั่งพวกคุณ เราต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึง Facebook เพราะรัฐบาลของเราไม่ต้องการให้พวกเราได้รับข่าวสารหรือพูดคุยกับโลกภายนอก ทุกอย่างถูกควบคุม แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังอยากให้คนไทยเข้าใจว่า พวกเราไม่ได้อยากเป็นปัญหาให้ใคร และเราไม่เคยลืมว่า ประเทศไทยเคยช่วยเหลือพวกเรามากแค่ไหน
หวังว่าสักวันหนึ่ง ประเทศพม่าจะสงบ พวกเราจะมีรัฐบาลที่เป็นของประชาชนจริง ๆ และหวังว่าวันนั้น เราจะได้เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน อย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แรก
* พบแหล่งข่าวจากเพจ เชียงราย ครับ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100068788754031
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0WmFHr8cMqVAQd8rMCCQ6F4ndJk81Cn4T3YZZ7Vonx6QPGmsdGEUw63c9uq5354ojl&id=100068788754031
"กัณวีร์"เตือนรัฐบาลอย่าหลงกลม็อบจัดตั้งประท้วงไทย อย่าหลงทางกับการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
https://siamrath.co.th/n/599806
เมื่อวันที่ 8 ก.พ.68 นาย
กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กระบุว่า
รัฐบาลครับบอกได้คำเดียวตอนนี้ว่า ทำงานใหญ่ ใจต้องนิ่ง !!
หนังฉากแรกของ “ผู้เสียประโยชน์“ ซึ่งก็คือพวกนายทุนธุรกิจดำทั้งหลาย จากมาตรการเด็ดขาดตัดไฟฟ้า น้ำมันและสัญญาณอินเตอร์เน็ตฝั่งเมียนมา ฉากต่อไปเร่งระดมคนที่ไม่รู้เรื่องก่อม๊อบต่อต้านให้มากขึ้น
เห็นการชุมนุมประท้วงของชาวเมียนมาในเมียวดี ซึ่งเดิมบอกว่าจะออกมาเดินขบวนกันหลายพันคน เพื่อเรียกร้องไทยยกเลิกมาตรการกดดันไฟ-น้ำมัน แต่พอมากันจริง หน่วยงานความมั่นคงไทยบอกว่า 30 คน ในขณะเดียวกันชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงนี้เพราะรู้กันว่าใครอยู่เบื้องหลัง
ผ่านมา 3 วันกับมาตรการกดดันแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลไทย ก็พอจะมองเห็นทิศทางว่าจะกดดันพวกนั้นได้จริงไหม เพราะอย่างที่เห็นว่า เมืองสแกมเมอร์ ยังมีไฟฟ้าใช้ เพราะเตรียมสำรองน้ำมัน และโซลล่าเซลล์ไว้ และไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ อย่างที่เปิดเผยกันมาว่าจะอยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ก็ต้องรอดูว่าจะอดทนกันได้ขนาดไหน
ในขณะเดียวกันพวกกองกำลังชาติพันธุ์ที่คุ้มครองธุรกิจเหล่านี้ก็จะพยายามลบภาพเดิมและสร้างภาพใหม่ว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องและเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้โดยการประสานทางการไทยเแจ้งว่าจะปล่อยตัวเหยื่อและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากขบวนการค้ามนุษย์ที่อยู่ในพื้นที่ของ BGF และ DKBA จำนวนหลักพัน (1-2 พันคน) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และความตั้งใจจริงของพวกนี้ เพื่อแสวงประโยชน์กับโอกาสการได้กลับมาซึ่งไฟฟ้า น้ำมันและสัญญาณอินเตอร์เน็ต !!
เหมือนกับความพยายามล้างมือในอ่างทองคำและสร้างภาพตัวเองใหม่ว่าไม่เกี่ยวข้องแถมจะปราบปรามให้ด้วย !!
อย่าหลงกลกับม็อบจัดตั้งประท้วงไทย อย่าหลงทางกับการจัดการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และอย่าหลงเสน่ห์จากการลบภาพและวาดใหม่ของกลุ่มที่ไม่มีความจริงใจว่าเปลี่ยนตัวเองเป็นคนดีแล้ว !!
เราต้องปราบให้หนัก ถอนรากถอนโคนไอ้แก๊งค์คอลเซนเตอร์ บัญชีม้า ซิมม้า ที่มาบวกกับความเลวร้านของขบวนการนำพาและการค้ามนุษย์นี่ให้ราบคราบ
รัฐบาลไทยต้องไม่หลงทางกับเกมต่อรองของกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ หากจะจัดการกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์พวกนี้ก็ต้องเด็ดขาด ต้องไม่อ่อนข้อกับมาตรการยาแรง เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า เราแค่เล่นละครเอาใจจีนอย่างที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้
และไม่ควรหลงทางใจดีเห็นว่าเค้าช่วยคืนเหยื่อค้ามนุษย์หลักพันแล้วจะยอมคืนทุกอย่างให้เหมือนเดิม เพราะการช่วยชีวิตของเหยื่อต่างๆ เหล่านี้ต้องตั้งบนฐานมนุษยธรรมที่ไม่มีการต่อรอง และมันเป็นหน้าที่หลักของทุกคนที่ต้องช่วยชีวิตคน โดยเฉพาะคุณที่เป็นกำลังหน่วยความมั่นคงและอำนาจประจำถิ่นที่ต้องปกป้องชีวิตคนบริสุทธิ์โดยไม่มีข้อแม้ ช่วยออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และอย่าต่อรองเรื่องมาตรการตัดไฟฟ้า น้ำมันและอินเตอร์เน็ต เอาไว้มาคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า
ผมบอกไปหลายครั้งว่ามีชื่อเหยื่อหลักพันคนและพิกัดของคอลเซนเตอร์ตลอดฝั่งเมียนมามานานแล้ว หากรัฐบาลอยากได้ไปประสานฝั่งนู้นบอกนะครับ พร้อม !
https://www.facebook.com/NolKannavee/posts/pfbid025aZVNE8ZTk1KnEKP3xi1s8raqsdp3ukvJYCANsjuP9A4d64VbEoCJPSJSUbH6sFYl
JJNY : หนุ่มเมียนมา เขียนระบาย│"กัณวีร์"เตือนอย่าหลงกลม็อบ│มวลอากาศเย็นระลอกใหม่│ยูเครนลั่นไม่ยกแร่ธาตุหายากให้ปท.ใด
https://www.matichon.co.th/social/news_5040409
หนุ่มเมียนมา เขียนระบายท่ามกลางความมืด ปมแก๊งคอล ที่มาม็อบแบนสินค้าไทย ชี้ ปชช.ไม่มีสิทธิ
วันที่ 8 ก.พ.68 บนเฟซบุ๊กชื่อ ชุมชนคนแม่สาย มีชายที่แนะนะตัวเองว่าเป็นชาวเมียนมาได้เขียนโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเมียนมา โดยระบุว่า
พี่น้องชาวไทย ก่อนอื่น ผมขอแนะนำตัว ผมเป็นคนฉานที่มาจากรัฐอื่น ต้องอพยพมาอยู่ที่ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่หลังรัฐประหาร ผมอ่านออกเขียนได้ภาษาไทย เนื่องด้วยอาชีพที่เป็นไกด์ และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพม่าและไทยอยู่ตลอด
วันนี้ผมอยากใช้พื้นที่นี้เพื่ออธิบายให้ทุกคนเข้าใจในมุมของพวกเรา เพราะผมเห็นว่ามีความเข้าใจผิด ความเกลียดชัง และอคติที่เกิดขึ้นมากมายจากทั้งสองฝั่ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการรับรู้ข้อมูลเพียงด้านเดียว
#พม่าวันนี้แผ่นดินที่ประชาชนไม่มีทางเลือก
สำหรับคนไทยหลายคน พม่าคือเพื่อนบ้านที่เต็มไปด้วยปัญหา เป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นดินแดนที่ดูเหมือนจะปล่อยปละละเลยให้มิจฉาชีพเติบโต แต่ถ้าคุณได้เห็นด้วยตาตัวเอง ได้สัมผัสกับความจริงที่พวกเราเผชิญอยู่ทุกวัน คุณจะเข้าใจว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
พม่าทุกวันนี้ ไม่ใช่ประเทศที่ประชาชนมีสิทธิ์เลือก ไม่ใช่ประเทศที่คนธรรมดาสามารถเรียกร้องความยุติธรรมได้ รัฐบาลพม่าไม่เคยทำเพื่อประชาชน สิ่งที่พวกเขาสนใจคือการรักษาอำนาจของตัวเอง ไม่ว่าต้องใช้วิธีไหนก็ตาม
การทำให้ประชาชนกลัว คือกลไกสำคัญของพวกเขา การใช้กำลังเข้าปราบปราม การใช้ระเบิดทำลายหมู่บ้าน การจับกุมและทรมานผู้ที่เห็นต่าง มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติในหลายพื้นที่ในบางรัฐของพม่า โรงเรียนไม่สามารถเปิดสอนได้เพราะโดนทิ้งระเบิด คนจำนวนมากต้องทิ้งบ้าน ทิ้งทุกอย่างที่มี เพื่อหนีตาย เด็ก ๆ ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ คนหนุ่มสาวไม่มีอนาคต ผู้อพยพจำนวนมากอย่างพวกเราต้องหาที่ซ่อน ต้องดิ้นรนหาที่อยู่ใหม่
และท่าขี้เหล็ก คือ ‘ประตูด่านสุดท้าย’ ที่พม่าเองยังไม่กล้าทิ้งระเบิดใส่ เพราะอยู่ติดกับประเทศไทย พวกเราไม่อยากสร้างปัญหาให้ไทยเลย เรารู้สึกขอบคุณประเทศไทยเสมอมา เพราะในช่วงเวลาที่ประเทศเราล้มเหลว ประเทศไทยคือที่พึ่งที่ใกล้ที่สุด คนไทยช่วยเหลือคนพม่ามาตลอด เราไม่เคยลืมบุญคุณนี้ แต่เราเองก็ไม่มีอำนาจไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้
#ทำไมไม่กดดันรัฐบาลพม่าให้ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ผมเห็นหลายคนถามคำถามนี้ และขอพูดตรง ๆ ว่า “เป็นไปไม่ได้” ก็รัฐบาลพม่านั่นแหละที่เป็นคนเปิดทางให้พวกนี้เข้ามา! ใครกันที่อนุญาตให้แก๊งพวกนี้ตั้งฐาน? ใครกันที่ได้ผลประโยชน์จากเงินที่ไหลเข้ามา? ประชาชนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ แม้แต่จะตั้งคำถาม ไม่มีใครกล้าแตะต้องอิทธิพลของพวกนี้ เพราะเราทุกคนรู้ดีว่า ถ้าไปขัดขวางผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ อาจไม่มีวันได้กลับบ้านอีกเลย
พวกเราเกลียดพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ต่างจากคนไทย แต่แค่เอาตัวรอดในชีวิตประจำวันยังยาก แล้วเราจะไปกดดันใครได้? คนไทยต้องเข้าใจว่าพม่าทุกวันนี้ไม่ใช่ประเทศที่เสียงของประชาชนมีค่า เราไม่มีเสรีภาพเหมือนพวกคุณ เราไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง
#ชนกลุ่มน้อยสงครามและเกมอำนาจของรัฐบาลพม่า
รัฐบาลพม่าฉลาดแกมโกง พวกเขาไม่ได้รบกับชนกลุ่มน้อยเพื่อจะเอาชนะ แต่พวกเขาใช้ชนกลุ่มน้อยเป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกและปกครอง ทุกครั้งที่รบกับกลุ่มหนึ่ง พวกเขาจะปล่อยให้อีกกลุ่มหนึ่งเป็นอิสระ หรือทำตามอำเภอใจ เพื่อให้เกิดความขัดแย้งไม่รู้จบ เพื่อให้ไม่มีใครสามารถลุกขึ้นมาแข็งแกร่งพอที่จะโค่นพวกเขาได้ บางชนกลุ่มน้อยที่อยู่ติดกับประเทศไทย มีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับรัฐบาลพม่า ผมขอไม่เอ่ยถึงตรงนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่ผมคิดว่าหลายท่านก็น่าจะพอเข้าใจว่าหมายถึงอะไร
ทุกวันนี้ คนพม่าหลายล้านคนต้องอยู่ภายใต้กระสุน ระเบิด และเผด็จการ คนจำนวนมากสูญเสียครอบครัว พ่อแม่โดนฆ่า เด็ก ๆ เติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้จักแม้แต่คำว่า ‘สันติภาพ’ ผู้หญิงจำนวนมากต้องหวาดกลัว ว่าจะถูกทหารข่มขืน ทุกวันเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและไร้หนทางไป
#เบื้องหลังของการประท้วงแบนสินค้าไทย
ผมเข้าใจดีว่าคนไทยหลายคนไม่พอใจที่ฝั่งพม่ามีการประท้วงหรือแบนสินค้าไทยที่แม่สอด แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า… คนธรรมดาไม่มีใครอยากทำแบบนั้นหรอก! การประท้วงเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้ว อยู่ภายใต้การชักนำของทหาร หรือครอบครัวของคนที่มีอำนาจ คนธรรมดาไม่มีใครกล้าออกมาเคลื่อนไหว เพราะทุกคนรู้ดีว่าถ้าออกมายุ่งเรื่อง ที่ไม่ควรยุ่ง อาจหายตัวไปแบบไร้ร่องรอย นี่ไม่ใช่ความสมัครใจ
แต่มันคือคำสั่งจากผู้ที่อยู่เบื้องบน พวกเราที่มาอาศัยที่นี่ท่าขี้เหล็ก เราไม่อยากให้มีความขัดแย้งกับไทย เรารู้ดีว่าประเทศไทยไม่ใช่ศัตรูของเรา พวกเราซาบซึ้งกับความช่วยเหลือที่ได้รับมาตลอดตั้งแต่น้ำท่วมและหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา
และพวกเราไม่อยากให้การกระทำของคนไม่กี่กลุ่มมากลายเป็นตัวแทนของพม่าทั้งประเทศ และอีกประเด็นว่าทำไมพวกเราไม่อยากไปเกณฑ์ทหาร
#เกณฑ์ทหารในพม่าถ้าไปคือไปตาย
ในหลายประเทศ การเกณฑ์ทหารอาจเป็นหน้าที่พลเมือง แต่ในพม่า มันคือคำสั่งที่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ และหากไป นั่นหมายถึงเดินเข้าสู่ความตายแทบจะแน่นอน ทหารใหม่ไม่ได้รับการฝึกที่ดี ไม่มีอาวุธเพียงพอ ถูกส่งไปแนวหน้าทันทีเพื่อเป็น “โล่มนุษย์” ในสงครามที่ไม่มีวันจบ คนที่กลับมาได้แทบจะไม่มี พ่อแม่บางคนต้องส่งลูกหนีออกจากประเทศ เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ต่อก็มีแต่ตาย พวกเรามองไปฝั่งไทย เห็นวัยรุ่นมีอนาคต ได้เรียน ได้ใช้ชีวิต พวกเราก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า “ทำไมชีวิตเราถึงต่างกันขนาดนี้”
#ขอโทษจากใจและหวังว่าสักวันหนึ่งพม่าจะเปลี่ยนแปลง
พวกเราเห็นข้อความเกลียดชังที่วัยรุ่นบางคน หรือคนที่ไม่รู้เรื่องมาโพสต์หรือ คอมเม้นโจมตีกันไปมา บางคนอาจถูกปั่นหัวให้เกลียดไทย บางคนอาจพูดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีแต่ทำให้เราห่างกันมากขึ้น พวกเราขอโทษคนไทยอีกครั้ง
ขอโทษแทนคำพูดไม่ดีที่ออกมาจากคนพม่า ขอโทษแทนบางคนที่ไม่รู้ว่ากำลังทำให้สถานการณ์แย่ลง เราไม่เคยลืมว่าประเทศไทยช่วยเหลือพม่ามาตลอด และเราซาบซึ้งในน้ำใจนั้นเสมอ
อีกครั้งความคิดเห็นที่หลายคนเห็นในโพสต์หรือคอมเมนต์ที่สร้างความขัดแย้ง จริงๆ แล้วไม่ได้สะท้อนเสียงส่วนใหญ่ของพวกเราเลย มันเป็นเพียงเสียงของคนส่วนน้อย คนที่อาจไม่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด หรือบางคนก็แค่ต้องการระบายอารมณ์ โดยไม่คิดถึงผลกระทบตามมา
เรื่องที่ประเทศไทยตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต งดส่งน้ำมัน เราเข้าใจดีว่าผู้มีอำนาจฝั่งไทย ก็ต้องแสดงให้ประชาชนของตัวเองเห็นว่ากำลังแก้ปัญหา พวกเขามีสิทธิ์ที่จะปกป้องประชาชนและทำทุกอย่างเพื่อรักษาประชาธิปไตยในประเทศของตัวเอง พวกเราก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง เราจะมีรัฐบาลที่คิดถึงประชาชนของตัวเองแบบนั้นบ้าง
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ บทความนี้ถูกเขียนขึ้นจากห้องเล็กๆ ที่มืดสนิทอยู่ตรงข้ามฝั่งพวกคุณ เราต้องใช้ VPN เพื่อเข้าถึง Facebook เพราะรัฐบาลของเราไม่ต้องการให้พวกเราได้รับข่าวสารหรือพูดคุยกับโลกภายนอก ทุกอย่างถูกควบคุม แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังอยากให้คนไทยเข้าใจว่า พวกเราไม่ได้อยากเป็นปัญหาให้ใคร และเราไม่เคยลืมว่า ประเทศไทยเคยช่วยเหลือพวกเรามากแค่ไหน
หวังว่าสักวันหนึ่ง ประเทศพม่าจะสงบ พวกเราจะมีรัฐบาลที่เป็นของประชาชนจริง ๆ และหวังว่าวันนั้น เราจะได้เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน อย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แรก
* พบแหล่งข่าวจากเพจ เชียงราย ครับ
https://www.facebook.com/profile.php?id=100068788754031
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0WmFHr8cMqVAQd8rMCCQ6F4ndJk81Cn4T3YZZ7Vonx6QPGmsdGEUw63c9uq5354ojl&id=100068788754031
"กัณวีร์"เตือนรัฐบาลอย่าหลงกลม็อบจัดตั้งประท้วงไทย อย่าหลงทางกับการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
https://siamrath.co.th/n/599806
เมื่อวันที่ 8 ก.พ.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กระบุว่า
รัฐบาลครับบอกได้คำเดียวตอนนี้ว่า ทำงานใหญ่ ใจต้องนิ่ง !!
หนังฉากแรกของ “ผู้เสียประโยชน์“ ซึ่งก็คือพวกนายทุนธุรกิจดำทั้งหลาย จากมาตรการเด็ดขาดตัดไฟฟ้า น้ำมันและสัญญาณอินเตอร์เน็ตฝั่งเมียนมา ฉากต่อไปเร่งระดมคนที่ไม่รู้เรื่องก่อม๊อบต่อต้านให้มากขึ้น
เห็นการชุมนุมประท้วงของชาวเมียนมาในเมียวดี ซึ่งเดิมบอกว่าจะออกมาเดินขบวนกันหลายพันคน เพื่อเรียกร้องไทยยกเลิกมาตรการกดดันไฟ-น้ำมัน แต่พอมากันจริง หน่วยงานความมั่นคงไทยบอกว่า 30 คน ในขณะเดียวกันชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงนี้เพราะรู้กันว่าใครอยู่เบื้องหลัง
ผ่านมา 3 วันกับมาตรการกดดันแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลไทย ก็พอจะมองเห็นทิศทางว่าจะกดดันพวกนั้นได้จริงไหม เพราะอย่างที่เห็นว่า เมืองสแกมเมอร์ ยังมีไฟฟ้าใช้ เพราะเตรียมสำรองน้ำมัน และโซลล่าเซลล์ไว้ และไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ อย่างที่เปิดเผยกันมาว่าจะอยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ก็ต้องรอดูว่าจะอดทนกันได้ขนาดไหน
ในขณะเดียวกันพวกกองกำลังชาติพันธุ์ที่คุ้มครองธุรกิจเหล่านี้ก็จะพยายามลบภาพเดิมและสร้างภาพใหม่ว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องและเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้โดยการประสานทางการไทยเแจ้งว่าจะปล่อยตัวเหยื่อและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากขบวนการค้ามนุษย์ที่อยู่ในพื้นที่ของ BGF และ DKBA จำนวนหลักพัน (1-2 พันคน) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และความตั้งใจจริงของพวกนี้ เพื่อแสวงประโยชน์กับโอกาสการได้กลับมาซึ่งไฟฟ้า น้ำมันและสัญญาณอินเตอร์เน็ต !!
เหมือนกับความพยายามล้างมือในอ่างทองคำและสร้างภาพตัวเองใหม่ว่าไม่เกี่ยวข้องแถมจะปราบปรามให้ด้วย !!
อย่าหลงกลกับม็อบจัดตั้งประท้วงไทย อย่าหลงทางกับการจัดการแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และอย่าหลงเสน่ห์จากการลบภาพและวาดใหม่ของกลุ่มที่ไม่มีความจริงใจว่าเปลี่ยนตัวเองเป็นคนดีแล้ว !!
เราต้องปราบให้หนัก ถอนรากถอนโคนไอ้แก๊งค์คอลเซนเตอร์ บัญชีม้า ซิมม้า ที่มาบวกกับความเลวร้านของขบวนการนำพาและการค้ามนุษย์นี่ให้ราบคราบ
รัฐบาลไทยต้องไม่หลงทางกับเกมต่อรองของกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ หากจะจัดการกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์พวกนี้ก็ต้องเด็ดขาด ต้องไม่อ่อนข้อกับมาตรการยาแรง เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่า เราแค่เล่นละครเอาใจจีนอย่างที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้
และไม่ควรหลงทางใจดีเห็นว่าเค้าช่วยคืนเหยื่อค้ามนุษย์หลักพันแล้วจะยอมคืนทุกอย่างให้เหมือนเดิม เพราะการช่วยชีวิตของเหยื่อต่างๆ เหล่านี้ต้องตั้งบนฐานมนุษยธรรมที่ไม่มีการต่อรอง และมันเป็นหน้าที่หลักของทุกคนที่ต้องช่วยชีวิตคน โดยเฉพาะคุณที่เป็นกำลังหน่วยความมั่นคงและอำนาจประจำถิ่นที่ต้องปกป้องชีวิตคนบริสุทธิ์โดยไม่มีข้อแม้ ช่วยออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และอย่าต่อรองเรื่องมาตรการตัดไฟฟ้า น้ำมันและอินเตอร์เน็ต เอาไว้มาคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า
ผมบอกไปหลายครั้งว่ามีชื่อเหยื่อหลักพันคนและพิกัดของคอลเซนเตอร์ตลอดฝั่งเมียนมามานานแล้ว หากรัฐบาลอยากได้ไปประสานฝั่งนู้นบอกนะครับ พร้อม !
https://www.facebook.com/NolKannavee/posts/pfbid025aZVNE8ZTk1KnEKP3xi1s8raqsdp3ukvJYCANsjuP9A4d64VbEoCJPSJSUbH6sFYl