ผู้นำBGFเปิดใจ โอดที่เอื้อคอลเซ็นเตอร์ เพราะอยากพัฒนาพี่น้องพม่า

                         วันนี้ (8 ก.พ.68)  ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่ พันโท หน่ายหม่อง โซ รองผู้บังคับกองพัน บีจีเอฟ.( กองกำลังพิทักษ์ชายแดน) ประจังหวัดจำเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จังหวัดตาก ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยพูดถึงแก๊งคอลเซนเตอร์ในพื้นที่จีนเทา ในเมืองเมียวดี ว่า ในช่วงแรก ๆ กลุ่มทุนจีนที่เข้ามาลงทุน ขอเสนอใช้พื้นที่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟ. ตอนนั้นไม่ได้บอกว่า จะไปทำคอลเซนเตอร์ที่ทำให้ประชาชนทั่วโลกเดือดร้อน
การที่เจ้าหน้าที่ รับให้ดูแลคุ้มครอง และให้ใช้พื้นที่ เพราะอยากให้พื้นที่ชายแดนรัฐกะเหรี่ยง มีการพัฒนา ประชาชนมีคุณภาพ มีชีวิตที่ดี และมีงานทำ แต่พอนานเข้า เริ่มมีปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ทำให้ฝ่ายบีจีเอฟ. เอง ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องของความเดือดร้อนของประชาชนด้วย
ส่วนรายได้ที่ได้มาจากนักลงทุนจีนนั้น นำไปพัฒนาก่อสร้างถนนและสะพาน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อประชาชน จึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
พันโท หน่ายหม่อง โซ กล่าวว่า กองกำลัง บีจีเอฟ. พยายามแก้ไขมาตลอด โดยยศประสานกับทางการเมียนมา สถานทูต และทางเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ส่งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคลอเซนเตอร์ ไปกว่า 2,000 คน และมีการส่งตัวคืนอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านไปทางเมืองย่างกุ้ง และส่วนมากไปทางประเทศไทย เพราะสะดวกกว่า และใกล้กว่า
“ยืนยันว่าปัญหานี้พยายามแก้ไขอยู่ ทาง บีจีเอฟ. พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย และเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ร่วมกันได้”
พันโท หน่ายหม่อง โซ กล่าวด้วยว่า ไทยกับเมียนมาเหมือนบ้านพี่เมืองน้องกันมานาน ชาวกะเหรี่ยง และชาวเมียนมา ให้ความเคารพ พระเจ้าอยู่หัวไทย และเคารพในรัฐบาลไทย ประชาชนชาวไทย ทางการไทยควรจะพิจารณาทบทวนกับการตัดกระแสไฟฟ้า และผ่อนคลายเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะชาวเมียนมาได้รับความเดือดร้อนมาก ในส่วนของกองกำลังทหารไม่ต้องการอะไร เป็นห่วงประชาชนเท่านั้น
พันโท หน่ายหม่อง โซ บอกว่า ล่าสุดมีชาวต่างชาติอีกนับ 100 คน ส่วนมากเป็นชาวอินโดนีเซีย ที่ฝ่าย บีจีเอฟ. ไปช่วยเหลือมาจากพื้นที่คอลเซนเตอร์ โดยจะส่งตัวให้ทางการไทยในเร็ว ๆ นี้ การช่วยเหลือต้องช่วยออกมาได้ครั้งละจำนวนน้อย และพอรวบรวมได้มากจะส่งไปรวมตัวกันที่บริเวณด่านพรมแดนแม่สอด เมียวดี  สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2

แหล่งที่มา :1. https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1082310207261400&id=100064472928545&rdid=DsHLUZo47PxqmbAU#
2. https://news.postjung.com/1604632
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่