JJNY : รบ.ทหารเมียนมาทลายแก๊ง│หนุ่มฝืนคำสั่ง ลักลอบขนดีเซล│หมายจับ“สส.ปูอัด”ยังไม่ถึงสภา│"กรุงศรี" ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ

ยิงปะทะเดือด! รัฐบาลทหารเมียนมาทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในรัฐฉาน
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/242462
 
 
รัฐบาลทหารเมียนมายิงปะทะกลุ่มติดอาวุธ ใช้เวลา 3 วันดำเนินปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในรัฐฉาน
 
รัฐบาลทหารเมียนมารายงานความคืบหน้าการปราบปรามการพนันออนไลน์และธุรกิจหลอกลวง โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. กองทัพได้เปิดฉากปฏิบัติการจู่โจมฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่เมืองมองไย (Mongyai) ทางตอนเหนือของรัฐชาน
 
ปฏิบัติการดังกล่าวกินเวลา 3 วัน โดยกองทัพได้ยิงปะทะกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยติดอาวุธ ซึ่งมี 2 คนเสียชีวิต ส่วนอีก 5 คนถูกจับกุมไว้ได้ นอกจากนี้ยังควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 81 คน

รัฐบาลเมียนมากล่าวว่า จากผู้ต้องสงสัย 81 คนที่ถูกจับ มี 15 คนถูกตั้งข้อหาหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นชาวจีน 8 คนและชาวเมียนมาร์ 7 คน ส่วนที่เหลือ 66 คนนั้นมีชาวจีน 21 คนและชาวเวียดนาม 18 คน
 
รวมถึงยังสามารถยึดโทรศัพท์มือถือได้ประมาณ 180 เครื่อง แล็ปท็อป 25 เครื่อง และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสตาร์ลิงก์ (StarLink) จำนวน 2 เครื่อง
รัฐบาลเมียนมากล่าวว่า จะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางออนไลน์และส่งตัวชาวต่างชาติที่ถูกควบคุมตัวกลับประเทศต้นทาง

นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเมียนมา โดยฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายแห่งได้ย้ายไปเมียวดีหลังจากถูกขับไล่ออกจากพื้นที่โดยปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในรัฐฉานเมื่อปีที่แล้ว
 
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังรัฐบาลเมียนมาและกองกำลังป้องกันชายแดนรัฐกะเหรี่ยง (BGF) เพิ่งส่งตัวเหยื่อที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงานให้ทางการไทยเมื่อวันที่ 6 ก.พ.

เรียบเรียงจาก Irrawaddy


 
หนุ่มฝืนคำสั่ง ลักลอบขน น้ำมันดีเซล เกือบ 300 ลิตร ไปพญาตองซู.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9627240

คดีแรก หนุ่มฝ่าฝืนคำสั่ง ลักลอบขน น้ำมันดีเซล เกือบ 300 ลิตร ออกนอกไปประเทศ ไปพญาตองซู อ้างจะเอาไปส่งให้แม่ยาย ไม่ได้รับค่าจ้าง

วันที่ 10 ก.พ.2568 พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติสั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาสังขละบุรี ตัดกระแสไฟฟ้าบริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรงสูง ด้านพรมแดนบ้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ ม.9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เนื่องจากเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซนเตอร์ กลุ่มธุรกิจจีนเทาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อ.พญาตองซู รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ซิลชายแดนอำเภอสังขละบุรี
 
คดีแรก หนุ่มฝ่าฝืนคำสั่ง ลักลอบขน น้ำมันดีเซล เกือบ 300 ลิตร ออกนอกไปประเทศ ไปพญาตองซู อ้างจะเอาไปส่งให้แม่ยาย ไม่ได้รับค่าจ้าง
เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงอุปกรณ์กำเนิดไฟฟ้าข้ามชายแดนเข้าไปในพื้นที่ อ.พญาตองซู อย่างเข้มข้นและเด็ดขาดตลอด 24 ชั่วโมง

ที่ผ่านมา พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 134 สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันขบวนการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ให้คลาดสายตา
 
กระทั่งเมื่อเวลา 17.50 น.ของวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบขนน้ำมันเชื้อเพลิงออกไปนอกประเทศ ด้วยการใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ มุ่งหน้าไปออกช่องทางธรรมชาติทางด้านศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ บ้านต้นยาง ม.5 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
 
หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจบ้านห้วยมาลัย เจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดปะฉะดะ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด. ที่ 134 และเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี ประจำจุดตรวจทหารพราน ฐานปฏิบัติการช่องทางต้นยาง หมู่.5 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
 
กระทั่งพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ ทะเบียน กาญจนบุรี ขับผ่านเข้ามาที่จุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นพบน้ำมันดีเซลบรรจุในแกลลอนสีน้ำเงิน จำนวน 10 แกลลอน รวม 290 ลิตรอยู่กระบะท้าย
 
เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจทหารพรานจึงร่วมกันตรวจยึดพร้อมจับกุมตัว นายสัมฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี จากนั้นจึงนำตัวส่ง พ.ต.ต.ธารา น้าวานิช สารวัตร(สอบสวน) สภ.สังขละบุรี เพื่อสอบปากคำ
 
ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า น้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนดังกล่าว ตนไปซื้อมาเพื่อนำไปส่งให้กับแม่ยายที่อาศัยอยู่บ้านฮล็อคนี อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี รัฐกระเหรี่ยง ประเทศเมียนมา โดยที่ไม่ได้รับค่าจ้างจากแม่ยายแต่อย่างใด้ ระหว่างขับรถนำน้ำมันเชื้อเพลิงไปส่งก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
 
หลังจากที่นายสัมฤทธิ์ ให้การยอมรับสารภาพ จึงดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “พยายามนำสินค้าออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร
 
ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นคดีแรกตั้งแต่มีการตัดกระแสไฟเมื่อวันที่ 5 ก.พ. และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงร่วมกันสกัดกั้นการลักลอบขนน้ำมันเชื้อเพลิงออกนอกประเทศโดยเด็ดขาด



เลขาฯสภา รับ หมายจับ “สส.ปูอัด” ยังไม่ถึงสภา
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_839133/

เลขาฯสภา รับ หมายจับ “สส.ปูอัด” ยังไม่ถึงสภา ชี้หากลาออก ถือว่าขาดสมาชิกภาพ สภาไม่ต้องพิจารณาอีก
 
ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หมายจับของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ข้อหาข่มขืนนักท่องเที่ยวหญิงชาวไต้หวัน ยังมาไม่ถึงสภาฯ เพราะตามขั้นตอนสภ. เชียงใหม่จะส่ง หมายจับของศาลไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหนังสือเพิ่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จึงคาดว่ามาถึงสภาฯ ไม่วันที่ 10 ก.พ. ก็ 11 ก.พ. นี้ เพราะต้องผ่านขั้นตอนคือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หรือรองผบ.ตร. ก็จะทำหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขออนุญาต พิจารณาคดีระหว่างสมัยประชุมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 วรรค 1 ทั้งนี้เมื่อหนังสือมาถึงทางสำนักประชุมก็จะนำเสนอประธานสภาฯ เพื่อขออนุญาตบรรจุวาระการประชุมในวันที่ 20 ก.พ.เป็นเรื่องด่วน เพราะวันพุธ เป็นวันพิจารณากฎหมาย
 
ทั้งนี้ หากนายไชยามพวานลาออก ไม่ต้องพิจารณาเรื่องนี้ใช่หรือไม่ ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ กล่าวว่า ถ้าลาออกก็ถือว่าขาดสมาชิกภาพทางสภาฯก็ไม่ต้องพิจารณา การคุ้มกันต่างๆจะหมดลง แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างชั้นการสอบสวนยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ยังไม่ได้ฟ้องศาล แต่ทันทีที่สภาฯอนุมัติให้จับเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าควบคุมตัวนายไชยามพวาน ได้ทันที
 
ส่วนมองว่าช้าไปหรือไม่ที่บรรจุวาระดังกล่าวในวันที่ 20 ก.พ. กล่าวว่า เป็นขบวนการตามปกติ เนื่องจากสัปดาห์นี้มีประชุมร่วม ยังไงก็บรรจุไม่ได้อยู่แล้ว ต้องรอสัปดาห์หน้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่