นี้แค่พิจารณาตามเฉยๆฮะ ไม่ได้เข้าถึงเป็นภาวนาญาณฮะ
คือตรรกะเราอาจจะผิดก็ได้ฮะ
เช่น คิดว่าพระโสดาบันคล้ายๆจะหมดทุกสังโยชน์ยกเว้นอวิชชาฮะ แต่ก็เปรียบเหมือนเห็นนิพพานเห็นฝั่ง
ว่าตามพระสูตรที่เคยได้ลองอ่านฟังบ้างนะฮะ ปฏิบัติเองไม่ถึงหรอกฮะ
แต่เคยได้ยินอีกว่า ถ้ากล่าวว่าทุกคนถึงนิพพานอยู่แล้วตลอดเวลา แค่ไม่ได้มองเห็น เปรียบเหมือนอวิชชามาบัง แบบนี้เห็นผิดไหมฮะ
แล้วมานะติดดีติดด้อยติดกลางนี่แก้ยังไงฮะ เพราะจริงที่ที่ยังมีสังโยชน์อีกก็ตั้งแต่อนาคามีแล้วก็ลงมาสกิทาคามีไหมฮะ ลงไปเรื่อยฮะ ที่กล่าวว่าโสดาบันคล้ายๆอรหันต์ เราเทียบเคียงจากการที่เคยเพ่งว่างฮะ อาจจะพยายามข้ามขั้นฮะ เปรียบเหมือนวิชาของอนุบาลเรายังไม่ช่ำชองเราดันอยากไปท้าทายตัวเองด้วยของยากแล้วฮะ
แต่ก็คิดว่าอาจจะลองๆไปพอได้เข้าใจเฉยๆไม่ต้องถึงขั้นวสีก็ได้ฮะ
หรือว่าจริงๆยังไงกันแน่ฮะ คล้ายๆว่าทุกคนนั้นที่ยังไม่พ้นจากสักกายทิฐิ ก็ยังติดดีชั่วอยู่ไหมฮะ แล้วส่วนใหญ่ ปมนิสัยไม่ดีจริงๆอาจจะไม่ได้หายเกลี้ยงด้วยไหมฮะ แค่เราให้อภัยได้ แต่เราต้องลากให้อารมณ์เกิดวิราคะเกิดนิพพิทาในอันนี้ก่อนไหมฮะ แล้วแทรกด้วยหิริโอตตัปปะด้วยหรือเปล่าฮะ
เพราะจะยั่งยืนกว่า อาจจะใช้วิราคะธาตุไปพลางๆ หรือบางท่านใช้ปัสสัทธิไหมฮะ เพราะว่าปีติบางทีคล้ายๆฟองสบู่ฮะ ลมในอาจจะคล้ายๆลมนอก แต่ว่าคนละระบบไหมฮะ
จมแช่นิ่งในอาการเบื่อหน่ายกิเลสนี่ดีไหมฮะท่าน
บางทีคล้ายๆว่าจะรู้สึกว่าโทรศัพท์คลื่นๆต่างๆถ้าสรุปรวมเป็นผัสสะไปหมดเลยก็คงได้หรือเปล่าฮะ แต่ว่าเราก็จะมองเหมือนหน้าจอแสงมากระทบเรา ที่เราลายตาเพราะเกิดอัตตาซ้อนอัตตาซ้อนอัตตาๆไปเรื่อยๆ วนธาตุกลับมาเป็นผัสสะใหม่
เลยคล้ายๆเกิดแบบความงงๆ
เพราะสมองเราไปเลียนแบบพฤติกรรมของช่วงผัสสะนี้ไหมฮะ หรือว่าจริงๆอยู่ในสมองเยอะเลยแต่เรามองไม่ออกฮะ หลายๆท่านฝึกดูความคิดผัสสะ แล้วก็งงแบบนี้ไหมฮะ
วิปัส
คือตรรกะเราอาจจะผิดก็ได้ฮะ
เช่น คิดว่าพระโสดาบันคล้ายๆจะหมดทุกสังโยชน์ยกเว้นอวิชชาฮะ แต่ก็เปรียบเหมือนเห็นนิพพานเห็นฝั่ง
ว่าตามพระสูตรที่เคยได้ลองอ่านฟังบ้างนะฮะ ปฏิบัติเองไม่ถึงหรอกฮะ
แต่เคยได้ยินอีกว่า ถ้ากล่าวว่าทุกคนถึงนิพพานอยู่แล้วตลอดเวลา แค่ไม่ได้มองเห็น เปรียบเหมือนอวิชชามาบัง แบบนี้เห็นผิดไหมฮะ
แล้วมานะติดดีติดด้อยติดกลางนี่แก้ยังไงฮะ เพราะจริงที่ที่ยังมีสังโยชน์อีกก็ตั้งแต่อนาคามีแล้วก็ลงมาสกิทาคามีไหมฮะ ลงไปเรื่อยฮะ ที่กล่าวว่าโสดาบันคล้ายๆอรหันต์ เราเทียบเคียงจากการที่เคยเพ่งว่างฮะ อาจจะพยายามข้ามขั้นฮะ เปรียบเหมือนวิชาของอนุบาลเรายังไม่ช่ำชองเราดันอยากไปท้าทายตัวเองด้วยของยากแล้วฮะ
แต่ก็คิดว่าอาจจะลองๆไปพอได้เข้าใจเฉยๆไม่ต้องถึงขั้นวสีก็ได้ฮะ
หรือว่าจริงๆยังไงกันแน่ฮะ คล้ายๆว่าทุกคนนั้นที่ยังไม่พ้นจากสักกายทิฐิ ก็ยังติดดีชั่วอยู่ไหมฮะ แล้วส่วนใหญ่ ปมนิสัยไม่ดีจริงๆอาจจะไม่ได้หายเกลี้ยงด้วยไหมฮะ แค่เราให้อภัยได้ แต่เราต้องลากให้อารมณ์เกิดวิราคะเกิดนิพพิทาในอันนี้ก่อนไหมฮะ แล้วแทรกด้วยหิริโอตตัปปะด้วยหรือเปล่าฮะ
เพราะจะยั่งยืนกว่า อาจจะใช้วิราคะธาตุไปพลางๆ หรือบางท่านใช้ปัสสัทธิไหมฮะ เพราะว่าปีติบางทีคล้ายๆฟองสบู่ฮะ ลมในอาจจะคล้ายๆลมนอก แต่ว่าคนละระบบไหมฮะ
จมแช่นิ่งในอาการเบื่อหน่ายกิเลสนี่ดีไหมฮะท่าน
บางทีคล้ายๆว่าจะรู้สึกว่าโทรศัพท์คลื่นๆต่างๆถ้าสรุปรวมเป็นผัสสะไปหมดเลยก็คงได้หรือเปล่าฮะ แต่ว่าเราก็จะมองเหมือนหน้าจอแสงมากระทบเรา ที่เราลายตาเพราะเกิดอัตตาซ้อนอัตตาซ้อนอัตตาๆไปเรื่อยๆ วนธาตุกลับมาเป็นผัสสะใหม่
เลยคล้ายๆเกิดแบบความงงๆ
เพราะสมองเราไปเลียนแบบพฤติกรรมของช่วงผัสสะนี้ไหมฮะ หรือว่าจริงๆอยู่ในสมองเยอะเลยแต่เรามองไม่ออกฮะ หลายๆท่านฝึกดูความคิดผัสสะ แล้วก็งงแบบนี้ไหมฮะ