วิปัส

กระทู้สนทนา
อาตมัน









รวมกับพรหมมันไหมฮะ หรือปรมาตมัน คล้ายๆจิตเข้านิพพานไหมฮะ

จริงไหมฮะ อันนี้ เราไม่มั่นใจฮะ

ระบบวรรณะเป็นแนวคิดทางสังคมที่ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูให้ความสำคัญอย่างมาก แต่พระพุทธศาสนาปฏิเสธแนวคิดนี้และสอนเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์ โดยมีเหตุผลดังนี้:
* ที่มาของวรรณะ:
   * ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเชื่อว่าวรรณะเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น โดยแบ่งมนุษย์ออกเป็น 4 วรรณะ ได้แก่ พราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ และศูทร แต่ละวรรณะมีหน้าที่และสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน
   * พระพุทธศาสนาไม่เชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างโดยพระเจ้า และมองว่าการแบ่งแยกมนุษย์ตามวรรณะเป็นการสร้างความไม่เท่าเทียมกัน
* หลักธรรมของพระพุทธศาสนา:
   * พระพุทธศาสนาสอนเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งหมายถึงการกระทำของแต่ละบุคคลเป็นตัวกำหนดผลที่จะได้รับ ไม่ใช่สถานะทางสังคมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด
   * พระพุทธศาสนาเน้นเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์ โดยมองว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะบรรลุธรรมได้ ไม่ว่าจะมีวรรณะใดก็ตาม
   * พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าความประเสริฐของคนไม่ได้อยู่ที่วรรณะ แต่อยู่ที่การกระทำ
* การปฏิบัติของพระพุทธเจ้า:
   * พระพุทธเจ้าทรงเปิดรับบุคคลจากทุกวรรณะเข้าสู่พระพุทธศาสนา และทรงยกย่องบุคคลที่ประพฤติดีแม้จะอยู่ในวรรณะต่ำ
   * ในพระธรรมวินัยของพระสงฆ์ ไม่มีการแบ่งแยกวรรณะ
ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงไม่ยอมรับระบบวรรณะและสอนเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองและบรรลุธรรมได้


ถูกต้องครับ ระบบวรรณะเป็นแนวคิดของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ไม่ใช่ของพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธระบบวรรณะและสอนเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์ โดยมีเหตุผลดังนี้:
* ที่มาของวรรณะ:
   * ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเชื่อว่าวรรณะเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น แบ่งมนุษย์ออกเป็น 4 วรรณะ (พราหมณ์ กษัตริย์ แพศย์ ศูทร)
   * พระพุทธศาสนาไม่เชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างโดยพระเจ้า และมองว่าการแบ่งแยกมนุษย์ตามวรรณะเป็นการสร้างความไม่เท่าเทียม
* หลักธรรมของพระพุทธศาสนา:
   * พระพุทธศาสนาสอนเรื่องกฎแห่งกรรม การกระทำของแต่ละบุคคลเป็นตัวกำหนดผลที่จะได้รับ ไม่ใช่สถานะทางสังคม
   * พระพุทธศาสนาเน้นความเสมอภาคของมนุษย์ ทุกคนมีศักยภาพที่จะบรรลุธรรมได้
   * พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าความประเสริฐของคนอยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่วรรณะ
* การปฏิบัติของพระพุทธเจ้า:
   * พระพุทธเจ้าทรงเปิดรับบุคคลจากทุกวรรณะเข้าสู่พระพุทธศาสนา
   * ในพระธรรมวินัยของพระสงฆ์ ไม่มีการแบ่งแยกวรรณะ
ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงไม่ยอมรับระบบวรรณะและสอนเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสพัฒนาตนเองและบรรลุธรรมได้


ถูกต้องครับ ข้อมูลที่คุณให้มานั้นสรุปความแตกต่างระหว่างแนวคิดเรื่องวรรณะในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และพระพุทธศาสนาได้อย่างชัดเจนและถูกต้องแล้วครับ
เพื่อเสริมความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น ผมขอเพิ่มเติมรายละเอียดดังนี้ครับ
* ความแตกต่างในรายละเอียด:
   * ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู: ระบบวรรณะเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทางสังคมและศาสนาที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน โดยเชื่อว่าเป็นการแบ่งแยกที่มาจากพระเจ้า และมีผลต่อการดำเนินชีวิตในทุกด้าน
   * พระพุทธศาสนา: พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธแนวคิดนี้อย่างสิ้นเชิง โดยทรงเน้นว่าความสำคัญของบุคคลไม่ได้อยู่ที่ชาติกำเนิด แต่เป็นการกระทำ (กรรม) ที่บุคคลนั้นได้ทำ
* อัคคัญญสูตร:
   * ในพระไตรปิฎกมีสูตรหนึ่งชื่อว่า "อัคคัญญสูตร" ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ว่า การแบ่งชนชั้นวรรณะนั้นเป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์สมมุติขึ้นมาเองเท่านั้น ไม่ได้มีอยู่จริงตามธรรมชาติ
   * ซึ่งเป็นการยืนยันชัดเจนว่าพระพุทธเจ้าไม่เห็นด้วยกับการแบ่งชนชั้นวรรณะ
* ผลกระทบทางสังคม:
   * การปฏิเสธระบบวรรณะของพระพุทธศาสนา มีผลกระทบอย่างมากต่อสังคมอินเดียในสมัยนั้น และยังคงมีอิทธิพลต่อแนวคิดเรื่องความเสมอภาคในปัจจุบัน
   * การเปิดรับบุคคลจากทุกวรรณะเข้าสู่พระพุทธศาสนาเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคของมนุษย์ โดยไม่แบ่งแยกตามชาติกำเนิดหรือวรรณะใดๆ ทั้งสิ้น


การล้มล้างระบบวรรณะมักถูกมองว่าเป็นการแสดงความอิจฉาต่อผู้ที่มีวรรณะสูงกว่า ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับความเข้าใจผิดหลายประการเกี่ยวกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนา หากพระพุทธเจ้าทรงตอบคำถามนี้ พระองค์อาจตรัสได้ดังนี้:
* ความเสมอภาคไม่ใช่ความอิจฉา:
   * พระพุทธเจ้าจะทรงชี้แจงว่าการเรียกร้องความเสมอภาคไม่ใช่การแสดงความอิจฉา แต่เป็นการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน
   * พระองค์จะทรงเน้นว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะบรรลุธรรมได้ ไม่ว่าจะมีวรรณะใดก็ตาม
* กฎแห่งกรรม:
   * พระองค์จะทรงอธิบายว่าความประเสริฐของคนไม่ได้อยู่ที่วรรณะ แต่อยู่ที่การกระทำ (กรรม) ของแต่ละบุคคล
   * บุคคลที่มีวรรณะสูงแต่ประพฤติชั่วก็ย่อมได้รับผลกรรมที่ไม่ดี ในขณะที่บุคคลที่มีวรรณะต่ำแต่ประพฤติดีก็ย่อมได้รับผลกรรมที่ดี
* เมตตาและกรุณา:
   * พระองค์จะทรงสอนให้เห็นว่าการแบ่งแยกวรรณะเป็นการสร้างความทุกข์ให้กับผู้อื่น
   * พระองค์จะทรงเน้นถึงความสำคัญของเมตตาและกรุณา ซึ่งเป็นคุณธรรมที่ควรมีต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคน โดยไม่แบ่งแยกวรรณะ
* การละวางอัตตา:
   * พระองค์จะทรงชี้ให้เห็นว่าความยึดมั่นในวรรณะเป็นรูปแบบหนึ่งของอัตตา ซึ่งเป็นต้นเหตุของความทุกข์
   * พระองค์จะทรงสอนให้ละวางอัตตาและมองเห็นความจริงที่ว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์
โดยสรุปแล้ว พระพุทธเจ้าจะทรงชี้ให้เห็นว่าการล้มล้างระบบวรรณะไม่ใช่การแสดงความอิจฉา แต่เป็นการเรียกร้องความยุติธรรมและความเสมอภาค ซึ่งเป็นหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนา


ห้อยพระพุทธรูป การบูชามีผล แบบนี้ไหมฮะ  เพราะว่า ท่านให้เราบูชาด้วยการปฏิบัติ 3 ป ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ  แต่ก็งงว่าจะเหมือนสีลัพพตปรามาสไหมฮะคุณ


แค่อธิษฐานว่า


ขอให้ตัวเองเจอความกดดัน

แบบเดียวกัน

แต่ความหนักอนันต์เท่า


แค่นี้ช่วยให้เราให้อภัยคนอื่นได้มากขึ้นไหมฮะ อุเบกขาบารมีไหมฮะ นี่แค่ปริยัติ สุตตมยปัญญาฮะ


มีบางแหล่งบอกว่า ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ คือ สุตมยปัญญา จินตมยปัญญา และ ภาวนามยปัญญา ฮะ เราก็งงฮะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่