๗
คิดๆๆๆ สังกัปโป
"คิด(แต่)ไม่ถึง คิดคิดแต่ไม่ถึงเธอ เธอรู้บ้างไหมว่ามีใครทนทุกข์ทรมาน อยากรู้เพียงว่าความคิดถึงของเธอกับฉัน มันเท่ากับหรือเปล่า ถามจริงๆว่าใจเธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า ฉันไม่คิดไปเองใช้ไหม"
กรรม ใน สังสารวัฏ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กรรม = เจตนา(เป็นเหตุให้เกิดวิบากจิต)
+ผัสสะ(เป็นอัตตาที่เชื่อมของภายนอกและภายในให้ยังยึดติดกัน
ด้วยความไม่รู้แจ้ง
(อวิชชา) ตัณหา อุปาทาน
(กลูออน ในฟิสิกส์ควอนตัม ใช่อุปาทานหรือเปล่าฮะ)
+มนสิการ (การกระทำไว้ในใจ
ในมโนทวารหรือรวมทวารอื่นด้วยฮะ
แต่ถ้าเราแยกรูปนามได้ละฮะ จะเป็นแค่มโนทวารไหมฮะ)
ถ้าประมาททำให้อวิชชาในอย่างได้อย่างหนึ่ง
เปรียบเหมือน เราทำข้อสอบ
คิดเลขผิด ขั้นใดขั้นหนึ่ง
ผลที่เกิดคืออวิชชายังมี แม้ใน
เจตนา ผัสสะ มนสิการ ก็จะทำให้เรานั้น
ทำข้อสอบผิดอยู่ดีฮะ
ทำข้อสอบผิดคือประมาท ไม่สำรวมอินทรีย์ คือประมาท
ทั้ง เจตนา ผัสสะ มนสิการฮะ เชื่อมโยงกันฮะ
ภาพคงหมายถึงวงล้อมาร เปรียบเหมือนเห็นสังสารวัฏในจิต
ในธรรมฮะ แต่การเห็นจิตกับเห็นธรรมคงคนละระบบกัน ฮะ
หรือว่าจิตที่เข้านิพพาน คืออาตมันรวมกับปรมาตมันฮะ
แบบนี้เรียกว่าผิดหรือเปล่าฮะ เดาๆฮะ
ไม่ประมาทคงเป็นคำที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะเข้าใจง่ายๆหรือเปล่าฮะ
อัคคัญญสูตร ที่ว่าพรหมลงมาทานง้วนดิน ง้วนดินคงจะเป็น
รูปที่เป็นโอชา หรือเปล่าฮะ
คล้ายๆรูปที่สัมภเวสีทานฮะ
นี่สงสัยว่าจริงๆแล้วสัมภเวสีทั้งหมดที่ว่ามี
ในทิฏฐิ62 แล้วบางที่บอกว่า เป็นการปรุงแต่งของจิต
การกล่าวอย่างนี้คงเปรียบเหมือนการบอกว่า
ไม่มีการเกิดใหม่หรือเปล่าฮะ
ทั้งที่จริงๆทิฏฐิ62 ก็มี เรื่องโอปปาติกะฮะ
พรหม คือ
รูปธาตุ อรูปธาตุ มาผัสสะด้วย
ตาหูจมูกลิ้นกายใจ
ในโอชาธาตุ
เลยเกิดฉันทะราคะนันทิตัณหาในโอชา แล้วทำให้เกิด
อวิชชา สังขารวิญญาณนามรูป ในระดับกามธาตุ ฮะ
เพราะไปยึดว่ากามายตนะ(อายตนะ5หรือ6ฮะงงๆฮะ ต้องเกิดพร้อมรูปอรูปในจิตไหมฮะ) ศัพท์มั่วเอาฮะ) ว่าเป็นเราฮะ
นรกอเวจี หรือ โลกันต์ คือ หลุมดำหรือเปล่าฮะ มาท่องเที่ยวอวกาศกันฮะ
คือนรกอเวจี หรือโลกันต์กันแน่ฮะ หลุมดำฮะ
จิตจะคิดถึงปรินิพพานได้ไหม ติดตามชมได้ที่
https://youtu.be/nS1fwI1I7_w?si=wmb8sAoLa-i0rqnR
อยากรู้เพียง ว่าความคิดถึงของเธอกับฉันมันเท่ากันหรือเปล่า
คิดๆสังกัปโป นั้นคือ แบบว่า เราต้องระวังใจ แม้จะศีลสมาธิปัญญา
วิมุตติ วิมุตติญาณทัศนะฮะ
เพราะไม่ระวังเท่ากับ เราไม่สำรวมอินทรีย์ เลยทำให้เรายังอวิชชา ถ้ายังมีสักกายทิฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
เหตุพวกนี้ ทำได้ แม้เรา
แต่จะให้เราเกิดใหม่แบบศาสนาอื่น
เพราะยังเบาบางลงไม่พอฮะ
ต้องเบาถึงขั้นดับอวิชชาในสักกายทิฐิฮะ และอาจจะสักกายทิฐิในอวิชชาด้วยฮะ
ยึดว่าเรายังเป็นนิพพานคือมานะสังโยชน์เบื้องสูงไหมฮะ
ส่วนสักกายทิฐิ ถ้าดับจริงๆ เราไม่มีทางมานะได้ฮะ
เพราะเห็นขันธ์5ทุกผู้ทุกนาม
เป็นเปรียบเหมือนบ้านดิน
มีสัตว์มาหลงมาเล่น แล้วก็ไม่มีเราอีกเลย
แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยตัวจนไม่ดูแลตัวเอง
ไม่งั้นก็จะ
ไม่ทางสายกลาง
มัชฌิมาปฏิปทา
อีกหรือเปล่าไหมฮะ
ถามแล้วกันฮะ
ยังงงๆเหมือนกันฮะ
แต่ที่ยังมานะเพราะยังอวิชชาในธรรมารมณ์ที่เราไปหลงยึดว่าเป็นเรา เลยเกิดอุปาทาน เช่น หลงว่าจิตเข้าไปนิพพาน ถ้ายังมีเข้ามีออก แสดงว่ายังไม่สมดุล
เปรียบเหมือน การ osmosis ถ้าเห็นว่าทุกๆอย่างเป็นอนัตตาเหมือนกันหมด
ธรรมทุกๆธรรมก็จะทำให้เรา ไม่มีการไหลเข้าไหลออก มาเป็นอะไรได้อีกไหมฮะ
เราแค่คิดตามคำในพระไตรปิฎกฮะ
ไม่ได้คิดเอง
เราแค่เป็นธรรมบุตรฮะ
ไม่ได้
เป็นผู้ตรัสรู้ธรรมเองฮะ
เป็นไปไม่ได้ที่เราจะตรัสรู้ธรรมเองฮะ
เพราะเราก่อนจะมาได้ขนาดนี้ เราก็อ่าน และฟัง สะสมสุตตะ จากปิฎกของพระพุทธเจ้าฮะ
การที่เราจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเองจึงเป็นการอกตัญญู และกล่าวตู่พระธรรม แม้เราจะคิดว่าเราเป็นพระโพธิสัตว์ก็กล่าวตู่พระธรรม ไม่มีสัจจบารมีฮะ
ต้องให้เราปฏิบัติวิปัสสนาให้พ้นจากผลญาณตอนนั้นเราก็จะรู้เอง ถ้าพ้นไม่ได้ เราก็ต้องถอนคำอธิษฐานลาโพธิสัตว์ภูมิฮะ
ลาไปเยอะๆ จิตจะได้ไม่หลงฮะ
ต้องให้พระอริยะมาตรวจดูเราว่า มีจิตกลับกลอกอยากเป็นพระโพธิสัตว์อีกไหมฮะ
เปรียบเหมือนยกหินขึ้นมาก่อน จะสับง่ายขึ้น แต่พอเหนื่อยก็พักจากการตัดหญ้าบ้างฮะ ตัดหญ้าจริงๆก็คงได้ประสบการณ์ฮะ
วิปัส
คิดๆๆๆ สังกัปโป
"คิด(แต่)ไม่ถึง คิดคิดแต่ไม่ถึงเธอ เธอรู้บ้างไหมว่ามีใครทนทุกข์ทรมาน อยากรู้เพียงว่าความคิดถึงของเธอกับฉัน มันเท่ากับหรือเปล่า ถามจริงๆว่าใจเธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า ฉันไม่คิดไปเองใช้ไหม"
กรรม ใน สังสารวัฏ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กรรม = เจตนา(เป็นเหตุให้เกิดวิบากจิต)
+ผัสสะ(เป็นอัตตาที่เชื่อมของภายนอกและภายในให้ยังยึดติดกัน
ด้วยความไม่รู้แจ้ง
(อวิชชา) ตัณหา อุปาทาน
(กลูออน ในฟิสิกส์ควอนตัม ใช่อุปาทานหรือเปล่าฮะ)
+มนสิการ (การกระทำไว้ในใจ
ในมโนทวารหรือรวมทวารอื่นด้วยฮะ
แต่ถ้าเราแยกรูปนามได้ละฮะ จะเป็นแค่มโนทวารไหมฮะ)
ถ้าประมาททำให้อวิชชาในอย่างได้อย่างหนึ่ง
เปรียบเหมือน เราทำข้อสอบ
คิดเลขผิด ขั้นใดขั้นหนึ่ง
ผลที่เกิดคืออวิชชายังมี แม้ใน
เจตนา ผัสสะ มนสิการ ก็จะทำให้เรานั้น
ทำข้อสอบผิดอยู่ดีฮะ
ทำข้อสอบผิดคือประมาท ไม่สำรวมอินทรีย์ คือประมาท
ทั้ง เจตนา ผัสสะ มนสิการฮะ เชื่อมโยงกันฮะ
ภาพคงหมายถึงวงล้อมาร เปรียบเหมือนเห็นสังสารวัฏในจิต
ในธรรมฮะ แต่การเห็นจิตกับเห็นธรรมคงคนละระบบกัน ฮะ
หรือว่าจิตที่เข้านิพพาน คืออาตมันรวมกับปรมาตมันฮะ
แบบนี้เรียกว่าผิดหรือเปล่าฮะ เดาๆฮะ
ไม่ประมาทคงเป็นคำที่ลึกซึ้งเกินกว่าจะเข้าใจง่ายๆหรือเปล่าฮะ
อัคคัญญสูตร ที่ว่าพรหมลงมาทานง้วนดิน ง้วนดินคงจะเป็น
รูปที่เป็นโอชา หรือเปล่าฮะ
คล้ายๆรูปที่สัมภเวสีทานฮะ
นี่สงสัยว่าจริงๆแล้วสัมภเวสีทั้งหมดที่ว่ามี
ในทิฏฐิ62 แล้วบางที่บอกว่า เป็นการปรุงแต่งของจิต
การกล่าวอย่างนี้คงเปรียบเหมือนการบอกว่า
ไม่มีการเกิดใหม่หรือเปล่าฮะ
ทั้งที่จริงๆทิฏฐิ62 ก็มี เรื่องโอปปาติกะฮะ
พรหม คือ
รูปธาตุ อรูปธาตุ มาผัสสะด้วย
ตาหูจมูกลิ้นกายใจ
ในโอชาธาตุ
เลยเกิดฉันทะราคะนันทิตัณหาในโอชา แล้วทำให้เกิด
อวิชชา สังขารวิญญาณนามรูป ในระดับกามธาตุ ฮะ
เพราะไปยึดว่ากามายตนะ(อายตนะ5หรือ6ฮะงงๆฮะ ต้องเกิดพร้อมรูปอรูปในจิตไหมฮะ) ศัพท์มั่วเอาฮะ) ว่าเป็นเราฮะ
นรกอเวจี หรือ โลกันต์ คือ หลุมดำหรือเปล่าฮะ มาท่องเที่ยวอวกาศกันฮะ
คือนรกอเวจี หรือโลกันต์กันแน่ฮะ หลุมดำฮะ
จิตจะคิดถึงปรินิพพานได้ไหม ติดตามชมได้ที่
https://youtu.be/nS1fwI1I7_w?si=wmb8sAoLa-i0rqnR
อยากรู้เพียง ว่าความคิดถึงของเธอกับฉันมันเท่ากันหรือเปล่า
คิดๆสังกัปโป นั้นคือ แบบว่า เราต้องระวังใจ แม้จะศีลสมาธิปัญญา
วิมุตติ วิมุตติญาณทัศนะฮะ
เพราะไม่ระวังเท่ากับ เราไม่สำรวมอินทรีย์ เลยทำให้เรายังอวิชชา ถ้ายังมีสักกายทิฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส
เหตุพวกนี้ ทำได้ แม้เรา
แต่จะให้เราเกิดใหม่แบบศาสนาอื่น
เพราะยังเบาบางลงไม่พอฮะ
ต้องเบาถึงขั้นดับอวิชชาในสักกายทิฐิฮะ และอาจจะสักกายทิฐิในอวิชชาด้วยฮะ
ยึดว่าเรายังเป็นนิพพานคือมานะสังโยชน์เบื้องสูงไหมฮะ
ส่วนสักกายทิฐิ ถ้าดับจริงๆ เราไม่มีทางมานะได้ฮะ
เพราะเห็นขันธ์5ทุกผู้ทุกนาม
เป็นเปรียบเหมือนบ้านดิน
มีสัตว์มาหลงมาเล่น แล้วก็ไม่มีเราอีกเลย
แต่ก็ไม่ใช่ปล่อยตัวจนไม่ดูแลตัวเอง
ไม่งั้นก็จะ
ไม่ทางสายกลาง
มัชฌิมาปฏิปทา
อีกหรือเปล่าไหมฮะ
ถามแล้วกันฮะ
ยังงงๆเหมือนกันฮะ
แต่ที่ยังมานะเพราะยังอวิชชาในธรรมารมณ์ที่เราไปหลงยึดว่าเป็นเรา เลยเกิดอุปาทาน เช่น หลงว่าจิตเข้าไปนิพพาน ถ้ายังมีเข้ามีออก แสดงว่ายังไม่สมดุล
เปรียบเหมือน การ osmosis ถ้าเห็นว่าทุกๆอย่างเป็นอนัตตาเหมือนกันหมด
ธรรมทุกๆธรรมก็จะทำให้เรา ไม่มีการไหลเข้าไหลออก มาเป็นอะไรได้อีกไหมฮะ
เราแค่คิดตามคำในพระไตรปิฎกฮะ
ไม่ได้คิดเอง
เราแค่เป็นธรรมบุตรฮะ
ไม่ได้
เป็นผู้ตรัสรู้ธรรมเองฮะ
เป็นไปไม่ได้ที่เราจะตรัสรู้ธรรมเองฮะ
เพราะเราก่อนจะมาได้ขนาดนี้ เราก็อ่าน และฟัง สะสมสุตตะ จากปิฎกของพระพุทธเจ้าฮะ
การที่เราจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเองจึงเป็นการอกตัญญู และกล่าวตู่พระธรรม แม้เราจะคิดว่าเราเป็นพระโพธิสัตว์ก็กล่าวตู่พระธรรม ไม่มีสัจจบารมีฮะ
ต้องให้เราปฏิบัติวิปัสสนาให้พ้นจากผลญาณตอนนั้นเราก็จะรู้เอง ถ้าพ้นไม่ได้ เราก็ต้องถอนคำอธิษฐานลาโพธิสัตว์ภูมิฮะ
ลาไปเยอะๆ จิตจะได้ไม่หลงฮะ
ต้องให้พระอริยะมาตรวจดูเราว่า มีจิตกลับกลอกอยากเป็นพระโพธิสัตว์อีกไหมฮะ
เปรียบเหมือนยกหินขึ้นมาก่อน จะสับง่ายขึ้น แต่พอเหนื่อยก็พักจากการตัดหญ้าบ้างฮะ ตัดหญ้าจริงๆก็คงได้ประสบการณ์ฮะ