เท้ง ยื่นญัตติ เสนอมาตรการแก้ฝุ่น ชี้อิ๊งไปตปท.ได้ แต่ต้องแก้ปัญหาประชาชนด้วย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5013227
เท้ง ยื่นญัตติ เสนอมาตรการแก้ฝุ่น ชี้อิ๊งไปตปท.ได้ แต่ต้องแก้ปัญหาประชาชนด้วย
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่23 ม.ค. 2568 ที่รัฐสภานาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้ โดยระบุสามารถแนะนำแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นได้ โดยที่ไม่ต้องแซะ
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า การเดินทางไปทำงานต่างประเทศของน.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถทำได้ แต่ขณะเดียวกัน สิ่งที่ตนเชื่อว่า ประชาชนทุกคนเรียกร้องอยู่ คือก่อนที่เราจะออกไปหาโอกาสใหม่ๆ ในต่างประเทศ แต่ปัญหาในประเทศที่เกิดขึ้นทุกปี ยังเป็นปัญหาที่ประชาชนทุกคนรอ และเรียกร้องที่จะให้มีการแก้ไข อย่างสถานการณ์ฝุ่นวันนี้ ก็เข้าขั้นวิกฤต ในหลายพื้นที่มีค่าฝุ่นเกิน 200 มคก. ต่อ ลบ.ม. ซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะคนมีโรคประจำตัว หรือกลุ่มเปราะบาง สถานการณ์เช่นนี้ ตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่พวกเราอยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลว่า จะมีมาตรการใดในการแก้ไขบ้าง ที่ผ่านมา พรรคประชาชน ก็ได้มีการเสนอแนะถึงมาตรการต่างๆ ที่มีความชัดเจน และเรียกร้องมาโดยตลอด แต่รัฐบาลอาจไม่ได้ดำเนินการเท่าที่ควร
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า โดยในวันนี้เราจะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อเสนอข้อเสนอเชิงมาตรการ เพื่อให้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีมีการแก้ไข เนื่องจากยังมีการดำเนินการที่ล่าช้าในหลายส่วน เช่น มาตรการการรับซื้ออ้อยสด ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ หากคณะรัฐมนตรีโดยรัฐบาลมีการแจ้งล่วงหน้า รวมถึงมีราคารับซื้อที่ชัดเจนก่อนน่าที่เกษตรกรจะมีการเก็บเกี่ยว เกษตรกรก็คงมีการวางแผนที่ถูกต้อง แต่กลายเป็นว่ามาตรการ นี้ ยังไม่มีความชัดเจนอยู่ดี มีเพียงประกาศขอความร่วมมือจากโรงงาน ให้ไม่รับซื้ออ้อยเผา เพราะหากมีความชัดเจนและแจ้งล่วงหน้า ก็คงไม่เกิด เหตุการณ์แบบนี้
นาย
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นมาตรการที่สามารถแก้ไขได้ และมีที่มาจากหลายส่วนทั้ง การจัดการไฟป่า ฝุ่นในเมือง หรือฝุ่นข้ามพรมแดน ทุกส่วนนี้สามารถมีมาตรการเร่งดำเนินการได้ เราเข้าใจว่าหลายอย่างอาจจะต้องรอระยะเวลา ในการดำเนินการ เพื่อบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ แต่มาตรการบางส่วนก็สามารถดำเนินการได้เลย
ดังนั้น การตั้งญัตติด่วนในวันนี้ จึงเป็นข้อเสนอที่เราจะทำให้เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ข้อเสนอที่เสนอไปแล้วทำได้หรือไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าทำได้จริง จึงอยากให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ
ปชน. ตั้งกระทู้ถามหามาตรการแก้ PM2.5 บิ๊กเล็ก ยันรบ.ให้ความสำคัญ คาดอาจต้องประกาศเขตควบคุมมลพิษ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5013288
ปชน. ตั้งกระทู้ถามหามาตรการแก้ PM2.5 บิ๊กเล็ก ยันรบ.ให้ความสำคัญ คาดอาจต้องประกาศเขตควบคุมมลพิษ แต่ต้องรอบคอบไม่ให้กระทบศก.-ท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนาย
ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน(ปชน.) ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องฝุ่นพิษ PM2.5 โดยมีพล.อ.
ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม มาชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี
การหลีกเลี่ยงเนื้อหาวิดีโอ
โดยนาย
ภัทรพงษ์ ถามว่ารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการป้องกันการเผาในภาคเกษตรก่อนเกิดฝุ่นพิษอย่างไรบ้าง อีกทั้งเกณฑ์การแจ้งเตือนไฟป่าที่เป็น Location Base SMS จะทำอย่างไร และเกณฑ์แจ้งเตือนค่ามาตรฐานฝุ่นPM2.5 กี่ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงจะแจ้งเตือน ขณะที่มลพิษทางอากาศในกรุงเทพ อยากทราบว่าป้องกันและบรรเทาผลกระทบอย่างไรในกรุงเทพฯและปริมณฑล การแก้ปัญหานี้ต้องกระจายอำนาจ แต่ตอนนี้รัฐบาลยังแทบไม่มีการกระจายอำนาจ ตามกฎหมายที่มีอยู่กำหนดให้มีเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษได้ แต่ก็ยังไม่มีการแต่งตั้ง ตนจะบอกว่าไม่ต้องรอร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดก็ทำได้เลย ส่วนเรื่องเขตควบคุมมลพิษอยากทราบว่ารัฐบาลตั้งเกณฑ์ไว้เท่าไหร่ถึงจะประกาศเขตควบคุม และยังจะควบคุมมลพิษอยู่หรือไม่
“
ผมรู้สึกผิดหวังจากการตอบสนองและการดำเนินการของรัฐบาลในการจัดการฝุ่นพิษ เพราะคำตอบแทบเป็นศูนย์ สุดท้ายจากคำถามและคำตอบ ผมขอฝากไปยังวิปรัฐบาลและนายกฯ ในการตอบกระทู้สดวันที่ 30 ม.ค.ว่าถ้ากล้าให้มาตอบเอง” นาย
ภัทรพงษ์ กล่าว
ด้านพล.อ.
ณัฐพล ชี้แจงว่า ในระดับรัฐบาลมีคณะกรรมการอำนวยการเพื่อจัดการมลพิษทางอากาศ ที่มีนาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เป็นประธาน และมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นฝ่ายเลขานุการ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ได้เตรียมการป้องกันในหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย แจ้งไปยังกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นและภูมิภาค แจ้งเตือนประชาชน กระทรวงคมนาคม ควบคุมยานพาหนะไม่ให้มีควันดำ กระทรวงเกษตรฯ ควบคุมการเผาข้าวและข้าวโพด กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลเรื่องอ้อย นอกจากนี้ยังมีกรมฝนหลวงได้ใช้มาตรการเจาะชั้นบรรยากาศ เพื่อให้ฝุ่นที่อยู่ในพื้นที่ระบายผ่านชั้นบรรยากาศออกไป ส่วนกระทรวงทรัพย์ฯ มุ่งพื้นที่ป่าร่วมกับกระทรวงกลาโหม ตั้งจุดตรวจสกัดและเตรียมพร้อมชุดดับไฟป่า เป็นต้น
พล.อ.
ณัฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า รัฐบาลได้จัดทำฐานข้อมูลการเกษตรเพื่อบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งป้องกันไม่ได้แปลว่าห้ามไม่ให้เผา แต่เป็นการจัดการพื้นที่ใดเผาก่อน เผาหลัง และสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการปลูกเป็นพืชมูลค่าสูง ส่วนด้านงบประมาณนั้นทางกระทรวงทรัพย์ฯเสนอขอใช้งบกลางต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนกระทรวงเกษตรฯอยู่ระหว่างสำนักงบประมาณจัดสรรให้ อย่างไรก็ตามการแจ้งเตือนนั้นมีแจ้งเตือนในไลน์ทุกวัน รวมถึงกรมควบคุมมลพิษก็แจ้งเตือนด้วย ทั้งนี้การประกาศเขตมลพิษเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะจะส่งกระทบผลการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ แต่ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะประกาศเขตควบคุม โดยพิจารณาอย่างรอบคอบไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 5.60 จุด วอลุ่ม 1.6 หมื่นล้าน พักตัวลงหลังรีบาวด์ ไร้ปัจจัยหนุน-ขายทำกำไรหุ้นแบงก์
https://siamrath.co.th/n/595939
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 5.60 จุด วอลุ่ม 1.6 หมื่นล้าน พักตัวลงหลังรีบาวด์ ไร้ปัจจัยหนุน-ขายทำกำไรหุ้นแบงก์
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 SET ปิดเช้าที่ 1,356.17 จุด ลดลง 5.60 จุด (-0.41%) มูลค่าซื้อขาย 16,405 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีฯ พักตัวลง โดยทำระดับสูงสุด 1,362.00 จุด และต่ำสุด 1,353.93 จุด
นาย
ณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักตัวลง หลังเมื่อวานรีบาวด์ขึ้นมา เนื่องจากไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน และนักลงทุนรับรู้นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะปรับขึ้นภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไปพอสมควรแล้ว ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ก็มีแรงเทขายทำกำไรออกมาหลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นไป รวมถึงยังมีแรงขายในหุ้นตัวอื่นๆ จากโบรกต่างชาติปรับลดราคาเป้าหมายลง เช่น AOT, SCGP เป็นต้น
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ พักตัวลงต่อ ให้แนวรับไว้ที่ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,362 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,207.62 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CCET มูลค่าการซื้อขาย 840.25 ล้านบาท ปิดที่ 9.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 677.00 ล้านบาท ปิดที่ 285.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 676.85 ล้านบาท ปิดที่ 22.70 บาท ลดลง 0.30 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 673.37 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #หุ้นแบงก์ #ทรัมป์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์
JJNY : เท้งยื่นญัตติแก้ฝุ่น│ปชน.ตั้งกระทู้ถามหามาตรการแก้ PM2.5│หุ้นไทยปิดเช้าลบ│ทรัมป์เอาจริง!ไล่พนง. ปิดเพจหน่วยงานDEI
https://www.matichon.co.th/politics/news_5013227
เท้ง ยื่นญัตติ เสนอมาตรการแก้ฝุ่น ชี้อิ๊งไปตปท.ได้ แต่ต้องแก้ปัญหาประชาชนด้วย
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่23 ม.ค. 2568 ที่รัฐสภานายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้ โดยระบุสามารถแนะนำแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นได้ โดยที่ไม่ต้องแซะ
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันอีกครั้งว่า การเดินทางไปทำงานต่างประเทศของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถทำได้ แต่ขณะเดียวกัน สิ่งที่ตนเชื่อว่า ประชาชนทุกคนเรียกร้องอยู่ คือก่อนที่เราจะออกไปหาโอกาสใหม่ๆ ในต่างประเทศ แต่ปัญหาในประเทศที่เกิดขึ้นทุกปี ยังเป็นปัญหาที่ประชาชนทุกคนรอ และเรียกร้องที่จะให้มีการแก้ไข อย่างสถานการณ์ฝุ่นวันนี้ ก็เข้าขั้นวิกฤต ในหลายพื้นที่มีค่าฝุ่นเกิน 200 มคก. ต่อ ลบ.ม. ซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะคนมีโรคประจำตัว หรือกลุ่มเปราะบาง สถานการณ์เช่นนี้ ตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่พวกเราอยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาลว่า จะมีมาตรการใดในการแก้ไขบ้าง ที่ผ่านมา พรรคประชาชน ก็ได้มีการเสนอแนะถึงมาตรการต่างๆ ที่มีความชัดเจน และเรียกร้องมาโดยตลอด แต่รัฐบาลอาจไม่ได้ดำเนินการเท่าที่ควร
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า โดยในวันนี้เราจะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อเสนอข้อเสนอเชิงมาตรการ เพื่อให้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีมีการแก้ไข เนื่องจากยังมีการดำเนินการที่ล่าช้าในหลายส่วน เช่น มาตรการการรับซื้ออ้อยสด ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ หากคณะรัฐมนตรีโดยรัฐบาลมีการแจ้งล่วงหน้า รวมถึงมีราคารับซื้อที่ชัดเจนก่อนน่าที่เกษตรกรจะมีการเก็บเกี่ยว เกษตรกรก็คงมีการวางแผนที่ถูกต้อง แต่กลายเป็นว่ามาตรการ นี้ ยังไม่มีความชัดเจนอยู่ดี มีเพียงประกาศขอความร่วมมือจากโรงงาน ให้ไม่รับซื้ออ้อยเผา เพราะหากมีความชัดเจนและแจ้งล่วงหน้า ก็คงไม่เกิด เหตุการณ์แบบนี้
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นมาตรการที่สามารถแก้ไขได้ และมีที่มาจากหลายส่วนทั้ง การจัดการไฟป่า ฝุ่นในเมือง หรือฝุ่นข้ามพรมแดน ทุกส่วนนี้สามารถมีมาตรการเร่งดำเนินการได้ เราเข้าใจว่าหลายอย่างอาจจะต้องรอระยะเวลา ในการดำเนินการ เพื่อบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐ แต่มาตรการบางส่วนก็สามารถดำเนินการได้เลย
ดังนั้น การตั้งญัตติด่วนในวันนี้ จึงเป็นข้อเสนอที่เราจะทำให้เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ข้อเสนอที่เสนอไปแล้วทำได้หรือไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าทำได้จริง จึงอยากให้รัฐบาลรับไปดำเนินการ
ปชน. ตั้งกระทู้ถามหามาตรการแก้ PM2.5 บิ๊กเล็ก ยันรบ.ให้ความสำคัญ คาดอาจต้องประกาศเขตควบคุมมลพิษ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5013288
ปชน. ตั้งกระทู้ถามหามาตรการแก้ PM2.5 บิ๊กเล็ก ยันรบ.ให้ความสำคัญ คาดอาจต้องประกาศเขตควบคุมมลพิษ แต่ต้องรอบคอบไม่ให้กระทบศก.-ท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 23 มกราคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน(ปชน.) ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องฝุ่นพิษ PM2.5 โดยมีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม มาชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี
การหลีกเลี่ยงเนื้อหาวิดีโอ
โดยนายภัทรพงษ์ ถามว่ารัฐบาลได้ดำเนินมาตรการป้องกันการเผาในภาคเกษตรก่อนเกิดฝุ่นพิษอย่างไรบ้าง อีกทั้งเกณฑ์การแจ้งเตือนไฟป่าที่เป็น Location Base SMS จะทำอย่างไร และเกณฑ์แจ้งเตือนค่ามาตรฐานฝุ่นPM2.5 กี่ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จึงจะแจ้งเตือน ขณะที่มลพิษทางอากาศในกรุงเทพ อยากทราบว่าป้องกันและบรรเทาผลกระทบอย่างไรในกรุงเทพฯและปริมณฑล การแก้ปัญหานี้ต้องกระจายอำนาจ แต่ตอนนี้รัฐบาลยังแทบไม่มีการกระจายอำนาจ ตามกฎหมายที่มีอยู่กำหนดให้มีเจ้าพนักงานควบคุมมลพิษได้ แต่ก็ยังไม่มีการแต่งตั้ง ตนจะบอกว่าไม่ต้องรอร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดก็ทำได้เลย ส่วนเรื่องเขตควบคุมมลพิษอยากทราบว่ารัฐบาลตั้งเกณฑ์ไว้เท่าไหร่ถึงจะประกาศเขตควบคุม และยังจะควบคุมมลพิษอยู่หรือไม่
“ผมรู้สึกผิดหวังจากการตอบสนองและการดำเนินการของรัฐบาลในการจัดการฝุ่นพิษ เพราะคำตอบแทบเป็นศูนย์ สุดท้ายจากคำถามและคำตอบ ผมขอฝากไปยังวิปรัฐบาลและนายกฯ ในการตอบกระทู้สดวันที่ 30 ม.ค.ว่าถ้ากล้าให้มาตอบเอง” นายภัทรพงษ์ กล่าว
ด้านพล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่า ในระดับรัฐบาลมีคณะกรรมการอำนวยการเพื่อจัดการมลพิษทางอากาศ ที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) เป็นประธาน และมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นฝ่ายเลขานุการ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ได้เตรียมการป้องกันในหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย แจ้งไปยังกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นและภูมิภาค แจ้งเตือนประชาชน กระทรวงคมนาคม ควบคุมยานพาหนะไม่ให้มีควันดำ กระทรวงเกษตรฯ ควบคุมการเผาข้าวและข้าวโพด กระทรวงอุตสาหกรรม ดูแลเรื่องอ้อย นอกจากนี้ยังมีกรมฝนหลวงได้ใช้มาตรการเจาะชั้นบรรยากาศ เพื่อให้ฝุ่นที่อยู่ในพื้นที่ระบายผ่านชั้นบรรยากาศออกไป ส่วนกระทรวงทรัพย์ฯ มุ่งพื้นที่ป่าร่วมกับกระทรวงกลาโหม ตั้งจุดตรวจสกัดและเตรียมพร้อมชุดดับไฟป่า เป็นต้น
พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า รัฐบาลได้จัดทำฐานข้อมูลการเกษตรเพื่อบริหารจัดการเชื้อเพลิง ซึ่งป้องกันไม่ได้แปลว่าห้ามไม่ให้เผา แต่เป็นการจัดการพื้นที่ใดเผาก่อน เผาหลัง และสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนการปลูกเป็นพืชมูลค่าสูง ส่วนด้านงบประมาณนั้นทางกระทรวงทรัพย์ฯเสนอขอใช้งบกลางต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนกระทรวงเกษตรฯอยู่ระหว่างสำนักงบประมาณจัดสรรให้ อย่างไรก็ตามการแจ้งเตือนนั้นมีแจ้งเตือนในไลน์ทุกวัน รวมถึงกรมควบคุมมลพิษก็แจ้งเตือนด้วย ทั้งนี้การประกาศเขตมลพิษเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะจะส่งกระทบผลการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ แต่ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะประกาศเขตควบคุม โดยพิจารณาอย่างรอบคอบไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 5.60 จุด วอลุ่ม 1.6 หมื่นล้าน พักตัวลงหลังรีบาวด์ ไร้ปัจจัยหนุน-ขายทำกำไรหุ้นแบงก์
https://siamrath.co.th/n/595939
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 5.60 จุด วอลุ่ม 1.6 หมื่นล้าน พักตัวลงหลังรีบาวด์ ไร้ปัจจัยหนุน-ขายทำกำไรหุ้นแบงก์
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 SET ปิดเช้าที่ 1,356.17 จุด ลดลง 5.60 จุด (-0.41%) มูลค่าซื้อขาย 16,405 ล้านบาท การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีฯ พักตัวลง โดยทำระดับสูงสุด 1,362.00 จุด และต่ำสุด 1,353.93 จุด
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักตัวลง หลังเมื่อวานรีบาวด์ขึ้นมา เนื่องจากไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน และนักลงทุนรับรู้นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะปรับขึ้นภาษีแบบค่อยเป็นค่อยไปพอสมควรแล้ว ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ก็มีแรงเทขายทำกำไรออกมาหลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นไป รวมถึงยังมีแรงขายในหุ้นตัวอื่นๆ จากโบรกต่างชาติปรับลดราคาเป้าหมายลง เช่น AOT, SCGP เป็นต้น
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดฯ พักตัวลงต่อ ให้แนวรับไว้ที่ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,362 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,207.62 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CCET มูลค่าการซื้อขาย 840.25 ล้านบาท ปิดที่ 9.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 677.00 ล้านบาท ปิดที่ 285.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 676.85 ล้านบาท ปิดที่ 22.70 บาท ลดลง 0.30 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 673.37 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #หุ้นแบงก์ #ทรัมป์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์