ไอติม พริษฐ์ ไม่แตะเรื่องส่วนตัว แสตมป์ อภิวัชร์ ยัน ม.112 มีปัญหาในการบังคับใช้
https://www.matichon.co.th/politics/news_5009596
ไอติม ปัดตอบ ไม่แตะเรื่องส่วนตัว แสตมป์ แต่ ม.112 มีปัญหาในการบังคับใช้ แม้พิสูจน์ได้ไม่ผิด แต่ก็ต้องเสียเวลา-รับภาระทางคดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 2568 ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประเด็นของนาย
อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือ
แสตมป์ ที่มีการอ้างถึง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า เรื่องนี้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดกันอย่างต่อเนื่อง และอะไรที่เป็นความขัดแย้งส่วนตัว ตนจะไม่ขอแสดงความเห็น แต่ประเด็นสาธารณะ ที่ในฐานะผู้แทนควรจะต้องติดตาม คือเรื่องประมวลกฎหมายอาญา ตาม ม. 112 ซึ่งยังไม่เห็นว่าขั้นตอนที่ผ่านมาเป็นเช่นไร
ขอพูดในเชิงหลักการที่พรรคประชาชนยึดถือ คือไม่อยากจะเห็นการที่กฎหมายเปิดช่องให้มีการใช้ ม.112 มาแก้ไขความขัดแย้งส่วนตน ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกฎหมายเปิดช่อง ให้นำไปสู่กรณีดังกล่าวได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใครก็ได้มีสิทธิ์ร้องทุกข์กล่าวโทษใน ม.112 ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาส่วนตน ซึ่งจะนำไปสู่ 2 ปัญหาที่ตามมาได้แก่ 1.คนที่ถูกกล่าวหาแม้ว่าท้ายที่สุดพิสูจน์ได้ว่าการกระทำไม่ได้เป็นในลักษณะที่เข้าข่ายฝ่าฝืน ม.112 แต่ก็ต้องรับภาระตามกระบวนการทางคดี ซึ่งอาจจะรบกวนงทั้เวลาและการพิสูจน์ในแต่ละขั้นตอน
“
ม.112 แต่ละขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสิทธิ์ได้รับการประกันตัว ก็อาจจะไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยมาตรฐานเดียวกัน จึงเป็นปัญหาที่เรากังวลว่าคนที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ แม้ว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำอะไรที่ผิด แต่ก็ต้องรับภาระทางคดี” นาย
พริษฐ์ กล่าว
นาย
พริษฐ์ ยังกล่าวถึงปัญหาที่ 2 คือ การที่ควรหยิบยกกฎหมายมาตรานี้มาใช้แก้ปัญหาส่วนตน ท้ายที่สุดแล้วมาส่งผลดีจริงหรือ ต่อการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งผลดีจริงหรือ ต่อมุมมองของประชาชนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นปัญหาหนึ่งที่เราเคยสื่อสารมาก่อน กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าพอกฎหมายเปิดช่องให้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ความเสียหายก็เกิดขึ้น ที่ผ่านมาเรามีการสื่อสารให้จำกัดสิทธิ์ของผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ไม่เปิดให้ใครก็ตามไปร้องทุกข์ได้ ควรจะมีกระบวนการกลั่นกรองให้มันรัดกุม
ส่วนกรณีนี้ระบุได้เลยหรือไม่ว่าเป็นการนำ ม.112 มาเป็นเครื่องมือ นาย
พริษฐ์กล่าวว่า คงต้องรอข้อเท็จจริง เพราะมีข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกันอยู่ สิ่งที่ตนให้ความเห็นไปไม่ได้เจาะจงแค่กรณีนี้ แต่ในเชิงหลักการเราไม่อยากเห็นกรณีนี้หรือกรณีไหน นำมาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาระหว่างบุคคล 2 คน
เมื่อถามว่า ผู้ที่ข่มขู่มียศเป็นนายพล มันจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่เสียเองที่กระทำใช่หรือไม่ นาย
พริษฐ์กล่าวว่า อย่างที่ตนเรียนว่า กรณีนี้รายละเอียดยังไม่ชัด ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงหรือไม่ ตนเพิ่งเห็นในข่าวว่ากองทัพบกชี้แจงว่า เป็นอดีตข้าราชการทหาร ตนคิดว่าต้องมีการดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า พรรคประชาชนก็ถูกลดทอนนโยบายนี้จะขับเคลื่อนอย่างไรต่อ นาย
พริษฐ์กล่าวว่า เรายังเป็นเหมือนวันแรกที่ตั้งพรรคมา ยังยืนยันว่า มา.112 มีปัญหาในเรื่องการบังคับใช้ และตัวบทกฎหมายบางส่วน จึงควรมีการทบทวนเพื่อให้ได้สมดุล ซึ่งพอมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมา การหาทางออกเรื่องนี้ก็คงจะแคบลงกว่าเดิม ดังนั้นสิ่งที่เราทำอยู่คือการศึกษาว่า ในพื้นที่ที่เหลืออยู่อะไรคือสิ่งที่พอจะเป็นไปได้ โดยที่ไม่ขัดต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
“
ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไม่ให้แก้ไข ม.112 เลย เพียงแต่ว่ามีคำวินิจฉัยบางส่วนที่ไปจำกัด ว่าถ้าแก้ไขต้องแก้ไขอย่างไร กระบวนการเสนอเรื่องนี้ควรจะเป็นเช่นไร ผมยืนยันว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ไปเขียนลักษณะไม่ให้มีการแก้ไข แม้คำวินิจฉัยจะทำให้พื้นที่ในการหาทางออกแคบลง แต่เราก็พยายามหาวิธีการเรื่องนี้ประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่พรรคประชาชนพูดพรรคเดียว ความจริงนายกรัฐมนตรีเราก็เคยพูด ว่าจะนำเรื่องนี้เข้ามาคุยในสภาฯ ผมก็รอดูเหมือนกันว่าวันนี้เป็นนายกฯแล้ว จะดำเนินการหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร ” นาย
พริษฐ์ กล่าว
"ปชน." ไม่ติดใจรบ.เอาเรื่องใต้ดินขึ้นบนดิน ถามกระตุ้นท่องเที่ยว-ประเทศได้ปย.จริงหรือไม่
https://siamrath.co.th/n/595374
วันที่ 21 ม.ค.2568 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีการเสนอว่าให้มีการทำประชามติว่า ต้องดูรายละเอียดของร่างกฎหมาย รวมทั้งข้อเสนอเพราะปีศาจมักอยู่ในรายละเอียดเสนอ เข้าใจว่าขณะนี้มีการปรับแก้กันในชั้นคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อส่งร่างมาที่สภาแล้วคงมีโอกาสวิพากษ์วิจารณ์ และเสนอข้อคิดเห็นมากขึ้น สิ่งที่พรรคประชาชนตั้งคำถามแม้ว่าเราจะไม่ติดใจกับการพยายามเอาสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อกำกับดูแลให้ได้มาตรฐานมากขึ้น แต่เราต้องดูรายละเอียดข้อเสนอของรัฐบาลในรอบนี้ ไม่ว่าจะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และกาสิโน ได้คุ้มเสียหรือไม่ รายละเอียดบางประการที่เราต้องศึกษาเพิ่มเติม เพราะยังไม่เห็นรายละเอียดจากรัฐบาล ถ้าเรามองประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากนโยบายนี้ หากรัฐบาลพูดถึงประโยชน์เรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยว ปัจจัยที่สำคัญคือสถานที่ในการตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เราจะเห็นได้ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยมักกระจุกอยู่ไม่กี่จังหวัด รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ในการกระจายรายได้ในการท่องเที่ยว การเลือกสถานที่เป็นสิ่งที่สำคัญ
“
ถ้ารัฐบาลมองว่ามีรายได้เข้าสู่รัฐ เราต้องการความชัดเจนว่ารูปแบบในการแบ่งรายได้เป็นเช่นไร จะมีการจัดสรรรายได้บางส่วนให้กับพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งหรือไม่ ในส่วนนี้เรายังไม่เห็นรายละเอียด และถ้ารัฐบาลมองว่านโยบายนี้เป็นประโยชน์ต่อการจ้างงานประชาชนในพื้นที่จริง การมีประชามติหรือประชาพิจารณ์ ให้ประชาขนได้แสดงความคิดเห็น จะเป็นบทพิสูจน์ว่ารัฐบาลสามารถโน้มน้าวประชาชนในพื้นที่ได้หรือไม่ ส่วนข้อเสียที่เราต้องทำงานเชิงรุกคือการป้องกันผลกระทบจากการพนัน ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์กำหนดว่าใครจะมีสิทธิเข้าใช้บริการบ้าง รวมถึงการป้องกันการฟอกเงิน และข้อกังวลในความโปร่งใส ทั้งเกณฑ์การประมูลที่จะทำให้อย่างไรให้เกิดความโปร่งใส เป็นการแข่งขันที่มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่มีความกังวลเรื่องประโยชน์ทับซ้อน”นาย
พริษฐ์ กล่าว
สภาถก พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก สัปดาห์นี้ ‘พริษฐ์’ ร่ายยิบ ฝ่ายค้านผลักดันร่าง กม.เต็มที่.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5009643
สภาเตรียมถก พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก ‘พริษฐ์’ ย้ำ ‘ฝ่ายค้าน’ พยายามดัน กม. ทั้ง พ.ร.บ.ที่ดิน-โคนม-พ.ร.บ.ฉุกเฉิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มกราคม ที่รัฐสภา นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการปะชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ว่า เป็นวาระทั่วไป ซึ่งการประชุมสภาสัปดาห์นี้มีกฎหมายสำคัญที่เข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 22 มกราคม เข้าใจว่ากฎหมายใน 3-4 ลำดับแรก ที่จะมีคิวพิจารณาล้วนเป็นกฎหมายที่พรรค ปชน.เสนอทั้งนั้น ฉบับแรกคือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนวยความสะดวก ที่ตั้งใจจะทำให้กระบวนการขออนุญาตสำหรับประชาชนและภาคเอกชนมีความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น และความจริงพรรคประชาชนได้ยื่นร่างไปตั้งแต่ช่วงกรกฎาคมปี 2566 แต่เมื่อมีร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาประกบ 1 เดือนที่แล้ว จึงทำให้ฉบับนี้ถูกดึงเข้ามาพิจารณาและคาดว่ามีมติเห็นชอบทั้ง 2 ร่างในสัปดาห์นี้
นาย
พริษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนร่างต่อไปเป็นร่างกฎหมายที่พรรคประชาชนเสนอเข้ามาเช่นกัน ทั้งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ นาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. ที่เสนอเข้ามาก่อนเป็นหัวหน้าพรรค ร่าง พ.ร.บ.โคนมและผลิตภัณฑ์นม ที่มี นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. เป็นผู้เสนอ และมี ส.ส.จากรัฐบาลเสนอเข้ามาประกบด้วย หากมีเวลาก็จะต่อด้วยร่าง พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. และคณะเสนอมา
“
ผมคิดว่านี่เป็นรูปธรรมที่ชี้ให้เห็นว่าในฐานะพรรคฝ่ายค้านเราพยายามเต็มที่ในการผลักดันกฎหมายที่เราคิดว่าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และหลายฉบับเชื่อว่าถ้าเราอธิบายกับสังคมได้ สังคมเห็นด้วยกับวาระของเรา ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ ส.ส.รัฐบาลอาจจะเห็นชอบด้วย หรือเสนอร่างเข้ามาประกบ และคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน” นาย
พริษฐ์กล่าว
JJNY : พริษฐ์ยันม.112 มีปัญหา│"ปชน."ไม่ติดใจเรื่องใต้ดินขึ้นบนดิน│สภาถก พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก│ทรัมป์รื้อโครงสร้างศก.สหรัฐ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5009596
ไอติม ปัดตอบ ไม่แตะเรื่องส่วนตัว แสตมป์ แต่ ม.112 มีปัญหาในการบังคับใช้ แม้พิสูจน์ได้ไม่ผิด แต่ก็ต้องเสียเวลา-รับภาระทางคดี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประเด็นของนาย อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือแสตมป์ ที่มีการอ้างถึง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า เรื่องนี้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดกันอย่างต่อเนื่อง และอะไรที่เป็นความขัดแย้งส่วนตัว ตนจะไม่ขอแสดงความเห็น แต่ประเด็นสาธารณะ ที่ในฐานะผู้แทนควรจะต้องติดตาม คือเรื่องประมวลกฎหมายอาญา ตาม ม. 112 ซึ่งยังไม่เห็นว่าขั้นตอนที่ผ่านมาเป็นเช่นไร
ขอพูดในเชิงหลักการที่พรรคประชาชนยึดถือ คือไม่อยากจะเห็นการที่กฎหมายเปิดช่องให้มีการใช้ ม.112 มาแก้ไขความขัดแย้งส่วนตน ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกฎหมายเปิดช่อง ให้นำไปสู่กรณีดังกล่าวได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใครก็ได้มีสิทธิ์ร้องทุกข์กล่าวโทษใน ม.112 ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาส่วนตน ซึ่งจะนำไปสู่ 2 ปัญหาที่ตามมาได้แก่ 1.คนที่ถูกกล่าวหาแม้ว่าท้ายที่สุดพิสูจน์ได้ว่าการกระทำไม่ได้เป็นในลักษณะที่เข้าข่ายฝ่าฝืน ม.112 แต่ก็ต้องรับภาระตามกระบวนการทางคดี ซึ่งอาจจะรบกวนงทั้เวลาและการพิสูจน์ในแต่ละขั้นตอน
“ม.112 แต่ละขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสิทธิ์ได้รับการประกันตัว ก็อาจจะไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยมาตรฐานเดียวกัน จึงเป็นปัญหาที่เรากังวลว่าคนที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ แม้ว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำอะไรที่ผิด แต่ก็ต้องรับภาระทางคดี” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงปัญหาที่ 2 คือ การที่ควรหยิบยกกฎหมายมาตรานี้มาใช้แก้ปัญหาส่วนตน ท้ายที่สุดแล้วมาส่งผลดีจริงหรือ ต่อการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งผลดีจริงหรือ ต่อมุมมองของประชาชนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นปัญหาหนึ่งที่เราเคยสื่อสารมาก่อน กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าพอกฎหมายเปิดช่องให้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ความเสียหายก็เกิดขึ้น ที่ผ่านมาเรามีการสื่อสารให้จำกัดสิทธิ์ของผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ไม่เปิดให้ใครก็ตามไปร้องทุกข์ได้ ควรจะมีกระบวนการกลั่นกรองให้มันรัดกุม
ส่วนกรณีนี้ระบุได้เลยหรือไม่ว่าเป็นการนำ ม.112 มาเป็นเครื่องมือ นายพริษฐ์กล่าวว่า คงต้องรอข้อเท็จจริง เพราะมีข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกันอยู่ สิ่งที่ตนให้ความเห็นไปไม่ได้เจาะจงแค่กรณีนี้ แต่ในเชิงหลักการเราไม่อยากเห็นกรณีนี้หรือกรณีไหน นำมาตรา 112 มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาระหว่างบุคคล 2 คน
เมื่อถามว่า ผู้ที่ข่มขู่มียศเป็นนายพล มันจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่เสียเองที่กระทำใช่หรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า อย่างที่ตนเรียนว่า กรณีนี้รายละเอียดยังไม่ชัด ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำดังกล่าวจริงหรือไม่ ตนเพิ่งเห็นในข่าวว่ากองทัพบกชี้แจงว่า เป็นอดีตข้าราชการทหาร ตนคิดว่าต้องมีการดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า พรรคประชาชนก็ถูกลดทอนนโยบายนี้จะขับเคลื่อนอย่างไรต่อ นายพริษฐ์กล่าวว่า เรายังเป็นเหมือนวันแรกที่ตั้งพรรคมา ยังยืนยันว่า มา.112 มีปัญหาในเรื่องการบังคับใช้ และตัวบทกฎหมายบางส่วน จึงควรมีการทบทวนเพื่อให้ได้สมดุล ซึ่งพอมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมา การหาทางออกเรื่องนี้ก็คงจะแคบลงกว่าเดิม ดังนั้นสิ่งที่เราทำอยู่คือการศึกษาว่า ในพื้นที่ที่เหลืออยู่อะไรคือสิ่งที่พอจะเป็นไปได้ โดยที่ไม่ขัดต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
“ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไม่ให้แก้ไข ม.112 เลย เพียงแต่ว่ามีคำวินิจฉัยบางส่วนที่ไปจำกัด ว่าถ้าแก้ไขต้องแก้ไขอย่างไร กระบวนการเสนอเรื่องนี้ควรจะเป็นเช่นไร ผมยืนยันว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ไปเขียนลักษณะไม่ให้มีการแก้ไข แม้คำวินิจฉัยจะทำให้พื้นที่ในการหาทางออกแคบลง แต่เราก็พยายามหาวิธีการเรื่องนี้ประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่พรรคประชาชนพูดพรรคเดียว ความจริงนายกรัฐมนตรีเราก็เคยพูด ว่าจะนำเรื่องนี้เข้ามาคุยในสภาฯ ผมก็รอดูเหมือนกันว่าวันนี้เป็นนายกฯแล้ว จะดำเนินการหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร ” นายพริษฐ์ กล่าว
"ปชน." ไม่ติดใจรบ.เอาเรื่องใต้ดินขึ้นบนดิน ถามกระตุ้นท่องเที่ยว-ประเทศได้ปย.จริงหรือไม่
https://siamrath.co.th/n/595374
วันที่ 21 ม.ค.2568 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการผลักดันกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีการเสนอว่าให้มีการทำประชามติว่า ต้องดูรายละเอียดของร่างกฎหมาย รวมทั้งข้อเสนอเพราะปีศาจมักอยู่ในรายละเอียดเสนอ เข้าใจว่าขณะนี้มีการปรับแก้กันในชั้นคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อส่งร่างมาที่สภาแล้วคงมีโอกาสวิพากษ์วิจารณ์ และเสนอข้อคิดเห็นมากขึ้น สิ่งที่พรรคประชาชนตั้งคำถามแม้ว่าเราจะไม่ติดใจกับการพยายามเอาสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อกำกับดูแลให้ได้มาตรฐานมากขึ้น แต่เราต้องดูรายละเอียดข้อเสนอของรัฐบาลในรอบนี้ ไม่ว่าจะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และกาสิโน ได้คุ้มเสียหรือไม่ รายละเอียดบางประการที่เราต้องศึกษาเพิ่มเติม เพราะยังไม่เห็นรายละเอียดจากรัฐบาล ถ้าเรามองประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากนโยบายนี้ หากรัฐบาลพูดถึงประโยชน์เรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยว ปัจจัยที่สำคัญคือสถานที่ในการตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เราจะเห็นได้ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยมักกระจุกอยู่ไม่กี่จังหวัด รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ในการกระจายรายได้ในการท่องเที่ยว การเลือกสถานที่เป็นสิ่งที่สำคัญ
“ถ้ารัฐบาลมองว่ามีรายได้เข้าสู่รัฐ เราต้องการความชัดเจนว่ารูปแบบในการแบ่งรายได้เป็นเช่นไร จะมีการจัดสรรรายได้บางส่วนให้กับพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งหรือไม่ ในส่วนนี้เรายังไม่เห็นรายละเอียด และถ้ารัฐบาลมองว่านโยบายนี้เป็นประโยชน์ต่อการจ้างงานประชาชนในพื้นที่จริง การมีประชามติหรือประชาพิจารณ์ ให้ประชาขนได้แสดงความคิดเห็น จะเป็นบทพิสูจน์ว่ารัฐบาลสามารถโน้มน้าวประชาชนในพื้นที่ได้หรือไม่ ส่วนข้อเสียที่เราต้องทำงานเชิงรุกคือการป้องกันผลกระทบจากการพนัน ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์กำหนดว่าใครจะมีสิทธิเข้าใช้บริการบ้าง รวมถึงการป้องกันการฟอกเงิน และข้อกังวลในความโปร่งใส ทั้งเกณฑ์การประมูลที่จะทำให้อย่างไรให้เกิดความโปร่งใส เป็นการแข่งขันที่มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่มีความกังวลเรื่องประโยชน์ทับซ้อน”นายพริษฐ์ กล่าว
สภาถก พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก สัปดาห์นี้ ‘พริษฐ์’ ร่ายยิบ ฝ่ายค้านผลักดันร่าง กม.เต็มที่.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5009643
สภาเตรียมถก พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก ‘พริษฐ์’ ย้ำ ‘ฝ่ายค้าน’ พยายามดัน กม. ทั้ง พ.ร.บ.ที่ดิน-โคนม-พ.ร.บ.ฉุกเฉิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มกราคม ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการปะชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ว่า เป็นวาระทั่วไป ซึ่งการประชุมสภาสัปดาห์นี้มีกฎหมายสำคัญที่เข้าสู่การพิจารณาในวันที่ 22 มกราคม เข้าใจว่ากฎหมายใน 3-4 ลำดับแรก ที่จะมีคิวพิจารณาล้วนเป็นกฎหมายที่พรรค ปชน.เสนอทั้งนั้น ฉบับแรกคือพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนวยความสะดวก ที่ตั้งใจจะทำให้กระบวนการขออนุญาตสำหรับประชาชนและภาคเอกชนมีความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น และความจริงพรรคประชาชนได้ยื่นร่างไปตั้งแต่ช่วงกรกฎาคมปี 2566 แต่เมื่อมีร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาประกบ 1 เดือนที่แล้ว จึงทำให้ฉบับนี้ถูกดึงเข้ามาพิจารณาและคาดว่ามีมติเห็นชอบทั้ง 2 ร่างในสัปดาห์นี้
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนร่างต่อไปเป็นร่างกฎหมายที่พรรคประชาชนเสนอเข้ามาเช่นกัน ทั้งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. ที่เสนอเข้ามาก่อนเป็นหัวหน้าพรรค ร่าง พ.ร.บ.โคนมและผลิตภัณฑ์นม ที่มี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. เป็นผู้เสนอ และมี ส.ส.จากรัฐบาลเสนอเข้ามาประกบด้วย หากมีเวลาก็จะต่อด้วยร่าง พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. และคณะเสนอมา
“ผมคิดว่านี่เป็นรูปธรรมที่ชี้ให้เห็นว่าในฐานะพรรคฝ่ายค้านเราพยายามเต็มที่ในการผลักดันกฎหมายที่เราคิดว่าเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และหลายฉบับเชื่อว่าถ้าเราอธิบายกับสังคมได้ สังคมเห็นด้วยกับวาระของเรา ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ ส.ส.รัฐบาลอาจจะเห็นชอบด้วย หรือเสนอร่างเข้ามาประกบ และคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน” นายพริษฐ์กล่าว