มะเร็งเต้านม รู้จัก เข้าใจ และป้องกันได้

วันนี้พี่หมอฝั่งธนจะมาให้วามรู้  ideaมะเร็งเต้านม รู้จัก เข้าใจ และป้องกันได้ idea

มะเร็งเต้านมเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงทั่วโลก 
แม้ว่าจะเป็นโรคที่มีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว 
แต่การป้องกันและการตรวจพบในระยะเริ่มต้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้อย่างมาก 
บทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการป้องกันมะเร็งเต้านม พร้อมให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเต้านมของคนไข้คะ
 
มะเร็งเต้านมเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ในเนื้อเยื่อเต้านมเติบโตอย่างผิดปกติและไม่สามารถควบคุมได้
เซลล์เหล่านี้สามารถก่อตัวเป็นก้อนเนื้อหรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้
โดยทั่วไป มะเร็งเต้านมแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ได้แก่
มะเร็งเต้านมชนิดลุกลาม (Invasive Breast Cancer)
เกิดเมื่อเซลล์มะเร็งแพร่กระจายออกจากท่อน้ำนมหรือกลีบน้ำนมไปยังเนื้อเยื่อรอบ ๆ
มะเร็งเต้านมชนิดไม่ลุกลาม (Non-Invasive Breast Cancer): 
เกิดเมื่อเซลล์มะเร็งยังคงอยู่ในท่อน้ำนมหรือกลีบน้ำนม และยังไม่แพร่กระจาย



ideaปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านม
ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้
อายุ: ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมจะเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
เพศ: ผู้หญิงมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้ชายอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าผู้ชายก็สามารถเป็นได้เช่นกัน
พันธุกรรม: การมีประวัติครอบครัวที่เป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ โดยเฉพาะญาติใกล้ชิด
เช่น แม่ พี่สาว หรือลูกสาว จะเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ การมียีน BRCA1 และ BRCA2 ที่กลายพันธุ์ยังสัมพันธ์กับโอกาสเกิดโรคสูงขึ้น
ประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม: ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมข้างหนึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดขึ้นในเต้านมอีกข้างหนึ่ง
การมีเนื้อเยื่อเต้านมที่หนาแน่น: เนื้อเยื่อที่หนาแน่นอาจทำให้ตรวจพบมะเร็งได้ยากขึ้นในการตรวจแมมโมแกรม 
และยังสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้น
การได้รับรังสี: การได้รับรังสีรักษาที่บริเวณหน้าอกในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นอาจเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งในอนาคต
ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้บางส่วน
ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน: การมีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี 
หรือหมดประจำเดือนหลังอายุ 55 ปี จะเพิ่มระยะเวลาที่ร่างกายสัมผัสกับฮอร์โมนเหล่านี้ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมากขึ้น
การใช้ฮอร์โมนทดแทน: การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเพื่อบรรเทาอาการวัยทองเป็นเวลานานกว่า 5 ปี 
อาจเพิ่มความเสี่ยง
น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน 
ไขมันในร่างกายที่มากเกินไปจะเพิ่มระดับเอสโตรเจนและส่งผลต่อความเสี่ยง
การดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากหรือบ่อยครั้งสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
การไม่ออกกำลังกาย: การขาดการเคลื่อนไหวหรือการออกกำลังกายเป็นประจำอาจส่งผลให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
การตั้งครรภ์และการให้นมบุตร: ผู้หญิงที่ไม่มีบุตรหรือมีบุตรครั้งแรกหลังอายุ 30 ปี มีความเสี่ยงสูงขึ้น ในทางกลับกัน 
การให้นมบุตรมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงได้
ปัจจัยเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิต
การสัมผัสสารเคมี: การได้รับสารเคมีบางชนิด เช่น Bisphenol A (BPA) ที่พบในพลาสติก อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
การบริโภคอาหารที่ไม่สมดุล: อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูงและขาดผักผลไม้อาจมีผลต่อการเพิ่มความเสี่ยง
การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่และการได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ideaการป้องกันมะเร็งเต้านมเริ่มต้นได้จากการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ดังนี้:
1. การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม เพราะช่วยควบคุมน้ำหนักและปรับสมดุลฮอร์โมน 
ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือโยคะ
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
เพิ่มผักและผลไม้ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
ลดอาหารไขมันสูง: โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม
บริโภคปลาและถั่ว: แหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ
3. ลดการบริโภคแอลกอฮอล์และเลิกสูบบุหรี่
การดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 1 แก้วต่อวันเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญ 
ในขณะที่การสูบบุหรี่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลายชนิด
4. การควบคุมน้ำหนัก
น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน โดยเฉพาะในช่วงวัยหมดประจำเดือน 
เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในการเกิดมะเร็งเต้านม การรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
5. การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน สามารถลดความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านมในระยะยาวได้


ideaการตรวจสุขภาพและการตรวจเต้านม
การตรวจเต้านม เป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในสตรีวัยผู้ใหญ่ เพื่อคัดกรองมะเร็งเต้านมและความผิดปกติอื่น ๆ
1.การตรวจเต้านมด้วยตนเอง (Self-Breast Examination: SBE)
ควรตรวจเป็นประจำเดือนละครั้ง ในช่วง 7-10 วันหลังจากหมดประจำเดือน
ขั้นตอน:ยืนหน้ากระจกและตรวจดูขนาด รูปร่าง และสีผิวของเต้านม
ใช้ปลายนิ้วสัมผัสตรวจหาก้อนหรือความผิดปกติ โดยวนรอบเต้านมและบริเวณรักแร้
2.การตรวจโดยแพทย์ (Clinical Breast Examination: CBE)
ควรตรวจปีละครั้งหรือตามคำแนะนำของแพทย์
แพทย์จะใช้มือคลำเพื่อหาก้อนหรือความผิดปกติ
3.การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram)
เหมาะสำหรับสตรีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือตามคำแนะนำของแพทย์
ใช้รังสีเอกซเรย์ความเข้มต่ำตรวจหาก้อนที่อาจไม่สามารถสัมผัสได้

smileหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำตามช่วงอายุ รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
หากพบความผิดปกติ เช่น ก้อนเต้านม ผื่น หรือของเหลวไหลจากหัวนม ควรปรึกษาแพทย์ทันที
การตรวจสุขภาพและการตรวจเต้านมอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงและเพิ่มโอกาสการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
การป้องกันไม่ได้หมายถึงการไม่มีความเสี่ยงเลย การดูแลสุขภาพช่วยลดความเสี่ยง แต่ไม่ได้กำจัดความเสี่ยงทั้งหมด
การตรวจพบเร็วช่วยชีวิตได้  มะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายขาดได้คะ

ความรู้เพิ่มเติม
https://www.youtube.com/watch?v=kI0XHVLXcMk
https://shop-online.thonburihospital.com/th/health-check-cancer-screening-program-for-female.html
https://shop-online.thonburihospital.com/th/health-check-special-program-for-female.html

lovelovelovelove
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่