- สามารถไปก่อนเวลาได้ คิวของเรา 08:15 น. แต่เราไปถึง 7:45 น. ถ้าเราพร้อม สามารถเข้าคิวที่อยู่หน้าสถานทูต และเจ้าหน้าที่ก็สามารถให้เราเข้าไปได้เลย
- ด่านแรก จะเป็นที่หน้าสถานฑูต เจ้าหน้าที่จะขอดูพาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน แล้วถามว่า "ได้เวลานัดสัมภาษณ์รอบกี่โมง" แล้วเจ้าหน้าที่จะแปะสติ๊กเกอร์คิวให้ที่หลังพาสปอร์ตปัจจุบัน
- หลังจากนั้นเดินไปที่หน้าประตูทางเข้า เจ้าหน้าความปลอดภัยจะขอให้ปิดโทรศัพท์มือถือ พอเราปิดเรียบร้อยแล้ว จะให้เข้าประตู เพื่อเข้าไปในส่วนของการสแกน security ถ้าใส่นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ เจ้าหน้าที่จะให้ถอดออกและให้ฝากพร้อมโทรศัพท์มือถือและบัตรประชาชน แล้วเจ้าหน้าที่จะให้กุญแจเล็กๆติดกับสายคล้องมือให้เราคล้องมือได้ และเพื่อนำมาแลกคืนตอนออก
- เราไม่ได้พกกระเป๋าสะพายอะไรไปเลย เอาไปแค่กระเป๋าสตางค์ และแฟ้มใสแบบมีที่ปิดที่ใส่เอกสารต่างๆรวมทั้งพาสปอร์ตเล่มเก่า เจ้าหน้าที่จะนำทั้งหมดวางลงบนถาดเพื่อผ่านเครื่องสแกน และให้เราเดินไปรับที่ปลายทางเครื่องสแกน ถ้าเรียบร้อยดี เจ้าหน้าที่ก็จะให้ผลักประตูเข้าสู่ด้านใน
- พอผลักประตูเข้าสู่ด้านใน เดินไปหน้าอาคาร จะมีเคาน์เตอร์ข้างนอกเล็กๆ มีเจ้าหน้าที่ 1 คน จะขอรูปถ่าย 1 รูป แล้วบอกให้เดินตามเส้นสีแดงที่พื้น ซึ่งเราเดินตามไปจะเป็นการเข้าไปข้างในอาคาร
- พอเข้าไป ก็จะเห็นคนที่มาก่อนหน้าค่อนข้างเยอะเข้าคิวอยู่ก่อน เราก็ไปเข้าคิวเพื่อไปที่ช่องหมายเลข 11-15 เป็นการตรวจพาสปอร์ต ใช้รูปถ่าย 1 ใบ (ขนาด 2x2 นิ้ว) และสแกนนิ้วมือ เจ้าหน้าที่ส่วนนี้เป็นคนไทย มีการถามชื่อนามสกุลเคยเปลี่ยนหรือไม่อย่างไร ถ้าเรียบร้อยดี จะให้ไปที่ช่อง10 เพื่อยื่นพาสปอร์ตที่ตรวจแล้วและสแกนนิ้วมืออีกครั้ง
- หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะให้ไปเข้าคิวเพื่อเข้าสัมภาษณ์ ซึ่งเราเห็นมีช่องหมายเลข 5-9 แต่วันที่เราไปช่องหมายเลข 8 ไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงาน เราเข้าคิวรอเพื่อเข้าสัมภาษณ์ในช่องที่ว่างเมื่อถึงคิวของเรา ระหว่างที่รอคิวอยู่ในแถว เราจะได้ยินคนก่อนหน้ากำลังสัมภาษณ์ ซึ่งมีทั้งสมหวังและผิดหวัง
- พอถึงคิวของเรา เจ้าหน้าที่เป็นชาวต่างชาติ พูดภาษาอังกฤษ ถามเราถึงจุดประสงค์ในการเดินทาง เราก็ตอบว่าไปเที่ยว เค้าถามว่าเคยไปอเมริกามาก่อนมั้ย ซึ่งเราเคยไปมาแล้ว เค้าถามว่าเคยไปที่ไหนในอเมริกามาบ้าง เราก็ให้รายละเอียดไปว่าคราวที่แล้วเราไปที่ไหนมาบ้าง แต่เราไม่ได้ไปน้ำตกไนแอการา และไม่ได้ไปพิพิธภัณฑ์ที่ D.C. คราวนี้เราก็เลยอยากไป เค้าก็ถามว่า ปัจจุบันทำงานบริษัทอะไร เราก็ให้ข้อมูลไป หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า วีซ่าได้รับการอนุมัติ และจะส่งไปทางไปรษณีย์
- เจ้าหน้าที่ไม่ขอดูเอกสารอื่นเพิ่มเติมเลย เราเตรียมไปเยอะมากๆ กรณีของเราคือวีซ่าเดิมยังไม่หมดอายุ แต่อยู่ในพาสปอร์ตเล่มเก่าที่หมดอายุเมื่อ 6 ปีก่อน เราก็เอาพาสปอร์ตเล่มนั้นไปด้วย เจ้าหน้าที่ทำการแคนเซิลวีซ่าที่อยู่ในเล่มเก่าและคืนให้เรา และจะออกวีซ่าใหม่ในพาสปอร์ตเล่มใหม่ให้กับเรา

คำแนะนำจากสิ่งที่เราเห็นและได้ยิน
- เราเห็นคนสะพายกระเป๋าใบเล็ก สามารถนำเข้ามาได้ เห็นทั้งผู้ชายและผู้หญิง
- เราเห็นนักศึกษาหลายคนเข้าคิวสัมภาษณ์ บางคนเตรียมตัวมาดีให้ข้อมูลเยอะโดยที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทันถาม และเราก็ได้ยินว่า น้องเค้าไม่ได้วีซ่า
- บางคนที่ให้ข้อมูลเยอะและอธิบายมากๆ ก็ไม่ได้วีซ่าเช่นกัน
- บางคนเจ้าหน้าที่ถามว่า เคยไปประเทศอื่นไหม เค้าาตอบว่า เคยไป เจ้าหน้าที่ก็ถามว่า ไปประเทศอะไรมาบ้าง เค้าตอบว่า เคยไปยุโรป เจ้าหน้าที่ก็ขอดูพาสปอร์ตเล่มเก่า คิดว่าน่าจะขอดูวีซ่าที่เคยขอไปยุโรป
- บางคนบอกว่าจะไปรัฐนึง เจ้าหน้าถามว่า คุณรู้อะไรเกี่ยวกับรัฐนั้นบ้าง
- เราคิดว่าหลังจากเรายื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ก็จะพิมข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ และขึ้น DS160 ที่หน้าจอของเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่น่าจะรู้สึกถึงเจตนาของคนที่มาขอวีซ่า ถ้ามีงานทำในประเทศไทยที่แน่นอน เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ตั้งคำถามเยอะ และน่าจะอนุมัติวีซ่าให้

สรุป
- เราไปถึง 7:45 น. เราเสร็จขั้นตอนทุกอย่างรวมทั้งรับโทรศัพท์มือถือคืน ตอน 8:20น. ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 35 นาที
- ใช้เอกสารที่คอนเฟิร์ม DS160 ที่หน้าสถานทูต เพื่อให้เจ้าหน้าที่แปะสติ๊กเกอร์คิวให้
- ใช้รูปถ่าย 2 รูป ที่หน้าอาคาร และในอาคารตอนตรวจพาสปอร์ต
- เอกสารอื่นๆและพาสปอร์ตเล่มเก่าเตรียมไปเผื่อไว้ก่อน เผื่อโดนเจ้าหน้าที่ขอเรียกดู
- กระเป๋าสะพายใบเล็ก ขนาดใส่แค่กระเป๋าสตางค์ นำเข้าไปได้

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ ขอให้ทุกคนที่จะไปขอวีซ่าโชคดีค่ะ