สภาเดือด! เปิดประชุมวันแรก สส.เพื่อไทย ฉุนซัด ปชน. ตั้งกระทู้หลอกด่านายกฯ อิ๊งค์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9545083
เปิดวันแรก สภาก็เดือดแล้ว สส.เพื่อไทย ฉุนปชน. ตั้งกระทู้สดปลาหมอคางดำ หลอกด่านายกฯ เบี้ยวตอบกระทู้ แถมจัดคิวแถลงนโยบายชนกันทั้งที่แจ้งล่วงหน้า ‘จุลพันธ์’อ้างเพิ่งตกลงกันประชุมสภาฯวันนี้วันแรก ‘ปกรณ์วุฒิ’ ข้องใจเจตนาแถลงนโยบายรัฐบาลตรงกับวันเปิดประชุมสภาฯ ขอจองคิวนายกฯตอบกระทู้ของ ผู้นำฝ่ายค้านสัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ธ.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เป็นนัดแรก มีนาย
ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่สอง เป็นประธานการประชุม หลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่แล้ว เข้าสู่การพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน สอบถามนายกรัฐมนตรี ถึงการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต แต่นายกฯ ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่ก็มอบให้รมช.เกษตรฯ มาชี้แจงแทน แต่ก็ติดภารกิจ จึงขอเลื่อนอีก ทำให้ไม่มีผู้มาตอบกระทู้ดังกล่าว
โดยนาย
ภราดร ชี้แจงว่า ผู้ถามกระะทู้สามารถไปถามในสัปดาห์ถัดไปได้ และเปิดโอกาสให้นาย
ณัฐชาชี้แจง
นาย
ณัฐชา กล่าวเสียงดังว่า เรื่องปลาหมอคางดำคาบเกี่ยวกับหลายกระทรวง ต้องถามนายกฯจะเอาอย่างไรกันแน่ เพราะรัฐบาลประกาศเป็นเรื่องวาระแห่งชาติ แต่ไม่มีความคืบหน้า ตนจึงตั้งใจจะใช้วันเปิดสมัยประชุมวันแรกถามนายกฯ แต่ก่อนประชุมสภาฯวันนี้ นายกฯบอกอยากมาตอบกระทู้ แต่กำลังหาความเหมาะสม แล้วบอกว่าวันนี้ไม่เหมาะสม อย่างนี้จะให้รู้สึกอย่างไร
“
อยากถามว่า จะต้องเป็นคนประเภทไหนที่บอกว่าวันทำงานวันแรกไม่เหมาะกับการทำงาน ความเดือดร้อนประชาชนรออยู่ สส.ต้องการใช้กลไกสภาฯ ทำหน้าที่ถาม นายกฯแค่มาตอบ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ไม่มาตอบ แต่ไปจัดคิวเรื่องอื่นให้ชนกัน แล้วบอกไม่ว่าง นี่คือภารกิจหรือไม่ อย่าบอกเตรียมการล่วงหน้านานแล้ว แต่เราก็เตรียมการเหมือนกัน สื่อสารถึงรัฐบาลแล้วว่าวันแรกจะถามเรื่องใด แบบนี้จะบริหารได้อย่างไร วันแรกการประชุมยังเดือดร้อนขนาดนี้ ไม่พร้อม” นาย
ณัฐชา กล่าวด้วยเสียงดุดัน
ทำให้นาย
เทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นกันว่า การตั้งกระทู้ต้องถามปัญหาประชาชนให้นายกฯตอบ แต่ผู้ถามใส่อารมณ์ พูดว่าคนประเภทไหน ถือว่าไม่เหมาะสม ขอให้ถอนคำพูด จะมาด่านายกฯลอยๆแบบนี้ไม่ได้
นาย
ภราดร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องปิดไมค์ไม่ให้พูดต่อ ก่อนจะตัดบทโดยขอให้นาย
ณัฐชาใจเย็นๆ ใช้คำให้สุภาพ และให้นาย
ณัฐชาพูดต่อไป
นาย
ณัฐชา อภิปรายต่อว่า สิ่งที่พูดขณะนี้ประชาชนตายรายวัน ลงทุนไปแต่เจ๊งแล้วเจ๊งอีก จะอยู่ต่อได้อย่างไร ตนเอาความเดือดร้อนประชาชนมาพูด แต่ขอบคุณผู้ประท้วงที่ยืนยันว่า การถามกระทู้ต้องมาถาม ซึ่งตนกำลังถามอยู่ว่า นายกฯไปไหน รัฐมนตรีอยู่กันหลายคน แต่มอบหมายแล้วมอบหมายอีก
ทุกวันนี้ประชาชนต้องแก้ปัญหากันเอง ไม่มีหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ ทำยังกับประเทศนี้ไม่มีผู้บริหาร ตนมีปัญหาประชาชนจะมาสะท้อนในสภาฯ เมื่อสภาฯสะท้อนไม่ได้ ตนก็ต้องพูดกับกำแพงแล้วก็สะท้อนมาถึงตน เรื่องมันเท่าเดิมเลย แล้วตนจะกลับบ้านไปบอกประชาชนอย่างไร
จากนั้นนาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า ทุกคนทราบดีว่าตอนแรกสัปดาห์นี้จะไม่มีประชุมสภาฯ แต่เราเพิ่งตกลงกันจะประชุมสภาฯ วันนี้เป็นวันแรก นายกฯ จึงนัดแถลงผลงาน อย่างไรก็ตามการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต้องถามไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นการดีที่สุด จะให้นายกฯตอบทุกเรื่อง อาจไม่ได้ลงรายละเอียด เรื่องปลาหมอคางดำ นายกฯ มอบให้กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีที่นายกฯ จะไม่ให้ความสำคัญกับสภาฯ แต่วันนี้เป็นจังหวะเวลาไม่เหมาะสมเพราะมีหมายซ้อนกัน
ทำให้นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายว่า แปลกใจทำไมถึงกำหนดวันแถลงผลงานรัฐบาล ตรงกับวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพราะทราบอยู่แล้วว่า ทุกวันพฤหัสบดีจะมีการตอบคำถามกระทู้ด้วยวาจา อีกทั้งการเปิดประชุมสภาฯ วันที่ 12 ธ.ค. ได้กำหนดตั้งแต่เดือนก.ค.2566 มีเวลาปีกว่าที่ทุกคนรู้อยู่ว่าจะเปิดประชุม
“
จึงต้องตั้งคำถามว่า เหตุใดจงใจกำหนดวันแถลงนโยบรัฐบาลเป็นวันนี้ การมอบหมายรัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน ก็ทราบว่ามีรัฐมนตรีหลายคนไปร่วมงานแถลงนโยบายเช่นกัน สรุปว่าจงใจหนีตอบกระทู้เกือบทั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้วส่งแค่บางคนมาตอบกระทู้ใช่หรือไม่ นายกฯบอกว่า ถ้าว่างจะมาตอบ ดังนั้น ขอจองคิวนายกฯ วันพฤหัสฯหน้าได้หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้าน จะถามกระทู้ถึงปัญหาที่สังคมถาม ต้องเป็นนายกฯ เท่านั้นที่จะต้องมาตอบ” นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าว
ผบ.ตร.สั่งเอาผิดผู้ก่อเหตุยิง สจ.โต้ง จ.ปราจีนบุรี ทุกคนให้ได้ และเร่งพิจารณาเรื่องอั้งยี่ ซ่องสุมโจร
https://siamrath.co.th/n/586969
ผบ.ตร.สั่งเอาผิดผู้ก่อเหตุยิง สจ.โต้ง จ.ปราจีนบุรี ทุกคนให้ได้ และเร่งพิจารณาเรื่องอั้งยี่ ซ่องสุมโจร
วันที่ 12 ธ.ค.67 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.
กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยในความคืบหน้ากรณีที่ นาย
ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองอีก 1 กระบอก เสียชีวิต โดยพบว่ามีบุคคลในที่เกิดเหตุทั้งหมดรวม 7 คน ว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานจากพล.ต.ท.
ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 (รรท.ผบช.ภ.2 )ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ ทั้งอาวุธปืน กระสุนปืน คราบเขม่าดินปืน รวมทั้งให้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่ในบ้านทุกคน ทุกข้อหาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งเรื่องร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพ.ร บ. อาวุธปืน นอกจากนี้ยังสั่งให้พิจารณาเอาผิดเรื่องของอั้งยี่ซ่องสุ่มโจรด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน
โดย พล.ต.อ.
กิตติ์รัฐ กล่าวถึง สาเหตุดังกล่าว อยากให้ย้อนกลับไปดูประวัติของผู้ก่อเหตุทั้งหมดก่อน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือมีการขัดแย้งกันด้วยเรื่องส่วนตัวมาก่อนหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการป้องกันและปราบปรามการเกิดเหตุมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทางตำรวจมีข้อมูลของผู้มีอิทธิพลในแต่ละท้องที่อยู่แล้ว โดยจะสั่งการให้ตำรวจในแต่ละท้องที่เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุที่อาจเกิดซ้ำขึ้นอีก
ไม่ครบองค์ประชุม จับตาถก บอร์ดไตรภาคี ลุ้นขึ้นค่าแรง 400 บาท ขาด 2 ผู้แทนฝ่ายรัฐ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9544991
ไม่ครบองค์ประชุม จับตาถก บอร์ดไตรภาคี ลุ้นขึ้นค่าแรง 400 บาท ขาด 2 ผู้แทนฝ่ายรัฐ ส่วนฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้างมาครบ แต่ยังเปิดประชุมมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.67นาย
บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 หรือบอร์ดไตรภาคี ครั้งที่ 10/2567 ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีกรรมการค่าจ้างจำนวน 2 คน ที่แจ้งลาประชุม คือ นาย
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ และ น.ส.
วรวรรณ พลิคามิน ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ทำให้วันนี้มีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 13 คนจาก 15 คน
สำหรับรายชื่อกรรมการที่เข้าร่วมประชุมบอร์ดฯ ในวันนี้ ได้แก่ ฝ่ายรัฐ ประกอบด้วย 1.นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดฯ 2.ร.อ.สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน และ 3.นายอัครุตม์ สนธยานนท์ รองปลัดกระทรวงการคลัง
ฝ่ายนายจ้าง ประกอบด้วย 1.นางสาว
ศุภานัน ปลอดเหตุ 2.นาย
ณัฏฐกิตติ์ เขตตระการ 3.นาย
อรรถยุทธ ลียะวณิช 4.นาง
เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย และ 5.นาย
ชัยยันต์ เจริญโชคทวี
ส่วนฝ่ายลูกจ้าง ประกอบด้วย 1.นาย
กัมปนาท ศรีพนมวรรณ 2.นาย
สมชาย มูฮัมหมัด 3.นาย
อ่อนสี โมฆรัตน์ 4.นาย
ไพโรจน์ วิจิตร และ 5.นาย
วีรสุข แก้วบุญปัน
นาย
วีรสุข แก้วบุญปัน กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง เปิดเผยก่อนการประชุมบอร์ดฯ ว่า หลังจากที่เว้นว่างการประชุม 2 เดือนที่ผ่านมา วันนี้จึงเป็นความคาดหวังของฝ่ายลูกจ้างทั้งประเทศที่ตั้งเป้าไว้ว่า 400 บาท แต่ทั้งนี้ต้องรอข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเข้ามาพิจารณา ในวันนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่า จะขึ้นไปถึง 400 บาทหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวการประชุมล่มอีกหรือไม่ นาย
วีรสุข กล่าวว่า ไม่กลัว เพราะเป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่าย และขอยืนยันว่าฝ่ายลูกจ้างมาครบ แต่หากองค์ประชุมไม่ครบเลยจนไม่สามารถประชุมได้ ก็ต้องนัดประชุมอีกครั้งภายใน 15 วัน โดยวันนี้จะพิจารณาเรื่องทั่วไป แต่เป้าหมายวันนี้คือ 400 บาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี
เมื่อถามว่า วันนี้คาดว่าจะเป็นการพิจารณาและนำเสนอรายละเอียดของแต่ละฝ่าย แต่ยังไม่ยืนยันที่จะลงมติตัวเลข 400 บาทใช่หรือไม่ นายวิสุข กล่าวว่า มีโอกาสเป็นได้สูง ต้องรอดูว่าประธานในที่ประชุมวันนี้คือปลัดกระทรวงแรงงาน จะชี้แจงระเบียบการประชุม มติและจะให้มีข้อปฏิบัติอย่างไร
ด้านนาย
อรรถยุทธ ลียะวณิชย์ กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ถึงแม้จะมี ผู้ลาประชุม 2 คน แต่ยังสามารถเปิดประชุมและสามารถมีมติเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ เพราะจะใช้เสียง 2 ใน 3 ของจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม
“
ทั้งนี้ยืนยันว่าในส่วนของนายจ้าง เห็นว่าหากมีการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำในรอบนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนนั้นก็เห็นด้วย เพราะ เข้าใจถึงสภาพเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ แต่ในส่วนของตัวเลข จะเป็นเท่าไหร่นั้นต้องไปดูอีกครั้งหนึ่ง แต่ต้องเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่าจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศนั้น นายจ้างไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อยู่แล้ว” นาย
อรรถยุทธ กล่าว
JJNY : สภาเดือด! เปิดประชุมวันแรก│ผบ.ตร.สั่งเอาผิดผู้ก่อเหตุยิง สจ.โต้ง│จับตาถก บอร์ดไตรภาคี│พรรครบ.โสมขาวเปลี่ยนจุดยืน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9545083
เปิดวันแรก สภาก็เดือดแล้ว สส.เพื่อไทย ฉุนปชน. ตั้งกระทู้สดปลาหมอคางดำ หลอกด่านายกฯ เบี้ยวตอบกระทู้ แถมจัดคิวแถลงนโยบายชนกันทั้งที่แจ้งล่วงหน้า ‘จุลพันธ์’อ้างเพิ่งตกลงกันประชุมสภาฯวันนี้วันแรก ‘ปกรณ์วุฒิ’ ข้องใจเจตนาแถลงนโยบายรัฐบาลตรงกับวันเปิดประชุมสภาฯ ขอจองคิวนายกฯตอบกระทู้ของ ผู้นำฝ่ายค้านสัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ธ.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เป็นนัดแรก มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่สอง เป็นประธานการประชุม หลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่แล้ว เข้าสู่การพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน สอบถามนายกรัฐมนตรี ถึงการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต แต่นายกฯ ติดภารกิจ จึงมอบหมายให้รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่ก็มอบให้รมช.เกษตรฯ มาชี้แจงแทน แต่ก็ติดภารกิจ จึงขอเลื่อนอีก ทำให้ไม่มีผู้มาตอบกระทู้ดังกล่าว
โดยนายภราดร ชี้แจงว่า ผู้ถามกระะทู้สามารถไปถามในสัปดาห์ถัดไปได้ และเปิดโอกาสให้นายณัฐชาชี้แจง
นายณัฐชา กล่าวเสียงดังว่า เรื่องปลาหมอคางดำคาบเกี่ยวกับหลายกระทรวง ต้องถามนายกฯจะเอาอย่างไรกันแน่ เพราะรัฐบาลประกาศเป็นเรื่องวาระแห่งชาติ แต่ไม่มีความคืบหน้า ตนจึงตั้งใจจะใช้วันเปิดสมัยประชุมวันแรกถามนายกฯ แต่ก่อนประชุมสภาฯวันนี้ นายกฯบอกอยากมาตอบกระทู้ แต่กำลังหาความเหมาะสม แล้วบอกว่าวันนี้ไม่เหมาะสม อย่างนี้จะให้รู้สึกอย่างไร
“อยากถามว่า จะต้องเป็นคนประเภทไหนที่บอกว่าวันทำงานวันแรกไม่เหมาะกับการทำงาน ความเดือดร้อนประชาชนรออยู่ สส.ต้องการใช้กลไกสภาฯ ทำหน้าที่ถาม นายกฯแค่มาตอบ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ไม่มาตอบ แต่ไปจัดคิวเรื่องอื่นให้ชนกัน แล้วบอกไม่ว่าง นี่คือภารกิจหรือไม่ อย่าบอกเตรียมการล่วงหน้านานแล้ว แต่เราก็เตรียมการเหมือนกัน สื่อสารถึงรัฐบาลแล้วว่าวันแรกจะถามเรื่องใด แบบนี้จะบริหารได้อย่างไร วันแรกการประชุมยังเดือดร้อนขนาดนี้ ไม่พร้อม” นายณัฐชา กล่าวด้วยเสียงดุดัน
ทำให้นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเช่นกันว่า การตั้งกระทู้ต้องถามปัญหาประชาชนให้นายกฯตอบ แต่ผู้ถามใส่อารมณ์ พูดว่าคนประเภทไหน ถือว่าไม่เหมาะสม ขอให้ถอนคำพูด จะมาด่านายกฯลอยๆแบบนี้ไม่ได้
นายภราดร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องปิดไมค์ไม่ให้พูดต่อ ก่อนจะตัดบทโดยขอให้นายณัฐชาใจเย็นๆ ใช้คำให้สุภาพ และให้นายณัฐชาพูดต่อไป
นายณัฐชา อภิปรายต่อว่า สิ่งที่พูดขณะนี้ประชาชนตายรายวัน ลงทุนไปแต่เจ๊งแล้วเจ๊งอีก จะอยู่ต่อได้อย่างไร ตนเอาความเดือดร้อนประชาชนมาพูด แต่ขอบคุณผู้ประท้วงที่ยืนยันว่า การถามกระทู้ต้องมาถาม ซึ่งตนกำลังถามอยู่ว่า นายกฯไปไหน รัฐมนตรีอยู่กันหลายคน แต่มอบหมายแล้วมอบหมายอีก
ทุกวันนี้ประชาชนต้องแก้ปัญหากันเอง ไม่มีหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ ทำยังกับประเทศนี้ไม่มีผู้บริหาร ตนมีปัญหาประชาชนจะมาสะท้อนในสภาฯ เมื่อสภาฯสะท้อนไม่ได้ ตนก็ต้องพูดกับกำแพงแล้วก็สะท้อนมาถึงตน เรื่องมันเท่าเดิมเลย แล้วตนจะกลับบ้านไปบอกประชาชนอย่างไร
จากนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า ทุกคนทราบดีว่าตอนแรกสัปดาห์นี้จะไม่มีประชุมสภาฯ แต่เราเพิ่งตกลงกันจะประชุมสภาฯ วันนี้เป็นวันแรก นายกฯ จึงนัดแถลงผลงาน อย่างไรก็ตามการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต้องถามไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นการดีที่สุด จะให้นายกฯตอบทุกเรื่อง อาจไม่ได้ลงรายละเอียด เรื่องปลาหมอคางดำ นายกฯ มอบให้กระทรวงเกษตรฯ ไม่มีที่นายกฯ จะไม่ให้ความสำคัญกับสภาฯ แต่วันนี้เป็นจังหวะเวลาไม่เหมาะสมเพราะมีหมายซ้อนกัน
ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายว่า แปลกใจทำไมถึงกำหนดวันแถลงผลงานรัฐบาล ตรงกับวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพราะทราบอยู่แล้วว่า ทุกวันพฤหัสบดีจะมีการตอบคำถามกระทู้ด้วยวาจา อีกทั้งการเปิดประชุมสภาฯ วันที่ 12 ธ.ค. ได้กำหนดตั้งแต่เดือนก.ค.2566 มีเวลาปีกว่าที่ทุกคนรู้อยู่ว่าจะเปิดประชุม
“จึงต้องตั้งคำถามว่า เหตุใดจงใจกำหนดวันแถลงนโยบรัฐบาลเป็นวันนี้ การมอบหมายรัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน ก็ทราบว่ามีรัฐมนตรีหลายคนไปร่วมงานแถลงนโยบายเช่นกัน สรุปว่าจงใจหนีตอบกระทู้เกือบทั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้วส่งแค่บางคนมาตอบกระทู้ใช่หรือไม่ นายกฯบอกว่า ถ้าว่างจะมาตอบ ดังนั้น ขอจองคิวนายกฯ วันพฤหัสฯหน้าได้หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้าน จะถามกระทู้ถึงปัญหาที่สังคมถาม ต้องเป็นนายกฯ เท่านั้นที่จะต้องมาตอบ” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ผบ.ตร.สั่งเอาผิดผู้ก่อเหตุยิง สจ.โต้ง จ.ปราจีนบุรี ทุกคนให้ได้ และเร่งพิจารณาเรื่องอั้งยี่ ซ่องสุมโจร
https://siamrath.co.th/n/586969
ผบ.ตร.สั่งเอาผิดผู้ก่อเหตุยิง สจ.โต้ง จ.ปราจีนบุรี ทุกคนให้ได้ และเร่งพิจารณาเรื่องอั้งยี่ ซ่องสุมโจร
วันที่ 12 ธ.ค.67 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยในความคืบหน้ากรณีที่ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองอีก 1 กระบอก เสียชีวิต โดยพบว่ามีบุคคลในที่เกิดเหตุทั้งหมดรวม 7 คน ว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานจากพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 (รรท.ผบช.ภ.2 )ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ ทั้งอาวุธปืน กระสุนปืน คราบเขม่าดินปืน รวมทั้งให้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่ในบ้านทุกคน ทุกข้อหาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ทั้งเรื่องร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพ.ร บ. อาวุธปืน นอกจากนี้ยังสั่งให้พิจารณาเอาผิดเรื่องของอั้งยี่ซ่องสุ่มโจรด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน
โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึง สาเหตุดังกล่าว อยากให้ย้อนกลับไปดูประวัติของผู้ก่อเหตุทั้งหมดก่อน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือมีการขัดแย้งกันด้วยเรื่องส่วนตัวมาก่อนหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการป้องกันและปราบปรามการเกิดเหตุมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทางตำรวจมีข้อมูลของผู้มีอิทธิพลในแต่ละท้องที่อยู่แล้ว โดยจะสั่งการให้ตำรวจในแต่ละท้องที่เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุที่อาจเกิดซ้ำขึ้นอีก
ไม่ครบองค์ประชุม จับตาถก บอร์ดไตรภาคี ลุ้นขึ้นค่าแรง 400 บาท ขาด 2 ผู้แทนฝ่ายรัฐ
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9544991
ไม่ครบองค์ประชุม จับตาถก บอร์ดไตรภาคี ลุ้นขึ้นค่าแรง 400 บาท ขาด 2 ผู้แทนฝ่ายรัฐ ส่วนฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้างมาครบ แต่ยังเปิดประชุมมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ธ.ค.67นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 หรือบอร์ดไตรภาคี ครั้งที่ 10/2567 ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีกรรมการค่าจ้างจำนวน 2 คน ที่แจ้งลาประชุม คือ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ และ น.ส.วรวรรณ พลิคามิน ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ทำให้วันนี้มีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมทั้งหมด 13 คนจาก 15 คน
สำหรับรายชื่อกรรมการที่เข้าร่วมประชุมบอร์ดฯ ในวันนี้ ได้แก่ ฝ่ายรัฐ ประกอบด้วย 1.นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดฯ 2.ร.อ.สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน และ 3.นายอัครุตม์ สนธยานนท์ รองปลัดกระทรวงการคลัง
ฝ่ายนายจ้าง ประกอบด้วย 1.นางสาวศุภานัน ปลอดเหตุ 2.นายณัฏฐกิตติ์ เขตตระการ 3.นายอรรถยุทธ ลียะวณิช 4.นางเนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย และ 5.นายชัยยันต์ เจริญโชคทวี
ส่วนฝ่ายลูกจ้าง ประกอบด้วย 1.นายกัมปนาท ศรีพนมวรรณ 2.นายสมชาย มูฮัมหมัด 3.นายอ่อนสี โมฆรัตน์ 4.นายไพโรจน์ วิจิตร และ 5.นายวีรสุข แก้วบุญปัน
นายวีรสุข แก้วบุญปัน กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง เปิดเผยก่อนการประชุมบอร์ดฯ ว่า หลังจากที่เว้นว่างการประชุม 2 เดือนที่ผ่านมา วันนี้จึงเป็นความคาดหวังของฝ่ายลูกจ้างทั้งประเทศที่ตั้งเป้าไว้ว่า 400 บาท แต่ทั้งนี้ต้องรอข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเข้ามาพิจารณา ในวันนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่า จะขึ้นไปถึง 400 บาทหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวการประชุมล่มอีกหรือไม่ นายวีรสุข กล่าวว่า ไม่กลัว เพราะเป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่าย และขอยืนยันว่าฝ่ายลูกจ้างมาครบ แต่หากองค์ประชุมไม่ครบเลยจนไม่สามารถประชุมได้ ก็ต้องนัดประชุมอีกครั้งภายใน 15 วัน โดยวันนี้จะพิจารณาเรื่องทั่วไป แต่เป้าหมายวันนี้คือ 400 บาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี
เมื่อถามว่า วันนี้คาดว่าจะเป็นการพิจารณาและนำเสนอรายละเอียดของแต่ละฝ่าย แต่ยังไม่ยืนยันที่จะลงมติตัวเลข 400 บาทใช่หรือไม่ นายวิสุข กล่าวว่า มีโอกาสเป็นได้สูง ต้องรอดูว่าประธานในที่ประชุมวันนี้คือปลัดกระทรวงแรงงาน จะชี้แจงระเบียบการประชุม มติและจะให้มีข้อปฏิบัติอย่างไร
ด้านนายอรรถยุทธ ลียะวณิชย์ กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง เปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ถึงแม้จะมี ผู้ลาประชุม 2 คน แต่ยังสามารถเปิดประชุมและสามารถมีมติเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งได้ เพราะจะใช้เสียง 2 ใน 3 ของจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม
“ทั้งนี้ยืนยันว่าในส่วนของนายจ้าง เห็นว่าหากมีการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำในรอบนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนนั้นก็เห็นด้วย เพราะ เข้าใจถึงสภาพเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ แต่ในส่วนของตัวเลข จะเป็นเท่าไหร่นั้นต้องไปดูอีกครั้งหนึ่ง แต่ต้องเป็นตัวเลขที่เหมาะสม ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีการระบุว่าจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศนั้น นายจ้างไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้อยู่แล้ว” นายอรรถยุทธ กล่าว