บอสพาชิม: Jaan by Kirk Westaway This isn’t Boring British food 🌟🌟 (Singapore)
Boring British food น่าจะเป็นสิ่งที่ตรึงในความทรงจำของทุกคน ถึงความจำเจของอาหารประเทศนี้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ผมอยากลองและเลือกมาเยือน Jaan by Kirk Westaway หนึ่งในร้านอาหารบริติชไม่กี่ร้านในเอเชียที่ได้รับมิชลินสตาร์ ซึ่งนอกจาก Michelin Star แล้วร้านนี้ยังได้รับรางวัล Tatler Best of Asia first editionและติดอยู่ใน List ของ 50 Best อยู่เนืองๆ
Jaan เพิ่งได้รับการรีโนเวทใหม่ ทันทีที่เราเดินออกจากลิฟท์บนชั้น 70 ของSwissôtel The Stamford เราก็จะถูกต้อนรับด้วยภาพ impressionist ก่อนที่จะเดินเข้าสู่ห้องอาหารที่มีต้นไม้คริสตัลแชนเดอเรียเป่าด้วยมือและตกแต่งทีละชิ้นพร้อมกับวิวอันสวยงามของสิงคโปร์รอต้อนรับ
Jaan เป็นร้านอาหาร reinnovate British cuisine ที่หลังจากชิมแล้วผมต้องขอบอกว่าอาหารอังกฤษไม่น่าเบื่อ ด้วยราคามื้อกลางวันที่ 238 sgd ทำให้ร้านนี้เป็นร้านมิชลิน 2 ดาวที่ถูกที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะแห่งนี้และด้วยวิวพาโนรามิคที่สวยงามบรรยากาศที่ร่วมสมัยสบายตา ก็คงเป็นเหตุผลที่เพียงพอกับการมาเยือนห้องอาหารแห่งนี้ล่ะครับ
เชฟ Kirk Westaway ชาวCornish งั้นได้นำเสนออาหารอังกฤษสมัยใหม่ที่เน้นไปที่รสสัมผัสที่เบาและมีมิติที่ซับซ้อน เลือกนำเสนอวัตถุดิบจากท้องถิ่นของอังกฤษอันสดใหม่ผสมผสานกับความทรงจำในวัยเด็กของเชฟจากแถบชนบทอังกฤษและประสบการณ์การฝึกงานของเชฟในฝรั่งเศส ที่ถูกหล่อหลอมและแสดงตัวตนออกมาอย่างชัดเจนในจานอาหาร
จานที่ผมชื่นชอบในวันนี้คือ Pie Guinea fowl ใส่เห็ดทรัฟเฟิล โดยตัวพายนั้นทำจากมันฝรั่งตรงกลางมีเห็ดโมเรลและทรัฟเฟิล ราดด้วยjusจากGuinea fowl จานนี้ทำออกมาได้เฉียบขาดมากๆครับ ตัวเนื้อของGuinea fowlนั้นไม่แห้งและนุ่มมากๆยังคงความเด้งไม่ได้อยู่ทำได้เยี่ยมมากๆครับ รถของมันนั้นเข้ากันได้ดีกับตัวเห็ดmorel ที่เข้ากันได้ดีกับสัตว์ปีก ซอสที่รสกลมกล่อมไม่เค็มเกินไป เห็ดทรัฟเฟิลที่หอมชวนหิว เป็นจานที่ดูเรียบง่ายแต่ทำออกมาได้ดีเหนือความคาดหมาย แนะนำให้กินคู่สลับกับสลัดผักเขียว และchatelle mushroom ที่เสริมมาด้วยกันเพื่อเบรครสของพายและเพิ่มมิติให้กับจานนี้ครับ
โดยรวมประสบการณ์ที่ร้านนี้นั้นเป็นมื้ออาหารที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าโดยเฉพาะมื้อกลางวันเหมาะสมกับฐานะของร้านจะมีบางจานที่ผมรู้สึกว่ารส Overhelm ไปนิดอย่างจานแพนเค้กชีส ที่พอมีทั้งชีสและคาเวียร์แล้วรู้สึกว่าหนักเกินไป หรือการใช้ควันโรสแมรี่ในหลายๆจานที่อาจจะลดทอนความสนุกในมื้อนี้ไปบ้าง
WHITE ASPARAGUS
คำนี้ดีมากครับ เป็น meringue จากไวท์แอสพารากัส กับ creme fraiche ครีมมีความครีมีเเละรสเปรี้ยวอ่อนๆคล้ายซาวรีมใส่หัวหอม ซึ่งขับรสหวานของเมอรเเรงเนื้อเบาฟูเบาเหมือนฟองน้ำได้อย่างลงตัว เท็กเจอร์ดีมากๆไม่เหนืยว รสหน่อไม่ฟรั่งอ่อนๆ อร่อยครับ
.
FISH & CHIPS
คำนี้เป็นการตีความเมนูขึ้นชื่อของอาหารอังกฤษที่ทุกคนคุ้นหู โดยเชฟเลือกเสริฟ์ pomme dauphine มากับMousseปลากับผักดอง คำนี้แม้หน้าตาจะไม่ใช่เเต่รสเป็นปลาทะเลๆกับมันฟรั่งกรอบเนื้อเบา ก่อนปิดท้ายด้วยผักดองที่ช่วยเพิ่มรสเค็มเข้มข้น
.
GOOSE MOUSSE
คำนี้เป็นทาร์ตมูสตับห่าน คำนี้รสไม่มันหนักมีกลิ่นเฉพาะตัวของตับบและะกลิ่นเหล็กบางๆตามด้วยกลิ่นควันโรสแมรี่ รสปรุงมาเบาๆกินกับเยลลี่วินิเเกรตที่ให้รสหวานอ่อนๆ
CHEDDAR PANCAKE
เเพนเค้กชีสเชดด้า เท็กเจอร์เเพนเค้กทำมาเท็กเจอร์ดีเลยครับ เนื้อฟูอุ่น มีกลิ่นหน่อไม้ฟรั่งแทรกเบาๆเพื่อเบรครสเเต่ผมว่ามันยังไม่พอเพราะพอรสชีสที่เค็มเข้นข้นในเนื้อแพนเค้กพอผสมกับคาเวียร oscietra ที่ใส่มาอย่างสะใจแล้วมันมากไปนิด
.
เชฟเเถมให้ครับ Scallop BBQ ปกติตัวนี้จะมีให้ในคอร์สใหญ่
เป็นหอยเชลล์ย่างซอสบารบีคิว จานนี้อร่อยตอนแรกผมนึกว่ารสบาร์บีคิวซอสจะกลบรสหอยแต่ รสซอสนั้นขับรสหอยได้ดี กลิ่นเผ็ดร้อนของพริกไม่สโมคกี้ของมัน กับรสเปรี้ยวอมหวานนิดๆ ที่ต้องชมในคำนี้คือเท็กเจอร์ของหอย หนึบมากแต่ไม่เหนียวรสหวานสุดๆ ผิวไม่เเข็งแต่มีความหอมจากการย่าง เป็นจานที่ดี
CHARRED LEEK & POTATO SOUP
ซุปจานง่ายๆชามนี้เป็นหนึ่งในจานที่ผมรู้สึกว่าแสดงถึงตัวตนของอาหารอังกฤษแต่ใส่ลูกเล่นได้อย่างน่าสนใจ มันทำจากbroth หัวลีคย่าง on top ด้วย โฟมมันฟรั่งก่อนใส่ถั่วแมคคาเดเมียและchive จานนี้เสริมมาที่อุณหภูมิอุ่นๆตัวซุปมีความอุมามิและกลิ่นหอมชวนหิวรสอ่อนๆถั่วคั่วมาได้ดีมีความกรอบ เชฟใส่เห็ดออรินจิสับเพิ่มความหนึบด้านล่างและขนมปังป่นด้านบนเพื่อเพิ่มความกรอบ กลิ่นฉุนของchiveที่ใส่มาอย่างพอดีช่วยเพิ่มมิติให้กับจานนี้ได้อย่างลงตัวครับ
จานขนมปังในวันนี้เป็น Butter bread and dark ryes bread เสิร์ฟมากับเนยจากอังกฤษ infus ด้วย Lemontyme leaf
ขนมปังที่นี่ทำได้ดีมากครับ ตัวไรน์ยมีความหอมแต่ไม่เหนี่ยวมากและเปรี้ยวเนื้อของมันฟูผิวมีความรัสติกนิดๆ เนยมีกลิ่นหอมเย็นเฉพาะตัวของใบเลมอนไทม์อ่อนๆสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ดีครับ
KING CRAB
จานนี้เป็น King Cab อลาสก้ากับอัลมอนด์ฝาน เสริฟมาพร้อมกับซอสมะเขือเทศและไอศครีมโยเกิร์ต จานนี้อาจจะเป็นจานที่ผมชอบน้อยที่สุดในมื้อนี้ครับ รสซอสของมันมีความเป็นโยเกิร์ตอ่อนๆหวานนำและได้ความเปรี้ยวจากมะเขือเทศ มาซาล่าที่ใส่มามันช่วยเพิ่มมิติและความเผ็ดร้อน ผิวเลมอน chives และอัลมอนด์ช่วยเพิ่มมิติ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมพบว่าอัลมอนด์นั้นค่อนข้างฝาดและกลบรส ขององค์ประกอบอื่นๆและทำให้ทุกอย่างรู้สึกว่าผสมกันอย่างไม่ลงตัว
HEN'S EGG
จานขึ้นชื่อของเชฟที่ได้แรงบันดาลใจจากความทรงจำวัยเด็กในชนบทของอังกฤษ โดยเอาไข่ไก่จากอังกฤษมาปรุง 2 แบบตัวไข่แดงนั้นเสิร์ฟมาแบบออนเซ็นและไข่ขาวเอาไปทำ curd รมด้วยควันโรสแมรี่ On top ด้วย onion vinigrette , puree nettle และ Caviar เสิร์ฟมากับ Toastและครีมเห็ด
โดยเชฟแนะนำให้เอาขนมปังจิ้มลงในไข่แล้วกิน จานนี้เข้ากันได้แบบงงๆตัวไข่ปรุงรสด้วยเกลืออ่อนๆ ซึ่งพอจิ้มกับขนมปังแล้วเข้ากันได้ดีครับ onion vinigrette แหม่มสร้างความแตกต่างให้รสหวานอมเปรี้ยวฉุนทำให้เราไม่รู้สึกหนักจนเกินไป กลิ่นเขียวอ่อนๆของใบnettle ชวนให้นึกถึงชนบทของอังกฤษ โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าควันโรสแมรี่ไม่จำเป็นและกลบจุดเด่นของnettle รวมถึงความครีมมี่ของไข่ไปนิดครับ แต่โดยรวมแล้วจานนี้ก็สนุกและเป็นจานที่อร่อย
OCEAN TROUT
จานนี้เชฟเสิร์ฟปลาเทร้าท์ มาพร้อมผักกาดดอง และซอสครีมเคเปอร์ ก่อนออนท็อปด้วยหอยแมงภู่
จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะรสหนัก แต่รสกับโปร่งและเบากว่าที่คิดเป็นจานเบรคที่ดีมาก เนื้อปลาเทร้าท์ที่poarchมาอ่อนๆ มีเนื้อนุ่มมากๆ เข้ากับผักกาดรสเปรี้ยวโปร่งมีกลิ่นเลมอนบางๆและซอสจากเคเปอร์ที่เค็มนิดๆครีมมี่หน่อยๆ ผมแนะนำให้ทานทุกอย่างรวมกันเข้ากันดีมากครับ
GUINEA FOWL
Pie Guinea fowl ใส่เห็ดทรัฟเฟิล โดยตัวพายนั้นทำจากมันฝรั่งตรงกลางมีเห็ดโมเรลและทรัฟเฟิล ราดด้วยjusจากGuinea fowl จานนี้ทำออกมาได้เฉียบขาดมากๆครับ ตัวเนื้อของGuinea fowlนั้นไม่แห้งและนุ่มมากๆยังคงความเด้งไม่ได้อยู่ทำได้เยี่ยมมากๆครับ รถของมันนั้นเข้ากันได้ดีกับตัวเห็ดmorel ที่เข้ากันได้ดีกับสัตว์ปีก ซอสที่รสกลมกล่อมไม่เค็มเกินไป เห็ดทรัฟเฟิลที่หอมชวนหิว เป็นจานที่ดูเรียบง่ายแต่ทำออกมาได้ดีเหนือความคาดหมาย แนะนำให้กินคู่สลับกับสลัดผักเขียว และchatelle mushroom ที่เสริมมาด้วยกันเพื่อเบรครสของพายและเพิ่มมิติให้กับจานนี้ครับ
EARL GREY
หากนึกถึงอังกฤษเราคงนึกถึงชาเป็นอย่างแรก โดยเชฟเสิร์ฟเป็นเชอเบทชาและมะนาว เสริฟ์มากกับส้มนานาชนิด อย่าง Pommelo grapefuirt clemetine ด้านล่างเป็นนมใส่ดอกไม้พื้นเมืองของสิงคโปร์ที่ปรุงมาเป็น granita จานนี้ยอดเยี่ยม กลิ่นซับซ้อนแต่ทว่ากลมกลืนมากๆ ชาไม่ได้เข้มจนเกินไปทำให้ไม่กลบรสต่างๆในจานนี้ ซิตรัสต่างๆ ให้รสขมนิดๆและความเปรี้ยว ซึ่งช่วยล้างปากได้อย่างยอดเยี่ยมและทำให้เราอยากรับประทานอาหารได้ต่อครับ
STRAWBERRY
จานนี้เชฟเสิร์ฟCakeเมอเเรงค์ที่ถูกเรียงเป็นชั้นใส่ ชอเบทสตอเบอรี่ แยมสตอเบอรรี่และครีมสด รับประทานไอติมโยเกริต วนิลาครีม สตอเบอร์รี่สด จานนี้ทำออกมาได้ดีครับจานที่ดูเรียบง่ายแต่ปรุงออกมาได้อย่าง Perfect ตัวเมอแรงเบาและกรอบ Texture ดีมากๆกลิ่นวนิลาหอมเข้มข้นสตอเบอรี่หวานอมเปรี้ยวเราต้องการอะไรมากกว่านี้อีก
Petit four
#Score:
🍾Service: 8.5/10
🍽Food: 8.5/10
🤩WOW factor: 8/10
💰Value for money: 8.75/10
Total: 8.5/10
Visit : June-2024
🗺เเผนที่ :
https://maps.app.goo.gl/dq6eUPjqYzxHiEXh9
⏰เวลาเปิดปิด: 11:45 AM–2:30 PM, 6:30–10:30 PM ปิดทุกวันอาทิตย์ และจันทร์
💵ค่าเสียหาย: ~238 SGD
⌨️เว็บไซต์ร้าน:
https://www.jaan.sg/
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss #tatlerbestofasia #michelinstar #jaansq #jaanbykirkwestaway
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (
https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (
https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit:
https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
[CR] บอสพาชิม : Jaan by Kirk Westaway this isn’t Boring British food 🌟🌟 (Singapore)
Boring British food น่าจะเป็นสิ่งที่ตรึงในความทรงจำของทุกคน ถึงความจำเจของอาหารประเทศนี้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ผมอยากลองและเลือกมาเยือน Jaan by Kirk Westaway หนึ่งในร้านอาหารบริติชไม่กี่ร้านในเอเชียที่ได้รับมิชลินสตาร์ ซึ่งนอกจาก Michelin Star แล้วร้านนี้ยังได้รับรางวัล Tatler Best of Asia first editionและติดอยู่ใน List ของ 50 Best อยู่เนืองๆ
Jaan เพิ่งได้รับการรีโนเวทใหม่ ทันทีที่เราเดินออกจากลิฟท์บนชั้น 70 ของSwissôtel The Stamford เราก็จะถูกต้อนรับด้วยภาพ impressionist ก่อนที่จะเดินเข้าสู่ห้องอาหารที่มีต้นไม้คริสตัลแชนเดอเรียเป่าด้วยมือและตกแต่งทีละชิ้นพร้อมกับวิวอันสวยงามของสิงคโปร์รอต้อนรับ
Jaan เป็นร้านอาหาร reinnovate British cuisine ที่หลังจากชิมแล้วผมต้องขอบอกว่าอาหารอังกฤษไม่น่าเบื่อ ด้วยราคามื้อกลางวันที่ 238 sgd ทำให้ร้านนี้เป็นร้านมิชลิน 2 ดาวที่ถูกที่สุดแห่งหนึ่งในเกาะแห่งนี้และด้วยวิวพาโนรามิคที่สวยงามบรรยากาศที่ร่วมสมัยสบายตา ก็คงเป็นเหตุผลที่เพียงพอกับการมาเยือนห้องอาหารแห่งนี้ล่ะครับ
เชฟ Kirk Westaway ชาวCornish งั้นได้นำเสนออาหารอังกฤษสมัยใหม่ที่เน้นไปที่รสสัมผัสที่เบาและมีมิติที่ซับซ้อน เลือกนำเสนอวัตถุดิบจากท้องถิ่นของอังกฤษอันสดใหม่ผสมผสานกับความทรงจำในวัยเด็กของเชฟจากแถบชนบทอังกฤษและประสบการณ์การฝึกงานของเชฟในฝรั่งเศส ที่ถูกหล่อหลอมและแสดงตัวตนออกมาอย่างชัดเจนในจานอาหาร
จานที่ผมชื่นชอบในวันนี้คือ Pie Guinea fowl ใส่เห็ดทรัฟเฟิล โดยตัวพายนั้นทำจากมันฝรั่งตรงกลางมีเห็ดโมเรลและทรัฟเฟิล ราดด้วยjusจากGuinea fowl จานนี้ทำออกมาได้เฉียบขาดมากๆครับ ตัวเนื้อของGuinea fowlนั้นไม่แห้งและนุ่มมากๆยังคงความเด้งไม่ได้อยู่ทำได้เยี่ยมมากๆครับ รถของมันนั้นเข้ากันได้ดีกับตัวเห็ดmorel ที่เข้ากันได้ดีกับสัตว์ปีก ซอสที่รสกลมกล่อมไม่เค็มเกินไป เห็ดทรัฟเฟิลที่หอมชวนหิว เป็นจานที่ดูเรียบง่ายแต่ทำออกมาได้ดีเหนือความคาดหมาย แนะนำให้กินคู่สลับกับสลัดผักเขียว และchatelle mushroom ที่เสริมมาด้วยกันเพื่อเบรครสของพายและเพิ่มมิติให้กับจานนี้ครับ
โดยรวมประสบการณ์ที่ร้านนี้นั้นเป็นมื้ออาหารที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าโดยเฉพาะมื้อกลางวันเหมาะสมกับฐานะของร้านจะมีบางจานที่ผมรู้สึกว่ารส Overhelm ไปนิดอย่างจานแพนเค้กชีส ที่พอมีทั้งชีสและคาเวียร์แล้วรู้สึกว่าหนักเกินไป หรือการใช้ควันโรสแมรี่ในหลายๆจานที่อาจจะลดทอนความสนุกในมื้อนี้ไปบ้าง
WHITE ASPARAGUS
คำนี้ดีมากครับ เป็น meringue จากไวท์แอสพารากัส กับ creme fraiche ครีมมีความครีมีเเละรสเปรี้ยวอ่อนๆคล้ายซาวรีมใส่หัวหอม ซึ่งขับรสหวานของเมอรเเรงเนื้อเบาฟูเบาเหมือนฟองน้ำได้อย่างลงตัว เท็กเจอร์ดีมากๆไม่เหนืยว รสหน่อไม่ฟรั่งอ่อนๆ อร่อยครับ
.
FISH & CHIPS
คำนี้เป็นการตีความเมนูขึ้นชื่อของอาหารอังกฤษที่ทุกคนคุ้นหู โดยเชฟเลือกเสริฟ์ pomme dauphine มากับMousseปลากับผักดอง คำนี้แม้หน้าตาจะไม่ใช่เเต่รสเป็นปลาทะเลๆกับมันฟรั่งกรอบเนื้อเบา ก่อนปิดท้ายด้วยผักดองที่ช่วยเพิ่มรสเค็มเข้มข้น
.
GOOSE MOUSSE
คำนี้เป็นทาร์ตมูสตับห่าน คำนี้รสไม่มันหนักมีกลิ่นเฉพาะตัวของตับบและะกลิ่นเหล็กบางๆตามด้วยกลิ่นควันโรสแมรี่ รสปรุงมาเบาๆกินกับเยลลี่วินิเเกรตที่ให้รสหวานอ่อนๆ
CHEDDAR PANCAKE
เเพนเค้กชีสเชดด้า เท็กเจอร์เเพนเค้กทำมาเท็กเจอร์ดีเลยครับ เนื้อฟูอุ่น มีกลิ่นหน่อไม้ฟรั่งแทรกเบาๆเพื่อเบรครสเเต่ผมว่ามันยังไม่พอเพราะพอรสชีสที่เค็มเข้นข้นในเนื้อแพนเค้กพอผสมกับคาเวียร oscietra ที่ใส่มาอย่างสะใจแล้วมันมากไปนิด
.
เชฟเเถมให้ครับ Scallop BBQ ปกติตัวนี้จะมีให้ในคอร์สใหญ่
เป็นหอยเชลล์ย่างซอสบารบีคิว จานนี้อร่อยตอนแรกผมนึกว่ารสบาร์บีคิวซอสจะกลบรสหอยแต่ รสซอสนั้นขับรสหอยได้ดี กลิ่นเผ็ดร้อนของพริกไม่สโมคกี้ของมัน กับรสเปรี้ยวอมหวานนิดๆ ที่ต้องชมในคำนี้คือเท็กเจอร์ของหอย หนึบมากแต่ไม่เหนียวรสหวานสุดๆ ผิวไม่เเข็งแต่มีความหอมจากการย่าง เป็นจานที่ดี
CHARRED LEEK & POTATO SOUP
ซุปจานง่ายๆชามนี้เป็นหนึ่งในจานที่ผมรู้สึกว่าแสดงถึงตัวตนของอาหารอังกฤษแต่ใส่ลูกเล่นได้อย่างน่าสนใจ มันทำจากbroth หัวลีคย่าง on top ด้วย โฟมมันฟรั่งก่อนใส่ถั่วแมคคาเดเมียและchive จานนี้เสริมมาที่อุณหภูมิอุ่นๆตัวซุปมีความอุมามิและกลิ่นหอมชวนหิวรสอ่อนๆถั่วคั่วมาได้ดีมีความกรอบ เชฟใส่เห็ดออรินจิสับเพิ่มความหนึบด้านล่างและขนมปังป่นด้านบนเพื่อเพิ่มความกรอบ กลิ่นฉุนของchiveที่ใส่มาอย่างพอดีช่วยเพิ่มมิติให้กับจานนี้ได้อย่างลงตัวครับ
จานขนมปังในวันนี้เป็น Butter bread and dark ryes bread เสิร์ฟมากับเนยจากอังกฤษ infus ด้วย Lemontyme leaf
ขนมปังที่นี่ทำได้ดีมากครับ ตัวไรน์ยมีความหอมแต่ไม่เหนี่ยวมากและเปรี้ยวเนื้อของมันฟูผิวมีความรัสติกนิดๆ เนยมีกลิ่นหอมเย็นเฉพาะตัวของใบเลมอนไทม์อ่อนๆสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ดีครับ
KING CRAB
จานนี้เป็น King Cab อลาสก้ากับอัลมอนด์ฝาน เสริฟมาพร้อมกับซอสมะเขือเทศและไอศครีมโยเกิร์ต จานนี้อาจจะเป็นจานที่ผมชอบน้อยที่สุดในมื้อนี้ครับ รสซอสของมันมีความเป็นโยเกิร์ตอ่อนๆหวานนำและได้ความเปรี้ยวจากมะเขือเทศ มาซาล่าที่ใส่มามันช่วยเพิ่มมิติและความเผ็ดร้อน ผิวเลมอน chives และอัลมอนด์ช่วยเพิ่มมิติ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมพบว่าอัลมอนด์นั้นค่อนข้างฝาดและกลบรส ขององค์ประกอบอื่นๆและทำให้ทุกอย่างรู้สึกว่าผสมกันอย่างไม่ลงตัว
HEN'S EGG
จานขึ้นชื่อของเชฟที่ได้แรงบันดาลใจจากความทรงจำวัยเด็กในชนบทของอังกฤษ โดยเอาไข่ไก่จากอังกฤษมาปรุง 2 แบบตัวไข่แดงนั้นเสิร์ฟมาแบบออนเซ็นและไข่ขาวเอาไปทำ curd รมด้วยควันโรสแมรี่ On top ด้วย onion vinigrette , puree nettle และ Caviar เสิร์ฟมากับ Toastและครีมเห็ด
โดยเชฟแนะนำให้เอาขนมปังจิ้มลงในไข่แล้วกิน จานนี้เข้ากันได้แบบงงๆตัวไข่ปรุงรสด้วยเกลืออ่อนๆ ซึ่งพอจิ้มกับขนมปังแล้วเข้ากันได้ดีครับ onion vinigrette แหม่มสร้างความแตกต่างให้รสหวานอมเปรี้ยวฉุนทำให้เราไม่รู้สึกหนักจนเกินไป กลิ่นเขียวอ่อนๆของใบnettle ชวนให้นึกถึงชนบทของอังกฤษ โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าควันโรสแมรี่ไม่จำเป็นและกลบจุดเด่นของnettle รวมถึงความครีมมี่ของไข่ไปนิดครับ แต่โดยรวมแล้วจานนี้ก็สนุกและเป็นจานที่อร่อย
OCEAN TROUT
จานนี้เชฟเสิร์ฟปลาเทร้าท์ มาพร้อมผักกาดดอง และซอสครีมเคเปอร์ ก่อนออนท็อปด้วยหอยแมงภู่
จานนี้ตอนแรกคิดว่าจะรสหนัก แต่รสกับโปร่งและเบากว่าที่คิดเป็นจานเบรคที่ดีมาก เนื้อปลาเทร้าท์ที่poarchมาอ่อนๆ มีเนื้อนุ่มมากๆ เข้ากับผักกาดรสเปรี้ยวโปร่งมีกลิ่นเลมอนบางๆและซอสจากเคเปอร์ที่เค็มนิดๆครีมมี่หน่อยๆ ผมแนะนำให้ทานทุกอย่างรวมกันเข้ากันดีมากครับ
GUINEA FOWL
Pie Guinea fowl ใส่เห็ดทรัฟเฟิล โดยตัวพายนั้นทำจากมันฝรั่งตรงกลางมีเห็ดโมเรลและทรัฟเฟิล ราดด้วยjusจากGuinea fowl จานนี้ทำออกมาได้เฉียบขาดมากๆครับ ตัวเนื้อของGuinea fowlนั้นไม่แห้งและนุ่มมากๆยังคงความเด้งไม่ได้อยู่ทำได้เยี่ยมมากๆครับ รถของมันนั้นเข้ากันได้ดีกับตัวเห็ดmorel ที่เข้ากันได้ดีกับสัตว์ปีก ซอสที่รสกลมกล่อมไม่เค็มเกินไป เห็ดทรัฟเฟิลที่หอมชวนหิว เป็นจานที่ดูเรียบง่ายแต่ทำออกมาได้ดีเหนือความคาดหมาย แนะนำให้กินคู่สลับกับสลัดผักเขียว และchatelle mushroom ที่เสริมมาด้วยกันเพื่อเบรครสของพายและเพิ่มมิติให้กับจานนี้ครับ
EARL GREY
หากนึกถึงอังกฤษเราคงนึกถึงชาเป็นอย่างแรก โดยเชฟเสิร์ฟเป็นเชอเบทชาและมะนาว เสริฟ์มากกับส้มนานาชนิด อย่าง Pommelo grapefuirt clemetine ด้านล่างเป็นนมใส่ดอกไม้พื้นเมืองของสิงคโปร์ที่ปรุงมาเป็น granita จานนี้ยอดเยี่ยม กลิ่นซับซ้อนแต่ทว่ากลมกลืนมากๆ ชาไม่ได้เข้มจนเกินไปทำให้ไม่กลบรสต่างๆในจานนี้ ซิตรัสต่างๆ ให้รสขมนิดๆและความเปรี้ยว ซึ่งช่วยล้างปากได้อย่างยอดเยี่ยมและทำให้เราอยากรับประทานอาหารได้ต่อครับ
STRAWBERRY
จานนี้เชฟเสิร์ฟCakeเมอเเรงค์ที่ถูกเรียงเป็นชั้นใส่ ชอเบทสตอเบอรี่ แยมสตอเบอรรี่และครีมสด รับประทานไอติมโยเกริต วนิลาครีม สตอเบอร์รี่สด จานนี้ทำออกมาได้ดีครับจานที่ดูเรียบง่ายแต่ปรุงออกมาได้อย่าง Perfect ตัวเมอแรงเบาและกรอบ Texture ดีมากๆกลิ่นวนิลาหอมเข้มข้นสตอเบอรี่หวานอมเปรี้ยวเราต้องการอะไรมากกว่านี้อีก
Petit four
#Score:
🍾Service: 8.5/10
🍽Food: 8.5/10
🤩WOW factor: 8/10
💰Value for money: 8.75/10
Total: 8.5/10
Visit : June-2024
🗺เเผนที่ : https://maps.app.goo.gl/dq6eUPjqYzxHiEXh9
⏰เวลาเปิดปิด: 11:45 AM–2:30 PM, 6:30–10:30 PM ปิดทุกวันอาทิตย์ และจันทร์
💵ค่าเสียหาย: ~238 SGD
⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://www.jaan.sg/
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss #tatlerbestofasia #michelinstar #jaansq #jaanbykirkwestaway
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้