JJNY : 5in1 กมธ.มั่นคงกัดไม่ปล่อย│กมธ.ที่ดินนัดถก│เครือข่าย น.ศ.รามจี้รบ.│หุ้นไทยปิดรูด│ชาวกรุงนิวเดลีใช้ชีวิตกลางหมอก

กมธ.มั่นคง กัดไม่ปล่อย นัดประชุม 22 พ.ย. เชิญ ทักษิณ-ทวี ให้ข้อมูล ชั้น 14 รพ.ตำรวจ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4895155
 
 
ชั้น 14 – “กมธ.ความมั่นคง” กัดไม่ปล่อย ปมนักโทษวีวีไอพี พักชั้น 14 รพ.ตำรวจ ออกหนังสือนัดประชุม 22 พ.ย. พร้อมเชิญ “ทักษิณ” ให้ข้อมูล
 
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. ได้มีหนังสือนัดประชุม กมธ. เพื่อพิจารณาเรื่องการตรวจสอบกรณีที่กรมราชทัณฑ์ให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ กับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 09.30 น.
 
โดยมีกำหนดการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อ กมธ. ได้แก่ นายทักษิณ, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, อธิบดีกรมราชทัณฑ์,  พล.ต.ท.โสภณรัชจ์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นพ.ใหญ่ รพ.ตำรวจ, นายวัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์, น.ส.รวมทิพย์ สุภานันท์ นพ.ชำนาญพิเศษ รพ.ราชทัณฑ์, นายวิชัย วงศ์ชนะภัย ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา และ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการตรวจสอบเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่การตรวจสอบในครั้งแรก พบข้อมูลที่ กมธ.ติดใจ คือ มาตรฐานการรักษาในเรือนจำ รวมถึงการส่งตัวผู้ต้องขังที่ป่วย และวินิจฉัยโดยพยาบาลว่าป่วยหนักถึงขั้นที่ต้องส่งตัวไปรักษาต่อ อีกทั้งยังไม่พบรายละเอียดของการรักษา และการบันทึกภาพใน รพ.ตำรวจ ที่เป็นไปตามมาตรฐานการดูแลนักโทษนอกเรือนจำ
 

 
กมธ.ที่ดิน นัดถก 13 พ.ย. ปมข้อพิพาทเขากระโดง
https://tna.mcot.net/politics-1446258

รัฐสภา​12 พ.ย. – กมธ.ที่ดิน นัดถกด่วนพรุ่งนี้ ปมข้อพิพาทเขากระโดง บุรีรัมย์ ชี้อ้างไม่เกี่ยวการเมืองไม่ได้ เพราะ “อนุทิน” เป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน
 
นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล สส.พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีคำพิพากษาของศาลไปแล้ว ว่า ให้ยึดคืนเขากระโดงจากการรถไฟ แต่ที่ผ่านมา กลายเป็นว่า อธิบดีกรมที่ดินก็มีหนังสือออกมาว่า ไม่จำเป็นต้องทำตามคำพิพากษาของศาล โดยในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) เวลา 09.30 น. จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมีการหารือกันในเรื่องนี้ มาพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วนว่า เรื่องดังกล่าวได้ถูกต้องตามกระบวนการกฎหมายหรือไม่ และอาจจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงต่อไป
 
ส่วนกรณีนี้อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมือง ระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยด้วยนั้น นายฐิติกันต์กล่าวว่า​จากการติดตามข่าว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมายืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ต้องยอมรับว่า นายอนุทิน กำกับดูแลกรมที่ดิน ดังนั้น จะอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ดังนั้น ต้องเรียกมาพิจารณาตรวจสอบถึงข้อมูลดังกล่าวว่า เมื่อมีคำพิพากษาแล้วทำไมถึงไม่ดำเนินการตามคำพิพากษา เพราะที่สุดแล้วทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย
 
นายฐิติกันต์ยังรับยื่นหนังสือจากตัวแทนประชาชน ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้กรรมาธิการตรวจสอบการสร้างโรงแรม 7 ชั้น ใน ในซอยแคบและตัน ซึ่งตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า โรงแรมแจ้งว่าจะมีการสร้างโรงแรมและทำการสำรวจ สอบถามความคิดเห็นEIA แล้ว แต่ความเป็นจริงชาวบ้านบริเวณนั้นเป็น 10% ไม่เห็นด้วยกับการมีโรงแรม เพราะถนนในซอยที่จะสร้างกว้างเพียง 3.4 เมตรเท่านั้น อีกทั้งเป็นซอยตันไม่มีทางออก จึงกังวลเรื่องปัญหาการจราจร ระบบน้ำและสาธารณูปโภคต่างๆ โดยโรงแรมมีลักษณะเป็นอาคาร 7 ชั้นและมีรูปท็อปบาร์ด้านบน และพบว่ามีการเปิดขายห้องพักในโรงแรมแล้ว เบื้องต้นจากการประชุม กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล ได้มีการเชิญชาวบ้านเข้าไปพูดคุยแต่ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ชาวบ้านต้องการให้มีการทำ EIA ใหม่ เพราะ EIA เดิม มีการทำสำรวจมามากกว่า 3-4 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างเยอะ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
 
นายฐิติกันต์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่าพื้นที่ค่อนข้างแคบรถสวนกันไม่ได้ประชาชนในพื้นที่กว่าร้อยหลังคาเรือนเกรงว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงระยะเวลาก่อสร้างและเมื่อสร้างเสร็จแล้ว โรงแรมที่มีขนาดสูง ประชาชนในพื้นที่อาจสูญเสียความเป็นส่วนตัว จึงอยากให้พิจารณาไม่อนุญาตให้มีการสร้างโรงแรมดังกล่าวหรือทำการสำรวจ EIA ใหม่อีกครั้ง เพื่อสอบถามความเป็นจริงกับคนในพื้นที่
 
ทั้งนี้ นอกจากกลไกกมธ.แล้ว เบื้องต้นอยู่ในระหว่างที่อบต.พิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต ให้มีการก่อสร้างโรงแรม ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย หากประชาชนในพื้นที่ต้องการโรงแรมจริงอาจจะต้องทำ EIA ขึ้นมาใหม่ แต่ถ้ามีการอนุญาตให้สร้างโรงแรมเกิดขึ้น อาจจะต้องดำเนินการยื่นต่อศาลปกครองต่อไป.-319 -สำนักข่าวไทย


 
เครือข่าย น.ศ.ราม จี้รบ. ต้องรอบคอบ เจรจาผลประโยชน์ ไทย-กัมพูชา แนะควรให้รัฐสภาตัดสินใจด้วย.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4895040
 
“เครือข่ายนศ.รามฯ” ยื่น 4 ข้อบี้ ครม. เจรจาผลประโยชน์ทางทะเลไทย-กัมพูชา ย้ำ รอบคอบ-โปร่งใส เร่ง แจงประชาชน มองรัฐบาลไม่ชัดเจน
 
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายปาณวัฒน์ มุสิกะพงศ์ ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง พรรคเพื่อราม พร้อมเครือข่าย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาและปฏิบัติกรณีเกี่ยวกับผลประโยชน์ในน่านน้ำเศรษฐกิจระหว่างราชอาณาจักรไทยและกัมพูชา (เกาะกูด)
 
ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาฯ กล่าวว่า นักศึกษาและภาคประชาชน ภาคส่วนต่างๆไม่สบายใจจากความไม่ชัดเจนของรัฐบาล จึงขอแสดงจุดยืนเพื่อให้รัฐบาลพิจารณา ดังนี้
 
1. ขอให้รัฐบาลคำนึงถึงและยึดมั่นในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) ค.ศ.1982 มาตรา 121 วรรคสองอย่างเคร่งครัด
 
2. ขอให้รัฐบาลดำเนินการในประเด็นนี้ด้วยความรอบคอบและโปร่งใสทุกขั้นตอนตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ผนวกร่วมกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 7 และมาตรา 20
 
3. อ้างอิงตามหลักการในข้อ2 ขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลของกลุ่มธุรกิจและผู้ได้รับประโยชน์จากสัมปทานใดๆ ในพื้นที่เจรจาร่วมเพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันเพื่อความเข้าใจในสถานการณ์และประโยชน์ที่พึงได้รับของประชาชนและประเทศชาติ
 
4. เครือข่ายนักศึกษาไม่ได้คัดค้านสิทธิอำนาจของรัฐบาลในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติแต่ขอให้ดำเนินการดังกล่าวอย่างสุขุมรอบคอบโปร่งใสและสะท้อนการเป็นตัวแทนเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
 
“ขอให้รัฐบาลนำประเด็นเจรจานี้เข้าสู่กระบวนการทางรัฐสภาตามมาตรา 178 วรรค2 และ 3 ให้เกิดการถกเถียงในสาธารณะถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และให้รัฐบาล ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับรู้อย่างทั่วถึง โดยที่การตัดสินใจใด จะต้องดำเนินการผ่านกระบวนการรัฐสภาอย่างเคร่งครัด”
 
นายสมคิด กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นประชาชนและทุกภาคส่วน ในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ตนเห็นด้วยที่จะต้องมีการชี้แจงให้กับประชาชนเข้าใจและผ่านกระบวนการคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) และ หากจะต้องมีการทำสนธิสัญญา จะต้องนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา โดยย้ำว่าไทยไม่ได้เสียดินแดนเกาะกูด ตามที่มีฝ่ายพยายามปั่นกระแส และกัมพูชาก็ไม่คิดว่าเกาะกูดเป็นของเขา



หุ้นไทยปิดรูด 11.40 จุด วอลุ่ม 4.2 หมื่นล้าน รับ Fund Flow ไหลออกโยกกลับสหรัฐ-บาทอ่อน-พลังงานถ่วง
https://siamrath.co.th/n/579934

หุ้นไทยปิดรูด 11.40 จุด วอลุ่ม 4.2 หมื่นล้าน รับ Fund Flow ไหลออกโยกกลับสหรัฐ-บาทอ่อน-พลังงานถ่วง
 
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.67 SET ปิดวันนี้ที่ 1,445.07 จุด ลดลง 11.40 จุด (-0.78%) มูลค่าซื้อขาย 42,634.33 ล้านบาท  การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลง โดยทำจุดต่ำสุด 1,443.15 จุด และจุดสูงสุด 1,460.13 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 102 หลักทรัพย์ ลดลง 430 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 133 หลักรัพย์
 
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงจากกระแสเงินทุน (Fund Flow) ไหลกลับไปที่ตลาดหุ้นสหรัฐ และบางส่วนโยกเข้าไปลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ ประกอบกับ เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังขายหุ้นไทย ขณะเดียวกันยังมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงค่อนข้างแรง ทำให้เกิดแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานกดดันดัชนี ขณะที่นตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันจากความกังวลนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธาธิบดีสหรัฐ
 
แนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยตลาดยังรอติดตามการรานงานตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนต.ค.ของสหรัฐ ในคืนวันพรุ่งนี้ ให้แนวต้าน 1,450-1,455 จุด แนวรับ 1,435-1,440 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,892.38 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,534.81 ล้านบาท ปิดที่ 64.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,499.98 ล้านบาท ปิดที่ 217.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,438.62 ล้านบาท ปิดที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,405.16 ล้านบาท ปิดที่ 25.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
#หุ้นไทย #บาทอ่อน #ข่าววันนี้ #พลังงาน #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์ #SET
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่