ภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคู่รักหลายคู่ การตรวจหาสาเหตุของปัญหานี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจภาวะมีบุตรยากจะช่วยให้ผลลัพธ์การวินิจฉัยมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การรักษาที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่า ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยากในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
การตรวจภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง
1. การอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่
เป็นการตรวจที่สำคัญในการประเมินสภาพภายของมดลูกและรังไข่
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจคือระหว่างวันที่ 2-5 ของรอบเดือน
เนื่องจากช่วยประเมินจำนวนฟองไข่ตั้งต้น AFC(antral follicle count) ได้ชัดเจนก่อนเริ่มกระตุ้นไข่
2. การตรวจฮอร์โมน
- ฮอร์โมน AMH (Anti-Müllerian Hormone):
สามารถตรวจได้ตลอดทั้งรอบเดือน
เนื่องจากระดับของฮอร์โมนนี้ค่อนข้างคงที่ และสะท้อนถึงปริมาณไข่สำรองในรังไข่ได้อย่างแม่นยำ
- ฮอร์โมน FSH (Follicle-Stimulating Hormone) E2(Estradiol) และ LH (Luteinizing Hormone)
ควรตรวจในช่วงวันที่ 2-3 ของรอบเดือน
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับการทำงานของรังไข่ และช่วยวินิจฉัยภาวะรังไข่ทำงานผิดปกติได้อย่างชัดเจน
การตรวจภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย
การตรวจคุณภาพน้ำเชื้อ
เป็นการตรวจประเมินความสามารถในการสืบพันธุ์ของผู้ชายสิ่งที่จะตรวจได้แก่ ปริมาณของน้ำอสุจิ, ความเข้มข้นของตัวอสุจิ, การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิและรูปร่างของตัวอสุจิ
ควรงดการหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 2-3 วัน แต่ไม่เกิน 7 วัน
เพื่อให้ได้ปริมาณและคุณภาพของน้ำอสุจิที่เหมาะสมสำหรับการตรวจ
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยากเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การวินิจฉัยและการวางแผนการรักษามีความแม่นยำมากขึ้น หากคุณและคู่สมรสกำลังประสบปัญหาในการมีบุตร ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมและวางแผนการรักษาที่ตรงตามความต้องการของคุณ
บทความโดย
หมอเต้-นายแพทย์ วรวัฒน์ ศิริปุณย์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก
ติดตามสารดีๆ เพิ่มเติมได้ทาง Tiktok : หมอเต้ เคล็ดไม่ลับมีลูกง่าย
https://www.tiktok.com/@doctor.tae?is_from_webapp=1&sender_device=pc
รู้ก่อนตรวจ: ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยากใน ผู้หญิงและผู้ชาย
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจภาวะมีบุตรยากจะช่วยให้ผลลัพธ์การวินิจฉัยมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่การรักษาที่ตอบโจทย์ได้ดีกว่า ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยากในทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
การตรวจภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง
1. การอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่
เป็นการตรวจที่สำคัญในการประเมินสภาพภายของมดลูกและรังไข่
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจคือระหว่างวันที่ 2-5 ของรอบเดือน
เนื่องจากช่วยประเมินจำนวนฟองไข่ตั้งต้น AFC(antral follicle count) ได้ชัดเจนก่อนเริ่มกระตุ้นไข่
2. การตรวจฮอร์โมน
- ฮอร์โมน AMH (Anti-Müllerian Hormone):
สามารถตรวจได้ตลอดทั้งรอบเดือน
เนื่องจากระดับของฮอร์โมนนี้ค่อนข้างคงที่ และสะท้อนถึงปริมาณไข่สำรองในรังไข่ได้อย่างแม่นยำ
- ฮอร์โมน FSH (Follicle-Stimulating Hormone) E2(Estradiol) และ LH (Luteinizing Hormone)
ควรตรวจในช่วงวันที่ 2-3 ของรอบเดือน
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำเกี่ยวกับการทำงานของรังไข่ และช่วยวินิจฉัยภาวะรังไข่ทำงานผิดปกติได้อย่างชัดเจน
การตรวจภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย
การตรวจคุณภาพน้ำเชื้อ
เป็นการตรวจประเมินความสามารถในการสืบพันธุ์ของผู้ชายสิ่งที่จะตรวจได้แก่ ปริมาณของน้ำอสุจิ, ความเข้มข้นของตัวอสุจิ, การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิและรูปร่างของตัวอสุจิ
ควรงดการหลั่งน้ำอสุจิอย่างน้อย 2-3 วัน แต่ไม่เกิน 7 วัน
เพื่อให้ได้ปริมาณและคุณภาพของน้ำอสุจิที่เหมาะสมสำหรับการตรวจ
การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยากเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การวินิจฉัยและการวางแผนการรักษามีความแม่นยำมากขึ้น หากคุณและคู่สมรสกำลังประสบปัญหาในการมีบุตร ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมและวางแผนการรักษาที่ตรงตามความต้องการของคุณ
บทความโดย
หมอเต้-นายแพทย์ วรวัฒน์ ศิริปุณย์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก
ติดตามสารดีๆ เพิ่มเติมได้ทาง Tiktok : หมอเต้ เคล็ดไม่ลับมีลูกง่าย
https://www.tiktok.com/@doctor.tae?is_from_webapp=1&sender_device=pc