JJNY : 5in1 ศก.ไม่ดีเหมือนโฆษณาไว้│โรมชี้สภาปัดตก│‘ไอติม’แนะรบ.│“อุตุฯ”เตือนอีสานคืนนี้│จีนค้านสหรัฐขายอาวุธให้ไต้หวัน

ศิริกัญญา เห็นด้วยผลนิด้าโพล ศก.ไม่ดีเหมือนโฆษณาไว้ อาจทำรบ.อิ๊งค์ไม่ได้ไปต่อ ย้ำอย่าให้เสียชื่อเพื่อไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4868086
 
 
‘ศิริกัญญา’ เห็นด้วยผล ‘นิด้าโพล’ หากเศรษฐกิจไม่ดีขึ้นเหมือนที่โฆษณา อาจเป็นปัจจัยล้มรัฐบาล ‘แพทองธาร’ ได้ ซัดไม่มีอะไรใหม่เลยจากสมัย ‘เศรษฐา’ งง ‘นายกฯอิ๊งค์’ ตั้ง กก.แก้หนี้ แต่จนตอนนี้ ยังไม่ประชุมสักครั้ง บอกยังไม่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม ย้ำต้องอย่าให้เสียชื่อ ‘เพื่อไทย’ มองยังพอมีเวลาอยู่ กระทุ้ง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เฟสสองคนยังรออยู่
 
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แสดงความเห็นกรณีศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘รัฐบาลนายกฯอุ๊งอิ๊ง ไปไหวไหม’ ซึ่งจากการสำรวจเมื่อถามความเชื่อของประชาชนต่อการอยู่รอดของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 41.68 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้จนครบเทอมในปี 2570
 
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ต้องดูว่าอีก ร้อยละ 58 เต็มไปด้วยสาเหตุอะไร เนื่องจากสาเหตุหลักที่มีคนพูดถึงมากที่สุด ก็เป็นเรื่องของการที่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจดีได้ตามที่สัญญาเอาไว้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยังสามารถแก้ไขได้ และตนยังคิดว่าพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย น่าจะเร่งเดินหน้า ทำให้เศรษฐกิจกลับมาดี
 
หากเราสังเกตดูตั้งแต่ตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธารมา ได้มีการตั้งคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา แต่จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีการเริ่มประชุม และการสัญญาที่บอกว่า จะมีการเริ่มประชุมช่วงปลายเดือนนั้น ก็ยังไม่มีการประชุมสักที
 
ขณะเดียวกัน นโยบายที่มี ก็ยังเป็นนโยบายเดิม ที่ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น แจกเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบาง และหลายๆ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ยังไม่เห็นถึงความชัดเจน รวมถึงโครงการใหม่ๆ
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการแก้หนี้ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่จนทุกวันนี้ เราก็ยังคงไม่เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ของการแก้ปัญหานี้ แต่ยังพอมีเวลา ขอให้ทางรัฐบาล น.ส.แพทองธาร เร่งรัดออกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในระยะสั้น และการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาว ออกมาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งก็น่าจะสามารถยืดระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลนี้ไปได้อีก และทำให้ไม่จำเป็นต้องยุบสภาก่อนที่จะอยู่ครบเทอม
 
ส่วนความไม่ชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟสสองนั้น น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนยังเฝ้ารออยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวง หากฟังจากคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่า มีความจำเป็นจะต้องประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาก่อนนั้น แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีการประชุมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะมีการนัดประชุมไปแล้ว ก็กลับถูกยกเลิกไปก่อน
 
น.ส.ศิริกัญญากล่าวต่อว่า ประชาชนยังคงเฝ้ารออยู่ เพราะเมื่อตนได้ฟังเสียงจากในพื้นที่ ก็กลายเป็นว่า 10,000 บาทแรก ที่ลงมานี้ ก็ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาชีวิตชีวาเท่าที่ควร จึงยังคงรอแนวทางแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนในระยะต่อไป รวมถึงคนที่ยังไม่ได้รับสิทธิในตอนนี้ก็ยังคงรอคำตอบว่า จะได้หรือไม่ได้อย่างไร ขอให้รีบแสดงความชัดเจนออกมา เพราะเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องความเชื่อมั่นล้วนๆ และรัฐบาลนี้ ก็มีแต้มต่อเรื่องชื่อเสียง ในการที่เคยทำให้เศรษฐกิจดีได้ ก็อย่าให้เสียชื่อ ต้องรีบกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา
 
สำหรับเรื่องเงินเฟ้อ ขณะนี้อาจจะไม่ได้สูงมาก แต่ค่าครองชีพขึ้นแล้วไม่ลง จึงจำเป็นจะต้องมีงบประมาณที่จะมาชดเชยเยียวยา หรือช่วยเหลือประชาชนในระยะที่ค่าครองชีพยังสูงอยู่ ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน และเศรษฐกิจฐานราก ที่อาจต้องมีการกระตุ้นรอบใหม่หรือไม่อย่างไร เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา และอาจจะต้องไปดูในเรื่องอื่นก่อน เช่น การแก้หนี้ เพราะไม่อย่างนั้น ใส่เงินลงไปเท่าไหร่ คนก็เอาไว้ใช้หนี้หมด
เมื่อถามว่า หากยังจัดการไม่ดี จะทำให้เป็นตัวมัดในการล้มรัฐบาลได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า แน่นอน เป็นอย่างที่ประชาชนได้ให้ความเห็นเอาไว้ ว่านี่จะเป็นสาเหตุแรกที่ทำให้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร อยู่ไม่ครบเทอม บางคนบอกว่า เป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้ไม่สามารถทำได้ตามที่หาเสียงไว้ ก็เป็นไปได้ที่สุดท้าย พอไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้ เศรษฐกิจไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่โฆษณา สุดท้ายความนิยมจากประชาชนก็คงจะถดถอยลงเรื่อยๆ และเป็นสาเหตุที่อาจจะต้องยุบสภาก่อนอยู่จนครบวาระ



โรม ชี้สภาปัดตกรายงานของกมธ. เป็นสัญญาณว่า นิรโทษกรรมยุคนี้ เกิดขึ้นยาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4868158

‘โรม’ รับ นิรโทษกรรมยุคนี้เกิดขึ้นยาก หลังสภาปัดตกข้อสังเกต กมธ. หวังทุกฝ่ายเห็นความจําเป็น ช่วยประเทศเดินหน้า ชี้ หากไม่รวม ม.112 สางความขัดแย้งได้ไม่จริง ระบุ ร่างนิรโทษฯ ฉบับก้าวไกล เอาผิดคนกระทําซํ้าได้

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไม่เห็นชอบข้อสังเกตรายงานการศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม จะกระทบต่อร่างกฎหมายที่อดีตพรรคก้าวไกลเคยเสนอไปหรือไม่ ว่า การที่รายงานฉบับดังกล่าวไม่ผ่านที่ประชุมสภา เป็นการส่งสัญญาณว่าการนิรโทษกรรมในยุคนี้ คงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายควรรู้ว่าการนิรโทษกรรม เป็นส่วนหนึ่งที่จะคลี่คลายความขัดแย้ง เพราะในอดีตเคยมีบทเรียนแล้ว ว่าเป็นการถอนฟืนออกจากกองไฟ และทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นหวังว่าทุกฝ่ายจะเห็นถึงความจําเป็นตรงนี้

นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า หากดูร่างกฎหมายที่อดีตพรรคก้าวไกลเคยเสนอ จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้ระบุถึงบทบัญญัติที่จะได้รับการนิรโทษกรรม แต่ผู้ที่มีแรงจูงใจทางการเมืองเกือบทุกกรณี สามารถเข้าสู่กระบวนการนิรโทษกรรมได้ทั้งสิ้น ยกเว้นกรณีความผิดร้ายแรง การทุจริตคอร์รัปชั่น หรือที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร เพราะฉะนั้น คดีการเมืองส่วนใหญ่ จะมีโอกาสได้รับการนิรโทษกรรม ทั้งนี้ ต้องอยู่ที่ดุลพินิจของคณะกรรมการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรค ปชน.มีจุดยืนต่อการนิรโทษกรรมคดี มาตรา 112 อย่างไร นายรังสิมันต์กล่าวว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการให้รวมมาตรา 112 ไปด้วย แต่เราเป็นฝ่ายค้าน ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ตอนเสนอร่างกฎหมายจึงพยายามเปิดประตูให้กว้างที่สุด และใช้การพูดคุยในชั้น กมธ.

เมื่อถามว่า หากการนิรโทษกรรมไม่รวมคดี มาตรา 112 มองว่าจะสามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้จริงหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าความขัดแย้งจะยังมีอยู่ หากมีคนบางกลุ่มตกค้างเรื่องนิรโทษกรรม ก็จะกลายเป็นปัญหา

การให้อภัย การนิรโทษกรรม แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ น่าจะเป็นโอกาสที่ดี ด้านหนึ่งก็คือ มาตรา 112 ไม่ได้ถูกแก้หรือถูกยกเลิก ถ้ามีการกระทำความผิดซ้ำ ก็ยังสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ หรืออาจมีแนวทางกำหนดเงื่อนไข ดังนั้นนี่เป็นวิธีการที่จะทำให้ทุกฝ่ายในสังคมกลับมาเริ่มต้นใหม่ และมองไปข้างหน้าได้” นายรังสิมันต์กล่าว



‘ไอติม’ แนะ รบ.ลดทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง เพื่อแก้รธน. ได้ทันตามสัญญา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4868208

‘ไอติม’ แนะ รบ.ลดทำประชามติเหลือ 2 ครั้ง เพื่อแก้ รธน.ได้ทันตามสัญญา พร้อมหารือ ปธ.สภา หยิบร่าง ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ขึ้นมาพิจารณา

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … กล่าวถึงการประชุม กมธ.ว่า การพิจารณาของ กมธ.ไม่ควรใช้เวลานาน เพราะมีประเด็นที่เห็นต่างแค่เรื่องเดียว การใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก ในการทำประชามติที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งทางวุฒิสภามีมติให้ใช้เสียงข้างมากสองชั้น แต่ทางสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่าควรใช้ชั้นเดียว ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าจะใช้เวลาเท่าใด

นายพริษฐ์กล่าวว่า หากรัฐบาลยังยึดเงื่อนไขที่จะทำประชามติ 3 ครั้ง เพื่อจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และจะไม่ทำครั้งแรกจนกว่า พ.ร.บ.ประชามติเสร็จเรียบร้อย ก็ยิ่งมีความจำเป็นที่ต้องหาข้อสรุปเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ล่าช้าไปมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก กมธ.ดําเนินการไม่ทันไทม์ไลน์ประชามติ ต้นปี 2568 มองว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไร นายพริษฐ์กล่าวว่า พรรค ปชน.มองว่า การทำประชามติสองครั้ง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะฉะนั้น การหาวิธีลดการทําประชามติ จากสามครั้งเป็นสองครั้ง น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด นอกจากนี้ เรามองว่าประธานสภาผู้แทนราษฎร สามารถบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่ไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า หากอยู่ในสภาวะที่ต้องกลับไปใช้การทําประชามติสองครั้ง ก็ต้องหารือกับประธานรัฐสภา ถึงความเป็นไปได้ในการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย และอดีตพรรคก้าวไกล ที่ยื่นแก้ไขไปเมื่อต้นปี 2567 หากประธานรัฐสภาตัดสินใจบรรจุร่างดังกล่าว ก็จะทําให้กลับมาใช้หนทางทำประชามติสองครั้งได้ และทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีโอกาสบังคับใช้ในการเลือกตั้งครั้งถัดไปได้ทัน ทำให้สัญญาของรัฐบาลเกิดขึ้นได้จริง



พิษพายุจ่ามี!! “อุตุฯ” เตือนภาคอีสานรับมือฝนตกหนักคืนนี้
https://siamrath.co.th/n/576490

พิษพายุจ่ามี!! “อุตุฯ” เตือนภาคอีสานรับมือฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากคืนนี้
 
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.67 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่า ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก หลังจากนั้นมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
 
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
 
ทั้งนี้ เนื่องจากมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงเหนือ และลมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และด้านตะวันออกของภาคเหนือ และภาคกลาง ประกอบกับมีพายุโซนร้อน “จ่ามี” บริเวณประเทศลาวตอนล่าง และเวียดนามตอนกลาง
 
สำหรับลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่