ตื่นแต่เช้าได้รับสายโทรศัพท์คุณพี่สาวบอกให้รีบแต่งตัวมาหาด่วนเดี๋ยวเลี้ยงโอมากาเสะเพราะว่าจองแล้วเพื่อนติดธุระไม่อยากเสียเงินค่ามัดจำเปล่ารอบเวลาเที่ยงวันนี้ชื่อร้านคือ "Hikari Omakase" ระหว่างนั้นลองเปิดมือถือค้นหารีวิวก่อนหน้าได้รับคะแนนจากเหล่าลูกค้ากว่า 100 ท่านเยอะถึง 4.7 เต็ม 5 ดาวบ่งบอกถึงความอร่อยเด็ดไม่ธรรมดา โดยเน้นเรื่องวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพดีปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามฤดูกาลนำเข้าตรงจากบริษัทประมงแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยจัดเตรียมการก่อนเสิร์ฟสไตล์เอโดะมาเอะซูชิฉบับโบราณดั้งเดิมได้สัมผัสประสบการณ์แก่นแท้แห่งรสชาติอูมามิอันแสนยิ่งใหญ่แต่ภาพลักษณ์ภายนอกแลดูเรียบง่ายธรรมดา วิธีการเดินทางถ้าเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวกดปักหมุดขับตามระบบแผนที่บนสมาร์ตโฟนของคุณอย่าลืมแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก่อนเลี้ยวเข้าสู่โครงการแอทยูไนเต็ดเพื่อรับสิทธิ์จอดฟรีทันที สำหรับผู้โดยสารบริการขนส่งสาธารณะแนะนำให้ขึ้นรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองลง ณ สถานีลาดพร้าว 71 บันไดทางออกลำดับ 4 ค่อยโบกเรียกแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างบริเวณใกล้เคียงตรงไปยังจุดหมายอีกประมาณ 550 เมตรก็จะมองเห็นศูนย์จำหน่ายโตโยต้าชัวร์,ไก่ทอดเคเอฟซีและอาคารหินสีเทาอยู่ก่อนถึงกาแฟสตาร์บัคส์ประตูแขวนผ้าโนเรนสีขาวแบบภัตตาคารญี่ปุ่นอย่างนี้แสดงว่าเรามาถึงแล้วครับผม
เดินผ่านผ้าม่านโนเรนเลี้ยวขวากดปุ่มเปิดประตูกระจกใสบานเลื่อนเข้ามาภายในร้าน "Hikari Omakase" สิ่งที่สัมผัสได้อันดับแรกนั่นก็คือเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำสะใจโดยทำเป็นห้องรับรองลูกค้าขนาดย่อมสำหรับนั่งเล่นพูดคุยพบปะกันก่อนเข้าสู่เคาน์เตอร์ครัวโอมากาเสะกว้างขวางสามารถรองรับจำนวนสมาชิกได้สูงสุดเพียง 10 ท่านต่อหนึ่งรอบ ซึ่งคอร์สต่างๆคุณเชฟเขาจัดแบ่งตามความพรีเมียมของวัตถุดิบ 3 ระดับได้แก่ "Kibuo" จำนวน 10 เมนู ราคา 950 บาท++ / "Hikari" เสิร์ฟ 15 รายการ ราคา 1,750 บาท++ และจัดเต็มสุดต้องเลือก "Hikari Plus" ฟินรวม 19 จาน ราคา 2,450 บาท++ (ยังไม่รวม Vat. 7% / Service Charge อีก 10%) ส่วนวิธีสำรองโต๊ะทำได้รวม 3 ช่องทางเช่น Facebook / Instagram / Line Official Account ยกเว้นโทรศัพท์มีไว้แค่สอบถามข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นให้บริการวันละ 3 รอบ 12.00 น. / 17.30 น. / 19.00 น. เนื่องจากต้องใช้เวลาเพื่อเตรียมวัตถุดิบอีกหลายชนิดจึงต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงเกิดปัญหารถติดเริ่มมื้อสายได้ช้าสุดไม่เกิน 30 นาทีพร้อมเก็บเงินค่ามัดจำทันที 500 / 800 / 1,200 บาทตามลำดับถ้ารู้ตัวว่าติดธุระแจ้งเลื่อนรอบได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ตกแต่งเน้นบรรยากาศแนวญี่ปุ่นโมเดิร์นดูเรียบง่ายแทรกชั้นวางหนังสือการ์ตูน-หุ่นโมเดลเหมือนกำลังนั่งกินข้าวบ้านเพื่อนครับ
สำหรับวันนี้พี่สาวผมสำรองโต๊ะล่วงหน้ามาเป็นคอร์ส "Hikari Plus" เสิร์ฟอาหารต่างๆรวมกว่า 19 เมนูราคาท่านละ 2,450 บาท++ (2,884 Net.) เมื่อนั่งบริเวณเคาน์เตอร์ครัวแล้วคุณหัวหน้าเชฟก็ยกเอาถาดใส่วัตถุดิบที่จะปรุงให้พวกเรารับประทานในมื้อนี้วางเรียงแบบสวยงามให้ชมกันก่อนพร้อมอธิบายพอแค่สังเขปประกอบไปด้วยชิมะอะจิ/คินเมได/เมะฮิคาริ/อิวาชิ/สึจิโกะ/อากามิ/ชูโทโร่/โอโทโร่/อูนิ/ปูซูไวและรายการอย่างอื่นอีกเพียบแต่อาจมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยตามฤดูกาล เพราะฉะนั้นเวลาจองควรพิมพ์แจ้งพนักงานว่าแพ้อาหารชนิดไหนหรือไม่/อยากกินข้าวซูชิปั้นก้อนขนาดไหน/ปริมาณวาซาบิรุนแรงมั้ยสามารถบอกก่อนเพื่อจะได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยอูมามิระดับสูงสุด ที่กล่าวตอนเบื้องต้นยังไม่รวมเครื่องดื่มใครเป็นสายแอลกอฮอล์ทางร้านเขาจำหน่ายครบถ้วนเช่นเบียร์/วิสกี้/เหล้าบ๊วยยูซุ/สาเกร้อนเย็นยี่ห้อจากญี่ปุ่นราคาแก้วละ 170-700 บาท ยกทั้งขวดขนาด 300-720 มิลลิลิตรราคา 650-7,000 บาทเลือกเอาเลยตามงบของคุณ ซึ่งน้ำเปล่าธรรมดาขวดละ 50 บาทถ้ารู้ตัวว่าหิวกระหายบ่อยแนะนำชาเขียวมัทฉะรีฟิลร้อน-เย็นเติมไม่อั้นคิดเงินเท่ากัน พิเศษถ่ายรูป,เช็กอิน,แชร์ลงโซเชียลตามสะดวกรับฟรีขาตั้งมือถือยิ่งเขียนบทความรีวิวสั้นลง Google Maps แถมน้ำอัดลมกระป๋อง+น้ำแข็งอีกท่านละหนึ่งกระป๋องครับผม
เปิดต่อมรับรสชาติของคุณให้พร้อมด้วยหมวด Appetizers ช่วยเรียกน้ำย่อยจานแรก "Iso Tsubugai" สึบุไกหรือหอยสังข์ญี่ปุ่นไซส์ลูกขนาดเล็กเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบแสนล้ำค่าส่งตรงจากตลาดปลาซึกิจิโดยบริษัทประมงแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยราคาค่อนข้างสูงหารับประทานยากเนื้อสัมผัสเด้งกรุบกรอบยืดหยุ่นเคี้ยวสู้ฟันปริมาณโปรตีนสูงไขมันต่ำอุดมด้วยโอเมก้า 3 หรูหราเทียบชั้นเป๋าฮื้อ ต้มโชยุตำรับเฉพาะเพิ่มคัตสึโอะบูชิ,เหล้ามิรินสาเก,สาหร่ายคอมบุเค็มหวานกลมกล่อมตุ๋นไฟอ่อนเวลายาวนานจนเข้มข้นแทรกซึมทุกอณูพักในตู้เย็นอารมณ์คล้ายๆเมนูดองซีอิ๊วก่อนคีบใส่จานจิ๋วเสิร์ฟราดซอสปักไม้ปลายแหลมดึงออกจากเปลือกนำเข้าปากคำโตแล้วซดน้ำซุปตามอร่อยสดชื่นถึงใจ / "Salmon Warayaki" แซลมอนสายพันธุ์แอตแลนติกชื่อดังแห่งประเทศนอร์เวย์ฉบับสเต๊กติดหนังชิ้นหนาพิเศษคัดบริเวณ Top Loin (สันหลัง) ทำการสึเคะสูตรโบราณดั้งเดิมเทน้ำเดือดราดพอผิวด้านนอกเต่งตึงหมักซอสเอาไว้ประมาณ 15 นาทีก่อนเสียบแท่งเหล็กพลิกสลับไป-มาปิ้งบนกองฟางจุดไฟโหมกระหน่ำรุนแรงกรอบเกรียมติดเขม่าควันไหม้เล็กน้อยส่งกลิ่นหอมสุดเย้ายวนฟุ้งกระจายเต็มร้านแต่แกนกลางยังดิบนิดหน่อยระดับประมาณ Medium Rare ลงมีดสไลซ์บางสไตล์ซาชิมิทาโชยุท็อปปิ้งรากวาซาบิแท้ขูดใหม่ฉุนพุ่งขึ้นจมูกนุ่มนวลละมุนกำลังดีเลยครับผม
รายการพิเศษถูกเพิ่มขึ้นมาเพราะหาจับเพื่อรับประทานได้ยากนั่นก็คือ "Karasu Karei Tempura" คาราสุคะเรเป็นปลาตาเดียวชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในทะเลลึกหนาวเย็นจัดบริเวณทางตอนเหนือของดินแดนอาทิตย์อุทัยยาวจนถึงน่านน้ำประเทศรัสเซียลักษณะภายนอกแลดูน่ากลัวแต่เมื่อแล่แล้วก็ได้เนื้อสีขาวละเอียดประดุจหิมะนิยมนำส่วนครีบมาทำซูชิเอนกาวะลนไฟเสิร์ฟตามภัตตาคารญี่ปุ่นที่พวกเราน่าจะคุ้นเคยกันดี โดยหัวหน้าเชฟคัดเฉพาะบริเวณ Top Loin (สันหลัง) หมักมิโซะสูตรเข้มข้นใช้ระยะเวลายาวนานถึงสองวันช่วยให้เอมไซน์ธรรมชาติทำปฏิกิริยาก่อเกิดเป็นความอูมามิแสนล้ำลึกค่อยชุบแป้งทอดกรอบสไตล์เทมปุระสีเหลืองทองหั่นชิ้นขนาดจัมโบ้ชวนเคี้ยวแน่นเต็มๆคำวางแผ่นกระดาษรองซึมซับน้ำมันส่วนเกินโรยเกลือสมุทร,บีบเลมอนเล็กน้อยเค็มเปรี้ยวตัดเลี่ยนลงตัว / "Kinmedai" อาบุระคินเมไดหรือกะพงแดงตาโตชนิดพิเศษจับได้ ณ เมืองโชชิจังหวัดชิบะซึ่งแผนที่ด้านภูมิศาสตร์นั่นก็คือแผ่นดินยื่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกจึงก่อเกิดคลื่นยักษ์ไหลพัดรุนแรงบ้าคลั่งทำให้สัมผัสเด้งแน่นหนึบสู้ฟันจนเรียกได้ว่าเกรดคุณภาพดีสุดราคาแพง ผ่านกระบวนการ Aging ขับไล่ความชื้นและคาวเลือดหมดจดลนไฟเพียงผิวหนังติดไหม้เล็กน้อยวางบนข้าวสวยปั้นก้อนกลมฉบับนิกิริผสมน้ำส้มสายชูสีแดงคีบเข้าปากกลิ่นหอมฟุ้งกระจายอย่างทั่วถึงครับผม
หมวดถัดไปเราจะเริ่มเข้าสู่รายการซูชิสไตล์เอโดะมาเอะโบราณโดยคุณเชฟของทางร้าน "Hikari Omakase" เลือกใช้เฉพาะข้าวสายพันธุ์โคชิอิบูกิแห่งจังหวัดนีงาตะเมล็ดอ้วนสั้นสัมผัสนุ่มเหนียวปานกลางอร่อยคล้ายโคชิฮิคาริแต่รสชาติเบากว่าเคล้าน้ำส้มสายชูสีแดงฉบับลับพิเศษลักษณะภายนอกสีน้ำตาลเปรี้ยวหวานละมุนกลมกล่อมเปล่งประกายสวยงามปั้นรูปร่างทรงกลมขนาดแน่นกำลังดีอย่างผู้เชี่ยวชาญใครอยากได้คำใหญ่เล็ก-วาซาบิบดแต้มเยอะน้อยสามารถแจ้งเลยตามสะดวก "Shima Aji" ชิมะอะจิหรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าปลาทูยักษ์ญี่ปุ่นเนื้อสีขาวอมชมพูแทรกไขมันละเอียดหนังสีเงินตระกูลเดียวกับเหล่าหางแข็งแมคเคอเรล ถูกจับบริเวณเกาะชิโทกุ,จังหวัดเอะฮิเมะเป็นจุดบรรจบระหว่างทะเลฝั่งเหนือและใต้คลื่นนิ่งสงบแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ดีจึงไซส์ใหญ่ชวนเคี้ยวสนุกเด้งสู้ฟัน / "Mehikari" เมะฮิคาริจุดเด่นที่สำคัญนั่นคือดวงตาเรืองแสงสีเขียวก้างอ่อนนุ่มมองผ่านๆแลดูคล้ายซาร์ดีนอาศัยในน้ำลึก 700-800 เมตรจึงหารับประทานยากซึ่งฤดูกาลนี้ก็เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยขนาดประมาณ 15-20 เซนติเมตรส่งตรงจากอิวากิใกล้มหาสมุทรแปซิฟิกไขมันเยอะแบบเอนกาวะต้องแนบถ่านขาวบินโจตันอุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียสเพื่อให้ผิวด้านนอกกรุบกรอบติดไหม้เล็กน้อยส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายหยิบเข้าปากละลายทันทีประทับใจครับ
ลำดับการเสิร์ฟซูชิแต่ละคำภายในคอร์สโอมากาเสะของทางร้าน "Hikari Omakase" เท่าที่เราลองสังเกตคุณหัวหน้าเชฟพยายามไล่ระดับรสชาติความเข้มข้นขึ้นไปทีละน้อยเพื่อให้ลูกค้าทุกๆท่านได้รับประสบการณ์อูมามิจนถึงระดับสูงสุดมาต่อกันเลยด้วย "Iwashi" อิวาชิหรือปลาซาร์ดีนลายจุดข้างดำเนื้อแดงเข้มหนังสีน้ำเงินสวยงามเปล่งประกายไขมันแทรกกลิ่นเอกลักษณ์อุดมด้วยโอเมก้า 3 คัดเฉพาะไซส์ขนาดเต็มวัยประมาณ 15-20 เซนติเมตรก้างค่อนข้างเยอะจึงต้องใช้ฝีมือบรรจงเลาะออกอย่างเชี่ยวชาญพร้อมบั้งตามแนวขวางเพื่อสลายกระดูกอ่อนท็อปปิ้งต้นหอมญี่ปุ่นบดละเอียดทาซีอิ๊วโชยุนิดหน่อยก่อนยกเสิร์ฟช่วยตัดเลี่ยนเคี้ยวไหลลื่นลงคอ / "Nama Sujiko" ซูจิโกะพวงไข่แซลมอนธรรมชาติคุณภาพสดใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบชั้นดีระดับซูเปอร์พรีเมียมส่งตรงจากเกาะฮอกไกโดช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นจึงค่อนข้างหารับประทานยากแตกต่างจากอิคุระธรรมดาตามภัตตาคารเจ้าอื่นเพราะว่ายังติดเชื่อมโยงเข้ากับเยื่อพังผืดเคี้ยวสนุกหนึบเด้งสู้ฟันระเบิดกระจายเต็มปากเวลาเคี้ยว โดยนำเสนอฉบับเรียบง่ายเพียงแช่ซอสโชยุระยะสั้นๆรอแทรกซึมทุกอณูเค็มนวลละมุนกลมกล่อมวางด้านบนข้าวสายพันธุ์โคชิอิบูกิปั้นก้อนทรงกลมเปรี้ยวอมหวานปิดท้ายแค่ขูดเปลือกส้มยูซุผลผลิตชื่อดังแห่งจังหวัดโคจิสะบัดใส่ 2-3 ครั้งหอมสดชื่นลงตัวครับผม
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
[CR] รีวิว "Hikari Omakase" (ลาดพร้าว 71) ร้านโอมากาเสะเสิร์ฟวัตถุดิบชั้นดีระดับพรีเมียมราคาสุดประหยัดเริ่มต้นที่คนละ 950 ฿++
เดินผ่านผ้าม่านโนเรนเลี้ยวขวากดปุ่มเปิดประตูกระจกใสบานเลื่อนเข้ามาภายในร้าน "Hikari Omakase" สิ่งที่สัมผัสได้อันดับแรกนั่นก็คือเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำสะใจโดยทำเป็นห้องรับรองลูกค้าขนาดย่อมสำหรับนั่งเล่นพูดคุยพบปะกันก่อนเข้าสู่เคาน์เตอร์ครัวโอมากาเสะกว้างขวางสามารถรองรับจำนวนสมาชิกได้สูงสุดเพียง 10 ท่านต่อหนึ่งรอบ ซึ่งคอร์สต่างๆคุณเชฟเขาจัดแบ่งตามความพรีเมียมของวัตถุดิบ 3 ระดับได้แก่ "Kibuo" จำนวน 10 เมนู ราคา 950 บาท++ / "Hikari" เสิร์ฟ 15 รายการ ราคา 1,750 บาท++ และจัดเต็มสุดต้องเลือก "Hikari Plus" ฟินรวม 19 จาน ราคา 2,450 บาท++ (ยังไม่รวม Vat. 7% / Service Charge อีก 10%) ส่วนวิธีสำรองโต๊ะทำได้รวม 3 ช่องทางเช่น Facebook / Instagram / Line Official Account ยกเว้นโทรศัพท์มีไว้แค่สอบถามข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นให้บริการวันละ 3 รอบ 12.00 น. / 17.30 น. / 19.00 น. เนื่องจากต้องใช้เวลาเพื่อเตรียมวัตถุดิบอีกหลายชนิดจึงต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมงเกิดปัญหารถติดเริ่มมื้อสายได้ช้าสุดไม่เกิน 30 นาทีพร้อมเก็บเงินค่ามัดจำทันที 500 / 800 / 1,200 บาทตามลำดับถ้ารู้ตัวว่าติดธุระแจ้งเลื่อนรอบได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ตกแต่งเน้นบรรยากาศแนวญี่ปุ่นโมเดิร์นดูเรียบง่ายแทรกชั้นวางหนังสือการ์ตูน-หุ่นโมเดลเหมือนกำลังนั่งกินข้าวบ้านเพื่อนครับ
สำหรับวันนี้พี่สาวผมสำรองโต๊ะล่วงหน้ามาเป็นคอร์ส "Hikari Plus" เสิร์ฟอาหารต่างๆรวมกว่า 19 เมนูราคาท่านละ 2,450 บาท++ (2,884 Net.) เมื่อนั่งบริเวณเคาน์เตอร์ครัวแล้วคุณหัวหน้าเชฟก็ยกเอาถาดใส่วัตถุดิบที่จะปรุงให้พวกเรารับประทานในมื้อนี้วางเรียงแบบสวยงามให้ชมกันก่อนพร้อมอธิบายพอแค่สังเขปประกอบไปด้วยชิมะอะจิ/คินเมได/เมะฮิคาริ/อิวาชิ/สึจิโกะ/อากามิ/ชูโทโร่/โอโทโร่/อูนิ/ปูซูไวและรายการอย่างอื่นอีกเพียบแต่อาจมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยตามฤดูกาล เพราะฉะนั้นเวลาจองควรพิมพ์แจ้งพนักงานว่าแพ้อาหารชนิดไหนหรือไม่/อยากกินข้าวซูชิปั้นก้อนขนาดไหน/ปริมาณวาซาบิรุนแรงมั้ยสามารถบอกก่อนเพื่อจะได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยอูมามิระดับสูงสุด ที่กล่าวตอนเบื้องต้นยังไม่รวมเครื่องดื่มใครเป็นสายแอลกอฮอล์ทางร้านเขาจำหน่ายครบถ้วนเช่นเบียร์/วิสกี้/เหล้าบ๊วยยูซุ/สาเกร้อนเย็นยี่ห้อจากญี่ปุ่นราคาแก้วละ 170-700 บาท ยกทั้งขวดขนาด 300-720 มิลลิลิตรราคา 650-7,000 บาทเลือกเอาเลยตามงบของคุณ ซึ่งน้ำเปล่าธรรมดาขวดละ 50 บาทถ้ารู้ตัวว่าหิวกระหายบ่อยแนะนำชาเขียวมัทฉะรีฟิลร้อน-เย็นเติมไม่อั้นคิดเงินเท่ากัน พิเศษถ่ายรูป,เช็กอิน,แชร์ลงโซเชียลตามสะดวกรับฟรีขาตั้งมือถือยิ่งเขียนบทความรีวิวสั้นลง Google Maps แถมน้ำอัดลมกระป๋อง+น้ำแข็งอีกท่านละหนึ่งกระป๋องครับผม
เปิดต่อมรับรสชาติของคุณให้พร้อมด้วยหมวด Appetizers ช่วยเรียกน้ำย่อยจานแรก "Iso Tsubugai" สึบุไกหรือหอยสังข์ญี่ปุ่นไซส์ลูกขนาดเล็กเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบแสนล้ำค่าส่งตรงจากตลาดปลาซึกิจิโดยบริษัทประมงแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยราคาค่อนข้างสูงหารับประทานยากเนื้อสัมผัสเด้งกรุบกรอบยืดหยุ่นเคี้ยวสู้ฟันปริมาณโปรตีนสูงไขมันต่ำอุดมด้วยโอเมก้า 3 หรูหราเทียบชั้นเป๋าฮื้อ ต้มโชยุตำรับเฉพาะเพิ่มคัตสึโอะบูชิ,เหล้ามิรินสาเก,สาหร่ายคอมบุเค็มหวานกลมกล่อมตุ๋นไฟอ่อนเวลายาวนานจนเข้มข้นแทรกซึมทุกอณูพักในตู้เย็นอารมณ์คล้ายๆเมนูดองซีอิ๊วก่อนคีบใส่จานจิ๋วเสิร์ฟราดซอสปักไม้ปลายแหลมดึงออกจากเปลือกนำเข้าปากคำโตแล้วซดน้ำซุปตามอร่อยสดชื่นถึงใจ / "Salmon Warayaki" แซลมอนสายพันธุ์แอตแลนติกชื่อดังแห่งประเทศนอร์เวย์ฉบับสเต๊กติดหนังชิ้นหนาพิเศษคัดบริเวณ Top Loin (สันหลัง) ทำการสึเคะสูตรโบราณดั้งเดิมเทน้ำเดือดราดพอผิวด้านนอกเต่งตึงหมักซอสเอาไว้ประมาณ 15 นาทีก่อนเสียบแท่งเหล็กพลิกสลับไป-มาปิ้งบนกองฟางจุดไฟโหมกระหน่ำรุนแรงกรอบเกรียมติดเขม่าควันไหม้เล็กน้อยส่งกลิ่นหอมสุดเย้ายวนฟุ้งกระจายเต็มร้านแต่แกนกลางยังดิบนิดหน่อยระดับประมาณ Medium Rare ลงมีดสไลซ์บางสไตล์ซาชิมิทาโชยุท็อปปิ้งรากวาซาบิแท้ขูดใหม่ฉุนพุ่งขึ้นจมูกนุ่มนวลละมุนกำลังดีเลยครับผม
รายการพิเศษถูกเพิ่มขึ้นมาเพราะหาจับเพื่อรับประทานได้ยากนั่นก็คือ "Karasu Karei Tempura" คาราสุคะเรเป็นปลาตาเดียวชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในทะเลลึกหนาวเย็นจัดบริเวณทางตอนเหนือของดินแดนอาทิตย์อุทัยยาวจนถึงน่านน้ำประเทศรัสเซียลักษณะภายนอกแลดูน่ากลัวแต่เมื่อแล่แล้วก็ได้เนื้อสีขาวละเอียดประดุจหิมะนิยมนำส่วนครีบมาทำซูชิเอนกาวะลนไฟเสิร์ฟตามภัตตาคารญี่ปุ่นที่พวกเราน่าจะคุ้นเคยกันดี โดยหัวหน้าเชฟคัดเฉพาะบริเวณ Top Loin (สันหลัง) หมักมิโซะสูตรเข้มข้นใช้ระยะเวลายาวนานถึงสองวันช่วยให้เอมไซน์ธรรมชาติทำปฏิกิริยาก่อเกิดเป็นความอูมามิแสนล้ำลึกค่อยชุบแป้งทอดกรอบสไตล์เทมปุระสีเหลืองทองหั่นชิ้นขนาดจัมโบ้ชวนเคี้ยวแน่นเต็มๆคำวางแผ่นกระดาษรองซึมซับน้ำมันส่วนเกินโรยเกลือสมุทร,บีบเลมอนเล็กน้อยเค็มเปรี้ยวตัดเลี่ยนลงตัว / "Kinmedai" อาบุระคินเมไดหรือกะพงแดงตาโตชนิดพิเศษจับได้ ณ เมืองโชชิจังหวัดชิบะซึ่งแผนที่ด้านภูมิศาสตร์นั่นก็คือแผ่นดินยื่นเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกจึงก่อเกิดคลื่นยักษ์ไหลพัดรุนแรงบ้าคลั่งทำให้สัมผัสเด้งแน่นหนึบสู้ฟันจนเรียกได้ว่าเกรดคุณภาพดีสุดราคาแพง ผ่านกระบวนการ Aging ขับไล่ความชื้นและคาวเลือดหมดจดลนไฟเพียงผิวหนังติดไหม้เล็กน้อยวางบนข้าวสวยปั้นก้อนกลมฉบับนิกิริผสมน้ำส้มสายชูสีแดงคีบเข้าปากกลิ่นหอมฟุ้งกระจายอย่างทั่วถึงครับผม
หมวดถัดไปเราจะเริ่มเข้าสู่รายการซูชิสไตล์เอโดะมาเอะโบราณโดยคุณเชฟของทางร้าน "Hikari Omakase" เลือกใช้เฉพาะข้าวสายพันธุ์โคชิอิบูกิแห่งจังหวัดนีงาตะเมล็ดอ้วนสั้นสัมผัสนุ่มเหนียวปานกลางอร่อยคล้ายโคชิฮิคาริแต่รสชาติเบากว่าเคล้าน้ำส้มสายชูสีแดงฉบับลับพิเศษลักษณะภายนอกสีน้ำตาลเปรี้ยวหวานละมุนกลมกล่อมเปล่งประกายสวยงามปั้นรูปร่างทรงกลมขนาดแน่นกำลังดีอย่างผู้เชี่ยวชาญใครอยากได้คำใหญ่เล็ก-วาซาบิบดแต้มเยอะน้อยสามารถแจ้งเลยตามสะดวก "Shima Aji" ชิมะอะจิหรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าปลาทูยักษ์ญี่ปุ่นเนื้อสีขาวอมชมพูแทรกไขมันละเอียดหนังสีเงินตระกูลเดียวกับเหล่าหางแข็งแมคเคอเรล ถูกจับบริเวณเกาะชิโทกุ,จังหวัดเอะฮิเมะเป็นจุดบรรจบระหว่างทะเลฝั่งเหนือและใต้คลื่นนิ่งสงบแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ดีจึงไซส์ใหญ่ชวนเคี้ยวสนุกเด้งสู้ฟัน / "Mehikari" เมะฮิคาริจุดเด่นที่สำคัญนั่นคือดวงตาเรืองแสงสีเขียวก้างอ่อนนุ่มมองผ่านๆแลดูคล้ายซาร์ดีนอาศัยในน้ำลึก 700-800 เมตรจึงหารับประทานยากซึ่งฤดูกาลนี้ก็เข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยขนาดประมาณ 15-20 เซนติเมตรส่งตรงจากอิวากิใกล้มหาสมุทรแปซิฟิกไขมันเยอะแบบเอนกาวะต้องแนบถ่านขาวบินโจตันอุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียสเพื่อให้ผิวด้านนอกกรุบกรอบติดไหม้เล็กน้อยส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายหยิบเข้าปากละลายทันทีประทับใจครับ
ลำดับการเสิร์ฟซูชิแต่ละคำภายในคอร์สโอมากาเสะของทางร้าน "Hikari Omakase" เท่าที่เราลองสังเกตคุณหัวหน้าเชฟพยายามไล่ระดับรสชาติความเข้มข้นขึ้นไปทีละน้อยเพื่อให้ลูกค้าทุกๆท่านได้รับประสบการณ์อูมามิจนถึงระดับสูงสุดมาต่อกันเลยด้วย "Iwashi" อิวาชิหรือปลาซาร์ดีนลายจุดข้างดำเนื้อแดงเข้มหนังสีน้ำเงินสวยงามเปล่งประกายไขมันแทรกกลิ่นเอกลักษณ์อุดมด้วยโอเมก้า 3 คัดเฉพาะไซส์ขนาดเต็มวัยประมาณ 15-20 เซนติเมตรก้างค่อนข้างเยอะจึงต้องใช้ฝีมือบรรจงเลาะออกอย่างเชี่ยวชาญพร้อมบั้งตามแนวขวางเพื่อสลายกระดูกอ่อนท็อปปิ้งต้นหอมญี่ปุ่นบดละเอียดทาซีอิ๊วโชยุนิดหน่อยก่อนยกเสิร์ฟช่วยตัดเลี่ยนเคี้ยวไหลลื่นลงคอ / "Nama Sujiko" ซูจิโกะพวงไข่แซลมอนธรรมชาติคุณภาพสดใหม่ถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบชั้นดีระดับซูเปอร์พรีเมียมส่งตรงจากเกาะฮอกไกโดช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นจึงค่อนข้างหารับประทานยากแตกต่างจากอิคุระธรรมดาตามภัตตาคารเจ้าอื่นเพราะว่ายังติดเชื่อมโยงเข้ากับเยื่อพังผืดเคี้ยวสนุกหนึบเด้งสู้ฟันระเบิดกระจายเต็มปากเวลาเคี้ยว โดยนำเสนอฉบับเรียบง่ายเพียงแช่ซอสโชยุระยะสั้นๆรอแทรกซึมทุกอณูเค็มนวลละมุนกลมกล่อมวางด้านบนข้าวสายพันธุ์โคชิอิบูกิปั้นก้อนทรงกลมเปรี้ยวอมหวานปิดท้ายแค่ขูดเปลือกส้มยูซุผลผลิตชื่อดังแห่งจังหวัดโคจิสะบัดใส่ 2-3 ครั้งหอมสดชื่นลงตัวครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น