ฟีมูฟเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนด้านป่าไม้และที่ดิน
https://prachatai.com/journal/2024/10/111105
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนด้านป่าไม้และที่ดิน ชี้ควรนิรโทษกรรมและล้างมลทินให้แก่ประชาชนรวมทั้งเป็นการคืนสิทธิในที่ดินทำกินให้กับประชาชนผู้สุจริตที่อาศัยอยู่ในที่ดินมาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ หรือให้ประชาชนได้รับสิทธิในการจัดสรรที่ดินจากรัฐตามนโยบายและกฎหมาย
สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567 ว่า นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้นายคัมภีร์ ดิษฐากร โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นาย
สุริยันต์ ทองหนูเอียด ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมหรือฟีมูฟ พร้อมคณะ เพื่อขอริเริ่มเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ด้านป่าไม้และที่ดิน พ.ศ. …. จำนวน 1 ฉบับ โดยมีหลักการและเหตุผลดังนี้ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรอันเนื่องมาจากได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเป็นการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและป่าไม้ กรณีประกาศเขตพื้นที่ของรัฐทับที่ทำกินของประชาชน ทั้งที่ประชาชนอยู่มาก่อนทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ กลายเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย อีกทั้งการประกาศเขตที่ดินของรัฐมีจำนวนเนื้อที่มากไม่สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกินและที่อยู่อาศัย จึงได้เข้าไปอยู่ในที่ดินของรัฐอันนำไปสู่การกล่าวหาและดำเนินคดีทั้งทางแพ่งงและทางอาญา ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนไร้ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ไม่มีสิทธิในที่ดินและในการเข้าทำประโยชน์
นอกจากนี้หากถูกดำเนินคดีและถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด ยังมีประวัติอาชญากรรมติดตัวไม่สามารถไปประกอบอาชีพอื่นได้ จึงเป็นการสมควรนิรโทษกรรมและล้างมลทินให้แก่ประชาชนรวมทั้งเป็นการคืนสิทธิในที่ดินทำกินให้กับประชาชนผู้สุจริตที่อาศัยอยู่ในที่ดินมาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ หรือให้ประชาชนได้รับสิทธิในการจัดสรรที่ดินจากรัฐตามนโยบายและกฎหมาย จึงจำเป็นต้องต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของประชาชน โดยเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนในเบื้องต้น โดยหลังจากรับยื่นหนังสือจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน และจะได้นำเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
วันนอร์ คาดโทษปธ.กมธ. ถ้าทำเฉย ไม่จัดการพวกแอบอ้าง อาจถึงขั้นถูกศาลสั่งให้พ้นเก้าอี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4854108
“วันนอร์” ออกหนังสือกำชับ กมธ.ชุดต่างๆแล้ว พร้อมสอบทางลึก ตั้งคนเป็นกรรมาธิการ สร้างความเสียหาย หากไม่จัดการพวกแอบอ้างเรียกรับประโยชน์ออกไป ประธาน กมธ.อาจถึงขั้นถูกศาลฎีกาให้พ้นตำแหน่ง ยอมรับบางครั้งต้องใช้คนนอกให้ข้อคิดเห็น
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ที่สปป.ลาว นาย
วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 45 ที่ สปป.ลาว กล่าวถึงกรณี นาย
ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบ และปลด นาย
สามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ออกจากกรรมาธิการทุกคณะ หลังปรากฏมีเสียงคล้าย คนในคลิปเรียกรับเงินจาก นาย
วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ประธานดิไอคอน กรุ๊ป ว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ตนได้เซ็นหนังสือให้ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ชุดต่างๆ ได้ตรวจสอบบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานหรือที่ปรึกษา ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างความเสียหาย ทั้งการเรียกรับเงิน การแอบอ้าง ขอให้ถอดถอนออกได้ทันที เพราะเป็นหน้าที่ของประธานกมธ.แต่ละชุดที่สามารถทำได้ ขณะเดียวกันรัฐสภาจะมีการตรวจสอบในทางลึกอีกครั้ง ว่ามีกมธ.ชุดใดที่มีคณะทำงานหรือที่ปรึกษา ที่สร้างความเสียหายในทำนองนี้เกิดขึ้น ก็สามารถลงโทษได้ในเรื่องของจริยธรรม แต่ถ้ามีความเสียหาย มีผู้ร้องเรียน เป็นคดีอาญาก็สามารถดำเนินการได้
“
ผมได้มีการตักเตือนไปแล้ว เพราะจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภา และสมาชิก กมธ.มีอยู่ชัดเจนแล้ว หากประพฤติก่อให้เกิดความเสียหาย คนแต่งตั้งคือประธานกมธ.ต้องรับผิดชอบ ซึ่งบทลงโทษค่อนข้างสูง เพราะต้องส่งเรื่องไป คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ ป.ป.ช. มีหลักฐานก็ส่งต่อศาลฎีกา ถ้าผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะคนที่ทำความเสียหาย จะฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์ไปแอบอ้าง แต่คนรับผิดชอบคือสมาชิกรัฐสภา กับ ประธานกมธ. ซึ่งตัวเอง อาจจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ที่ผ่านมาก็เคยมีมาแล้ว ก็คิดว่า แต่ละกมธ.จะได้ตระหนักตรงนี้และแก้ไข เพราะเราทำความเสียหายแบบนี้ไม่ได้ บางคนเป็นกมธ. เป็นที่ปรึกษา เอาบัตรไปแอบอ้างหาประโยชน์ หรือสร้างความสัมพันธ์ให้กับตัวเอง ทั้งที่ความจริงบทบาทของกรรมาธิการ เป็นผู้ช่วย ที่ทำงานให้กับคณะกรรมาธิการเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทในการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ใดได้เลย และคณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นมา ก็ไม่ได้เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ แต่ก็มีบุคคลประเภทเหล่านี้ที่ชอบไปอ้าง เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็ดีจะได้มีการระมัดระวังมากขึ้น” ประธานรัฐสภา กล่าว
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งคนนอกเข้ามา มีทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะบางครั้งต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคคลนั้น โดยเฉพาะต่อไปจะเลือกอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก ประธานรัฐสภา กล่าวว่า กติกาข้อกฎหมายของรัฐสภา เวลามี กมธ.ก็กำหนดชัดเจนว่า ถ้ากมธ.วิสามัญ ต้องมีตัวแทนของรัฐบาล ตัวแทนทุกพรรคการเมืองตามสัดส่วน และมีบุคคลภายนอกอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง เพราะสภาฯอยากทำงานเชื่อมโยงกับภาคประชาชน จึงจำเป็นต้องมี กมธ.จากบุคคลภายนอกมาเสนอความเห็นในการทำงาน แต่บางครั้งถ้าไม่ได้มาเป็นคณะทำงาน เป็นคนที่ถูกเชิญมาให้ข้อคิดเห็นก็ทำอยู่ตลอด แต่สำหรับที่ปรึกษากมธ.ต้องทำด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
น้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดเมื่อวานนี้ร่วง นักลงทุนวิตกกังวลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว
https://ch3plus.com/news/economy/morning/421267
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธันวาคม ร่วงลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 73.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่เวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท หรือ WTI ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ร่วงลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 69.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ถ้าเทียบรายสัปดาห์ เบรนท์ ร่วงลงไปกว่า 7% ขณะที่ WTI ร่วงไปประมาณ 8% หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง และนักลงทุนประเมินสถานการณ์ที่มีแต่ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง
ขอบคุณที่มา รอยเตอร์ส
JJNY : ฟีมูฟเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมด้านป่า│วันนอร์คาดโทษปธ.กมธ.│วิตกกังวลต่อการขยายตัวทางศก.ของจีน│รมต.อังกฤษเยือนจีน
https://prachatai.com/journal/2024/10/111105
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนด้านป่าไม้และที่ดิน ชี้ควรนิรโทษกรรมและล้างมลทินให้แก่ประชาชนรวมทั้งเป็นการคืนสิทธิในที่ดินทำกินให้กับประชาชนผู้สุจริตที่อาศัยอยู่ในที่ดินมาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ หรือให้ประชาชนได้รับสิทธิในการจัดสรรที่ดินจากรัฐตามนโยบายและกฎหมาย
สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567 ว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้นายคัมภีร์ ดิษฐากร โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจาก นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมหรือฟีมูฟ พร้อมคณะ เพื่อขอริเริ่มเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ด้านป่าไม้และที่ดิน พ.ศ. …. จำนวน 1 ฉบับ โดยมีหลักการและเหตุผลดังนี้ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการนิรโทษกรรมแก่ราษฎรอันเนื่องมาจากได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเป็นการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและป่าไม้ กรณีประกาศเขตพื้นที่ของรัฐทับที่ทำกินของประชาชน ทั้งที่ประชาชนอยู่มาก่อนทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ กลายเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย อีกทั้งการประกาศเขตที่ดินของรัฐมีจำนวนเนื้อที่มากไม่สอดคล้องกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกินและที่อยู่อาศัย จึงได้เข้าไปอยู่ในที่ดินของรัฐอันนำไปสู่การกล่าวหาและดำเนินคดีทั้งทางแพ่งงและทางอาญา ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยประชาชนไร้ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ไม่มีสิทธิในที่ดินและในการเข้าทำประโยชน์
นอกจากนี้หากถูกดำเนินคดีและถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด ยังมีประวัติอาชญากรรมติดตัวไม่สามารถไปประกอบอาชีพอื่นได้ จึงเป็นการสมควรนิรโทษกรรมและล้างมลทินให้แก่ประชาชนรวมทั้งเป็นการคืนสิทธิในที่ดินทำกินให้กับประชาชนผู้สุจริตที่อาศัยอยู่ในที่ดินมาก่อนการประกาศเป็นที่ดินของรัฐ หรือให้ประชาชนได้รับสิทธิในการจัดสรรที่ดินจากรัฐตามนโยบายและกฎหมาย จึงจำเป็นต้องต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้
โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของประชาชน โดยเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนในเบื้องต้น โดยหลังจากรับยื่นหนังสือจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน และจะได้นำเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
วันนอร์ คาดโทษปธ.กมธ. ถ้าทำเฉย ไม่จัดการพวกแอบอ้าง อาจถึงขั้นถูกศาลสั่งให้พ้นเก้าอี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4854108
“วันนอร์” ออกหนังสือกำชับ กมธ.ชุดต่างๆแล้ว พร้อมสอบทางลึก ตั้งคนเป็นกรรมาธิการ สร้างความเสียหาย หากไม่จัดการพวกแอบอ้างเรียกรับประโยชน์ออกไป ประธาน กมธ.อาจถึงขั้นถูกศาลฎีกาให้พ้นตำแหน่ง ยอมรับบางครั้งต้องใช้คนนอกให้ข้อคิดเห็น
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ที่สปป.ลาว นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งที่ 45 ที่ สปป.ลาว กล่าวถึงกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบ และปลด นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ออกจากกรรมาธิการทุกคณะ หลังปรากฏมีเสียงคล้าย คนในคลิปเรียกรับเงินจาก นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ประธานดิไอคอน กรุ๊ป ว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ตนได้เซ็นหนังสือให้ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ชุดต่างๆ ได้ตรวจสอบบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานหรือที่ปรึกษา ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างความเสียหาย ทั้งการเรียกรับเงิน การแอบอ้าง ขอให้ถอดถอนออกได้ทันที เพราะเป็นหน้าที่ของประธานกมธ.แต่ละชุดที่สามารถทำได้ ขณะเดียวกันรัฐสภาจะมีการตรวจสอบในทางลึกอีกครั้ง ว่ามีกมธ.ชุดใดที่มีคณะทำงานหรือที่ปรึกษา ที่สร้างความเสียหายในทำนองนี้เกิดขึ้น ก็สามารถลงโทษได้ในเรื่องของจริยธรรม แต่ถ้ามีความเสียหาย มีผู้ร้องเรียน เป็นคดีอาญาก็สามารถดำเนินการได้
“ผมได้มีการตักเตือนไปแล้ว เพราะจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภา และสมาชิก กมธ.มีอยู่ชัดเจนแล้ว หากประพฤติก่อให้เกิดความเสียหาย คนแต่งตั้งคือประธานกมธ.ต้องรับผิดชอบ ซึ่งบทลงโทษค่อนข้างสูง เพราะต้องส่งเรื่องไป คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ ป.ป.ช. มีหลักฐานก็ส่งต่อศาลฎีกา ถ้าผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะคนที่ทำความเสียหาย จะฉวยโอกาสเอาผลประโยชน์ไปแอบอ้าง แต่คนรับผิดชอบคือสมาชิกรัฐสภา กับ ประธานกมธ. ซึ่งตัวเอง อาจจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ที่ผ่านมาก็เคยมีมาแล้ว ก็คิดว่า แต่ละกมธ.จะได้ตระหนักตรงนี้และแก้ไข เพราะเราทำความเสียหายแบบนี้ไม่ได้ บางคนเป็นกมธ. เป็นที่ปรึกษา เอาบัตรไปแอบอ้างหาประโยชน์ หรือสร้างความสัมพันธ์ให้กับตัวเอง ทั้งที่ความจริงบทบาทของกรรมาธิการ เป็นผู้ช่วย ที่ทำงานให้กับคณะกรรมาธิการเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทในการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ใดได้เลย และคณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นมา ก็ไม่ได้เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ แต่ก็มีบุคคลประเภทเหล่านี้ที่ชอบไปอ้าง เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็ดีจะได้มีการระมัดระวังมากขึ้น” ประธานรัฐสภา กล่าว
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งคนนอกเข้ามา มีทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะบางครั้งต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคคลนั้น โดยเฉพาะต่อไปจะเลือกอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก ประธานรัฐสภา กล่าวว่า กติกาข้อกฎหมายของรัฐสภา เวลามี กมธ.ก็กำหนดชัดเจนว่า ถ้ากมธ.วิสามัญ ต้องมีตัวแทนของรัฐบาล ตัวแทนทุกพรรคการเมืองตามสัดส่วน และมีบุคคลภายนอกอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง เพราะสภาฯอยากทำงานเชื่อมโยงกับภาคประชาชน จึงจำเป็นต้องมี กมธ.จากบุคคลภายนอกมาเสนอความเห็นในการทำงาน แต่บางครั้งถ้าไม่ได้มาเป็นคณะทำงาน เป็นคนที่ถูกเชิญมาให้ข้อคิดเห็นก็ทำอยู่ตลอด แต่สำหรับที่ปรึกษากมธ.ต้องทำด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
น้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดเมื่อวานนี้ร่วง นักลงทุนวิตกกังวลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว
https://ch3plus.com/news/economy/morning/421267
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธันวาคม ร่วงลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.87% ปิดที่ 73.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่เวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท หรือ WTI ส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ร่วงลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.05% ปิดที่ 69.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ถ้าเทียบรายสัปดาห์ เบรนท์ ร่วงลงไปกว่า 7% ขณะที่ WTI ร่วงไปประมาณ 8% หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง และนักลงทุนประเมินสถานการณ์ที่มีแต่ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง
ขอบคุณที่มา รอยเตอร์ส