ชาวอยุธยาอ่วม น้ำทะลักท่วมเข้าบ้านเรือน-ร้านอาหาร หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ
https://www.thairath.co.th/news/local/central/2818710
ชาวอยุธยาอ่วม น้ำทะลักท่วมเข้าบ้านเรือน-ร้านอาหาร หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำแบบขั้นบันได ชาวบ้านพยายามเร่งขนข้าวของหนีน้ำ
วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำทะลุ 2,250 ลบ.ม./วินาที และระบายเพิ่มเป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที ทำชาวบ้านกรุงเก่าอ่วม ระดับน้ำขึ้นทีเดียว 30-40 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ยอมปล่อยให้บ้านถูกน้ำท่วมหลังพยายามก่อปูนกั้นน้ำ กระสอบทรายอุด ตั้งเครื่องสูบน้ำออก แต่สู้ไม่ไหวหลังระดับน้ำขึ้นสูงคืนเดียว 30-40 เซนติเมตร และยังส่งผลให้ร้านอาหารที่อยู่ติดริมแม่น้ำได้รับผลกระทบไปด้วย ต้องเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำ ส่งผลให้ชาวบ้านพื้นที่ ต.บ้านป้อม 10 ตำบล 230 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนถูกน้ำท่วม
สอบถาม นาง
สุรัตน์ วงษ์สุกล่ำ อายุ 62 ปี ตนเองก็มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำมาโดยตลอด และก็ทราบว่าทางกรมชลประทาน จะระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแบบเป็นขั้นบันไดจาก 2,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จนถึง 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งระดับน้ำก็ล้นตลิ่งจ่อเข้าบ้านตนเอง จึงได้มีการก่อปูนกั้นน้ำ และนำกระสอบทรายมาอุดจุดที่รั่วซึมและติดตั้งไดโว่สูบน้ำจำนวน 2 ตัว เพื่อสูบน้ำออกจากตัวบ้าน จนกระทั่งเมื่อที่ผ่านมาระดับน้ำขึ้นอย่างรวดเร็วคืนเดียว 30-40 เซนติเมตร ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำออกจากตัวบ้านได้ทัน ตนเองจึงยอมปล่อยให้น้ำท่วมบ้านและพยายามเร่งขนข้าวของหนีน้ำ
ส่วนร้านอาหารแอบแซ่บ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็เร่งขนย้ายโต๊ะเก้าอี้ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหนีน้ำ เพราะคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องยอมปิดร้านเพื่อหนีน้ำ ซึ่งหากยังไม่ขนของหนีน้ำ ก็กลัวว่าระดับน้ำขึ้นมารวดเร็ว และจะขนข้าวของหนีน้ำไม่ทันและเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้.
เช็กเลย! ‘7 เขต 16 ชุมชน’ พื้นที่กรุงเทพฯ เตรียมยกของขึ้นที่สูงหนีน้ำท่วม
https://www.dailynews.co.th/news/3949009/
เช็กเลย! ‘7 เขต 16 ชุมชน’ พื้นที่กรุงเทพฯ เตรียมยกของขึ้นที่สูงหนีน้ำท่วม
ชาวเมืองหลวงเช็กด่วนเลย! "16 ชุมชน" ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เตรียมรับมือยกของหนีน้ำท่วม-ตรวจสอบปลั๊กไฟ โดยเฉพาะวันที่ 13-23 ต.ค. 2567
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาโพสต์แจ้งเตือนภัย ให้ประชาชนที่อยู่บริเวณนอกคันกั้นน้ำเจ้าพระยา โดยเขียนข้อความระบุว่า แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากน้ำทะเลหนุนและการเร่งระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะวันที่ 13-23 ต.ค. 2567 ขอให้ประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง ตรวจสอบปลั๊กไฟ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากพบปัญหาน้ำท่วมขัง สามารถแจ้งได้ที่ Line : @traffy fonndue เบอร์โทร. 0-2248-5115 และสายด่วน กทม. 1555 ตลอด 24 ชม.
สำหรับรายชื่อชุมชนนอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีดังนี้
ดุสิต
– ซอยสีคาม ซอยสามเสน 19 ช่วงปลาย (3 ครัวเรือน)
– ราชผาทับทิบร่วมใจ เชิงสะพานกรุงธน (30 ครัวเรือน)
– ปลายซอยมิตตาคาม ซอยสามเสน 13 ช่วงปลาย (83 ครัวเรือน)
– เทวราชกุญชร (78 ครัวเรือน)
พระนคร
– ท่าวัง (16 ครัวเรือน)
– ท่าเตียน (12 ครัวเรือน)
สัมพันธวงศ์
– วัดปทุมคงคา ท่าน้ำสวัสดี (12 ครัวเรือน)
– ตลาดน้อย (1 ครัวเรือน)
บางคอแหลม
– มาตานุสรณ์ (13 ครัวเรือน)
– หลัง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ (22 ครัวเรือน)
– วัดอินทร์บรรจง (20 ครัวเรือน)
– วัดบางโคล่นอก (56 ครัวเรือน)
ยานนาวา
– โรงสี ถนนพระราม 3 (330 ครัวเรือน)
– ดุสิต นิมิตรใหม่ (16 ครัวเรือน)
– เจริญนคร ซอย 29/2 (37 ครัวเรือน)
– ช่างนาค-สะพานยาว (2 ครัวเรือน)
รวม 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bangkokbma/posts/870872541887563
สมช. เตือนคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยง หวั่นสงครามอิสราเอล ปะทุหนัก
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/234169
รองเลขาฯสมช. เผย มั่นคงจับตาสถานการณ์อิสราเอล-ฮามาส-ฮิซบอลเลาะห์ แจ้งเตือนคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยง หวั่น สงครามปะทุหนัก
วันที่ 7 ต.ค. 2567 นาย
ฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์สงครามรพะหว่างอิสราเอล-ฮามาส และฮิซบอลเลาะห์ ว่า ขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนให้คนไทยพยายามเดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนเหนือของประเทศอิสราเอลติดกับเลบานอน แต่ยอมรับว่า มีประชาชนบางส่วนไม่ยอมเคลื่อนย้ายออก แต่ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางส่วนต้องการเดินทางกลับไทย
โดยประชาชนจะต้องเป็นผู้ซื้อตั๋วเดินทางกลับเอง และมีภาครัฐเป็นผู้ประสานและอำนวยความสะดวกให้ แต่ทางสมช. และ สถานทูต พยายามติดตามอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงประสานกับประชาชนในพื้นที่อยู่ตลอด
ขณะเดียวกันนาย
ฉัตรชัย ระบุว่า มีประชาชนตกค้างในประเทศอิสราเอลประมาณ 28,000 คน ในอิหร่านประมาณ 300 คน และในเลบานอน 100 กว่าคนซึ่งยังไม่มีการประสานของอพยพกับไทยแต่อย่างใด
เงินเฟ้อ ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.35% ต่ำเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอาเซียน
https://ch3plus.com/news/economy/morning/419741
นาย
พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 108.68 เพิ่มขึ้น 0.61% โดยปัจจัยสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งสูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน รวมถึงผักสดบางชนิดที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูก
ทั้งนี้ ราคาแก๊สโซฮอลล์และน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในทิศทางที่สอดคล้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก ด้านอัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนสิงหาคม 2567 พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยสูงขึ้น 0.35% ซึ่งยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 5 จาก 128 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 2 ในประเทศอาเซียน 8 ประเทศ (บรูไน มาเลเซีย อินโดนิเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สปป.ลาว) นอกจากนี้ แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาสที่ 4 ปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2567
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2567 จากเดิมระหว่างร้อยละ 0.0 – 1.0 (ค่ากลางร้อยละ 0.5) เป็นระหว่างร้อยละ 0.2 – 0.8 (ค่ากลางร้อยละ 0.5) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง
JJNY : 5in1 อยุธยาอ่วมน้ำท่วม│‘7 เขต 16 ชุมชน’เตรียมยกของ│สมช. เตือนคนไทย│เงินเฟ้อต่ำอันดับ 2 อาเซียน│รวันดาทดลองวัคซีน
https://www.thairath.co.th/news/local/central/2818710
ชาวอยุธยาอ่วม น้ำทะลักท่วมเข้าบ้านเรือน-ร้านอาหาร หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำแบบขั้นบันได ชาวบ้านพยายามเร่งขนข้าวของหนีน้ำ
วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำทะลุ 2,250 ลบ.ม./วินาที และระบายเพิ่มเป็น 2,400 ลบ.ม./วินาที ทำชาวบ้านกรุงเก่าอ่วม ระดับน้ำขึ้นทีเดียว 30-40 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ยอมปล่อยให้บ้านถูกน้ำท่วมหลังพยายามก่อปูนกั้นน้ำ กระสอบทรายอุด ตั้งเครื่องสูบน้ำออก แต่สู้ไม่ไหวหลังระดับน้ำขึ้นสูงคืนเดียว 30-40 เซนติเมตร และยังส่งผลให้ร้านอาหารที่อยู่ติดริมแม่น้ำได้รับผลกระทบไปด้วย ต้องเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำ ส่งผลให้ชาวบ้านพื้นที่ ต.บ้านป้อม 10 ตำบล 230 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนถูกน้ำท่วม
สอบถาม นางสุรัตน์ วงษ์สุกล่ำ อายุ 62 ปี ตนเองก็มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำมาโดยตลอด และก็ทราบว่าทางกรมชลประทาน จะระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแบบเป็นขั้นบันไดจาก 2,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จนถึง 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งระดับน้ำก็ล้นตลิ่งจ่อเข้าบ้านตนเอง จึงได้มีการก่อปูนกั้นน้ำ และนำกระสอบทรายมาอุดจุดที่รั่วซึมและติดตั้งไดโว่สูบน้ำจำนวน 2 ตัว เพื่อสูบน้ำออกจากตัวบ้าน จนกระทั่งเมื่อที่ผ่านมาระดับน้ำขึ้นอย่างรวดเร็วคืนเดียว 30-40 เซนติเมตร ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำออกจากตัวบ้านได้ทัน ตนเองจึงยอมปล่อยให้น้ำท่วมบ้านและพยายามเร่งขนข้าวของหนีน้ำ
ส่วนร้านอาหารแอบแซ่บ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็เร่งขนย้ายโต๊ะเก้าอี้ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าหนีน้ำ เพราะคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องยอมปิดร้านเพื่อหนีน้ำ ซึ่งหากยังไม่ขนของหนีน้ำ ก็กลัวว่าระดับน้ำขึ้นมารวดเร็ว และจะขนข้าวของหนีน้ำไม่ทันและเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้.
เช็กเลย! ‘7 เขต 16 ชุมชน’ พื้นที่กรุงเทพฯ เตรียมยกของขึ้นที่สูงหนีน้ำท่วม
https://www.dailynews.co.th/news/3949009/
เช็กเลย! ‘7 เขต 16 ชุมชน’ พื้นที่กรุงเทพฯ เตรียมยกของขึ้นที่สูงหนีน้ำท่วม
ชาวเมืองหลวงเช็กด่วนเลย! "16 ชุมชน" ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เตรียมรับมือยกของหนีน้ำท่วม-ตรวจสอบปลั๊กไฟ โดยเฉพาะวันที่ 13-23 ต.ค. 2567
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาโพสต์แจ้งเตือนภัย ให้ประชาชนที่อยู่บริเวณนอกคันกั้นน้ำเจ้าพระยา โดยเขียนข้อความระบุว่า แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากน้ำทะเลหนุนและการเร่งระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะวันที่ 13-23 ต.ค. 2567 ขอให้ประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง ตรวจสอบปลั๊กไฟ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากพบปัญหาน้ำท่วมขัง สามารถแจ้งได้ที่ Line : @traffy fonndue เบอร์โทร. 0-2248-5115 และสายด่วน กทม. 1555 ตลอด 24 ชม.
สำหรับรายชื่อชุมชนนอกคันกั้นน้ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีดังนี้
ดุสิต
– ซอยสีคาม ซอยสามเสน 19 ช่วงปลาย (3 ครัวเรือน)
– ราชผาทับทิบร่วมใจ เชิงสะพานกรุงธน (30 ครัวเรือน)
– ปลายซอยมิตตาคาม ซอยสามเสน 13 ช่วงปลาย (83 ครัวเรือน)
– เทวราชกุญชร (78 ครัวเรือน)
พระนคร
– ท่าวัง (16 ครัวเรือน)
– ท่าเตียน (12 ครัวเรือน)
สัมพันธวงศ์
– วัดปทุมคงคา ท่าน้ำสวัสดี (12 ครัวเรือน)
– ตลาดน้อย (1 ครัวเรือน)
บางคอแหลม
– มาตานุสรณ์ (13 ครัวเรือน)
– หลัง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ (22 ครัวเรือน)
– วัดอินทร์บรรจง (20 ครัวเรือน)
– วัดบางโคล่นอก (56 ครัวเรือน)
ยานนาวา
– โรงสี ถนนพระราม 3 (330 ครัวเรือน)
– ดุสิต นิมิตรใหม่ (16 ครัวเรือน)
– เจริญนคร ซอย 29/2 (37 ครัวเรือน)
– ช่างนาค-สะพานยาว (2 ครัวเรือน)
รวม 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bangkokbma/posts/870872541887563
สมช. เตือนคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยง หวั่นสงครามอิสราเอล ปะทุหนัก
https://www.pptvhd36.com/news/การเมือง/234169
รองเลขาฯสมช. เผย มั่นคงจับตาสถานการณ์อิสราเอล-ฮามาส-ฮิซบอลเลาะห์ แจ้งเตือนคนไทยออกจากพื้นที่เสี่ยง หวั่น สงครามปะทุหนัก
วันที่ 7 ต.ค. 2567 นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสถานการณ์สงครามรพะหว่างอิสราเอล-ฮามาส และฮิซบอลเลาะห์ ว่า ขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนให้คนไทยพยายามเดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนเหนือของประเทศอิสราเอลติดกับเลบานอน แต่ยอมรับว่า มีประชาชนบางส่วนไม่ยอมเคลื่อนย้ายออก แต่ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางส่วนต้องการเดินทางกลับไทย
โดยประชาชนจะต้องเป็นผู้ซื้อตั๋วเดินทางกลับเอง และมีภาครัฐเป็นผู้ประสานและอำนวยความสะดวกให้ แต่ทางสมช. และ สถานทูต พยายามติดตามอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงประสานกับประชาชนในพื้นที่อยู่ตลอด
ขณะเดียวกันนายฉัตรชัย ระบุว่า มีประชาชนตกค้างในประเทศอิสราเอลประมาณ 28,000 คน ในอิหร่านประมาณ 300 คน และในเลบานอน 100 กว่าคนซึ่งยังไม่มีการประสานของอพยพกับไทยแต่อย่างใด
เงินเฟ้อ ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.35% ต่ำเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มอาเซียน
https://ch3plus.com/news/economy/morning/419741
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนสิงหาคม 2567 อยู่ที่ 108.68 เพิ่มขึ้น 0.61% โดยปัจจัยสำคัญมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งสูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน รวมถึงผักสดบางชนิดที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูก
ทั้งนี้ ราคาแก๊สโซฮอลล์และน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงในทิศทางที่สอดคล้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก ด้านอัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนสิงหาคม 2567 พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยสูงขึ้น 0.35% ซึ่งยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 5 จาก 128 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 2 ในประเทศอาเซียน 8 ประเทศ (บรูไน มาเลเซีย อินโดนิเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สปป.ลาว) นอกจากนี้ แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปไตรมาสที่ 4 ปี 2567 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 2567
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2567 จากเดิมระหว่างร้อยละ 0.0 – 1.0 (ค่ากลางร้อยละ 0.5) เป็นระหว่างร้อยละ 0.2 – 0.8 (ค่ากลางร้อยละ 0.5) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจะมีการทบทวนอีกครั้ง