JJNY : 5in1 ลิซ่าเหน็บแค่ปีเดียว│ส.ส.นนท์ต้องประสานปปง.│นนทบุรีท่วมแล้ว│อสังหาฯชี้ถึงเวลาลดดอกเบี้ย│อิหร่านเตือนอิสราเอล

‘ลิซ่า’ ชี้ ไม่เกินความคาดหมาย ‘เต้น’ คัมแบ๊ก เหน็บ แค่ปีเดียวเปลี่ยนจุดยืน แบบนี้ปชช. จะหวังอะไรได้จากนักสู้ปชต.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4834673
 
 
‘ลิซ่า’ ชี้ ไม่เกินความคาดหมาย ‘เต้น’ คัมแบ๊ก เหน็บ แค่ปีเดียวเปลี่ยนจุดยืนได้ แบบนี้ปชช.จะหวังอะไรได้จากนักสู้ปชต.  จี้ เร่งรัด กม.นิรโทษกรรม-ยุติลอยนวลพ้นผิด ประเดิมคดีตากใบ
 
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าได้ฟังนายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์การกลับมารับตำแหน่งทางการเมืองก็ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายเพราะนายณัฐวุฒิไม่เคยหายไปในฐานะนักการเมืองอยู่แล้ว
 
เพียงแต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือเหตุผลที่ระบุว่า การยอมรับตำแหน่งวันนี้เพราะเกิดการเรียนรู้ว่าต้องอยู่กับความจริงของสถานการณ์ และการเมืองวันนี้เป็นเรื่องของการจัดสรรอำนาจ หากสรุปง่ายๆ คือ “ตามน้ำไป ทำอะไรไม่ได้” แบบนั้นใช่หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วประชาชนยังคาดหวังอะไรได้บ้างจาก นักสู้ประชาธิปไตย
 
น.ส.ภคมนกล่าวว่า ประชาชนยังหวังได้ไหมว่าจะไม่นิ่งเฉยและให้คำปรึกษากับนายกรัฐมนตรีในเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ให้เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ โดยเร็วที่สุด หรือพอจะเป็นปากเป็นเสียงเรียกร้องรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด อย่างกรณีคดีตากใบและคดีคนเสื้อแดงปี 53
 
เวลาเพียง 1 ปี มีเหตุผลรองรับการเสียสัจจะและเหยียบย่ำศรัทธาคนที่เคยเชื่อมั่นขนาดนี้ เพื่อให้โอกาสตัวเอง แต่ประชาชนที่ร่วมสู้ เขาไม่เคยได้รับแม้แต่โอกาสจะเลือก บางคนต้องหลบหนี ไม่ได้กลับมาเจอครอบครัว บางคนสูญหายไม่รู้ชะตากรรม และบางคนเสียชีวิตใจกลางเมือง ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม
 
ดิฉันคิดว่าถ้ายังพอมีเลือดนักสู้อยู่ คุณณัฐวุฒิต้องรีบผลักดันจัดการเรื่องเหล่านี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี เพราะปีหน้าไม่รู้ว่าจะมีเหตุผลให้ต้องตามน้ำอะไรอีกไหม” น.ส.ภคมนกล่าว
 


ส.ส.นนท์ ยันเอง ป้ายอายัด คฤหาสน์หรูทุนจีน ถูกปลดจริง ต้องประสานปปง.ไปติดใหม่
https://www.matichon.co.th/region/news_4834672

ส.ส.นนท์ ยันเอง ป้ายอายัด คฤหาสน์หรูทุนจีน ถูกปลดจริง ต้องประสาน ปปง.ไปติดใหม่
 
คฤหาสน์หรูทุนจีน – จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำคำสั่งอายัดไปติดประกาศหน้าประตูทางเข้าออกโครงการก่อสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนนนทบุรี 1 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อติดประกาศยึดทรัพย์สินโครงการก่อสร้างดังกล่าว ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.193/2567 ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัททุนจีน แต่พบโครงการก่อสร้างดังกล่าวยังคงดำเนินการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนงานผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไซต์งานก่อสร้างตลอดเวลา และจากการสังเกตพบว่า ป้ายคำสั่งอายัดโครงการก่อสร้างคฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ได้ถูกปลดหายไปจากหน้าประตูทางเข้าออกไซต์งานแล้ว

กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเทศบาลนครนนทบุรี และหลายภาคส่วนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกับ วิศวกรที่ควบคุมงานก่อสร้าง ได้ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ย้ายคำสั่งของ ปปง.มาติดอยู่ที่ด้านหลังประตูทางเข้าออกแทน เนื่องจากป้ายที่เจ้าหน้าที่นำมาติดไว้ที่ประตูในครั้งแรกเกิดหลุดออก จึงได้ย้ายมาติดด้านในของประตูแทน ส่วนที่ยังมีคนงานเข้ามาทำงานต่อเนื่องอยู่นั้น เป็นเพราะเจ้าของโครงการได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งอายัดของทาง ปปง.ไปแล้ว หากสั่งหยุดดำเนินการก่อสร้างในตอนนี้จะส่งผลกระทบกับบริษัทผู้รับเหมาที่เข้ามาดำเนินงานก่อสร้างซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งของ ปปง.
 
อย่างไรก็ตาม นายสุรพันธ์ ไวยากรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคประชาชน ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า “ปลดป้ายครับ! ป้ายแรกหาไม่เจอ ผมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปง.ต้องไปติดป้ายใหม่”
 
พร้อมระบุว่า “จากกรณีที่ (ปปง.) นำคำสั่งยึด/อายัดติดประกาศหน้าประตูทางเข้า-ออก #โครงการก่อสร้างคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา อ.เมือง นนทบุรี ตามคำสั่ง ย.193/2567 ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดย บ.ทุนจีน แต่เมื่อวันที่ 3/10/67 “ป้ายได้หายไปจากหน้าโครงการ” มีการเคลื่อนย้ายรถเข้าออกและงานก่อสร้างก็ยังทำอยู่”
 
“ผมพร้อมกับ ส.ส.นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ รองประธาน กมธ.ปปง. สภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ปปง. ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับการยึด/อายัดโครงการนี้ ผมก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดูเหมือนไม่ใส่ใจและเกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่ง ปปง.ต้องเคร่งครัด จริงจัง การบังคับใช้กฎหมาย #ทุนจีน”



นนทบุรี น้ำทะลักท่วมแล้ว ชุมชนริมเจ้าพระยา ระดมกระสอบทรายกั้น
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9450425

นนทบุรี น้ำทะลักท่วมแล้ว ชุมชนริมเจ้าพระยา ระดมกระสอบทรายกั้น หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น ประกอบกับน้ำทะเลหนุนอีกทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับช่วงนี้มีน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาของจังหวัดนนทบุรีหลายแห่ง เริ่มถูกน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนในชุมชนจนได้รับผลกระทบหลายแห่ง

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ยังชุมชนศาลหลักเมืองเก่า ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าชาวบ้านในชุมชนต้องช่วยกันนำกระสอบทรายเก่าปี 66 มาวางกั้น เพื่อชะลอน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมตัวอาคารศาลหลักเมืองเก่า เพราะเกรงว่าหากระดับน้ำมีปริมาณสูงขึ้น จะไหลเข้าท่วมสร้างความเสียหายให้กับศาลหลักเมืองเก่าที่ตั้งอยู่คู่กับชุมชนมาหลายร้อยปี

น.ส.ฐิติมา บัวคำ อายุ 34 ปี ชาวบ้านในชุมชน เปิดเผยว่า วันนี้น้ำขึ้นสูงกว่าผิดปกติ เพราะว่าเมื่อวานไม่มีน้ำเลย แต่มาวันนี้น้ำขึ้นมาแบบสูงจนล้นเข้าบ้าน จนต้องยกข้าวของที่จำเป็นไว้ในที่สูง แต่ก่อนหน้านี้ได้มีการวางแนวกระสอบทรายกั้นน้ำไว้ แต่วันนี้น้ำล้นแนวกระสอบทรายที่วางไว้เข้ามาแล้ว

ตนกังวลว่า การใช้กระสอบทรายเก่าตั้งแต่ปีที่แล้วจะสามารถต้านทานน้ำในปีนี้ไหวหรือไม่ เพราะจะทำให้น้ำที่ล้นไหลเข้ามาท่วมชุมชนและสวนผลไม้ในชุมชน นอกจากนี้ยังพบว่าสีของน้ำมีสีแดงเข้มขึ้น

ในส่วนท่าน้ำนนทบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูง 2.32 ซม. เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง เสมอพื้นลานกิจกรรมท่าน้ำนนท์ จนทำให้มีน้ำผุดขึ้นมาจากพื้นลานริมเขื่อนเป็นช่วง ๆ แต่น้ำยังไม่เข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ เพราะเทศบาลนครนนทบุรีได้มีการวางแนวกระสอบทรายไว้ล่วงหน้านับเดือนแล้ว พร้อมทั้งมีเครื่องสูบน้ำออกตลอดเวลา

ขณะชุมชนพื้นที่เสี่ยง น้ำได้เอ่อเข้าท่วมทางเดินหลายชุมชน เช่น ชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ ชุมชนบ้านตลาดขวัญ ชุมชนหลังโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ชุมชนท่าทราย ซึ่งเทศบาลได้ทำสะพานไม้ทางเดินเท้าไว้ให้ประชาชนแล้ว



ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชี้ถึงเวลาลดดอกเบี้ย ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/419902
  
ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชี้ถึงเวลาลดดอกเบี้ย และออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้

นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส4 น่าจะดีขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มและการท่องเที่ยวที่เข้าช่วงไฮซีซั่น
 
 ขณะเดียวกันมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยจะเข้าสู่ช่วงขาลง เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำแล้ว จึงน่าจะถึงเวลาที่ กนง. ควรจะมีการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงได้แล้ว ซึ่งจะช่วยลดภาระของผู้มีหนี้ เช่น คนซื้อบ้านจะมีภาระค่าผ่อนบ้านน้อยลง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนขณะเดียวกันอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในกรอบ 34-35 บาทต่อดอลลาร์ ไม่แข็งค่าและอ่อนค่ามากจนเกินไป ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วย

และเห็นว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ อยากให้รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นออกมาเพิ่มเติมจากโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบาง

โดยอยากให้รัฐบาลนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยทำมาและได้ผลมาต่อยอดอีกครั้ง เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน หรือ อีซี่ อีรี-ซีท เป็นต้น

โดยอาจจะเปลี่ยนชื่อใหม่ก็ได้ หากไม่อยากจะใช้ชื่อเดิม เพื่อดึงเงินในกระเป๋าของผู้ที่มีกำลังซื้อออกมาใช้จ่าย เพื่อทำให้เกิดการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันคนเริ่มระมัดระวังการใช้จ่าย ซึ่งรัฐบาลเองก็ควรจะรับฟังข้อเสนอภาคเอกชน หรือ ภาคธุรกิจด้วย เพื่อนำมาวิเคราะห์และกลั่นกรองเป็นมาตรการกระตุ้นเพื่อให้ได้ประโยชน์

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7bRhAy78iPs

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่