JJNY : 30.31 รับเงินหมื่นมีส่วนทำให้สนับสนุนรบ.│หลั่งไหลรำลึก 48ปี 6ตุลา│‘หมอเหวง’ชี้ทางสว่าง│อีสานเย็น แต่ 30จว.ยังมีฝน

โพลชี้ปชช.ร้อยละ 30.31 ยอมรับว่าเงินหมื่นมีส่วนทำให้สนับสนุนรัฐบาล
https://www.matichon.co.th/economy/news_4830293

โพลชี้ปชช.เกินครึ่งใช้เงินหมื่นใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และร้อยละ 30.31 ยอมรับว่าเงินหมื่นมีส่วนทำให้สนับสนุนรัฐบาล
 
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “รับเงินสด 10,000 บาท แล้วจะสนับสนุนรัฐบาลไหม” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 1-3 ตุลาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ทั้งตนเอง และ/หรือ
คนในครอบครัว ที่ได้รับเงิน 10,000 บาทจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง

จากการสำรวจเมื่อถามถึงการนำเงินไปใช้จ่ายของผู้ที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ไม่ว่าจะเป็นตนเอง และ/หรือ คนในครอบครัวได้รับเงิน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 86.79 ระบุว่า ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (รวมค่าน้ำ ค่าไฟ น้ำมันเชื้อเพลิง) รองลงมา ร้อยละ 16.49 ระบุว่า เก็บออมไว้สำหรับอนาคต ร้อยละ 14.35 ระบุว่า ใช้หนี้ ร้อยละ 13.59 ระบุว่า ใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ (เช่น ซื้อยารักษาโรค หาหมอ) ร้อยละ 8.24 ระบุว่า ใช้ลงทุนการค้า ร้อยละ 7.48 ระบุว่า ใช้จ่ายเพื่อการศึกษา ร้อยละ 1.37 ระบุว่า ใช้ซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ใช้ซื้อหวย สลากกินแบ่งรัฐบาล ร้อยละ 0.99 ระบุว่า ใช้ซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มือถือ และเครื่องมือสื่อสาร ร้อยละ 0.69 ระบุว่า ใช้จ่ายเพื่อการบันเทิง (เช่น เลี้ยงสังสรรค์ ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ เป็นต้น) ร้อยละ 0.31 ระบุว่า ใช้จ่ายเพื่อการเดินทางท่องเที่ยว ร้อยละ 0.15 ระบุว่า ใช้ซื้อทองคำ เพชร พลอยอัญมณี และร้อยละ 0.99 ระบุว่า ไม่ตอบ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการสนับสนุนรัฐบาลของผู้ที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ไม่ว่าจะเป็นตนเอง และ/หรือ คนในครอบครัวได้รับผลประโยชน์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.35 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะตัดสินใจอย่างไร รองลงมา ร้อยละ 30.31 ระบุว่า มีส่วนทำให้สนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 20.38 ระบุว่า จะมีหรือไม่มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ก็สนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว ร้อยละ 13.13 ระบุว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สนับสนุนรัฐบาล และร้อยละ 1.83 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ



หลั่งไหลรำลึก 48 ปี 6 ตุลา พวงมาลาอาลัยแน่นมธ. นักกิจกรรม พรรคการเมืองร่วมพรึบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4830298
 
หลั่งไหลรำลึก 48 ปี 6 ตุลา พวงมาลาอาลัยแน่นมธ. นักกิจกรรม พรรคการเมืองร่วมพรึบ

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีการจัดงาน “ครบรอบ 48 ปี 6 ตุลาฯ 2519″ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณสวนประติมากรรมประวัติศาสตร์ “ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ว่ามีบุคคลต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง อาทิ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา, นายแพทย์เหวง โตจิราการและนางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตแกนนำนปช.,
นางสาวกุณฑิกา นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ อดีตคณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นางสาวณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ นักกิจกรรม, นางนภัสสร บุญรีย์ หรือ ป้านก นักกิจกรรม , นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย , นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นต้น รวมถึงเพื่อนและญาติวีรชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.2519
 
นอกจากนี้ พวงหรีดไว้อาลัยจากบุคคลและหน่วนงานต่างๆ ทยอยมาถึงสถานที่จัดงาน อาทิ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, พรรคเพื่อไทย, สุธรรม แสงประทุม, กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่, มูลนิธิจิตร ภูมิศักดิ์, มูลนิธินิคม จันทรวิทุร, กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง, ชมรมมิตรสัมพันธ์, สำนักพิมพ์ประชาธิปไตยแรงงาน-กปร., สโมสร ’19 อีสานใต้, สมัขชาคนจน, พรรคประชาชาติ, ชมรมโดมรวมใจ, พรรคประชาชน, ญาติและวีรชน 14 ตุลา, กลุ่ม Oct Dem, นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ ม.ธรรมศาสตร์, จาตุรนต์ ฉายแสง, มูลนิธิไชยวนา, ดร. ปิติพงศ์ เต็มเจริญ พรรคเป็นธรรม, ชมรมหลากทัศนะประวัติศาสตร์ ต.อ., ประธานรัฐสภา, กมธ. การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชย และคุ้มครองผู้บริโภค, พรรคจุฬาสามัญชน, สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน, สถาบันปรัดี พนมยงค์, สถานีข่าว สปท, คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 เป็นต้น
 
ต่อมาเวลาประมาณ 07.30 น. ผู้ร่วมงาน ทำบุญตักบาตรพระภิกษุ 19 รูป จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร


 
‘หมอเหวง’ ชี้ทางสว่าง ‘เพื่อไทย’ ถ้าทำได้ ‘คะแนนอื้อซ่า’ เลือกตั้งครั้งหน้าแซง ปชน.ชัวร์!
https://www.matichon.co.th/politics/news_4829738

‘หมอเหวง’ ชี้ทางสว่าง ‘เพื่อไทย’ ถ้าทำได้ ‘คะแนนอื้อซ่า’ เลือกตั้งครั้งหน้าแซง ปชน.ชัวร์!
 
ในวาระครบรอบ 48 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 โศกนาฏกรรมสังหารหมู่กลางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการปราบปรามนักศึกษา ประชาชนที่มาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านการกลับมาของ จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกขับไล่ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ เครือข่ายนักศึกษาจัดงานรำลึกครบรอบ 48 ปี 6 ตุลาฯ 2519 ร่วมกับ ชมรมโดมรวมใจ จัดงานรำลึกครอบรอบ “6 ตุลาฯ กระจกส่องสังคมไทย” ระหว่างวันที่ 5-6 ตุลาคมนี้
 
บรรยากาศเวลา 13.00 น. มีการเสวนาในหัวข้อ “เดือนตุลานอกกระแส : บางแง่มุมของขบวนการเดือนตุลาที่ไม่เคยเห็น” โดย นายศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา นักวิชาการด้านแรงงาน และผู้ริเริ่มก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย, นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช., และนางพรพิมล โรจนโพธิ์  นักศึกษาในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ
 
นพ.เหวงกล่าวว่า ในช่วงเวลานั้น ไทยถูกใช้เป็นฐานทัพอเมริกา ให้สัมปทาน อภิสิทธิ์และผลประโยชน์กับอเมริกาจนออกนอกหน้า จึงมีการต่อต้านหลายทาง นำโดย ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.)
 
ในตอนหนึ่ง นพ.เหวง กล่าวถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวของนักศึกษา ประชาชน ที่เข้มข้นมากขึ้น หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งถ้าเราจะทำความเข้าใจ 6 ตุลาฯ สำคัญสุดคือต้องทำความเข้าใจย้อนหลังตั้งแต่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจในปี 2500 เพราะหลังจากนั้น ประเทศถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการ มีมาตรา 17 ที่สามารถประหารชีวิตคนได้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล
 
นพ.เหวงกล่าวว่า ในช่วงนั้น ขบวนการกรรมกร ถูกกดขี่อย่างรุนแรง ทุกข์ยากตลอดมา 16 ปี เช่นเดียวกับภาคเกษตร ที่ถูกกดราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ต้องกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อวัน หลังเกิด 14 ตุลาคม 2516 บรรยากาศเสรีภาพเบ่งบานในไทย จึงมีกรรมกรที่ออกมาเรียกร้องค่าแรงขั้นต่ำเกือบทุกโรงงาน และตลอดทั้งปี มากถึง 3,000-4,000 กรณี ชาวนาทุกหนแห่งลุกขึ้นสู้ เพื่อให้มีการประกันราคาพืชผล อย่างน้อยก็ไม่ให้ขาดทุน ขณะที่ดอกเบี้ย ก็กดให้ต่ำลงเท่ามาตรฐานธนาคาร ‘นักศึกษา: จึงเห็นความจำเป็นในการร่วมสู้ เอาความรู้เข้าไป เช่น ความรู้นิติศาสตร์ ฯลฯ จึงทำให้ฝ่ายขวา กลัวการเคลื่อนไหวของนักศึกษาอย่างมาก แต่ต้องการให้ชีวิตดีขึ้น
 
แต่ขวาจัด พยายามปั่นหัวนักเรียนอาชีวะ ใส่ร้ายป้ายสี ว่าพวก ศนท.จงใจให้ไปตาย (กับ พคท.) ขณะที่พี่ๆ เอาเงินบริจาคไปถลุง เที่ยวซ่องโสเภณี ทำให้อาจชีวะกลุ่มหนึ่งเชื่อกลุ่มขวาจัด จัดตั้งขึ้นมา เพื่อไล่ยิงนักศึกษาฯ ที่ไปปิดโปสเตอร์นัดชุมนุม” นพ.เหวงกล่าว
 
นพ.เหวงกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของสงครามอินโดจีน รุนแรงขึ้น มีฐานทัพถึง 12 แห่ง อู่ตะเภา ตาคลี น้ำพอง สัตหีบ ลพบุรี เกือบทุกภาค กลาง 
เหนือ อีสาน รุนแรง จนแนวร่วมประชาชนปลดปล่อยเวียดนามกระแสขึ้นสูงมาก ฝ่ายขวาก็พยายามหาช่องทำลายมาตลอด จึงยึดเอาการ ‘ขับไล่ฐานทัพ’ เป็นเป้าใหญ่ ซึ่งนักศึกษาชุมุนมเรียกร้องว่าไม่ต้องการให้มีฐานทัพอเมริกันในไทย โดย หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช (นายกฯในขณะนั้น) ก็ผ่อนปรน พยายามคุยกับอเมริกันให้ถอยไป วันที่ 20 มี.ค.2519 ที่มีการชุมนุมใหญ่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ขอใช้เวลา 4 เดือนให้ถอนออกไป แต่นักศึกษาไม่สบายใจ จึงเคลื่อนขบวนไปสถานทูตอเมริกาฯ อีกครั้ง คราวนี้ เมื่อขบวนเคลื่อนผ่าน ก็ระเบิด ตาย 4 ศพทันที จนถอนออกไป มิ.ย.19 ปีนั้นเกิดหลายเหตุการณ์ เวียดนามปลดปล่อย ปลายเดือน เม.ย. ทำให้ฝ่ายขวาจัดกลัวมาก และเชื่ออเมริกัน ว่าถ้ากัมพูชา เวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์เมื่อไหร่ ไทยเป็นเมื่อนั้น แล้วจะลงไปทวีปออสเตรเลียได้เลย ฝ่ายขวาจึงตกใจ และพยายามหาทางทำลาย ขบวนการนิสิต นักศึกษา แต่เขาฉลาดมาก รู้วิธีขุดหลุมล่อ น.ศ. จึงเอาวิธี จอมพลถนอม กิตติขจร บวชเป็นเณรข้ามา
 
ตอนที่แขวนคอช่างการไฟฟ้า ที่กำแพงแดง มันอื้อฉาวมาก ทุกครั้งที่มีการชุมนุมจึงมีการแสดงละคร เพื่อเปิดโปงให้สาธารณชนได้รับทราบ ปรากฏว่ามีสื่อขวาจัด ‘ดาวสยาม’ ไปแต่งภาพ ใส่ร้ายป้ายสี หาว่าในธรรมศาสตร์ มีญวนแดง กินหมา รองเท้าทำด้วยยางรถยนต์ เที่ยวนี้เขาจึงประสบความสำเร็จ เอากองกำลังติดอาวุธเข้ามาปราบ กระสุนนัดแรก M79 ยิงเข้ามาหน้าตึกนิติศาสตร์ จับนักศึกษาคล้องคอด้วยผ้าพันคอลูกเสือชาวบ้าน บ้างก็ลากไปสนามหลวง แขวนคอ เอาเหล็กด้ามตี นักศึกษาชายถูกเอาศพทับกัน 4 ชั้น เอายางรถยนต์ทับแล้วจุดไฟเผา เพื่อนๆ ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด บางคนถูกข่มขืนจนตาย เอาขวดน้ำอัดลม ตีขอบฟุตปาธให้แตก แล้วเอาแทงเข้าไปในช่องคลอด” นพ.เหวงกล่าว
 
ในช่วงท้าย นพ.เหวงกล่าวว่า ในการเคลื่อนไหวเราต้องค้นหาความขัดแย้งของสังคมให้เจอ และต้องรู้ว่าใครคือ มิตรและศัตรู อย่าผลักมิตร แต่ต้องรู้เป้าหมายและปฏิปักษ์
 
วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง ไม่มีสงครามเย็น ค่ายสหภาพโซเวียด หรือค่ายเสรีนิยมแล้ว จักพรรดินิยมหายไปแล้ว หลัง 6 ตุลาคม 2519 เป็นต้นมา ฝ่ายขวาจัด ยึดครองอำนาจรัฐมาตลอด บางครั้งใช้อำนาจในรัฐสภา บ้างก็ทหารโดยตรง
 
นพ.เหวงกล่าวว่า พรรคเพื่อไทย อ้างว่า มีความจำเป็นในการข้ามขั้ว เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ตุลาคม 2567 ค่าไฟยังแพงหูฉี่ ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่รู้ว่ารายต่อไปจะแจกได้หรือเปล่า เท่ากับว่าตอนนี้บริหารโดย ‘รัฐบาลฝ่ายขวา
 
ดังนั้น ที่คุณบอกจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย สำหรับผมไม่เชื่อ ประเด็นสุดท้าย สำหรับผม ความขัดแย้งตอนนี้  เกิดขึ้นเพราะความต้องการอำนาจอธิปไตยให้กลับมาเป็นของประชาชนจริงๆ” นพ.เหวงกล่าว
 
นพ.เหวงกล่าวต่อว่า เรารำลึกมา 48 ปีแล้ว อยากเชิญชวนพี่น้องทั้งประเทศ ช่วยกันคิดว่า จะทำอย่างไรถึงจะ ‘หยุดทหารไม่ให้ฆ่าประชาชนกลางเมืองอีกต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่