JJNY : หลั่งไหลรำลึก 6ตุลา│น้ำท่วม เกษตรเสียหาย1หมื่นล.│‘พท.’โวคะแนนนิยมพุ่งทุกภาค│กัมพูชาไม่เชิญเมียนมาประชุมอาเซียน

หลั่งไหลรำลึก 6 ตุลา ติดภาพวีรชนหน้าหอประชุม มธ. แจกหนังสือ 'เราไม่ลืมจารุพงษ์'
https://www.matichon.co.th/politics/news_3601968
 
 
หลั่งไหลรำลึก 6 ตุลา ติดภาพวีรชนหน้าหอประชุม มธ. แจกหนังสือ ‘เราไม่ลืมจารุพงษ์’
 
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ลานประติมานุสรณ์ 6 ตุลา 2519 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือข่ายนักศึกษาจัดงาน 6 ตุลา จัดกิจกรรม ‘รำลึก 46 ปี 6 ตุลา ตามหาอยุติธรรม’
 
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเมื่อเวลาราว 06.30 น. ประชาชนรวมถึงบุคคลในแวดวงต่างๆ ทยอยเดินทางรอร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายสุธรรม แสงประทุม อดีตเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย, ศาสตราจารย์ ดร. ธงชัย วินิจจะกูล ม.วิสคอนซิน-แมดิสัน สหรัฐอเมริกา, นางสาวมณทกานติ รังสิพรหมณกุล อดีตพิธีกรชื่อดัง, นางศรีไพร นนทรีย์ และนางสาวธนพร วิจันทร์ ตัวแทนเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, นายธานี จิริยสิน กลุ่มเพื่อน ‘จารุพงษ์ ทองสินธุ์’ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว, นางสาวณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือแหวน พยาบาลอาสา และนักกิจกรรมทางการเมือง, นางวิภา ดาวมณี เครือข่ายคนเดือนตุลา, ผศ.ดร.อดิศร จันทรสุข คณบดี คณะวิทยาการเรียนรู้ฯ มธ., นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เป็นต้น
 
เวลาราว 06.45 น. กลุ่มนักศึกษานำภาพถ่ายผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวติดบนป้ายหอประชุม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีการเปิดเพลง ‘เพื่อมวลชน’ ผลงาน ‘จิ้น กรรมาชน’
 
ระหว่างนี้ กลุ่มองค์กรต่างๆ ส่งพวงหรีดเข้าร่วมรำลึกอย่างต่อเนื่อง อาทิ พรรคเพื่อไทย, มูลนิธิจิตร ภูมิศักดิ์, มูลนิธิ 14 ตุลา, มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม, สโมสร ’19 อีสานใต้, คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35, มูลนิธิไชยวนา, มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, มูลนิธิกระจกเงา, กลุ่มศิลปะปลดแอก
 
ภายในงานมีการตั้งโต๊ะลงทะเบียนรับหนังสือที่ระลึก 46 ปี 6 ตุลา ‘เราไม่ลืมจารุพงษ์’ โดยมีผู้สนใจต่อแถวรับเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการตั้งจุดลงทะเบียนร่วมกิจกรรม ‘Walking Tour’ ชมจุดต่างๆ ในประวัติศาสตร์ 6 ตุลาภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์



กกร.ประเมินน้ำท่วม ภาคการเกษตรรับผลกระทบเสียหาย 1 หมื่นล้านบาท
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3601650

โดยที่ประชุมคณะกรรมการภาคเอกชนร่วม 3 สถาบัน หรือ กกร.วันนี้ เป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในหลายจังหวัด เนื่องจากกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ ขณะที่ภาคการเกษตรได้ผลกระทบในพื้นที่เพาะปลูกข้าว โดยคาดการณ์ความเสียหายทั้งประเทศ ประมาณ 5,000 ถึง 10,000 ล้านบาท
  
อย่างก็ตาม จะไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจมากนัก โดย กกร.ได้ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจปีนี้ โตในกรอบ 3% ถึง 3.5% ซึ่งดีขึ้นกว่าประมาณการณ์ครั้งก่อนที่ 2.75% ถึง 3.5% หลังการท่องเที่ยวฟื้นตัวดีกว่าที่คาดไว้ คาดทั้งปี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีโอกาสแตะ 10 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจ้างงานและรายได้ของแรงงาน แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และอาจกระทบการส่งออก รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือน และความเสี่ยงต่อรายได้ภาคเกษตรจากภาวะน้ำท่วม
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/0pupB6NoVFs

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

 
‘เพื่อไทย’ โวพรรคทำโพล คะแนนนิยมพุ่งทุกภาค ใต้เรตติ้งขยับขึ้นมาเลขสองหลัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_3601991

“เพื่อไทย” โวพรรคทำโพลคะแนนนิยมพุ่งทุกภาค ภาคใต้เรตติ้งขยับขึ้นมาเลขสองหลัก ชี้ชาวปักษ์ใต้ยอมรับมากขึ้น
 
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดโครงการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งและนโยบายพรรค โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. พร้อมด้วยแกนนำพรรค ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครเข้าร่วมรับฟังกันอย่างคับคั่ง
 
นพ.ชลน่านกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศว่าได้เข้าสู่การเลือกตั้งอย่างสมบูรณ์แบบเสมือนมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งเราสามารถหาเสียงได้ จึงได้เชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และ ส.ส.มาฟังการบรรยาย ขณะนี้ทางพรรคได้ตั้งตัวคณะกรรมการสรรหา ไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว แม้พรรคประกาศให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร แต่หากทำไพรมารีโหวต ไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะเชิญมาพูดคุยปรับรูปแบบการทำงาน หากคะแนนยังไม่ดี พรรคขอสงวนสิทธิ์ที่จะพิจารณาหาผู้ที่มีความเหมาะสมแทน เพราะหลายพื้นที่มีการต่อสู้หนักมากที่เราอาจยังไม่ได้รับความนิยม กระแสนิยมของพรรค พท.ทั้งจากสำรวจทางตรงและทางโพล เราได้รับความไว้วางใจจากทุกภูมิภาค แม้แต่ภาคใต้คะแนนนิยมขยับขึ้นมาเป็นเลขสองหลัก ถึงร้อยละ 17-19 แสดงว่า เราได้รับการยอมรับมากขึ้น และขอให้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมในหลายพื้นที่
 
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ กกต.ทบทวนระเบียบที่ออกมา ขณะที่ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อย่ากลัวจนทำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่เพียงแค่เราต้องแข่งขันกับคู่แข่ง แต่เราต้องแข่งกับตัวเอง ไม่เช่นนั้นอาจไม่ได้แพ้ต่อพี่น้องประชาชน เพราะคนตัดสินคือประชาชน หวังว่าหลายคนจะได้รับความรู้จากเวทีนี้ ขอให้เราร่วมสู้ จะทำให้พรรค พท.เป็นสถาบันการเมือง เป็นพรรคที่ประชาชนให้การยอมรับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่