JJNY : 'สนธิ'ประกาศ'ไล่รัฐบาล'ปีหน้า│ชัยธวัชไม่เห็นด้วยเลื่อนถกนิรโทษ│ลุยน้ำแจกอาหาร-ยา อ.สารภี│ปูตินสั่งเกณฑ์ทหารเพิ่ม

'สนธิ' ประกาศ เดินครั้งสุดท้ายในชีวิต ลงถนน 'ไล่รัฐบาล' ปีหน้า
https://prachatai.com/journal/2024/09/110890

“สนธิ ลิ้มทองกุล” ประกาศปีหน้าหากรัฐบาลทำอะไรไม่เข้าที่เข้าทางจะรวบรวมมวลชนลงถนนขับไล่รัฐบาล ให้เป็นการเดินครั้งสุดท้ายในชีวิต พร้อมเตรียมหาตัวคนที่ลอบยิงตนเองเมื่อปี 52

30 ก.ย. 2567 สำนักข่าวเดอะสแตนดาร์ดรายงาน สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศผ่านยูทูป “Sondhitalk” เดินครั้งสุดท้ายในชีวิต ลงถนนไล่รัฐบาล โดยสนธิโพสต์คลิปวิดีโอ “3 เงื่อนไขของสนธิ ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 3

สนธิประกาศต้นปีหน้าจะทำ 3 เรื่อง ดังนี้

1. ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ติดตามเรื่องที่ตนถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2552 และยังหาคนร้ายไม่ได้
2. ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงมีชาวพม่ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก และขอให้ยืนยันว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เฉพาะแรงงานไทยเท่านั้น ไม่นับรวมแรงงานพม่า
3. ภายในประมาณไตรมาสแรกของปีหน้า หากรัฐบาลทำอะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทาง หรือผิดจริยธรรม จะรวบรวมมวลชนออกมาขับไล่รัฐบาล 



ชัยธวัช ไม่เห็นด้วย รบ.เลื่อนถกนิรโทษ ชี้ 3 เหตุผล ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4820446
 
ชัยธวัช ไม่เห็นด้วย รบ.เลื่อนถกนิรโทษกรรม ยก 3 เหตุผล ชี้ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม 

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก เรื่อง [ทำไมไม่ควรเลื่อนการพิจารณารายงาน กมธ. นิรโทษกรรม] โดยมีเนื้อหาดังนี
 
เดิมในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ มีวาระที่ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมือง จะต้องนำเสนอรายงานผลการศึกษาต่อสภาผู้แทนราษฎร
 
แต่ปรากฏว่า เย็นวันนี้ (30 ก.ย.) ผมได้ทราบว่า คุณชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กมธ. วิสามัญดังกล่าว ได้ตัดสินใจร่วมกับวิปปรัฐบาล ขอเลื่อนวาระการพิจารณารายงานเรื่องนิรโทษกรรมออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า ควรนำเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมไปหารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคให้ตกผลึกก่อน เพราะหากไม่รับฟังความเห็นของพรรคการเมืองต่างๆ ก่อนจะทำให้การผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมไม่สำเร็จ
 
แน่นอนว่า เรื่องนิรโทษกรรมนั้น ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างพรรคการเมือง และประชาชนกลุ่มต่างๆ แต่เอาเข้าจริงโดยรวมแล้ว สังคมก็เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้แก่คดีการเมืองเพื่อสร้างความสมานฉันท์ จากความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ก่อนกาารัฐประหารปี 2549 ดังนั้น สังคมไทยจึงค่อนข้างตกผลึกแล้วว่าควรมีการนิรโทษกรรมคดีการเมืองในช่วงความขัดแย้งเหลือง-แดง รวมถึงคดีการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงหลังการรัฐประหาร 2557 มาจนถึงการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่นับหลังปี 2563
 
ส่วนประเด็นที่ยังเห็นต่างกันอยู่อย่างมีนัยสำคัญนั้น
 
คือ จะนิรโทษกรรมคดี 112 ด้วยหรือไม่ และอย่างไร ซึ่งนี่คงเป็นประเด็นอ่อนไหวที่พรรคแกนนำรัฐบาลกังวลจนตัดสินใจขอเลื่อนการพิจารณารายงานกมธ. นิรโทษกรรมออกไปก่อน เพื่อไม่ก่อให้เกิดประเด็นทางการเมืองมากระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเพิ่มเติมอีก
 
แม้จะเข้าใจความกังวลของพรรคแกนนำรัฐบาล และเข้าใจดีว่า หากเราต้องการจะเห็นการนิรโทษกรรมคดีการเมืองเกิดขึ้นได้จริงๆ ก็จำเป็นต้องแสวงหาความเห็นพ้องต้องกันในสภา และในสังคมไทยด้วย แต่ผมกลับเห็นว่า เราควรเดินหน้านำรายงานของ กมธ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯ โดยเร็ว ไม่ใช่เลื่อนการเสนอรายงานออกไปอีก

ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
(1)
รายงานของกมธ. วิสามัญนิรโทษกรรม ยังไม่ได้เป็นการนำเสนอ “ร่างกฎหมาย” ให้สภาพิจารณา แต่เป็นเพียงการเสนอผลการศึกษา “แนวทางการตรากฎหมาย” นิรโทษกรรมคดีการเมืองเท่านั้น ซึ่งในรายงานดังกล่าวได้รวบรวมความเห็นและข้อเสนอที่แตกต่างกันไว้อย่างรอบด้าน เพื่อเป็นทางเลือกเชิงนโยบายให้สภาและพรรคการเมืองนำไปพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละแนวทาง ไม่ใช่รายงานที่จะนำเสนอแนวทางการนิรโทษกรรมเพียงแนวทางในแนวทางหนึ่งเท่านั้น
(2)
ดังนั้น พรรคแกนนำรัฐบาลไม่ควรกังวลจนเกินไป ตรงกันข้าม การพิจารณารายงานแนวทางการนิรโทษกรรมในสภาจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่พรรคการเมืองต่างๆ
จะได้ฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงความเห็นของกลุ่มต่างๆ ในสังคม เพื่อนำไปสู่การพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของรัฐบาลเองหรือของพรรคต่างๆ ให้ “ตกผลึก” ต่อไป การเลื่อนการนำรายงานนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาออกไปอีก จะทำให้เราเสียโอกาสที่เป็นจุดเริ่มต้นอันดีนี้
(3)
และที่ยิ่งไม่ควรเลื่อนการพิจารณารายงานนิรโทษกรรมออกไปอีก ก็เพราะขณะนี้มีร่างกฎหมายนิรโทษกรรม (ซึ่งเสนอก่อนตั้ง กมธ. วิสามัญ) จ่อเข้าสภาอยู่แล้ว 4 ฉบับ ได้แก่ ร่างของ ส.ส.(อดีต)พรรคก้าวไกล, ร่างของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคครูไทยเพื่อประชาชน, ร่างของ ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และร่างของภาคประชาชนที่ร่วมกันเข้าชื่อเสนอต่อสภาฯ ซึ่งร่างกฎหมายเหล่านี้ มีโอกาสเข้าสู่สภาเร็วที่สุดคือปลายสมัยประชุมในเดือนตุลาคมนี้ หรือไม่ก็ต้นสมัยประชุมหน้า กลางเดือนธันวาคม 67 เป็นต้นไป
ดังนั้น สภาจึงควรรีบพิจารณารายงาน กมธ.นิรโทษกรรมโดยเร็ว แล้วนำไปสู่การหาข้อสรุปและทำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับรัฐบาล และฉบับของพรรคต่างๆ (แม้กระทั่งพรรคประชาชนก็อาจเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเพิ่มอีกฉบับเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอในรายงานกมธ.) เพื่อให้ทันกับการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่กำลังจ่อจะเข้าสู่สภาอยู่แล้ว
สุดท้าย ผมหวังว่า พรรครัฐบาลจะรีบนำรายงานศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมือง กลับมาสู่การพิจารณาของสภาโดยเร็ว เพื่อเปิดประตูไปสู่ความสมานฉันท์ครั้งใหม่ของสังคมไทย และคืนความยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากจากคดีความอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

ความยุติธรรมที่ล่าช้า
คือความอยุติธรรม
 
https://www.facebook.com/ChaithawatTulathon/posts/pfbid0262b5aezWti2YTzuEBTZHCgs6fLTCjnCJAiyBSPmQstLJEtsg7i4CyHjVPRQHjSfol
 


ลุยน้ำแจกอาหาร-ยา ผู้ประสบภัย อ.สารภี น้ำท่วม 6 วัน สูงระดับเอว-คอ เริ่มเน่าเสีย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9438479

เชียงใหม่ พระครูอ๊อด ลุยน้ำแจกอาหาร-ยาสามัญประจำบ้าน ช่วยผู้ประสบภัย พื้นที่ อ.สารภี น้ำท่วมนาน 6 วัน สูงระดับเอว-คอ ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เริ่มเน่าเสีย

1 ต.ค. 67 – พระครูอ๊อดวัดเจดีย์หลวงจังหวัดเชียงใหม่และเครือข่ายลงพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองแฝกอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
 
โดยได้เตรียมข้าวกล่อง น้ำดื่ม อุปกรณ์เครื่องใช้ และอาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับหมาแมว ลงพื้นที่แจกในพื้นที่ ซึ่งพบว่า ขณะนี้ในพื้นที่น้ำท่วมมาแล้ว 6 วัน ซึ่งขณะนี้น้ำเริ่มเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็นส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตของผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม
 
โดยท่านพระครูอ๊อดได้ลงพื้นที่ไปพบพี่น้องชาวบ้านในแต่ละหมู่บ้านและหลังคาเรือนเพื่อให้กำลังใจพร้อมทั้งมอบ ข้าวกล่องและน้ำดื่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ข้าวกล่องได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิองค์กรทำดีครัวกลางของ คุณบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ซึ่งมีครัวกลางอยู่ที่เทศบาลตำบลหนองหอยอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ กระจายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่พร้อมทั้งได้มีสิ่งของฐานน้ำใจจากพี่น้องชาวอมก๋อยนำทีมโดยพ่อนาล่าได้ลงพื้นที่นำมาแจกจ่ายด้วยตัวเอง
 
โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ท่านพระครูอ๊อดวัดเจดีย์หลวงจังหวัดเชียงใหม่ยังให้ความสำคัญต่อสุขภาพพี่น้องประชาชนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมซึ่งขณะนี้น้ำท่วมขังค่อนข้างที่จะสูงบางจุดระดับเอวบางจุดระดับคอ ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
 
ดังนั้นยาสามัญประจำบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นซึ่งทางด้านพระครูวัดเจดีย์หลวงจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ยารักษาโรคชุดพื้นฐานเพื่อเพื่อช่วยผู้ประสบภัยโดยจัดทำเป็นชุดและแจกจ่ายไปยังพี่น้องประชาชนให้ทั่วถึงทั้งพื้นที่
 
ในช่วงนี้ที่วัดเจดีย์หลวง ด้วยความเมตตาธรรมจากท่านพระครูอ๊อด ยังเปิดโรงครัวเพื่อทำกับข้าวกล่องเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง และเป็นจุดที่ส่งมอบผักสดช่วยโรงครัวผลิตอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในทุกพื้นที่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่