JJNY : 5in1 ‘ศุภณัฐ’จี้กทม.แจง│‘กัณวีร์’ เตรียมตั้งกระทู้ถาม│ชี้เหตุคาร์บอมบ์│ชูศักดิ์หวั่นแก้รธน.สะดุด│ไต้หวันเตือนภัย

‘ศุภณัฐ’ จี้ กทม.ชี้แจงด่วน แฉ 9 พิรุธเช่ารถขยะไฟฟ้า รายเดียวชนะ 4 สัญญา ขรก.ลาออกหนีคดี
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/418863
 
 
‘แบงค์ ศุภณัฐ’ จี้ กทม.ชี้แจงด่วน แฉ 9 พิรุธเช่ารถขยะไฟฟ้า รายเดียวชนะ 4 สัญญารวด ข้าราชการกลัวโดนอาญา ลาออกหนีตาย ถามมีธงไว้แล้วใช่หรือไม่ ทำไมอยากได้แต่รถไฟฟ้า งงคนกล้าซื้อ รถขยะ 1.5 พันล้าน มาปล่อยเช่าแลกสัญญา 241 ล้านบาท?

วันที่ 30 ก.ย. 2567 นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพเอกสารของ สำนักงานจัดการมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมข้อความว่า 
 
9 ข้อพิรุธ สัญญาเช่ารถขยะไฟฟ้า กทม. 241 ล้าน - ใช้วิธีคัดเลือกเชิญแค่บางราย เข้าเสนอราคา (ไม่ทำ e-bidding) - สรุปมี “รายเดียว” ที่เสนอราคาเข้าคัดเลือก จนชนะไปเลย 4 สัญญารวด - ซ้ำร้ายจนข้าราชการลาออก หนีตาย กลัวโดนคดีอาญา ขอยกเลิกนิติกรรมย้อนหลังทั้งหมด

ขอให้ กทม.ชี้แจงด่วน จากวันที่ 26/9/24 ที่ผ่านมา กทม.เพิ่งประกาศผู้ชนะ สัญญาเช่า รถขยะไฟฟ้า 270 วัน รวม 470 คัน วงเงิน 241 ล้านบาท ด้วยวิธีการ “คัดเลือก” (ไม่ทำ e-bidding) จนได้ผู้ชนะ เป็นบริษัทเดียวกันทั้ง 4 สัญญา ซึ่งทั้งข้าราชการ และคนในวงการประสานมาหาผม เพราะพบพิรุธส่อทุจริต หลายเรื่อง

1) ที่มาของการตั้งงบการเช่ารถขยะไฟฟ้า ระยะเวลา 270 วัน จำนวน 470 คัน โดย กทม. ได้สืบราคาโดยทำหนังสือถึง 10 บริษัท เพื่อให้เสนอราคาเพื่อมาทำราคาในการของบ ส่งหนังสือวันที่ 1/5/67 เพื่อให้เสนอราคาภายใน 9/5/67 แต่มี 1 บริษัท เหมือนรู้ล่วงหน้าทำหนังสือเสนอราคาตั้งแต่ 30/4/67

ไม่เพียงแค่นั้น บอกให้เอกชนเสนอถึง 9/5/67 แต่พอวันที่ 3/5/67 ปิดจบการเสนอราคา เจ้าหน้าที่เอาใบเสนอราคา 3 เจ้าไปทำราคาเพื่อของบเรียบร้อย ทำให้ราคาเจ้าอื่นที่อาจจะเสนอราคาต่ำกว่า ไม่เข้าพิจารณาตั้งงบประมาณ ทำให้งบประมาณราคาสูงกว่า เพราะการแข่งขันน้อยกว่า ทำให้ประเทศเสียหายทันที

2) ตอนขอราคาไป ขอให้เสนอราคารถดีเซลล์ หรือรถไฟฟ้าก็ได้ แต่ตอนทำเรื่องของบกลาง ไม่ทำ 2 แบบ แต่ตัดรถดีเซลล์ทิ้ง จะเอาแค่รถขยะไฟฟ้าเท่านั้น จนผู้ประกอบการสงสัย กทม.มีธงไว้หรือไม่ ว่าจะต้องเช่ารถขยะไฟฟ้า ให้ได้ และจงใจจะไม่เอาผู้ประกอบการรถดีเซลล์ใช่ไหม

3) เมื่อได้งบมาแล้ว ต้องจัดทำราคากลางใหม่อีกรอบ เพราะรอบที่แล้วเป็นเสนอราคาตั้งงบ แต่รอบนี้เป็นราคากลางเพื่อจะจัดหารถ ซึ่งทาง กทม.ได้ทำหนังสือ เชิญเฉพาะบางบริษัท เพื่อให้เสนอราคากลาง โดยในร่าง TOR ประกอบการเสนอราคา กทม.เขียนว่า ให้บริษัทเสนอราคาสำหรับเช่ารถ 270 วัน โดยให้ส่งมอบภายใน 30 วันหลังเซ็นสัญญา จนคนในวงการสงสัย จะประกอบรถให้ทันได้ไง ใน 30 วัน แต่บังเอิญ กทม. สามารถ หาบริษัท เสนอราคา ได้ 3 เจ้าพอดี

4) แต่ทว่าเมื่อได้ราคากลางแล้ว กทม.ได้ทำการ “เชิญบางราย” เพื่อ “คัดเลือก” เท่านั้น ไม่ได้เปิดกว้าง ไม่ได้ e-bidding สุดท้ายมี “แค่เจ้าเดียว” ที่ยื่นเสนอราคา ทำให้ชนะรวด 4 สัญญา 241 ล้าน ไม่ต้องแข่งกับใคร ที่งงคือ อีก 2 เจ้าที่เพิ่งให้ใบเสนอราคากลางมาเป็นคู่เทียบ ครบ 3 เจ้า ทำไมไม่เสนอราคาแข่ง แต่ตอนเสนอราคามาเป็นคู่เทียบ 3 เจ้ากลับเสนอ

5) ยิ่งไปกว่านั้น การที่ไปเชิญบางรายเพื่อคัดเลือกนั้น ตามหลักการคือ ต้องเป็นเจ้าที่มีศักยภาพสูง ไม่งั้นจะไปเชิญทำไม แต่ทำไม “คณะกรรมการเช่าโดยวิธีคัดเลือก” ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาหรือไม่ เพราะไปเลือกเชิญ บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท รายได้ทั้งปี 1.8 ล้าน และไม่ได้จดวัตถุประสงค์บริษัทว่า ประกอบกิจการด้านการให้เช่ารถบรรทุกขยะ แต่ทำไม กทม.ตรัสรู้ ว่าต้องไปเชิญบริษัทนี้มาร่วมคัดเลือก?

6) หลังประกาศผู้ชนะ 26/9 วันรุ่งขึ้น 27/9 เจ้าหน้าที่ที่นั่งคณะกรรมการฯ ขอลาออก และยกเลิกนิติกรรมทั้งหมดย้อนหลัง เพราะกลัวจะโดนคดีอาญา แต่ทำไม กทม.ถึงกล้าจะเซ็นสัญญาอยู่ดี ทำไมไม่ตรวจสอบ?

7) อย่างที่แจ้งไปในข้อ 3 เราต้องเข้าใจว่า รถขยะไฟฟ้า เป็นรถเฉพาะกิจ ไม่ได้มีพร้อมขายสำเร็จรูป ต้องใช้เวลา สั่งรถและนำไปประกอบ หากจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศทั้งคัน กว่าจะผลิต ขนส่งทางเรือ ผ่านศุลกากร จดทะเบียน เป็นการยากมากที่จะส่งมอบรถ ได้ทัน ภายในระยะเวลาเพียง 30 วัน และหากจะบอกว่ารถขยะไฟฟ้าที่เสนอมาเป็นรถเก่า ก็คงต้องให้ชี้แจงว่า รถขยะไฟฟ้าทั้ง 470 คัน มีการนำเข้ามาวันที่เท่าไหร่ จดทะเบียนเมื่อไหร่ และนำไปใช้งานอะไร และด้วยกฎหมายไม่ให้นำเข้ารถบรรทุก มือ 2 แล้วจะไปหารถ มือ 2 จากไหน ในเมื่อในไทยไม่มีใครใช้รถขยะไฟฟ้า และถ้ารถมือ 1 จะไปประกอบไงทัน ถ้าไม่สั่งของไว้ก่อน?

ทำไมถึงมีคนกล้าซื้อ รถขยะมูลค่า 1,500 ล้าน มาปล่อยเช่าแลกกับสัญญา 241 ล้านบาท?

9) ตอนทดสอบรถขยะเมื่อสิ้นปี 66 เกิดไฮโดรลิครถพังกลางทาง และคนที่ดูแลเรื่องการทำสอบ กลับเป็น กรรมการบริษัทเอกชน ที่เข้ารับการทดสอบด้วย conflict o finterest หรือไม่

เท่าที่ทราบตอนนี้ ผู้บริหาร กทม. ลอยตัว เพราะโยนให้ข้าราชการ เซ็นสัญญาทั้ง 4 สัญญาแทน โดยวันนี้ จะมีการเตรียมเซ็นสัญญาลงนาม กับบริษัท “เจ้าเดียว” ที่ชนะการคัดเลือกทั้ง 4 สัญญารวด และจากพิรุธมากขนาดนี้ ผู้บริหาร กทม. คงจะปฎิเสธ ไม่รู้เรื่องไม่ได้แล้ว เพราะเป็นต้นเรื่อง จะเอารถขยะไฟฟ้าให้ได้

และเรื่องนี้ ป.ป.ช. ก็มีหนังสือแจ้งถึงพฤติกรรมส่อทุจริตมาโดยตลอด ที่สำคัญ ถ้าโครงการนี้มีการฟ้องร้องจนไม่สามารถจัดเช่ารถไฟฟ้าได้ทัน คน กทม.จะเจอวิกฤตไม่มีรถเก็บขยะ แล้ว กทม.จะทำอย่างไร เพราะสัญญารถขยะเดิมจะหมดลงในปีนี้

https://www.facebook.com/suphanat.minchaiynunt/posts/493073337061308


 
‘กัณวีร์’ เตรียมตั้งกระทู้ถามนายกฯ เรื่องสันติภาพชายแดนภาคใต้ ย้ำรบ.อย่าเมินเฉยกับความรุนแรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4820302

‘กัณวีร์’ เตรียมตั้งกระทู้ถามนายกฯ เรื่องสันติภาพชายแดนภาคใต้ ย้ำรบ.อย่าใส่เกียร์ว่าง เมินเฉยกับความรุนแรง

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 67 นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุคาร์บอมบ์หน้าบ้านพักนายอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้ ซึ่งนายอำเภอปลอดภัย แต่มีทหาร 2 นาย ที่มีฐานทหารอยู่ใกล้กันบาดเจ็บ และบ้านเรือนพี่น้องประชาชนเสียหายหลายหลัง

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ต้องขอประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น และยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ซึ่งความสูญเสียที่เกิดขึ้นทุกวินาที เป็นเหตุผลว่า ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

รัฐบาลต้องไม่ใส่เกียร์ว่างในการสร้างสันติภาพชายแดนใต้ อย่างที่เป็นอยู่ ในขณะที่เกิดเหตุรุนแรงกลางเมืองตากใบ สัปดาห์ที่แล้วก็มึเหตุเผา-ปล้นปืน ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ในขณะที่ประชาชนก็กำลังจับตาการติดตามตัว จำเลย/ผู้ต้องหาคดีตากใบมาดำเนินคดีก่อนหมดอายุความในอีก 26 วันข้างหน้า

นายกัณวีร์ กล่าวด้วยว่า อย่างที่ได้ให้ความเห็นไปก่อนหน้านี้ว่า งานด้านความมั่นคงต้องปฏิรูปใหม่ จะให้ใครมาทำงานเพื่อรับใช้การเมือง คงไม่ได้อีกแล้วรัฐบาลต้องจริงใจมากกว่า โดยเฉพาะการแต่งตั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่

นายกัณวีร์ เปิดเผยด้วยว่า จะตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสัปดาห์นี้ ถึงการให้ความสำคัญกับนโยายสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีการเกิดเหตุความรุนแรงในช่วงนี้ รวมถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวจำเลยและผู้ต้องหาคดีตากใบ มาดำเนินคดีก่อนคดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.2567 นี้.



ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์ฯ ชี้เหตุคาร์บอมบ์ สัญญาณเตือนชัด แนะนายกฯ เร่งจับจำเลยคดีตากใบ ลดเงื่อนไขไฟใต้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4819285

ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์ฯ ชี้เหตุคาร์บอมบ์ สัญญาณเตือนชัด แนะนายกฯ เร่งจับจำเลยคดีตากใบ ลดเงื่อนไขไฟใต้ 

จากกรณีที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ ใกล้กับบ้านพักของนายอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า เงื่อนไขแรงจูงใจในการก่อเหตุอาจโยงกับคดีตากใบ ที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้นั้น

ล่าสุด (30 ก.ย.) นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย ได้โพสต์ผ่านแอพพลิเคชั่น X แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า 
 
ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า บีอาร์เอ็น เตรียมยกระดับความรุนแรงช่วงใกล้ครบรอบ 20 ปี “สังหารหมู่ตากใบ” ในวันที่ 25 ตุลาการ ซึ่งคดีกำลังจะหมดอายุความ โดยเอาผิดอดีตแม่ทัพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ 

ทั้งนี้ การก่อการร้ายรูปแบบเดิมๆ บีอาร์เอ็น ปล้นรถมาดัดแปลงเป็นคาร์บอมบ์ สร้างอันตรายอย่างเหวี่ยงแห ไม่เลือกว่า เป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่ หรือพลเรือน ขัดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม 

ดังนั้น นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร (ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจ) สามารถลดเงื่อนไข ไฟใต้ ได้ โดยออกคำสั่งให้ตำรวจเร่งจับตัวจำเลยคดีตากใบ (รวมทั้ง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส.พรรคเพื่อไทย) มาขึ้นศาลก่อนจะสิ้นสุดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้

https://x.com/sunaibkk/status/1840492967028728118



ชูศักดิ์ หวั่นไทม์ไลน์ แก้รธน.สะดุด หลังส.ว.คว่ำร่างส.ส. แนะหน.พรรคร่วม จับเข่าคุย วางกรอบให้ชัด
https://www.matichon.co.th/politics/news_4820102

ชูศักดิ์ หวั่นไทม์ไลน์แก้รธน.สะดุด หลังสว.คว่ำร่างสส. แนะหน.พรรคร่วม จับเข่าคุย วางกรอบให้ชัด
 
เมื่อเวลา 13.06 น.วันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีว่าการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อีกครั้งกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมวุฒิสภา โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงส่วนใหญ่ต้องการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ไม่เห็นด้วยกับการใช้เสียงข้างมาก แต่ให้ใช้วิธีเสียงข้างมาก 2 ชั้น ว่า จะต้องให้วุฒิสภามีมติหลังจากได้ส่งรายงานไปแล้ว จากนั้น กรรมาธิการจะมาพิจารณาว่าเห็นชอบอย่างไร ถ้าเห็นว่าควรกลับไป 2 ชั้น ซึ่งต่างจากสภาผู้แทนฯ ต้องมาพิจารณากันดู และอาจมีคณะกรรมาธิการร่วม ถ้าเป็นแบบนี้กฎหมายประชามติจะช้าออกไปและกระทบไทม์ไลน์แก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอน จากที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จะต้องทำประชามติ พร้อมกับการเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ถ้าไม่ทันแสดงว่ากฎหมายนั้นต้องแยกไปพิจารณา ทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้คือตัวแทนพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ควรหารือร่วมกันว่าท้ายสุดจะเป็นอย่างไร
 
นายชูศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้มีข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อให้ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยให้เขียนว่า สามารถที่จะเสนอญัตติจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ ถ้าผ่านสภาก็สามารถทำประชามติได้ทันที ขณะเดียวกันมีความเห็นจากนักวิชาการว่า สามารถทำประชามติ 2 ครั้งได้ ไม่ต้อง 3 ครั้ง ทางออกขณะนี้คือให้หัวหน้าพรรคคุยกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นนโยบายรัฐบาลควรเดินอย่างไร ในเมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำประชามติ 2 ครั้ง ถือเป็นการข้ามขั้นตอนหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้า และหากจะเดินหน้าจะเดินอย่างไรและมีทางเลือกอย่างไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่