ตอนนี้กลุ่มทุนจีน บุกตลาดไทยอย่างหนักทำให้ในหลายๆภาคส่วนได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผักผลไม้จีนทะลักเต็มตลาดสดโคราช แม่ค้าเผยคุณภาพดี สีสันสวยงามและราคาถูกกว่าไทยเท่าตัว ระบุสั่งซื้อสินค้าจีนเข้ามาจากฝั่ง สปป.ลาวที่ขนส่งมาจากจีนทางรถไฟความเร็วสูงและขนถ่ายข้ามชายแดนเข้าอีสานใช้เวลาแค่ 1 วัน เกษตรกรไทยอ่วมหนักได้รับผลกระทบเต็มๆ
วันนี้ (14 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจโซนขายผัก ผลไม้ ภายในตลาดสดแม่กิมเฮง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นตลาดสดขนาดใหญ่กลางเมืองโคราช หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) พบว่ามีการนำผักและผลไม้จากประเทศจีนมาขายกันอย่างคึกคัก โดยแหล่งข่าวระบุว่า ในส่วนสินค้าผักผลไม้ที่มาจากประเทศจีน จะมีการสั่งเข้ามาจากฝั่ง สปป.ลาว ที่ขนส่งจากจีนมาทางรถไฟความเร็วสูงและขนถ่ายสินค้าผ่านชายแดนส่งเข้ามาประเทศไทยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันก็จะได้รับสินค้าแล้ว
ผลไม้ที่สั่งเข้ามาจากจีนเหล่านี้จะมีการบรรจุใส่ลังพร้อมแผ่นพลาสติกกันกระแทกอย่างดี ทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย และคุณภาพรวมทั้งสีสันของผลไม้จากจีนสวยงามกว่าของไทย อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าเท่าตัวอีกด้วย ผลไม้ที่ได้รับความนิยมสั่งเข้ามาขายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น แอปเปิล, องุ่น, สาลี่ และส้ม เป็นต้น ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งซื้อไปรับประทานและนำไปจัดเป็นกระเช้าผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ในงานพิธีกรรมต่างๆ ที่ต้องการความสวยงามของผลไม้
ขณะที่แผงผักสด ก็มีผักสดจากจีนเข้ามาวางขายปะปนกับผักสดของไทยอยู่หลายชนิดเช่นกัน โดยเฉพาะผักบรอกโคลี, กะหล่ำปลี, พริกหยวก และเห็ดชนิดต่างๆ ซึ่งมีการบรรจุใส่ห่ออย่างดี อีกทั้งราคายังถูกกว่าผักสดของไทยกว่าเท่าตัวเช่นกัน
นางสงัด สาดมะเริง แม่ค้าแผงขายผัก ตลาดแม่กิมเฮง กล่าวว่า ที่ตนต้องสั่งผักสดจากจีนมาขายเนื่องจากว่าผักบางชนิดในไทยขาดตลาด ขณะเดียวกันผักจากจีนจะมีทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี อีกทั้งยังราคาถูกกว่าของไทยด้วย เช่น เห็ดออรินจิ มีการแพกใส่ห่ออย่างดี รับมาจากแม่ค้าคนกลางในราคาห่อละ 10 บาท นำมาขายต่อในราคา 20 บาท พอมีกำไรได้บ้าง ซึ่งตนเองก็ตกใจว่าทำไมผักจากจีนทำต้นทุนได้ต่ำมาก ขนาดตนรับมาจากแม่ค้าคนกลางยัง 10 บาท ถ้าต้นทุนจากแหล่งผลิตน่าจะ 4-5 บาท แถมยังมีการแพกใส่ห่ออย่างสวยงามอีกด้วย ซึ่งเกษตรกรบ้านเราคงจะทำต้นทุนต่ำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน เพราะต้นทุนการเพาะปลูก ไม่ว่าจะเป็นค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน และค่าแน่นอน
กลุ่มเกษตรกรไทยอ่วม แม่ค้าเผยคุณภาพดีราคาถูกกว่าเท่าตัว
อีกธุรกิจทีกระทบหนักคือ เซรามิคลำปาง
อันนี้ของลำปาง ของจีนไม่มีรูป
เจอตราไก่ก๊อปจีนดั๊มราคาเหลือ 5 บาท ช่วงโควิดที่ผ่านมาผู้ประกอบการเซรามิคลำปาง ล้วนได้รับผลกระทบจากเรื่องการส่งออกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับต้นทุนด้านพลังงานซึ่งเป็นปัจจัยหลักสูงขึ้น ทำให้โรงงานเซรามิคได้รับผลกระทบมาเรื่อยๆ แต่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี้..ยิ่งหนัก เมื่อสินค้าจากจีนได้ทะลักเข้ามาในประเทศมากผิดปกติ และดั้มราคา โดยเฉพาะสินค้าบนโต๊ะอาหาร มีการลอกเลียนแบบอย่างสวยงาม ราคาถูก แม้คุณภาพจะไม่เท่าของไทยก็ตาม อาทิ ถ้วยชามสินค้านำเข้าราคาไม่ถึง 10 บาท บางแห่งมีการนำมาวางขายในราคาแค่ชิ้นละ 5 บาท แต่ต้นทุนที่ผลิตของไทยอยู่กว่า 20 บาท ซึ่งทำให้ยอดการขายของเซรามิคในประเทศได้รับผลกระทบ โรงงานผลิตเซรามิคเดิมที่สำรวจมีอยู่ 300 กว่าโรงงาน ขณะนี้เหลือประมาณ 89 โรงงานเท่านั้น ซึ่งกระทบกับการจ้างแรงงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าหากรัฐบาล ยังปล่อยให้กลุ่มนายทุนเข้ามาโดยไม่ได้ควบคุม เศรษฐกิจไทยมีแววว่าเจ๊งทั้งระบบแน่
ถึงแม้จะแบนแอพ Temu เพราะสินค้าไม่ได้คุณภาพ แต่พ่อค้า-แม่ค้าเดือดร้อน ขายผลผลิตทางการเกษตรไม่ได้ ไม่นับรวมโรงงานที่มีแนวโน้มจะเลิกจ้างงานหรอปืดกิจการ ปัญหาชีวิตมาแน่ คนตกงานเยอะขึ้น
ทุกคนที่เข้ามาตอบมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
ข้อมูลจาก MGR Online VDO ด้วยนะครับ
ทุกคนที่เข้ามาตอบนะครับ
นายทุนจีนทำพิษ ทำเศรษฐกิจไทยส่อเจ๊งระนาวตายทั้งระบบ!
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผักผลไม้จีนทะลักเต็มตลาดสดโคราช แม่ค้าเผยคุณภาพดี สีสันสวยงามและราคาถูกกว่าไทยเท่าตัว ระบุสั่งซื้อสินค้าจีนเข้ามาจากฝั่ง สปป.ลาวที่ขนส่งมาจากจีนทางรถไฟความเร็วสูงและขนถ่ายข้ามชายแดนเข้าอีสานใช้เวลาแค่ 1 วัน เกษตรกรไทยอ่วมหนักได้รับผลกระทบเต็มๆ
วันนี้ (14 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจโซนขายผัก ผลไม้ ภายในตลาดสดแม่กิมเฮง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นตลาดสดขนาดใหญ่กลางเมืองโคราช หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) พบว่ามีการนำผักและผลไม้จากประเทศจีนมาขายกันอย่างคึกคัก โดยแหล่งข่าวระบุว่า ในส่วนสินค้าผักผลไม้ที่มาจากประเทศจีน จะมีการสั่งเข้ามาจากฝั่ง สปป.ลาว ที่ขนส่งจากจีนมาทางรถไฟความเร็วสูงและขนถ่ายสินค้าผ่านชายแดนส่งเข้ามาประเทศไทยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันก็จะได้รับสินค้าแล้ว
ผลไม้ที่สั่งเข้ามาจากจีนเหล่านี้จะมีการบรรจุใส่ลังพร้อมแผ่นพลาสติกกันกระแทกอย่างดี ทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย และคุณภาพรวมทั้งสีสันของผลไม้จากจีนสวยงามกว่าของไทย อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าเท่าตัวอีกด้วย ผลไม้ที่ได้รับความนิยมสั่งเข้ามาขายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น แอปเปิล, องุ่น, สาลี่ และส้ม เป็นต้น ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งซื้อไปรับประทานและนำไปจัดเป็นกระเช้าผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ในงานพิธีกรรมต่างๆ ที่ต้องการความสวยงามของผลไม้
ขณะที่แผงผักสด ก็มีผักสดจากจีนเข้ามาวางขายปะปนกับผักสดของไทยอยู่หลายชนิดเช่นกัน โดยเฉพาะผักบรอกโคลี, กะหล่ำปลี, พริกหยวก และเห็ดชนิดต่างๆ ซึ่งมีการบรรจุใส่ห่ออย่างดี อีกทั้งราคายังถูกกว่าผักสดของไทยกว่าเท่าตัวเช่นกัน
นางสงัด สาดมะเริง แม่ค้าแผงขายผัก ตลาดแม่กิมเฮง กล่าวว่า ที่ตนต้องสั่งผักสดจากจีนมาขายเนื่องจากว่าผักบางชนิดในไทยขาดตลาด ขณะเดียวกันผักจากจีนจะมีทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี อีกทั้งยังราคาถูกกว่าของไทยด้วย เช่น เห็ดออรินจิ มีการแพกใส่ห่ออย่างดี รับมาจากแม่ค้าคนกลางในราคาห่อละ 10 บาท นำมาขายต่อในราคา 20 บาท พอมีกำไรได้บ้าง ซึ่งตนเองก็ตกใจว่าทำไมผักจากจีนทำต้นทุนได้ต่ำมาก ขนาดตนรับมาจากแม่ค้าคนกลางยัง 10 บาท ถ้าต้นทุนจากแหล่งผลิตน่าจะ 4-5 บาท แถมยังมีการแพกใส่ห่ออย่างสวยงามอีกด้วย ซึ่งเกษตรกรบ้านเราคงจะทำต้นทุนต่ำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน เพราะต้นทุนการเพาะปลูก ไม่ว่าจะเป็นค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน และค่าแน่นอน
กลุ่มเกษตรกรไทยอ่วม แม่ค้าเผยคุณภาพดีราคาถูกกว่าเท่าตัว
อีกธุรกิจทีกระทบหนักคือ เซรามิคลำปาง
อันนี้ของลำปาง ของจีนไม่มีรูป
เจอตราไก่ก๊อปจีนดั๊มราคาเหลือ 5 บาท ช่วงโควิดที่ผ่านมาผู้ประกอบการเซรามิคลำปาง ล้วนได้รับผลกระทบจากเรื่องการส่งออกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับต้นทุนด้านพลังงานซึ่งเป็นปัจจัยหลักสูงขึ้น ทำให้โรงงานเซรามิคได้รับผลกระทบมาเรื่อยๆ แต่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมานี้..ยิ่งหนัก เมื่อสินค้าจากจีนได้ทะลักเข้ามาในประเทศมากผิดปกติ และดั้มราคา โดยเฉพาะสินค้าบนโต๊ะอาหาร มีการลอกเลียนแบบอย่างสวยงาม ราคาถูก แม้คุณภาพจะไม่เท่าของไทยก็ตาม อาทิ ถ้วยชามสินค้านำเข้าราคาไม่ถึง 10 บาท บางแห่งมีการนำมาวางขายในราคาแค่ชิ้นละ 5 บาท แต่ต้นทุนที่ผลิตของไทยอยู่กว่า 20 บาท ซึ่งทำให้ยอดการขายของเซรามิคในประเทศได้รับผลกระทบ โรงงานผลิตเซรามิคเดิมที่สำรวจมีอยู่ 300 กว่าโรงงาน ขณะนี้เหลือประมาณ 89 โรงงานเท่านั้น ซึ่งกระทบกับการจ้างแรงงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าหากรัฐบาล ยังปล่อยให้กลุ่มนายทุนเข้ามาโดยไม่ได้ควบคุม เศรษฐกิจไทยมีแววว่าเจ๊งทั้งระบบแน่
ถึงแม้จะแบนแอพ Temu เพราะสินค้าไม่ได้คุณภาพ แต่พ่อค้า-แม่ค้าเดือดร้อน ขายผลผลิตทางการเกษตรไม่ได้ ไม่นับรวมโรงงานที่มีแนวโน้มจะเลิกจ้างงานหรอปืดกิจการ ปัญหาชีวิตมาแน่ คนตกงานเยอะขึ้น
ทุกคนที่เข้ามาตอบมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ