เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.prachachat.net/world-news/news-1731758

ค่ายรถญี่ปุ่นอ่วม ฮอนด้า นิสสัน และโตโยต้า มียอดขายในจีนร่วงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน แม้รวมยอดขายรถยนต์ทั้งสามเจ้าแล้ว ยังต่ำกว่า BYD เจ้าเดียว
วันที่ 10 มกราคม 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า ค่ายรถญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหายอดขายในจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อต้องเผชิญกับค่ายรถจีนที่มีความได้เปรียบจากการแข่งขันด้านราคา 

ในปี 2024 ที่ผ่านมา ฮอนด้า มียอดขายร่วงลง 30.9% ขายได้ 852,269 คัน ต่ำกว่า 1 ล้านคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โตโยต้า ร่วง 6.9% ขายได้ 1,776,000 คัน นิสสัน ร่วง 12.2% ขายได้ 696,631 คัน

ฮอนด้า และนิสสัน ซึ่งกำลังเจรจาเพื่อควบรวมกิจการ มียอดขายรวมทั้งสองค่ายเท่ากับ 1,548,900 คัน น้อยลงมาเกือบครึ่งหนึ่งของระดับสูงสุดในปี 2019 ที่ 3.1 ล้านคัน และหากรวมยอดขายรถญี่ปุ่นในปี 2024 ของทั้งสามเจ้าเข้าด้วยกัน คิดเป็น 3.32 ล้านคัน ซึ่งยังคงต่ำกว่ายอดขายของบีวายดี (BYD) ที่ขายได้ 3.83 ล้านคัน 

ค่ายรถญี่ปุ่นไม่อาจตามค่ายรถจีน ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีปริมาณความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลกได้ทัน ตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน (China Association of Automobile Manufacturers) พบว่า ยอดขายรถยนต์สันดาปในจีน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ถึงพฤศจิกายน 2024 ลดลง 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY)

นอกจากนี้ ค่ายรถญี่ปุ่นยังต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ซึ่งบีวายดีมีข้อได้เปรียบจากการผลิตแบตเตอรี่เองได้ จึงทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ค่ายรถญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องลดราคารถยนต์สันดาปของตัวเองลงไปด้วย ในปีที่ผ่านมา ราคารถนั่งส่วนบุคคลในตลาดจีนถูกลงเรื่อย ๆ โดยราคาเฉลี่ยในเดือนพฤศจิกายน 2024 อยู่ที่ 780,000 บาท ถูกลงเฉลี่ย 5% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปีก่อน (YOY)

ตงเฟิง (Dongfeng Motor) รัฐวิสาหกิจจีนซึ่งทำกิจการร่วมค้ากับทั้งนิสสันและฮอนด้า ในการเป็นดีลเลอร์ให้กับค่ายรถญี่ปุ่นทั้งสอง ได้ทำการปรับลดราคาของฮอนด้าลง 8.1% เหลือ 130,600 หยวน (ราว 616,790 บาท) และปรับลดราคาของนิสสันลง 3% เหลือ 96,200 หยวน (ราว 454,328 บาท)

ฮอนด้าและนิสสันต่างพยายามลดต้นทุนการผลิตในจีนลงตลอดปี 2024 ฮอนด้าปิดโรงงานในกว่างโจว ที่มีกำลังการผลิต 50,000 คันลงในเดือนตุลาคม และระงับการผลิตของโรงงานในอู่ฮั่น ซึ่งมีกำลังการผลิต 240,000 คันลงชั่วคราวในเดือนพฤศจิกายน

นิสสันปิดโรงงานในฉางโจวลงที่มีกำลังการผลิต 130,000 คันลงด้วยเช่นกันเมื่อเดือนมิถุนายน และยังประกาศเลิกจ้างงานกว่า 9,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน คิดเป็น 7% ของจำนวนพนักงานนิสสันทั่วโลก ตลอดจนลดกำลังการผลิตทั่วโลกลง 20% หรือประมาณ 1 ล้านคัน

ยานยนต์ไฟฟ้าครองส่วนแบ่งยอดขายกว่า 40% ในตลาดยานยนต์จีน และมีแนวโน้มเคลื่อนไปยังรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งบีวายดีตั้งเป้าติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กว่า 60% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในปี 2025   

ทั้งนี้ ค่ายรถญี่ปุ่นพยายามพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติมาสู้ โดยฮอนด้าร่วมมือกับหัวเว่ย เทคโนโลยี (Huawei Technologies) นิสสันร่วมมือกับโมเมนต้า (Momenta) สตาร์ตอัพจีนเพื่อพัฒนารถไฟฟ้ารุ่น N7 ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2025 นี้... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/world-news/news-1731758