พรรคประชาชน จ่อส่ง “โฟล์ค ณฐชนน” เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก สานต่อ “หมออ๋อง”
https://www.thairath.co.th/news/politic/2807094
พรรคประชาชน เตรียมส่ง “โฟล์ค ณฐชนน” เป็นผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 หลัง “หมออ๋อง ปดิพัทธ์” ถูกตัดสิทธิ์
วันที่ 11 สิงหาคม 2567 นาย
ศรายุทธ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ได้มีมติให้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่างลง และให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ดำเนินการสรรหาตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการเปิดรับสมัคร นาย
ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือ
โฟล์ค เป็นผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง และจะได้มีการทำไพรมารีโหวตในวันที่ 12 สิงหาคม นี้ต่อไป
สำหรับ นาย
ณฐชนน มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ และร่วมทำงานการเมืองกับอดีตพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล มาตลอด โดยพรรคประชาชนมีความมั่นใจในอุดมการณ์และจุดยืนของ นาย
ณฐชนน เพราะมีความชัดเจนและทำงานใกล้ชิดกับ นาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ
หมออ๋อง โดยเฉพาะงานพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนแทน นาย
ปดิพัทธ์ ในช่วงที่ต้องรับหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
สำหรับประวัติของ
โฟล์ค ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ จบจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม และมหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาลัยนานาชาติ สาขานิติศาสตร์ มีธุรกิจส่วนตัว คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุโลกไทย นครหล่อยาง อีกทั้งยังมีประสบการณ์เป็นอดีตประธาน YEC หอการค้า จังหวัดพิษณุโลก, อดีตประธาน Young FTI สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก, ผู้ชำนาญการประจำตัว สส. (หมออ๋อง), คณะทำงานประจำตัวรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ตำแหน่งนักวิชาการ และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการทหารประจำจังหวัดพิษณุโลก นำโดย นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ.
“ปริเยศ” ออกโรงถล่ม “ภูมิธรรม” ดันกฎหมายคาสิโน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_759629/
“ปริเยศ”ออกโรงถล่ม”ภูมิธรรม”เรียกพรรคร่วมถกด่วนดันกฎหมายคาสิโน ในขณะที่ประชาชนเจอปัญหาสินค้าราคาแพง ชี้สงสัยเป็นผลประโยชน์ “โจราธิปไตย”
นาย
ปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ออกโรงถล่มนายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย หลังมีการเรียกประชุมด่วนพรรคร่วมรัฐบาล ถึงการผลักดันกฏหมายคาสิโน ทั้งที่เป็นวันหยุดว่า แม้รัฐมนตรีจะกล่าวว่าเป็นการประชุมที่วางไว้ เพราะเจ้าตัวติดภารกิจไปต่างประเทศในวันที่ 13 สิงหาคม และเป็นการประชุมในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่การใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประชุมอย่างรีบเร่ง
จึงถือว่าเป็นการประชุมในฐานะ ครม. ซึ่งหากดูสถานการณ์ในเวลานี้ ตนเองไม่เข้าใจว่า ตอนนี้ชาวบ้านเผชิญปัญหาสินค้าราคาแพงทั้งแผ่นดิน แถมยังเจอปัญหาด้านการทำมาหากินที่ต่างประเทศเข้ามาแย่งตลาดในเมืองไทยทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้ผลกระทบโดยตรง แต่รัฐมนตรีดันเปิดทำเนียบผลักดันคาสิโน ที่ประเทศได้ค่าใบอนุญาตแค่ปีละพันล้าน
แถมประชาชนคนไทยก็ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะเจอปัญหาอื่นๆตามมา ทั้งปัญหาสังคม รวมถึงมาเฟียที่แทรกซึมอยู่ในประเทศเต็มไปหมดหรือไม่ในเวลานี้ ตนจึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเพื่อไทยใช้อะไรคิด หรือเป็นความคิดของรองนายกเพียงคนเดียว
นาย
ปริเยศ กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากภาคสังคมและการบังคับใช้กฏหมายของประเทศไทยยังมีปัญหาอย่างมาก รวมทั้งยังมีความเสี่ยงด้านทุนสีเทาอย่างหนักและยังไม่สามารถควบคุมได้ในขณะนี้ อีกทั้งรัฐกำลังจะใช้ระบบการให้สัมปทานแบบเป็นรายๆยาวนานถึง 30 ปี ซึ่งประเทศอาจได้ประโยชน์น้อยมากราวปีละพันล้านจากใบอนุญาต
ถึงแม้จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น สถานที่รองรับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เห็นความแน่ชัดว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ดังนั้น ไม่แปลกที่ภาคประชาชนเตรียมขับเคลื่อน แถมยังใช้คำกับการทำงานครั้งนี้ของรัฐบาลว่า “
อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” เพราะเขามีความเชื่อว่า อาจมีผลประโยชน์หลายอย่างที่อาจจะแอบแฝงซ่อนอยู่หรือไม่ และเงื่อนไขของสถานบันเทิงใน 30 ปีตามกฏหมายนี้ อาจจะถูกตั้งข้อสงสัยว่า กลายเป็นผลประโยชน์คอมเพลกซ์ ในสังคม “
โจราธิปไตย” ก็เป็นได้
ปัตตานี คืบหน้าคาร์บอมในรอบ 7 ปี ตลาดสะพานปลาเงียบ ประชาชนยังกังวล
https://siamrath.co.th/n/557487
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 11 สค. 2567 จากเหตุการณ์คนร้ายได้นำระเบิดมาว่างไว้บริเวณทางเข้าสะพานปลา ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยจุดแรกคนร้ายนำระเปิดแสวงเครื่องมาว่างบริเวณถังขยะใกล้กับป้อมยาม ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 13.20 น. จากนั้น เวลา 13.40 นาที เกิดระเบิดขึ้นเป็นลูกที่ 2 ห่างจากลูกแรก 200 เมตร บริเวณทางเข้าสะพานปลา ซึ่งคนร้ายได้ว่างระเบิดเกาะกลางถนน กระทั้งเวลาไล่เลี่ยกันเกิดระเบิดลูกที่ 3 ซึ่งเป็นระเบิดคาร์บอม บริเวณหลังแฟรตตำรวจ อยู่ระหว่างระเบิดลูกแรกและลูกที่สอง โดยระเบิดลูกที่ 3 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 คน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 9 สค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดนี้คือสภาพความเสียหายจากเหตุคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องมาติดตั้งไว้ในรถหรือคาร์บอม บริเวณหลังแฟรตตำรวจ ทางเข้าสะพานปลา ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ตรวจสอบสภาพความเสียหาย พบว่ากำแพงแฟรตตำรวจถล่ม รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่จอดริมกำแพงได้ถูกสะเก็ตระเบิดรับความเสียหายหนักจำนวน 4 คัน อีกทั้งอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหาย ประตูหลุด กระจกหน้าต่างแตก นอกจากนี้ ยังพบว่าเพลิงร้านค้าฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ หลังคากระเบื้องถล่มลงมา และหลังคาที่เป็นสังกระสี ถูกสะเก็ตระเบิด และชิ้นส่วนรถจนเป็นรูได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน
สำหรับตลาดดังกล่าวซึ่งเปิดทุกวันแต่รุ่งเช้าจนถึง 10 โมง พบว่าหลังเกิดเหตุคาร์บอม เจ้าหน้าที่ได้มีการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าออกสะพานปลา ทำให้ตลาดดังกล่าวปิดตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และวันนี้เป็นนี้แรกที่ตลาดแห่งนี้ได้เปิด พบว่าพ่อค้าแม่ขายออกมาขายน้อยลง บ้างก็ย้ายไปขายแถวบ้านชั่วคราว เนื่องจากยังกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนประชาชนพบว่าวันนี้เดินทางมาจับจ่ายน้อยลงกว่าปกติ เนื่องจากหลายคนยังคงมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้ร้านค้าต่างๆได้รับความเดือนร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่ท่าเทียบเรือ จุดที่นำปลาลงนั้น วันนี้มีเรือได้มาเข้าเทียบท่า และสามารถนำสัตว์น้ำขึ้นได้ตามปกติเพื่อให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมารับปลานำไปขาย โดยเส้นทางเข้า - ออกจุดเกิดเหตุสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์คาร์บอมในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 7 ปี โดยคาร์บอมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือ ห้างบิ๊กซีปัตตานี เหตุเกิดเมื่อ ปี 2560 ของพื้นที่จังหวัดปัตตานี แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการตรวจเข้มในพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะในยานเศรษฐกิจ แต่คนร้ายยังคงสามารถผ่านด่านเจ้าหน้าที่เข้ามาก่อเหตุจนได้
ด้าน กะยะห์ แม่ค้ารายหนึ่ง บอกว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนได้เก็บข้าวของกลับบ้านไปแล้ว ก่อนมีลูกแจ้งว่าใกล้ๆจุดที่ตนขายของเกิดระเบิดคาร์บอม หลังทราบข่าวตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ก็โชคดีที่ช่วงนั้นตนกลับบ้านไปแล้ว และร้านค้าต่างๆก็เก็บของไปหมดแล้ว จึงไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น ส่วนบรรยากาศวันนี้เงียบเหงา มีประชาชนออกมาจับจ่ายน้อย อีกทั้งร้านค้าต่างๆก็ยังไม่กล้าเปิดร้าน เพราะยังคงกังวลความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พลโท
ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สั่งการให้ทุกภาคส่วนช่วยเฝ้าระวังพื้นที่โดยรอบ ตรวจสอบการเข้าออกอย่างเข้มข้น โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุมุ่งเป้ากระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนรถที่นำมาใช้ก่อเหตุไม่ใช่รถที่มีประวัติสูญหาย ถือเป็นผลพวงมาจากมาจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังและเข้มงวดมาตลอด ซึ่งช่วงหลังที่ผ่านมา คนร้ายใช้รถที่เช่าซื้อมาจากเต็นท์รถต่างๆ เพื่อนำมาก่อเหตุ เชื่อว่าอีกไม่นานเจ้าหน้าที่จะสามารถขยายผล ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สร้างความเสียหาย และกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเป็นพื้นที่ชุมชนที่พี่น้องประชาชนอยู่อาศัย และทำมาหากินอยู่ ส่งผลให้พี่น้องประชาชนต้องขาดรายได้ เป็นการซ้ำเติมความยากลำบากของพี่น้องประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่‘เซเลนสกี’ รับ ยูเครนบุกรัสเซีย
JJNY : จ่อส่ง “โฟล์ค ณฐชนน” เลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก│“ปริเยศ”ถล่ม“ภูมิธรรม”│ปัตตานีคาร์บอม│‘เซเลนสกี’ รับ ยูเครนบุกรัสเซีย
https://www.thairath.co.th/news/politic/2807094
พรรคประชาชน เตรียมส่ง “โฟล์ค ณฐชนน” เป็นผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 หลัง “หมออ๋อง ปดิพัทธ์” ถูกตัดสิทธิ์
วันที่ 11 สิงหาคม 2567 นายศรายุทธ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ได้มีมติให้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่างลง และให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ดำเนินการสรรหาตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการเปิดรับสมัคร นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือ โฟล์ค เป็นผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง และจะได้มีการทำไพรมารีโหวตในวันที่ 12 สิงหาคม นี้ต่อไป
สำหรับ นายณฐชนน มีอาชีพเป็นเจ้าของธุรกิจ และร่วมทำงานการเมืองกับอดีตพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล มาตลอด โดยพรรคประชาชนมีความมั่นใจในอุดมการณ์และจุดยืนของ นายณฐชนน เพราะมีความชัดเจนและทำงานใกล้ชิดกับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง โดยเฉพาะงานพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนแทน นายปดิพัทธ์ ในช่วงที่ต้องรับหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
สำหรับประวัติของ โฟล์ค ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ จบจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม และมหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาลัยนานาชาติ สาขานิติศาสตร์ มีธุรกิจส่วนตัว คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิษณุโลกไทย นครหล่อยาง อีกทั้งยังมีประสบการณ์เป็นอดีตประธาน YEC หอการค้า จังหวัดพิษณุโลก, อดีตประธาน Young FTI สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก, ผู้ชำนาญการประจำตัว สส. (หมออ๋อง), คณะทำงานประจำตัวรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ตำแหน่งนักวิชาการ และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการทหารประจำจังหวัดพิษณุโลก นำโดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ.
“ปริเยศ” ออกโรงถล่ม “ภูมิธรรม” ดันกฎหมายคาสิโน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_759629/
“ปริเยศ”ออกโรงถล่ม”ภูมิธรรม”เรียกพรรคร่วมถกด่วนดันกฎหมายคาสิโน ในขณะที่ประชาชนเจอปัญหาสินค้าราคาแพง ชี้สงสัยเป็นผลประโยชน์ “โจราธิปไตย”
นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ออกโรงถล่มนายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย หลังมีการเรียกประชุมด่วนพรรคร่วมรัฐบาล ถึงการผลักดันกฏหมายคาสิโน ทั้งที่เป็นวันหยุดว่า แม้รัฐมนตรีจะกล่าวว่าเป็นการประชุมที่วางไว้ เพราะเจ้าตัวติดภารกิจไปต่างประเทศในวันที่ 13 สิงหาคม และเป็นการประชุมในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่การใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประชุมอย่างรีบเร่ง
จึงถือว่าเป็นการประชุมในฐานะ ครม. ซึ่งหากดูสถานการณ์ในเวลานี้ ตนเองไม่เข้าใจว่า ตอนนี้ชาวบ้านเผชิญปัญหาสินค้าราคาแพงทั้งแผ่นดิน แถมยังเจอปัญหาด้านการทำมาหากินที่ต่างประเทศเข้ามาแย่งตลาดในเมืองไทยทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้ผลกระทบโดยตรง แต่รัฐมนตรีดันเปิดทำเนียบผลักดันคาสิโน ที่ประเทศได้ค่าใบอนุญาตแค่ปีละพันล้าน
แถมประชาชนคนไทยก็ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะเจอปัญหาอื่นๆตามมา ทั้งปัญหาสังคม รวมถึงมาเฟียที่แทรกซึมอยู่ในประเทศเต็มไปหมดหรือไม่ในเวลานี้ ตนจึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเพื่อไทยใช้อะไรคิด หรือเป็นความคิดของรองนายกเพียงคนเดียว
นายปริเยศ กล่าวต่ออีกว่า เนื่องจากภาคสังคมและการบังคับใช้กฏหมายของประเทศไทยยังมีปัญหาอย่างมาก รวมทั้งยังมีความเสี่ยงด้านทุนสีเทาอย่างหนักและยังไม่สามารถควบคุมได้ในขณะนี้ อีกทั้งรัฐกำลังจะใช้ระบบการให้สัมปทานแบบเป็นรายๆยาวนานถึง 30 ปี ซึ่งประเทศอาจได้ประโยชน์น้อยมากราวปีละพันล้านจากใบอนุญาต
ถึงแม้จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น สถานที่รองรับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เห็นความแน่ชัดว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ดังนั้น ไม่แปลกที่ภาคประชาชนเตรียมขับเคลื่อน แถมยังใช้คำกับการทำงานครั้งนี้ของรัฐบาลว่า “อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” เพราะเขามีความเชื่อว่า อาจมีผลประโยชน์หลายอย่างที่อาจจะแอบแฝงซ่อนอยู่หรือไม่ และเงื่อนไขของสถานบันเทิงใน 30 ปีตามกฏหมายนี้ อาจจะถูกตั้งข้อสงสัยว่า กลายเป็นผลประโยชน์คอมเพลกซ์ ในสังคม “โจราธิปไตย” ก็เป็นได้
ปัตตานี คืบหน้าคาร์บอมในรอบ 7 ปี ตลาดสะพานปลาเงียบ ประชาชนยังกังวล
https://siamrath.co.th/n/557487
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 11 สค. 2567 จากเหตุการณ์คนร้ายได้นำระเบิดมาว่างไว้บริเวณทางเข้าสะพานปลา ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยจุดแรกคนร้ายนำระเปิดแสวงเครื่องมาว่างบริเวณถังขยะใกล้กับป้อมยาม ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 13.20 น. จากนั้น เวลา 13.40 นาที เกิดระเบิดขึ้นเป็นลูกที่ 2 ห่างจากลูกแรก 200 เมตร บริเวณทางเข้าสะพานปลา ซึ่งคนร้ายได้ว่างระเบิดเกาะกลางถนน กระทั้งเวลาไล่เลี่ยกันเกิดระเบิดลูกที่ 3 ซึ่งเป็นระเบิดคาร์บอม บริเวณหลังแฟรตตำรวจ อยู่ระหว่างระเบิดลูกแรกและลูกที่สอง โดยระเบิดลูกที่ 3 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 คน ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 9 สค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดนี้คือสภาพความเสียหายจากเหตุคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องมาติดตั้งไว้ในรถหรือคาร์บอม บริเวณหลังแฟรตตำรวจ ทางเข้าสะพานปลา ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ตรวจสอบสภาพความเสียหาย พบว่ากำแพงแฟรตตำรวจถล่ม รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่จอดริมกำแพงได้ถูกสะเก็ตระเบิดรับความเสียหายหนักจำนวน 4 คัน อีกทั้งอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหาย ประตูหลุด กระจกหน้าต่างแตก นอกจากนี้ ยังพบว่าเพลิงร้านค้าฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ หลังคากระเบื้องถล่มลงมา และหลังคาที่เป็นสังกระสี ถูกสะเก็ตระเบิด และชิ้นส่วนรถจนเป็นรูได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน
สำหรับตลาดดังกล่าวซึ่งเปิดทุกวันแต่รุ่งเช้าจนถึง 10 โมง พบว่าหลังเกิดเหตุคาร์บอม เจ้าหน้าที่ได้มีการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้ใครเข้าออกสะพานปลา ทำให้ตลาดดังกล่าวปิดตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และวันนี้เป็นนี้แรกที่ตลาดแห่งนี้ได้เปิด พบว่าพ่อค้าแม่ขายออกมาขายน้อยลง บ้างก็ย้ายไปขายแถวบ้านชั่วคราว เนื่องจากยังกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนประชาชนพบว่าวันนี้เดินทางมาจับจ่ายน้อยลงกว่าปกติ เนื่องจากหลายคนยังคงมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้ร้านค้าต่างๆได้รับความเดือนร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่ท่าเทียบเรือ จุดที่นำปลาลงนั้น วันนี้มีเรือได้มาเข้าเทียบท่า และสามารถนำสัตว์น้ำขึ้นได้ตามปกติเพื่อให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมารับปลานำไปขาย โดยเส้นทางเข้า - ออกจุดเกิดเหตุสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์คาร์บอมในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 7 ปี โดยคาร์บอมที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือ ห้างบิ๊กซีปัตตานี เหตุเกิดเมื่อ ปี 2560 ของพื้นที่จังหวัดปัตตานี แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการตรวจเข้มในพื้นที่ต่างๆโดยเฉพาะในยานเศรษฐกิจ แต่คนร้ายยังคงสามารถผ่านด่านเจ้าหน้าที่เข้ามาก่อเหตุจนได้
ด้าน กะยะห์ แม่ค้ารายหนึ่ง บอกว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนได้เก็บข้าวของกลับบ้านไปแล้ว ก่อนมีลูกแจ้งว่าใกล้ๆจุดที่ตนขายของเกิดระเบิดคาร์บอม หลังทราบข่าวตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ก็โชคดีที่ช่วงนั้นตนกลับบ้านไปแล้ว และร้านค้าต่างๆก็เก็บของไปหมดแล้ว จึงไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น ส่วนบรรยากาศวันนี้เงียบเหงา มีประชาชนออกมาจับจ่ายน้อย อีกทั้งร้านค้าต่างๆก็ยังไม่กล้าเปิดร้าน เพราะยังคงกังวลความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สั่งการให้ทุกภาคส่วนช่วยเฝ้าระวังพื้นที่โดยรอบ ตรวจสอบการเข้าออกอย่างเข้มข้น โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุมุ่งเป้ากระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนรถที่นำมาใช้ก่อเหตุไม่ใช่รถที่มีประวัติสูญหาย ถือเป็นผลพวงมาจากมาจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังและเข้มงวดมาตลอด ซึ่งช่วงหลังที่ผ่านมา คนร้ายใช้รถที่เช่าซื้อมาจากเต็นท์รถต่างๆ เพื่อนำมาก่อเหตุ เชื่อว่าอีกไม่นานเจ้าหน้าที่จะสามารถขยายผล ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สร้างความเสียหาย และกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเป็นพื้นที่ชุมชนที่พี่น้องประชาชนอยู่อาศัย และทำมาหากินอยู่ ส่งผลให้พี่น้องประชาชนต้องขาดรายได้ เป็นการซ้ำเติมความยากลำบากของพี่น้องประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่‘เซเลนสกี’ รับ ยูเครนบุกรัสเซีย