JJNY : 5in1 ปิยบุตรชี้ยุบก้าวไกล│8ส.ค.รู้พร้อมกัน!│ณัฐชาปูดพยายามปล่อยข่าว│น้ำป่าเขาใหญ่ทะลัก│วิจัยพบป่าไม้รับมือไม่ไหว

ปิยบุตร ชี้สื่อมองข้ามช็อต ไม่สนข้อกม. ยุบก้าวไกล สะท้อนชัด เครื่องมือนิติสงครามโดยสัมบูรณ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4708514

“ปิยบุตร” ชี้สื่อมองข้ามช็อต ก้าวไกลถูกยุบแล้ว ใครจะขึ้นมาเป็นแกนนำพรรค- มี สส.ย้ายไปพรรคอื่นกี่คน สะท้อนเป็นนิติกรรมโดยสัมบูรณ์-ไม่มีใครสนใจกม.-ดราม่าสื่อสารง่าย-ทำข่าวง่าย แค่เอาไมโครโฟนไปไล่ถามส.ส.ไม่เสี่ยงเผชิญหน้าศาลรธน.

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุว่า 
 
การที่สื่อมวลชน และนักวิเคราะห์ ต่างให้ความสนใจ แต่ประเด็นที่ว่า เมื่อพรรคก้าวไกลถูกยุบแล้ว ใครจะขึ้นมาเป็นแกนนำพรรคถัดไป จะมี ส.ส.ย้ายไปพรรคอื่นกี่คน โดยไม่ได้สนใจเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ กกต. การต่อสู้คดี ประเด็นกฎหมาย หรือการยุบพรรคแบบที่ทำกันนี้ถูกต้องหรือไม่?

กรณีเช่นนี้ สะท้อนอะไร?

1. การยุบพรรคในประเทศนี้ ไม่มีใครสนใจเรื่องกฎหมาย เรื่องหลักการกันแล้ว
2. การยุบพรรคในประเทศนี้ กลายเป็น เครื่องมือของ “นิติสงคราม” โดยสัมบูรณ์

3. วิเคราะห์การเมืองว่า ใครเป็นแกนนำ ใครย้ายพรรค สนุกกว่าเยอะ ดราม่ากว่าเยอะ สื่อสารง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายยากๆ

4. ทำข่าวง่ายดี แค่เอาไมโครโฟนไปไล่ถาม ส.ส.พรรคก้าวไกล แล้วไม่ต้องมาเสี่ยงเผชิญหน้ากับศาลรัฐธรรมนูญ ไม่เสี่ยงโดนข้อหาละเมิดอำนาจศาล ดูหมิ่นศาล

ถ้าปรากฏการณ์เช่นนี้ ยังคงดำเนินต่อไป อาวุธที่ชื่อ “ยุบพรรค” ก็ยังคงมีอานุภาพต่อ

กว่าจะถึงวันที่ 7 สิงหาคม มีเวลาอีกหลายวัน หันมาสนใจประเด็นการต่อสู้คดีของพรรคก้าวไกล ความสมเหตุสมผลของคำร้องของ กกต. กันดีกว่า

สัปดาห์นี้ ผมจะขยายความข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกล ในทุกประเด็น..
 
https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial/posts/pfbid0wT6onz5jV9sFthUkUhG67SM8kN8DAZcZzSSfx6qBmvHGPzPehRd7fUifmTAnEeyYl


ก้าวไกล เผย 8ส.ค.รู้พร้อมกัน! แกนนำคนต่อไปคือใคร ยันปล่อยคลิปไม่ได้ปลุกระดม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_777777862285

ณัฐพงษ์ ปัดไม่ใช่แคนดิเดตหัวหน้าพรรค ยังมีอีกหลายคนพร้อม หากเกิดอุบัติเหตุจริง ลั่น 8 ส.ค. รอเซอร์ไพร์สพร้อมกัน ยันปล่อยวิดีโอต่อเนื่อง ไม่ใช่ปลุกระดม-กดดัน ศาลรธน.

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีถูกมองเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนต่อไป ว่า แคนดิเดตแกนนำพรรคไม่ใช่เฉพาะตน ยังมี สส.อีกหลายคนที่สามารถก้าวขึ้นมารับหน้าที่ตรงนี้ได้ รอติดตามวันที่ 7 ส.ค.นี้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสินออกมาอย่างไร
 
แต่เรายืนยันได้อย่างหนึ่ง ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นรูปแบบหรือฉากทัศน์ใด พรรคก้าวไกลเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ไว้อยู่แล้ว เรามีบุคลากรที่พร้อมจะขึ้นมาทำหน้าที่ตรงนี้
 
ส่วนที่มีการปล่อยคลิปวิดีโอวันนี้ ถือเป็นการเปิดตัวนายณัฐพงษ์ เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จริงๆ มีหลายท่านที่อยู่ในคลิป ไม่ใช่แค่ตน กับน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ตัวละครที่สัมภาษณ์ในคลิปอาจจะไม่เพียงพอในการระบุว่าใครเป็นหัวหน้าพรรคคนถัดไป
 
อยากให้รอติดตามฟังคำวินิจฉัยก่อน หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจริง วันที่ 8 ส.ค. เรามีจังหวะจะโคนในการขับเคลื่อนแน่นอน ถึงวันนั้นทุกท่านจะทราบพร้อมกันว่า แกนนำพรรคต่อไปคือใครบ้าง
 
เมื่อถามว่าการที่พรรคปล่อยคลิปวิดีโอต่อเนื่อง สามารถมองได้ว่าเป็นการระดมพลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่เราเห็น มีหลายคนอยากเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลง เรายังพบว่าสถาบันการเมือง เช่น องค์กรอิสระยังทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตามเจตจำนงของประชาชน
 
ในฐานะพรรคก้าวไกล สิ่งที่เราทำได้ ถ้าไม่สามารถหวังพึ่งอำนาจรัฐในส่วนนั้นได้ ก็ทำได้อย่างเดียวคือ กลับไปถามประชาชน ให้ทุกคนช่วยกันส่งเสียงเรียกร้อง
 
เมื่อถามว่าพร้อมหรือไม่ หากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ไม่ใช่เฉพาะแค่ตน ทุกคนมีความพร้อม เราอาสาเข้ามาทำหน้าที่ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพรรคก็ต้องมีคนมาทำหน้าที่แทน ไม่ว่าเป็นใครในตอนนี้ก็พร้อมจะทำหน้าที่ตรงนั้นได้
 
เมื่อถามว่าคลิปวิดีโอที่ปล่อยออกมาล่าสุด มีการจำลองการไต่สวนในศาล จะถือเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่า เนื้อหาในคลิปต้องการเล่าเพียงอย่างเดียวคือ อยากได้ศาลที่เป็นตัวแทนตัดสินตามเจตจำนงของประชาชน เราต้องการแค่นั้น



‘ณัฐชา’ ปูดมีความพยายามปล่อยข่าว สถานการณ์ ‘ปลาหมอคางดำ’ ดีขึ้น ชี้ นักวิชาการหลายคนจุดยืนเปลี่ยน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4708539

‘ณัฐชา’ ปูดมีความพยายามปล่อยข่าว สถานการณ์ ‘ปลาหมอคางดำ’ ดีขึ้น ทั้งที่ไม่เป็นจริง รับ กังวลนักวิชาการหลายคนจุดยืนเปลี่ยน จ่อดึง BIOTHAI ร่วม อนุฯ หาความจริงต้นตอที่แท้จริง ยันต้องมีคนรับผิดชอบ ลั่นต้องไม่มีอีกแล้ว วิธีการสืบสันดานแบบปกปิดความผิด

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า วิกฤตผลกระทบจากปลาหมอคางดำกำลังลามไปอีกขั้นคือจากปลาสู่คน เพราะปัญหาที่อนุฯกำลังเผชิญคือคนเปลี่ยนไป

ตอนนี้ทำงานยากขึ้นเนื่องจากมีความพยายามปล่อยข่าวว่าสถานการณ์ดีขึ้น ทั้งที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ผนวกกับการเปลี่ยนท่าทีของนักวิชาการหลายๆ ท่านในอนุ กมธ. ที่ออกมาให้ข้อมูลในทางเบี่ยงประเด็นต้นตอสาเหตุของการแพร่ระบาดจากสมมุติฐานเดิม นั่นคือมีเอกชนผู้นำเข้าเพียงรายเดียว ซึ่งเรื่องนี้อนุกรรมาธิการได้มีการพูดคุยกันอย่างจริงจังมาตลอดว่าต้องเดินหน้าหาต้นตอการแพร่ระบาดให้เจอให้ได้ เพราะผลกระทบเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวง จำเป็นต้องมีผู้รับผิดชอบเพื่อไม่ให้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก และยิ่งหากปัญหาลุกลามไประดับภูมิภาคจะทำให้ประเทศไทยต้องรับผิดชอบความเสียหายมูลค่ามหาศาลและอาจต้องใช้งบประมาณภาษีจากพี่น้องประชาชนมาแก้ไขสถานการณ์ที่ประชาชนไม่ได้ก่อขึ้น” นายณัฐชากล่าว

นายณัฐชากล่าวต่อไปว่า จะต้องไม่มีอีกแล้วกับการสืบสันดานปกปิดความผิดของบุคคลหรือบริษัทเอกชนไม่ให้มาเกี่ยวข้องเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ดังเช่น กรณีหมูเถื่อนที่ถูกตัดตอนทันทีเมื่อมีข้อมูลเชื่อมโยงว่าอาจเกี่ยวข้องกับทุนใหญ่ผูกขาดเจ้าประจำ เพราะฉะนั้นวังวนเดิมๆ จึงไม่ควรเกิดขึ้นอีกในกรณีนี้

ข้อสังเกตอันน่ากังวลที่เรากำลังเผชิญ คือตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จากเดิมที่เคยช่วยงานกัน ช่วงหลังเริ่มมีการให้ข้อมูลที่แตกต่างออกไปจากเดิม ผมไม่แน่ใจว่าอาจเป็นเพราะการให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาจะไปกระทบกับโครงการที่สถาบันการศึกษาต่างๆ เคยได้รับการสนับสนุนงบประมาณวิจัยหรือดำเนินงานอื่นๆ หรือไม่ จึงเป็นที่มาของการเบี่ยงเบนการให้ข้อมูลที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้” นายณัฐชากล่าว

อย่างไรก็ตาม นายณัฐชายืนยันว่าจะเดินหน้าหาความจริงต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้เสนอต่อประธานในที่ประชุมอนุกรรมาธิการ เพื่อขอตั้ง นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ BIOTHAI เป็นที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการเพื่อเสริมทัพเสริมกำลังในการเปิดกระบวนการนำเข้าปลาหมอคางดำทั้งหมดให้ประชาชนได้เห็นท่ามกลางสถานการณ์แรงกดดันที่สูงขึ้นทุกวัน ซึ่งที่ผ่านมาทางมูลนิธิชีววิถีได้มีการแถลงข้อมูลและมุมมองต่างๆ ออกสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่องในประเด็นเดียวกันเพื่อเป็นแนวทางในการทำงานโค้งสุดท้ายอย่างสุดความสามารถ ตนยืนยันว่าเราต้องการหาต้นตอคนผิดมารับผิดชอบต่อภาษีประชาชนทุกบาททุกสตางค์ให้ได้ และจะต้องไม่มีใครหยุดยั้งหรือยุติการตรวจสอบของเราครั้งนี้


 
น้ำป่าเขาใหญ่ทะลักท่วม 4 ตำบล 33 หมู่บ้านสูง 1 เมตร
https://www.innnews.co.th/news/local/news_753773/

น้ำป่าเขาใหญ่ทะลักหลังหลากท่วมจากแก่งหินเพิงแล้วไหลบ่าลงท่วมใน 4 ตำบล 33 หมู่บ้านระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ยกว่า 1 เมตรเศษ
 
จากกรณีเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องกระจายทั่วทั้งจังหวัด ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดก(ในพื้นที่รอยต่อ 4 จังหวัด จ.ปราจีนบุรี,
จ.นครนายก,จ.นครราชสีมา และ จ.สระบุรี) น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ประกอบด้วย ในน้ำตกตะคล้อ ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม , บนแก่งหินเพิง แหล่งท่องเที่ยวโด่งดังแหล่งผจญภัยล่องแก่งในคลองใหญ่ บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.สำพันต่า อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และ ที่น้ำตกนางรอง จ.นครนายก นายธรรมรัฐฏ์ งามแสง นอภ.นาดี จ.ปราจีนบุรีกล่าวว่า
 
จากที่มีฝนตกหนักติดต่อเนื่องกัน ส่งผลให้ ในพื้นที่อ.นาดี เกิดภาวะน้ำป่าจาก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลกไหลหลากระบายลงมาจากด้านบน แก่งหินเพืงต.สำพันตา อ.นาดี ระบายลงตามคลองใสใหญ่ จากด้านบนต่ำกว่านแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก หลากท่วมพื้นที่ต่ำเชิงเขา – เอ่อล้นคลองเลียบติดลุ่มน้ำใสใหญ่,แควหนุมาน ที่ระดับน้ำวิกฤติ มีระดับน้ำวัดได้สูงเกินกว่า 9 เมตร เอ่อล้นตลิ่งเอ่อระบาย – ไหล่บ่าเข้าท่วมในพื้นที่ต่างๆ รวม 4 ตำบล
 ได้แก่ ต.สำพันตา,ต.สะพานหิน,ต.นาดี และ ต.บุพราหมณ์ รวม จำนวน 33 หมู่บ้านพบมีฟาร์มหมู 1 แห่งของ เกษตรกร ถูกน้ำป่าหลากท่วมกระทันหัน ได้เร่งขนย้ายรวมถึงถนนสายกบินทร์บุรี-แก่งหินเพืงหมู่5 ต.สะพานหิน อ.นาดี ที่น้ำไหลบ่าพาดผ่านระยะทางไกลเกือบ1กม. รถขนาดเล็กสัญจรได้ยากลำบาก หรือผ่านไม่ได้ พบ ระดับน้ำ ที่ท่วมสูงเฉลี่ยประมาณ1เมตรเศษ แต่เนื่องจากพื้นที่ถูกน้ำทไหลหลาก มาเร็ว-ไปเร็ว หากไม่มีฝนตกอีกคาดว่าประมาณ2-3ชั่วโมง จะกลับคืนสู่สภาพปกติ โดยมวลน้ำป่าจะระบายลงสู่พื่นที่ทุ่งด้านล่างต่อไปและกำลังไหบระบายลงแควหนุมานด้านล่างฝั่ง อ.กบินทร์บุรีที่ต่ำกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่