JJNY : 5in1 ท่องเที่ยวหาดใหญ่โอด│วิโรจน์บอกตามตรง│ณัฐชาซัดโฆษกรัฐบาล│เสนอปลดล็อกหนังโป๊-เซ็กซ์ทอย│จีนเตรียมรับมือไซโคลน

ธุรกิจท่องเที่ยวหาดใหญ่โอด เพิ่งฟื้นจากโควิด ชี้ขึ้นค่าแรง-ค่าไฟ เสี่ยงปิดกิจการ ส.ว.67 ก็พึ่งไม่ได้
https://www.matichon.co.th/region/news_4693164
 
 
นักธุรกิจธุรกิจท่องเที่ยวสงขลาเมิน ส.ว.ชุดปัจจุบัน ถูกครอบงำจากพรรคการเมือง ช่วยอะไรไม่ได้ ‘ค่าแรงพุ่ง กระแสไฟเพิ่ม ภาษีปรับ’ ธุรกิจท่องเที่ยวปิดกิจการ-ปลดพนักงาน

จากกรณีเตรียมปรับค่าแรงจากวันละ 345 บาท เป็น 400 บาททั่วประเทศ อีกทั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศชงเข้า ครม.วันที่ 23 ก.ค. ขอตรึงค่าไฟฟ้างวดกันยายน 2567 ไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วยหรือกับเท่ากับค่าไฟฟ้าเรียกเก็บในปัจจุบันนั้น

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร ผู้บริหารโรงแรมบัดเจทโฮเทล อ.หาดใหญ่ อดีตนายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า ธุรกิจท่องเที่ยว อ.หาดใหญ่ กำลังฟื้นจากการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ยังไม่แข็งแรงมากนัก อาศัยกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เข้ามาเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ คือวันศุกร์-อาทิตย์เท่านั้น ส่วนวันจันทร์-พฤหัสบดี นักท่องเที่ยวจะน้อยมาก นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ย้ายฐานการผลิต

นายสมชาติกล่าวว่า หากรัฐบาลจะปรับค่าแรงขั้นต่ำแบบก้าวกระโดด ปรับภาษี และปรับค่ากระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นต้นทุนหลักจะทำให้ธุรกิจโรงแรมแบกภาระเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและเกี่ยวเนื่องเสี่ยงปิดกิจการประมาณ 10-20% บางส่วนอาจต้องปลดพนักงานออก

นายสมชาติกล่าวด้วยว่า ขณะที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นสูง ข้าวของแพงขึ้น เงินดิจิทัลวอลเล็ตจะช่วยได้ครั้งคราวเท่านั้น ฝากความหวังไว้กับ ส.ว.ไม่ได้ เพราะ ส.ว.ชุดปัจจุบันบางส่วนถูกครอบงำด้วยพรรคการเมือง.
 


“วิโรจน์” บอกตามตรง 7 ส.ค. แค่วันปกติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ไม่ประมาทคดียุบ “ก้าวไกล”
https://ch3plus.com/news/political/morning/409335

วันนี้ (21 ก.ค. 2567) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำพรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีคดียุบพรรคก้าวไกล 7 ส.ค.นี้ ว่า ขอบอกตามตรงว่าไม่ต้องเตรียมตัวอะไร เราเคยถกกันในเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว จนตกผลึกมานาน 7 ส.ค. ก็ถือเป็นวันๆ หนึ่งตามปกติ ส่วนศาลจะวินิจฉัยอย่างไรท่านก็ทำหน้าที่ของท่านไปก็แล้วกัน เพราะในส่วนเรื่องของข้อกฎหมายผู้ร้อง หรือ กกต.ไม่ได้ทำตามระเบียบที่ตัวเองตราขึ้น ซึ่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้พูดไปครบถ้วนแล้ว
 
ส่วนกรณีหลักฐานข้อเท็จจริงที่ผู้ร้องไปยื่นต่อศาล ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ได้นำมาเปิดเผยให้ดูแล้วว่าอะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริงหรือคลาดเคลื่อนถือว่าครบถ้วนแล้ว
 
ส่วนในแง่ของกฎหมาย หลักนิติธรรม นิติรัฐทางพยานท่านหนึ่ง ก็ได้รับการยอมรับจากสังคมพอสมควร คืออาจาร์สุรพล นิติไกรพจน์ ได้ให้ความเห็น และหลักคิดไว้ตามสมควรแล้ว ตนเชื่อว่า 3 องค์ประกอบนี้ ทำให้เราไม่ต้องกังวลอะไร ทั้งหมดอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐ นิติธรรม เราก็เดินหน้าทำงานต่อไป พูดคุยถึงแผนงานในเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน เพราะเวลาหารือกันเราคุยกันเป็นรายไตรมาส ก็ไม่ได้มองว่าต้องเตรียมการอะไรเป็นพิเศษ
 
ส่วนวางฉากทัศน์อย่างไรหากผลออกมาเป็นบวกหรือลบ นายวิโรจน์ ยืนยันว่า ไม่ได้ถึงขั้นเตรียมขนาดนั้น แต่เราอยู่ในฐานะที่ไม่ตื่นตระหนกแต่ไม่ประมาท ถ้าผลออกมาแบบใดแบบหนึ่ง เราก็คิดอ่านอีกแบบหนึ่ง ซึ่งยังมีเวลาไม่ต้องมานั่งรีบร้อนคิดอะไร
 
ส่วนหากออกมาเป็นลบ จะส่งผลต่อประเทศอย่างไรนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า อันดับแรกคงต้องมีคำอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ เพราะตอนนี้หากถามพรรคการเมืองอื่นทางฝั่งรัฐบาลก็ดีก็ไม่มีใครที่จะเห็นด้วยกับการยุบพรรค พร้อมย้อนถามว่าเราเห็นประเทศประชาธิปไตยไหนที่มีการยุบพรรคบ่อยๆ อย่างนี้คือพรรคของประชาชน
 
ดังนั้นการยุบพรรคไม่ใช่ทางออกที่ดี ของประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก็ต้องมีคำอธิบายอยู่ภายใต้กรอบนิติรัฐ นิติธรรม ที่ประชาชนรับได้ด้วย
 
ส่วนกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยตัดสินใจ ย้ายซบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐมองอย่างไรนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของนายวันเอง ขอไม่ก้าวล่วง
 
ส่วนที่ผ่านมาที่เคยอยู่ฝ่ายค้านด้วยกันก็จะมีการกระทบกระทั่งกับพรรคพลังประชารัฐและมีการโจมตีพลเอกประวิตรแต่กลับไปอยู่กับเขานั้น นายวิโรจน์ ย้ำว่า คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด คือทางนายวันเองว่าคิดอย่างไร



‘ณัฐชา’ซัดโฆษกรัฐบาลโทษเกษตรกร ปล่อยปลาหมอคางดำหลุดเข้าบ่อเลี้ยงเอง 
https://www.dailynews.co.th/news/3668506/

‘ณัฐชา‘ ซัดโฆษกรัฐบาล โทษเกษตรกรดูแลไม่ดี ปล่อยปลาหมอคางดำ หลุดเข้าไปในบ่อเพาะเลี้ยงเอง แนะออกมาดูปัญหาจริง

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน X ว่า การเรียกปลาหมอคางดำเป็นปลาปิศาจคือวาทกรรม ฟังแล้วให้ภาพเกินจริง เพราะปลาชนิดนี้สามารถกินได้ ไม่มีพิษมีภัยอะไร และที่ว่าหลุดเข้าไปกินลูกกุ้งในบ่อเพาะเลี้ยงนั้น ปลาอะไรก็ชอบกินลูกกุ้ง ไม่เฉพาะแต่ปลาหมอคางดำเท่านั้น ถ้าไม่ป้องกันให้ดีตั้งแต่ต้น ปล่อยให้มีปลาหลุดเข้าไปในบ่อเพาะเลี้ยงก็เสียหายได้ทั้งนั้น
 
นายณัฐชา กล่าวว่า ทันทีที่ตนเห็นทัศนะแบบนี้ของโฆษกรัฐบาล ก็รู้สึกสงสารพี่น้องประชาชนผู้เลี้ยงปลา เลี้ยงกุ้ง และประมงน้ำจืดต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายกันมาเป็นสิบปี โดยเฉพาะบริเวณตำบลยี่สารและแม่น้ำลำคลองต่างๆ ในจังหวัดสมุทรสาคร หลายคนหมดเนื้อหมดตัวจนต้องเปลี่ยนอาชีพไป การหายไปของผู้ทำประมงรายย่อยยังน่ากังวลว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการผูกขาดอาหารในอนาคต ส่วนที่เหลือรอดก็คงไม่พ้นเอกชนเจ้าใหญ่ที่นำเข้าปลาหมอคางดำมาเมื่อสิบปีก่อน จนตอนนี้ปัญหาลุกลามบานปลายไปทั่วประเทศ ทั้งยังส่อเค้าว่าปัญหาจะขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย ทัศนะเช่นนี้ของโฆษกรัฐบาลคือการดูเบาปัญหา ไม่ตระหนักถึงระบบนิเวศที่พังทลายไป และยังกล่าวโทษเกษตรกรอย่างไม่เข้าอกเข้าใจความเดือดร้อนของพวกเขาเลย
 
ปัญหาอาจไม่ได้เริ่มในยุคท่านก็จริง แต่วันนี้วิกฤติขนาดนี้ยังไม่รู้ตัว พูดออกมาได้ว่าไม่มีพิษมีภัย เคยไปคุย ไปสัมผัส ไปซับน้ำตาคนที่เขาประสบปัญหาจริงๆ บ้างไหมว่าเขาเจออะไรมาบ้าง ลูกกุ้งลูกปลาในบ่อมีปลาอื่นๆ คุกคามบ้างก็จริง แต่เขารับมือได้ เขารู้วิธีเลี้ยง วิธีกำจัด และจำกัดความเสียหายได้ แต่ไม่ใช่สำหรับปลาหมอคางดำที่หลุดลงบ่อ มันรู้จักมุด ซ่อนตัว หนี และแพร่พันธุ์ไวมาก แป๊บเดียวหมดบ่อ เข้าใจคำนี้ไหม หมดบ่อ อย่าลอยตัวอยู่ในห้องแอร์ ไปเจอปัญหาของจริงก่อน และที่พูดมานี้ ผมสงสัยจริงๆ ว่าพูดในฐานะโฆษกรัฐบาลหรือโฆษกเอกชน ท่านจะปกป้องปลาหมอคางดำอะไรขนาดนั้น” ณัฐชากล่าว
 
นายณัฐชา กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือการเลิกดูเบาปัญหา และยอมรับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้เร่งหามาตรการแก้ปัญหาให้สมกับระดับที่เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่แค่มองว่ากินได้แล้วจบ เพราะการจัดการกับเอเลี่ยนสปีชีส์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างรอบคอบและรัดกุม
 
นอกจากนี้ จากกรณีที่รัฐบาลออกมาตรการแก้ปัญหาด้วยการรับซื้อปลาหมอคางดำที่กิโลกรัมละ 15 บาท นายณัฐชา กล่าวว่า มาตรการนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2561 ซึ่งรับซื้อที่กิโลกรัมละ 20 บาทด้วยซ้ำ แต่กลับทำให้ปลาหมอคางดำเพิ่มจำนวนและระบาดหนักกว่าเดิม ไม่ได้ช่วยขจัดต้นตอของปัญหาแต่อย่างใด จึงขอให้รัฐบาลรับฟังเสียงท้วงติงบ้าง และกลับมาทบทวนหามาตรการเชิงรุกที่มีประสิทธิภาพกว่านี้
 
ฝ่ายค้านเราเตือนดีๆ ด้วยความห่วงใย ปี 2561 เคยมีมาตรการรับซื้อที่กิโลกรัมละ 20 บาทมาแล้ว แต่กลับระบาดหนักกว่าเดิม ฟังกันหน่อยครับ เราพูดจากบทเรียนที่เกิดขึ้นจริง อย่าประมาท ปี 2561 ทำไปแล้วผลเป็นยังไง กลับไปถอดบทเรียนก่อนดีไหม แทนที่จะดื้อดึงไม่ฟังใคร มาช่วยกันคิดดีกว่าว่าแผนการแก้ปัญหาขั้นต่อไปควรจะเป็นยังไง รับปากประชาชนได้ไหมว่าจัดการได้แน่นอน และสุดท้ายเรื่องที่ประชาชนอยากรู้มากๆ เวลานี้คือ สรุปแล้วใครเพาะพันธ์ุ ใครทำหลุด รัฐบาลช่วยตอบคำถามประชาชนในเรื่องนี้ด้วยครับ” นายณัฐชา กล่าว.
 


เท่าพิภพ เสนอแก้กม. ปลดล็อก ‘หนังโป๊-เซ็กซ์ทอย’ นำขึ้นบนดิน ควบคุม ได้มาตรฐาน มอก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4692920
 
เท่าพิภพ เสนอแก้กม. ปลดล็อก ‘หนังโป๊-เซ็กซ์ทอย’ นำขึ้นบนดิน ควบคุมให้ได้มาตรฐาน
 
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 22 พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.287 เพื่อปลดล็อกสื่อผู้ใหญ่ ของเล่นผู้ใหญ่

โดยระบุว่า 
 
ปลดล็อกอุตสาหกรรมผู้ใหญ่” เปิดสภาถกเถียง ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.287 ปลดล็อกสื่อผู้ใหญ่ ของเล่นผู้ใหญ่ยันมีการควบคุมอยู่ ย้ำไม่ได้เสรี
 
“ร่างดังกล่าวมีการแก้ไขเพียงมาตรา 287 มาตราเดียว” ซึ่งปัจจุบันห้ามสื่อลามก และของเล่นผู้ใหญ่ แบบ Total Ban ซึ่งผมได้แก้ไขใหม่ดังนี้

1. สื่อชนิดต่างๆ ให้กระทำได้ แต่ห้ามให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี และต้องไม่มีเนื้อหารุนแรง เช่น ฉากข่มขืน ใช้กำลัง เป็นต้น

2. ปลดล็อกของเล่นผู้ใหญ่ เพื่อที่จะให้มาตรฐานทางอุตสาหกรรม (มอก.) และองค์การอาหารและยา (อย.) สามารถออกประกาศมาควบคุมมาตรฐานได้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ และลักลอบ
 
ผมทราบดีคนส่วนใหญ่ในลานทัวร์ในคอมเมนต์หรือรีพลายคงไม่ได้อ่านมาถึงตรงนี้ แต่ถึงอย่างไรผมก็พร้อมน้อมรับ คำวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของเนื้อหาทางกฎหมาย และมุมมองอื่นๆ

.
ส่วนตัวผมไม่ได้เป็นคนที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากสิ่งที่ผมจะปลดล็อก แต่ผมเองในฐานะผู้แทนราษฎรผู้มีหน้าที่ผลักเพดาน ความคิด และขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า คิดว่าการนำเสนอประเด็นนี้เป็นการที่ทำให้สังคมไทยได้เรียนรู้ซึ่งกันแล้วกัน ร่วมกันหาทางออกประเทศด้วยการถกเถียงอย่างตรงไปตรงมา ไม่ดัดจริตผ่านกลไกประชาธิปไตย และกลไกสภา
 
เรื่องนี้ไม่ใช่เพราะอยากเห็นเหล่าเยาวชนเข้าถึงสื่อลามกง่ายขึ้น แต่อยากยกเรื่องนี้ขึ้นบนดิน เพื่อให้สิ่งนี้อยู่ในแสงสว่าง สามารถพูดถึงได้ วิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบได้ตามครรลองเสียที เป็นทั้งประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ ทั้งการบังคับใช้กฎหมายที่สามารถควบคุมเนื้อหาได้ ความปลอดภัยของประชาชน

อยากเชิญชวนให้ทุกคนติดตามการพิจารณากฎหมายนี้ที่จะเข้าสภาไม่เกินสัปดาห์ สองสัปดาห์นี้ ฝากแสดงความคิดเห็นถกเถียงกันได้เต็มที่ครับ

#ปลดล็อกอุตสาหกรรมผู้ใหญ่ #พรรคก้าวไกล #ประชุมสภา

https://www.facebook.com/Taopiphop/posts/pfbid027gDW261dE5Dyb4gT4YtsXfkVBvhxt5kEfpNn21XaM8euq7snM6AtNCMAs9q2vr5Ql
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่